Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Gunther ที่ ตุลาคม 14, 2021, 19:30:04
-
กระแส ORA Good Cat มาแรงมากในตอนนี้ ตั้งแต่เปิดจอง Good Cat กันอย่างถล่มทลาย (น่าจะยิ่งกว่า Haval H6) เพราะ GWM ได้เปิด Spec มาแล้วทั้ง 3 รุ่น (400km 2 รุ่น/500km 1 รุ่น) ก็คือ 400Tech/400Pro/500Ultra (แต่ว่าต้องรอลุ้นราคาในปลายเดือนตุลาคมนี้)
ถ้าค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวมาเป็นรถยนต์ EV 100% จะกลายเป็น Nokia หรือไม่
..
ปล. ทุกท่าน มีใครจอง ORA Good Cat กันบ้างหรือยังครับ มีสมาชิกคนไหนจอง ORA Good Cat รุ่นไหนบ้างครับ
รักนะแมวดี
-
ขอนิยามคันนี้ว่า ของเล่นคนรวย
พอมาคิดดูแล้ว มันเป็นสินค้าแฟชั่น
ที่บ่งบอกฐานะได้ชิ้นนึงเลย
ดีไซน์ ดี
ความคุ้มค่า ดี
ใช้งานได้จริง ระดับ 400-500 km
วัสดุ ดี
ออพชั่น ดีมาก
ศูนย์บริการ ยังไม่ล้มเหลวอะไร
ขอให้ขายดีๆ จะได้มีจุดชาร์ทไฟเยอะๆ
อนาคตคตรถไฟฟ้าจะได้สดใส
อากาศในเมืองจะได้ปลอดโปร่งขึ้น(บ้างก็ยังดี)
ใครที่ซื้อรถไฮบริด รถไฟฟ้า อาจจะไม่คุ้มเงินมาก
แต่ช่วยเรื่องมลพิษในเมืองได้บ้าง ไม่ดราม่าเรื่อง
มลพิษจากแบตเตอรี่นะครับ ทุกอย่างบนโลกนี้
มี cycle ของมัน จะน้ำมัน จะไฟฟ้า มีได้มีเสียต่างวาระกันไป
-
รถยนต์นะครับ ไม่ใช่มือถือ
สินค้าโดนตลาด ทำโปรแรงๆ ให้กระแสดี แล้วจะซื้อ
บริการหลังการขายครับที่สำคัญ ยืนระยะให้ได้ 5 ปีก่อนไหมครับ
-
ผมว่า ORA ยังไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตลาดใหญ่ใน 5 ปีนี้เลยนะครับ ตามที่ท่านนึงในบอร์ดนี้เคยพูดไว้ EV ยังไม่ตอบโจทย์ตลาดหลัก ณ เวลานี้ ข้อจำกัดยังเยอะมาก คนอยู่คอนโด คนที่มีรถได้แค่คันเดียว คนที่มีครอบครัว เหมาะกับรถคันที่สอง คันที่สามในบ้านมากกว่า
ผมยังมองว่ายอดขาย H6 น่าจะเยอะกว่า และน่าลุ้นมากกว่า ถ้าดูจาก ZsEV MGEP จะเห็นได้ว่ายังต้องรออีกซักพักใหญ่ๆเลย แต่ ณ จุดนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ เดินการตลาดดีแล้วครับ
-
สภาพปัจจุบันประเทศไทย plug in hybridยังคล่องตัวกว่าเยอะครับ ขับในเมืองไม่ต้องใช้น้ำมัน ขับทางไกลเติมน้ำมันแปปเดียวออกเดินทางต่อได้ไม่ต้องรอชาร์จไฟครึ่งชั่วโมง ถ้าประเทศเราพัฒนา มีสถานีชาร์จมากกว่านี้ยอดน่าจะดีขึ้นคนคงหันมาเล่นด้านนี้มากขึ้นค่ายรถยนต์ก็ปรับตัวกันเองครับครับ
