สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
ถูกต้องตามที่คุณ imvile กล่าวครับ
ถ้าเป็นกระบวนการทางกฎหมาย หากยึดรถแล้วยังไม่ครอบคลุมหนี้นั้น ไฟแนนซ์ยังฟ้องในหนี้ที่เหลือได้ครับ
ขอบคุณ คุณ imvile ที่ช่วยเสริมให้ครับ
ผมไปมุ่งตอบเฉพาะในประเด็นว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัด ตามที่เคยได้อ่านได้ฟังมา
ต้องขออภัยที่อธิบายไม่ครบจบกระบวนการครับ
ประเด็นว่า หากไฟแนนซ์ยังฟ้องในหนี้ที่เหลือได้ ทำไมไฟแนนซ์ไม่ปล่อยกู้
ข้างล่างนี่ผมวิเคราะห์+เดาเอานะครับ (ต้องรอผู้รู้มาบอกอีกที)
กระบวนการในการฟ้องคดีในหนี้ที่เหลือ มีขั้นตอนเพิ่มเติมทางศาล มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลา และก็ไม่มีความแน่นอนว่าจะได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนที่เหลือ ขึ้นอยู่กับตามสืบได้ว่า ณ ขณะนั้นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีทรัพย์สินอื่นใดเหลืออยู่อีกหรือไม่ ขายทอดตลาดแล้วเพียงพอกับหนี้หรือไม่
ต่างจากการที่ไฟแนนซ์ยึดรถที่ขอกู้ เพราะรถเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ ผู้กู้เป็นผู้ครอบครอง ไฟแนนซ์สามารถยึดและขายได้โดยใช้เวลาและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการดำเนินกระบวนการทางศาล
ไฟแนนซ์จึงให้ความสำคัญกับมูลค่าตัวรถหากมีกรณีต้องยึด เป็นหนึ่งในประเด็นในการพิจารณาให้กู้ครับ