เป็นคำถามที่ตัวเองก็ต้องการทราบตลอดเวลาเกือบหนึ่งปี เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนรถตั้งแต่ตัวcbuมา อ่านreviewในตปท.ก็ไม่ได้อะไรมาก ว่าจะรอplug in hybridออกมาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่แล้วสองสัปดาห์ก่อนก็ทราบว่าเค้าหยุดผลิตเครื่องสันดาปหมด หักคอทุกคนไปใช้เสียบปลั้กหมด แล้วศูนย์ใกล้บ้านก็บอกรถหมดแล้ว เหลือคันสุดท้ายสีขาว ก็เลยเหมือนถูกบังคับไม่มีทางเลือก
ถามว่าใช้มาห้าวันแล้วเป็นอย่างไร ขอบอกว่าขับดี ดีมากกว่าw211ที่เคยใช้ ไม่มีถุงลมแต่นิ่ม ไม่เจอdefectอะไรณ.ตอนนี้ แต่มีข้อเสียที่รับไม่ได้จนอยากเอารถไปคืนเดี๋ยวนั้นคือเสียงเครื่องdieselที่ตนเองไม่เคยชิน ทำให้นึกถึงเสียงรถกะบะกับราคารถหลายล้าน saleก็ปลอบใจว่ารุ่นนี้เงียบแล้ว รุ่นก่อนดังกว่านี้ แต่พออยู่ในห้องโดยสารก็เงียบลงจนพอทำใจไหว
ถามว่าเสียดายกับplug in hybridมั้ยที่มีoptionออกมาแล้วราคาไม่โดดอย่างที่คิด ก็เสียดาย แต่มีบางoptionที่ไม่ได้ใช้เพิ่มมา เพราะใช้รถคนเดียว เช่นถุงลมด้านหลัง ก็รู้สึกดีแล้ว เสียดายยัดของมาให้แบบไม่ได้ใช้
มีข้อมูลที่ได้ศึกษามาเกือบหนึ่งปีที่ไม่มีใครพูดและกล่าวถึงในกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับตัวplug in hybrid ที่บริษัทไม่ยอมกล่าวถึง แต่หาได้จากเวบเมืองนอก เช่น Mercedes benz.uk คือ
1.นน.รถplug in hybrid จะหนักกว่ารถธรรมดา245kg. หรือบรรทุกข้าวสารไว้ในรถสองกระสอบกว่าตลอดเวลา มันรวมนน.แบต generatorและอื่นๆ ดังนั้นเมื่อวิ่งจนแบตหมด เครื่องยนต์เล็กๆแค่1950cc นอกจากต้องลากตัวรถ มันต้องแบกข้าวสารสองกระสอบกว่า แค่นั้นไม่พอ มันต้องปั่นไฟเข้าแบต.อีก คือทำสามอย่างในเวลาเดียวกัน
2.เหตุผลทำไมถึงหักคอคนไทยใช้แต่hybrid ในขณะเมืองนอกมีครบทุกรุ่นให้เลือก เหตุผลน่าจะทราบเพราะอะไร
3.ค่าไฟถูกกว่าdieselมากไหม จำว่ามีท่านหนึ่งตอบในเวบนี้ว่าตกวันละ24บาทต่อการช้าจไฟเต็ม17-20km. แล้วถ้าวิ่งไกลกว่านี้จะไม่ประหยัดแล้ว เพราะเครื่องต้องลากข้าวสารสองกระสอบกว่าแล้วต้องเบ่งกำลังไปช้าจไฟเข้าแบตอีก จึงคิดว่าจะประหยัดถ้าใช้แค่แบตที่ช้าจไฟเต็มและขับวันละไม่เกิน20km.
สรุปคือมันมีข้อดีข้อเสียและบางสิ่งที่เค้าไม่บอกเรา บอกแต่ข้อดีคือประหยัดๆ
สำหรับe220d ซื้อมาคือพอใจทุกอย่าง ข้อเสียแค่เรื่องเสียงและเสียดายoption blind spotและdistronic