ส่วนจะเป็นnokiaมั้ย เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ ตลาดใหญ่ของเค้าเองยอดขายรถไฟฟ้ายังถือเป็นส่วนน้อยเค้าก็คงยังไม่รีบปรับกลยุทธ์อะไรหรอกครับ
ศูนย์GWMตอนนี้ก็น้อยจนระเหี่ยใจ คนอยู่ห่างศูนย์แบบผมคงยังไม่หันไปเล่นง่ายๆหรอกครับ แต่ถ้าจังหวัดข้างเคียงมีศูนย์ก็น่าสนครับ
ยิ่งเปิดจองแบบไม่เปิดราคาแบบนี้ ความสนใจยิ่งลดลงครับ รอเปิดตัวค่อยคิดอีกทียังทัน ถึงจะไม่ได้สิทธิประโยชน์220000ก็ตามครับ
ใครจองแล้วก็ยินดีด้วยครับ
Good cat น่ารักดีครับ
แต่เมียผมชอบballet catครับ จบข่าว
-
ผมไม่ซื้อรถเงินสด
ผมอยู่ใยวัฏจักร ดาวน์ ผ่อน ดาวน์ ผ่อน
ใช้ทีก็ 6-10 ปีแล้วแต่คัน
ผมไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น
มันไม่ใช่นวัตกรรมมือถือเครื่องละหลักหมื่น
ที่สำคัญนะ ถ้าเทียบรถญี่ปุ่นเหมือนโนเกีย...
คือ ระบบ hybrid ของญี่ปุ่นมันซับซ้อนกว่าไฟฟ้า 100% หลายเท่า
เค้าจะเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าเมื่อไหร่ก็ได้มั๊งครับ
อย่าง kick ถอดเครื่องออก ใส่แบตได้ทันที
มันน่าตื่นเต้นตรงไหนเหรอครับ???
-
ลองเอาไปเทียบขนาดดูแล้วเหมือนว่าจะอยู่แถวๆ B-C Seg (ยาวประมาณพวกยาริส แต่กว้างประมาณพวก MG6) ราคาเท่านี้ก็ถือว่าก้ำกึ่งดี
ถ้าราคาออกมา 800k-1m ตามที่คาดการณ์กันจริงๆก็ถือว่าโอเค เหมือนเป็นช้อยส์ตัวนึงให้เลือกระหว่างรถ B-Seg ปกติ (City/Almera และอีกหลายๆรุ่น) ตัวท็อป
กับรถไฟฟ้าระดับล่างสุด (ส่วนรุ่นท็อปของแมว ถ้าผมจะจ่ายล้านนึงสำหรับ BC Seg ผมว่า Altis แม้แต่ตัวท็อป Hybrid ยังน่าเล่นกว่า)
ก็ตามที่ท่านบนบอก คือมันเป็นของเล่นคนรวยมากกว่า มันไม่เหมือนกับตัว Haval ที่อันนั้นทำราคามาชนกับเจ้าตลาดหน้าเดิมๆแล้วเขย่าได้จริงๆด้วยตัวรถ
สำหรับ B Segment นี่จริงๆทั้ง M2, Almera, City มันเซ็ตมาตราฐานไว้ระดับนึงแล้ว ถ้าแมวน้อยตัวนี้จะมาเขย่าได้ ก็ต้องมีของดีทั้งราคา (จริงๆทำสัก 750k ออปชั่นพอรับได้ก็แย่งได้เยอะนะ)
และตัวรถเองด้วย (ถ้าไอหนังที่เห็นๆนั่นเป็นของจริงก็สู้ได้) ไม่งั้นมันก็จะเจอปัญหาเดิมๆเรื่อง Infrastructure ที่แม้แต่ในเมกาก็ยังมีปัญหาถ้าไม่ใช่เมืองใหญ่ + ไม่ใช่ Tesla
