จากปัญหาน้องน้ำรอการระบายทั่วกรุงเทพ ได้ทำให้ผม มีปัญหาในการทำงานอย่างมาก เนื่องจาก
วันเสาร์ ก็กลับบ้านไม่ได้ ต้องรอถึงค่ำๆ จึงจะกลับได้
วันนี้ก็ไปรับยายที่อยู่ตรง ห้าแยกลาดพร้าวไม่ได้ เพราะว่าน้ำท่วมเละมากครับ
รถผม คือ nissan march ศักยภาพในการลุยน้ำมันต่ำมากๆ เพราะความสูงใต้ท้องไม่มากนัก แต่ก็ยังดีกว่าเก๋งหลายๆ รุ่น เช่น Civic หรือ Yaris ใหม่ที่เตี้ยกว่าผมไปอีก
ผมเองเริ่มรู้สึกว่า กระบะ 4 ประตู หรือแคปจะค่อยๆ มีความสำคัญมากขึ้น เพราะว่า ผมคุยกับเพื่อนท่านหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญเรื่องภูมิอากาศ เขาเล่าให้ผมฟังว่า แนวโน้มประเทศไทยจะมีฝนตกหนักเยอะกว่าสมัยก่อนมากๆ เพราะร่องมรสุม จะพัดขึ้นมาทางแถวบ้านเรามากขึ้น (บางแถบในโลกกจะแห้งแล้งลง)
ดังนั้น แนวโน้มในอนาคต บ้านเราอาจจะเจอกับปัญหา น้ำท่วมได้บ่อยครั้งขึ้น การใช้รถกระบะ นั้น น่าจะมีความจำเป็นมากขึ้น คือ บางบ้านที่มีแต่รถเก๋ง ก็อาจจะขยับมาซื้อกระบะอีกคัน ซึ่งมีศักยภาพในการลุยได้มากกว่า แม้ว่าตัวเตี้ยจะลุยน้ำแบบ 40-60 ไม่ได้ แต่ในระดับ 20-30 ซม. กระบะตัวเตี้ย นี่ไปสบายกว่าเก่งแน่ๆ เพราะช่วงความสูงมันพอๆ กับ B / C-SUV พอๆ กับรถแบบ innova
ส่วนตัวผม ผมคิดว่าหลายๆ ท่านก็คงรู้สึกว่า กระบะยกสูงทั้งแคปและ 4 ประตูนั้น เหมาะสมกับประเทศไทย แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด การจะซื้อรถยกสูงนั้น แพงกว่าตัวปกติพอสมควร ยิ่งถ้าเป็นเกียร์ออโต้ ต้องกำเงินถึงเกือบ 8-9 แสน ในการจะได้กระบะแคปยกสูงรุ่นกลาง เช่น Revo cab รุ่น E AT ราคา 7.99 แสนบาท หรือ Dmax 4 ประตู รุ่น Z AT ราคา 8.9 แสนบาท
อีกอย่าง คือ ค่าน้ำมันและค่าดูแลกระบะยกสูงนั้น ผมว่ามันสูงไปหน่อยครับ ยางใหญ่เปลืองค่าเปลี่ยนมาก ค่าน้ำมันสูงกว่าเนื่องจากรถทรงสูง ทำให้มันไม่ค่อยน่าใช้นัก สำหรับคนที่ขยับงบจาก Eco car
ผมอยากให้ค่ายรถ พิจารณาเอากระบะแคป ตัวเตี้ย เกียร์ auto มาขายครับ
เพราะราคาจะไม่สูงเกินไป เช่น Revo cab J plus ราคา 6.59 แสนบาท ผมว่าถ้าเอามาใส่เกียร์ออโต้ คงยังไม่ถึง 7 แสน หรือจะเป็น ตัว 4 ประตู ราคา 6.99 แสนบาท ก็น่าที่จะไม่เกิน 7.5 แสน ซึ่งยังถูกกว่าการซื้อกระบะยกสูงตัว E auto เป็นแสน
จริงๆ มีอีกหลายท่านที่อยากได้รถแบบ suzuki Jimny ที่คันไม่ใหญ่มาก ยกสูง หรือกระบะเล็กๆ แบบ Nissan NV โดยที่อาจจะใช้วิ่งทางลูกรังบ้าง ไว้ลุยน้ำบ้าง แต่ไม่ได้ลุยป่าแบบจริงจัง ซึ่งทุกวันนี้ ด้วยงบประมาณที่มี อาจจะขับรถ B-car หรือ Eco car แบบอึดอัดใจมาก เพราะมันไม่ได้ตอบโจทก์การใช้ชีวิตของตัวเองเท่าไหร่
รถที่ใกล้เคียง อย่าง avanza ก็เป็นรถประกอบอินโด ขาดความแน่นอนในเรื่องของอะไหล่ที่ต้องนำเข้า ไม่ค่อยน่าใช้เท่ากระบะที่ประกอบในนี้ ส่วน Mini MPV จากอินโด นั้น ก็ไม่ได้สูงกันเท่าไหร่ ไม่ต่างจากรถเก๋งเลย แม้แต่ BR-V ผมดูแล้ว มันก็ยังเตี้ยอยู่ครับ
ผมคิดว่าถ้าทางค่ายรถ จะเอาพวก กระบะช่วงสั้น มีแคป มาใส่เกียร์ออโต้ แล้วขายในราคาช่วง 6-6.5 แสนบาท ก็น่าสนใจครับ เพราะผมเคยคำนวน ราคา suzuki jimny ในเงื่อนไขที่ประกอบอินโด และเครื่อง 1.3 เนื่องจาก spec ออสเตรเลีย ค่า Co2 สูงถึง 150-200 กรัม ทำให้โดนภาษีในระดับ 35% ถ้าเอา Jimny รุ่นต่ำสุดจากญี่ปุ่นมาขาย ราคามันประมาณ 1.6 ล้านเยน หรือประมาณ 4.8 แสนบาท เมื่อคำนวนแค่ค่าภาษีไม่รวมค่าขนส่ง ก็ปาเข้าไปถึง 6.48 แสนบาท ซึ่งผมว่า ถ้าเอากระบะแคปตัวเตี้ยช่วงสั้นมาขาย ราคาก็น่าจะอยู่ราวๆ นี้ได้
ทุกท่านคิดอย่างไรกันครับ อยากให้ช่วยกันแชร์ด้วยครับ