-
ในฐานะที่มีภูมิลำเนาห่างจากแหล่งทำมาหากิน 514 km จับจาก Maps
มันยังไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตขนาดนั้นครับ
ไหนจะเรื่องระยะเวลาในการชาร์จ จำนวนจุดชาร์จ ฯลฯ
มองเยอะๆ ครับ อย่ามองตามกระแส
กระแสที่จองกันไปก็จองกันโดยพื้นฐานล็อกโปร แต่ที่จะตัดสินใจก็นู้นเลยครับราคา
-
ถ้าไม่ปรับตัวต้องเป็นแบบโนเกีย,โกดักแน่นอน
และจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
ประเทศจีนทรัพยากรมากกว่าญี่ปุ่นมหาศาลในทุกๆด้านอยู่แล้ว
รถญี่ปุ่นควรทำใจรับสภาพ หันไปทำธุรกิจอื่นดีกว่า
-
การมาของรถไฟฟ้าจากจีน น่าจะเป็นตัวเร่งให้ฝั่งญี่ปุ่นทำออกมาเร็วขึ้นครับ
มันไม่ได้ถึงกับว่าจะล่มสลายกันเลย
ตราบใดที่สถานีชาร์จยังน้อย ชาร์จช้า ต้องเสียบชาร์จทุกคืน คอนโดหลายที่ก็ไม่ได้มีที่ชาร์จรองรับ รถไฟฟ้าล้วนก็เป็นรถคันที่สองในบ้านมากกว่า
-
ก่อนจะไปห่วงค่ายญี่ปุ่นนะครับ เอาให้ ORA มันมาผลิตในไทยให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ย
เพราะตราบใดที่มันยังนำเข้าจากจีนอยู่ ก็หมายความว่า Volume มันยังไม่เพียงพอที่จะมาลงทุนผลิตในประเทศไทย
เมื่อ Volume ยังไม่เพียงพอมันก็ไม่ได้มีผลอะไรให้ค่ายญี่ปุ่นต้องปรับตัวเลย
นี่คือความจริงของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไม่เหมือนกับมือถือหรือกล้องถ่ายภาพ สำหรับรถยนต์ในประเทศไทยถ้าคุณยังได้แต่นำเข้าไม่สามารถมี Volume มากพอจนผลิตในประเทศได้ก็หมายความว่าคุณเป็นเพียงไก่รองบ่อนเท่านั้น
-
กระแส ORA Good Cat มาแรงมากในตอนนี้ ตั้งแต่เปิดจอง Good Cat กันอย่างถล่มทลาย (น่าจะยิ่งกว่า Haval H6) เพราะ GWM ได้เปิด Spec มาแล้วทั้ง 3 รุ่น (400km 2 รุ่น/500km 1 รุ่น) ก็คือ 400Tech/400Pro/500Ultra (แต่ว่าต้องรอลุ้นราคาในปลายเดือนตุลาคมนี้)
ถ้าค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวมาเป็นรถยนต์ EV 100% จะกลายเป็น Nokia หรือไม่
..
ปล. ทุกท่าน มีใครจอง ORA Good Cat กันบ้างหรือยังครับ มีสมาชิกคนไหนจอง ORA Good Cat รุ่นไหนบ้างครับ
รักนะแมวดี
มียอดจองกี่คันครับ
-
ถล่มทลายนี่อ้างอิงจากไหนหรือครับ
รอดูยอดออกรถจริงก่อนไหม? สักปี สองปี ก็ค่อยสรุปกันอีกที?
-
ผมว่าคนที่ได้ประโยชน์จริงๆน่จะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นใหญ่ๆมากกว่า
ไม่ต้องรีบร้อนทำตลาดตอนที่อะไรต่างๆยังไม่พร้อม ยังไงรถจีนก็ไม่ใช่ของเล่นคนรวยอยู่ดี
ค่อยลงมาเล่นในตลาดตอนที่แบรนด์จีน ช่วยสร้างให้เกิดความพร้อมและความต้องการที่แท้จริงในระดับแมวก่อน
มาตอนนั้นในตลาดก็ยังไม่สายครับ ด้วยชื่อชเสียงและความน่าเชื่อถือในแบรนด์ที่มีมาก่อน
-
ส่วนตัวผมเอาใจช่วยให้เจ้า Goodcat ขายดีๆ นะ เผื่อว่าปัญหา PM 2.5 ในประเทศไทยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนตัวผมยังอยากได้รถที่มี Story ที่น่าสนใจ เช่น Tesla หรือรถน้ำมัน มากกว่า
-
จองไม่เสียตัง เป็นใครก็จองเล่นๆไว้ก่อนครับ เหมือนตอน Haval H6 อะ ยอดจอง 6 พันกว่าคัน
ซื้อจริงๆ ถึง 2พันคันหรือเปล่า ผมก็เล็งๆไว้นะตอนแรก แต่ที่ทำงานผมยังไม่ยอมติดที่ชาร์จให้พนักงานสักที
บวกกับถ้าหมดโควิด หลักๆคงกลับไปอยู่คอนโด ไม่มีที่ชาร์จ เหมือนตอนอยู่บ้านอีก ลำบากหาที่ชาร์จอีก
เสียเวลาพอสมควร และจากที่ดูรีวิวของจีน support DC สูงสุดที่ไม่เกิน 60Kw เอง ชาร์จเต็มมีเกินชั่วโมงแน่ๆ
รถEV รออีก 5ปีก็ยังไม่สาย ถึงตอนนั้น เร็วกว่าดีกว่า ระยะมากกว่า จุดชาร์จมากกว่า ที่ชาร์จตามบ้านราคาเหลือไม่ถึงหมื่นแน่นอน
แต่ถ้าใครซื้อเป็นรถคันที่2-3 อยู่บ้านเดียว ติดโซล่ารูฟแล้ว แนะนำให้จัดเลย ถูกกว่าติดแก๊ส ดูแลง่ายกว่ารถมีเครื่องยนต์มากมาย
ค่าไฟก็ถูกกว่าเติมน้ำมันตอนนี้แน่ๆ จุดชาร์จข้างนอกไม่เกิน7-8 บาท/หน่วย ชาร์จที่บ้านแบบ TOU 2-3บาท/หน่วยเอง
และระบบช่วยเหลือต่างๆดูจาก H6 ได้เลย เหนือกว่ารถในระดับราคาเดียวกันไปไกลมาก
-
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
-
ส่วนตัวผมเฉยๆ กับรถไฟฟ้านะ ไม่ได้อยากได้ด้วยเพราะไม่สะดวก และไม่ Practical อย่างแรงในตอนนี้ ถ้าให้เลือกรถใหม่ในอีก 5-7 ปี หน้าก็ยังคงเป็นรถสันดาปอยู่ดี หรืออาจจะมี PHEV มาถ้าจำเป็น และผมคิดว่าคงมีคนแบบผมอีกเยอะ
-
ส่วนตัวผมเอาใจช่วยให้เจ้า Goodcat ขายดีๆ นะ เผื่อว่าปัญหา PM 2.5 ในประเทศไทยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนตัวผมยังอยากได้รถที่มี Story ที่น่าสนใจ เช่น Tesla หรือรถน้ำมัน มากกว่า
เรื่อง PM2.5 บ้านเรานี้ยากครับ กฎหมายทำอะไรพวกรถอ้างหากินไม่ได้เลย
ดูกระบะจากถนนตอนนี้สิครับ รถกระบะครอก กะบะแต่ง เต็มถนน ตัดตัวกรองทุกอย่างทิ้ง
กดทีควันดำเต็มถนน ได้แต่ด่าในใจ ทำอะไรพวกเขาไม่เคยได้ เฮ้อ
-
ก็ถือว่าสร้างสีสันต์ให้ตลาดให้เจ้าตลาดต้องปรับตัวบ้างแต่ว่าจะมาแทนกันเลยเป็นไปไม่ได้ คนที่ซื้อรุ่นนี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นคันที่3ของบ้านทั้งนั้นเพราะข้อจำกัดของการชาร์จไฟฟ้ายังเยอะ
-
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด
-
ใครใคร่ซื้อก็ซื้อ ใครใคร่ติก็ติไป
-
ผมเชียร์ให้ยอดขายดีๆ นะ ส่วนบ้านผมก็น่าจะจัด ตัวกลาง มาเป็นรถคันที่ 3 ของบ้าน เน้นใช้ในเมืองเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลสนับสนุนมากกกว่านี้แบบประเทศจีน คนจะได้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น :(
ส่วนค่ายรถญี่ปุ่น ถ้าไม่ปรับตัวเลย
ผมว่าจะเงิบซักวันแน่ๆ
แต่เค้าคงไม่ไม่งอมืองอเท้า ตายแน่นอนครับ
ยังไงถ้าเค้าเห็นว่า Brand จีนหรือรถไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทในไทย เค้าต้องปรับตัวแน่นอนครับ
ตลาดรถยนต์ไทยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า น่าสนใจมากว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน
ส่วนตัวผมอยากอยากสลับไปรถไฟฟ้ามากๆ ถึงจะลำบากหน่อย แต่คิดว่า ไม่มีปัญหา (เป็นคนใช้รถต่อวันไม่เยอะด้วย 20-30 km.)
อย่างน้อยก็เป็นแรงเล็กๆ ที่ช่วยลดมลพิษในประเทศนี้
-
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด
ส่วนตัวผมใช้สินค้าจีนมาหลายอย่างทั้ง Huawei Xiaomi Hisense Haier ก็ประทับใจพอๆกับสินค้าญี่ปุ่น ราคาถูกกว่า 20-30% ความทนทานผมว่าสมัยนี้ไม่ต่างกันมาก เพราะญี่ปุ่นเองก็ลดต้นทุนเยอะโดย อย่างที่เห็นๆกันทั้งสีบาง สนิมขึ้น เพียงแต่จุดแข็งคือบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งตรงนี้คงต้องดูกันยาวๆว่าค่ายจีนจะเอาจริงแค่ไหน ถ้าซื้อใจคนไทยได้ผมว่าญี่ปุ่นสะเทือนแน่ๆ อยากได้ลูกค้าคืนต้องอัดออปชั่น ลดราคาลงมาสู้ แต่ที่แน่ๆผู้บริโภคอย่างเราๆได้ประโยชน์เต็มๆ เมื่อก่อนความหวังจะได้ขับรถออปชั้นล้นๆเหมือนเมืองนอกต้องไปรุ่น TOP D Segment เกือบ 2 ล้าน ต่อไปแค่ B Segment 5-6แสน อาจจะได้ Adaptive Cruise Control แล้วก็ได้
-
กรณี Nokia ผู้บริหารยังยึดวิสัยทัศน์เดิมๆ (Symbian) และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ผิด (Window phone) แถมกว่าจะถูกทางก็ช้าไปแล้ว (Android)
ค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวมาเป็นรถยนต์ EV 100% จะกลายเป็น Nokia หรือไม่
..?
->เป็นบางค่ายที่ทำตามแบบ Nokia นั้นแหละ
ถ้า ORA Good Cat ขายดีแบบเทน้ำเทท่า เจ้าอื่นก็อยากกินส่วนแบ่งทางการตลาด ไม่ยอมให้เจ้าใดเจ้าหนึ่งผูกขาดตลาด
-
ขายดีมากแน่นอน แต่ยังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนตลาด
รถ BEV ยังต้องใช้เวลา (อีกไม่นาน)
-
ผมแบ่งเป็น 3 ประเด็นนะครับ
1. กระทบค่ายญี่ปุ่นไหม ?
ผมว่ากระทบครับ ส่วนตัวผมไม่เคยมองรถ ค่ายจีน และเป็น EV เลย เพราะ เชื่อว่าทั้งสองอย่างยังไม่ถึงเวลา แต่พอดูคลิปของ คุณ นิธิ ท้วมประถม พาไปชมคันจริงใน Motor Show มันน่าสนใจนะครับ รู้สึกระบบภายในที่ไม่เห็นในรถราคาต่ำล้าน แบบ นวดหลังไฟฟ้า แยกโปรไฟล์คนขับ กล้องจับโปรไฟล์[ไม่มาไทย] การออกแบบที่ดูแหวกแนวกว่าปกติ ประกอบกับ การขับขี่ที่ดูใช้ได้จริงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และ ระยะเวลาการชาร์จที่ไม่นานมาก พบว่าตัวรถมันน่าใช้ ไม่คิดว่า EV ที่ดูใช้ได้จริง มันจะมาถึงเร็วในปี 2021 และ แบรนด์จีนทำตลาดได้ไม่แย่ ดูยอดขายในบางเซกเมนท์ที่คนไทยดูยอมรับรถจีนได้ ถ้าโปรดักส์ดี ผมว่าน่าจะมีหลายๆคนที่วางแผนซื้อรถใช้ในเมืองเป็นหลักกลุ่ม B และ C รวมไปถึง B-SUV น่าจะเพิ่ม ORA มาเป็นตัวเลือกได้ไม่ยากครับ และ ถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรหนักใน 6 เดือนแรก รถคันนี้ก็ดูเป็นรถ EV ดีไซน์สวย ราคาต่ำล้านคันเดียว ที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อมาแย่งยอดรถญี่ปุ่นได้อย่างไม่ยากเย็นครับ ค่ายญี่ปุ่นจากที่เคยนอนกินใน 3 เซกเมนท์นี้คงมียอดหายบ้างครับ ไม่มากก็น้อย
2. ค่ายญี่ปุ่นไม่มี EV จะตายไหม ?
ยังห่างจากคำว่าตายอีกไกลครับ แต่มีเหนื่อยขึ้นแน่นอน เพราะ เทคโนโลยี และ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยยังไม่รองรับ การใช้งาน EV ในระยะเวลา 5 ปีนี้ สมมติผมาต้องการขับคันนี้ไปกลับ แค่พัทยาหรือหัวหิน ผมคงต้องวางแผนหาสถานีชาร์จที่มี DC ไว้ชาร์จกลางทางเผื่อฉุกเฉินซึ่งตอนนี้ก็ยังดูหายากและไม่สะดวก อารมณ์คนมีรถ NGV คงเข้าใจ ยิ่งขับไปเชียงใหม่นี่ไม่ต้องพูดถึงคือน่าจะลำบาก ไม่ง่ายเหมือนรถน้ำมันที่จ่ายเงิน เติมปุ้ป ขับต่อได้เลย รถ EV ณ.ตอนนี้ น่าจะเหมาะกับครอบครัวที่มีรถหลายคัน แล้วใช้รถคันนี้ในชีวิตประจำวันรถติดๆในเมืองดูเป็นตัวเลือกที่ดี คงไม่ใช่ CITY CAR ที่สามารถท่องเหนือล่องใต้ เหมือน นิยามรถ CITY CAR ของคนไทย ถ้าไปดูค่ายญี่ปุ่นในยุโรปตอนนี้ เหลือแค่รถ HYBRID และ รถไฟฟ้า ล้วนก็มีขายแล้วเกือบทุกยี่ห้อ แต่ระยะทางและเทคโนโลยีต่อการขับไม่ได้มากมายเหมือนรถจีน
3. ค่ายญี่ปุ่นควรปรับกลยุทธ์อย่างไร ?
ส่วนตัว ผมว่าหลักๆน่าจะมี 2 เรื่อง
1. ด้านราคา - ผมว่าบางเซกเมนท์มันแพงจนเกินไป เหมือนคุณยกการ์ดสูงเพื่อชกแต่แบรนด์ญี่ปุ่นที่ราคาแพงด้วยกัน แต่ผลิตภัณฑ์คุณไม่ได้แตกต่างกับค่ายจีนขนาดนั้น แปลว่าคุณเปิดการ์ดล่างซะกว้างจนค่ายจีนมาแทรกได้ไม่ยาก ซึ่งญี่ปุ่นชะล่าใจไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์มากันแต่แรก เพราะคิดว่าแบรนด์จีนเป็นไม้ประดับ ตอนนี้แบรนด์จีนก็ตั้งไข่ได้แล้ว ถ้า คุณไม่ออกผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าแบบที่ผู้บริโภครู้สึกแตกต่างในราคาที่ผู้บริโภคคิดว่าเหมาะสม คุณก็ต้องมีรุ่นย่อยที่ออฟชั่นดีพอเพื่อมาสู้ด้านราคากับตลาดจีน นอกจากมรสุมค่ายจีน การดันราคา C-SUV และ D-SEGMENT ที่แพงเกินไป ทำให้ยอดใน 2 SEGMENT นี้ก็หดเอาๆ เพราะหลายๆคนก็ข้ามไปรถยุโรปแล้ว ทำให้ยอดรถยุโรปโตเอาไป จะมีรอดก็แค่ FORTUNER บ้าพลังขวัญใจ อบต นี่ล่ะ
2. ด้านผลิตภัณฑ์ - ผมว่ารถสันดาปน่าจะทำได้ดีและมาถูกทางที่เอา HYBRID เข้ามาเสริมนะ มันยังเป็นตลาด MAJORITY ของประเทศแถบนี้อยู่ ทั้งรถนั่ง และ รถพาณิชย์ แต่ควรเอารถไฟฟ้าราคาจับต้องได้มาภายใน 3-5 ปีนี้ได้แล้ว ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี ดูจากไลน์อัพยังไงๆคุณจะเจอรถไฟฟ้าจีนราคา 6-7 แสนใน 3 ปีนี้แน่นอน คุณเอารถไฟฟ้าราคาเกิน 1 ล้าน วิ่งได้ 250 โล มาขายในอีก 5 ปีข้างหน้า แบบ HONDA E ในยุโรป คุณก็แข่งยากแล้ว เพราะแบรนด์จีนเค้าสร้างตลาดไปแล้ว
การมาของรถคันนี้ถือว่าดีและน่าสนใจครับเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคทางตรงและทางอ้อม ก็เอาใจช่วยค่ายญี่ปุ่นในไทยละกันครับ คิดว่าคนไทยที่ทำงานในนั้นคงเหนื่อย เพราะ ญี่ปุ่นไม่ค่อยยอมปรับตัวและมองเหตุการณ์ตามความเป็นจริงอะไรสักเท่าไร หวังว่าคงปรับตัวทัน หรือ พัฒนา FCV ที่สะอาดจนถึงกระบวนการผลิตได้มาพลิกโฉมวงการ ก่อนที่จะเล็กลงๆไปเรื่อยๆอย่างช้าๆมากกว่านี้
-
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด
ส่วนตัวผมใช้สินค้าจีนมาหลายอย่างทั้ง Huawei Xiaomi Hisense Haier ก็ประทับใจพอๆกับสินค้าญี่ปุ่น ราคาถูกกว่า 20-30% ความทนทานผมว่าสมัยนี้ไม่ต่างกันมาก เพราะญี่ปุ่นเองก็ลดต้นทุนเยอะโดย อย่างที่เห็นๆกันทั้งสีบาง สนิมขึ้น เพียงแต่จุดแข็งคือบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งตรงนี้คงต้องดูกันยาวๆว่าค่ายจีนจะเอาจริงแค่ไหน ถ้าซื้อใจคนไทยได้ผมว่าญี่ปุ่นสะเทือนแน่ๆ อยากได้ลูกค้าคืนต้องอัดออปชั่น ลดราคาลงมาสู้ แต่ที่แน่ๆผู้บริโภคอย่างเราๆได้ประโยชน์เต็มๆ เมื่อก่อนความหวังจะได้ขับรถออปชั้นล้นๆเหมือนเมืองนอกต้องไปรุ่น TOP D Segment เกือบ 2 ล้าน ต่อไปแค่ B Segment 5-6แสน อาจจะได้ Adaptive Cruise Control แล้วก็ได้
อันนี้ขอเสริมเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ ตอนนี้คุณแน่ใจเหรอครับว่า ทีวี, ตู้เย็น, แอร์, ไมโครเวฟ, หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แบรนด์ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ที่คุณใช้เป็นของโรงงานเขาจริงๆ ตัวบนๆแบบ ตู้เย็น SIDE BY SIDE บางตัวก็ OEM จาก HIER MIDEA GREE หรือ ยี่ห้อที่เลวร้ายกว่าอื่นๆ และ มาแปะแบรนด์ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ครับ ตอนนี้โรงงานหลายๆที่ของจีนก็มาตั้งโรงงานในไทยเพื่อรับออเดอร์จากแบรนด์อื่นรวมไปถึงผลิตของตัวเองในภูมิภาคนี้เป็นล่ำเป็นสันครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน บางแบรนด์คุมคุณภาพได้ดีกว่าญี่ปุ่นหรือยุโรปก็มี แต่หลายๆแบรนด์ส่วนใหญ่ก็แย่กว่าครับ ไม่ได้อวยจีน แค่ บอกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ปรึกษาเพื่อนในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ดีครับ
-
ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ยุคหน้า รถไฟฟ้าจีน จะนำหน้ารถญี่ปุ่น ก็ไม่แปลก
เพราะจีนเขาตั้งเป้าไว้ ตั้งแต่หัดผลิตรถยนต์แล้ว
และชาติจีน นำหน้าชาติอื่นในหลายเทคโนโลยี่
ถ้า 20ปีก่อน ใครบอกว่า sumsung จะทำ TV ได้ดีกว่า sony
ถ้า 10ปีก่อน ใครบอกมา จีนจะเป็น มหาอำนาจโลก เบียดกับอเมริกา
คงไม่มีใครเชื่อ
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งชาติที่มีความมุ่งมั่นต้องการเจริญ แบบจีน
ถูกข่มเหงรับแก จากชาติตะวันตก แรงกดดันเพื่อความสำเร็จมันย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
อย่าประมาท เด็ดขาด แม้กระทั่งรถไฟฟ้า
-
การมาของรถจีนยังไงก็กระทบรถญี่ปุ่นครับ
ยิ่งยุครถไฟฟ้ายิ่งกระทบมาก หลายคนมี่เชียร์บริษัทรถญี่ปุ่นอาจจะมองว่าของจีนห่วย กลืนตลาดไม่ได้หรอก
แต่ไม่ได้มองข้อเท็จจริงเรื่องที่จีนได้เปรียบมากที่สุดคือต้นทุนแบตเตอรี่
ในอนาคตอันไม่ไกลมาก เราจะเห็นรถไฟฟ้าจีนราคา 5-6 แสน วิ่งได้ 4-5 ร้อยโล
แต่ในขณะเดียวกันรถญี่ปุ่นจะวิ่งได้แค่ 2-3 ร้อยโลเท่านั้นในราคาเท่ากัน
ด้วยความต่างด้านราคานี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคแน่ๆ ครับ แล้วประเทศไทยจะเหลือแต่แบรนด์ใหญ่อย่างโตโยต้า ฮอนด้า ที่เหลืออาจจะเจ๊งหมด
-
เวลาเปลี่ยน ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนไป เป็นธรรมดา
เจ้าตัวเล็ก ผมเชื่อว่าขายดีพอประมาณ
ก็คงพอทำให้ ยุ่นต้องปรับตัวพอควรแหละครับ
-
คงไม่ต่างกับ สมัยก่อน เครื่องใช้ อิเล็กทรอนิกส์ต้องจากญี่ปุ่น
ปัจจุบันนี้เป็นจีนเกาหลี อเมริกา
-
ตอนนี้เลยที่ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และเกาหลี รวมถึงชาติอื่นๆ เสียเปรียบในเรื่องรถไฟฟ้า ก็คือเรื่องเงินทุน ทรัพยากร และเทคโนโลยีที่จีนวิ่งตามค่อนข้างเร็ว และทำง่ายกว่ารถสันดาบปกติ
อีกอย่างก็ทั้งนโยบายของรัฐบาลจีน ความเป็นชาตินิยม (ซึ่งรวมถึงบาดแผลที่จีนต้องแบกรับจากชาติดังกล่าวในอดีตด้วยในหลายๆ เรื่อง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จีนกล้าที่จะแข่งขันและเอาคืนพวกเขาในด้านการค้าและการขยายอำนาจ) และการรุกทำตลาดที่หนักหน่วง เลยทำให้จีนเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก
ซึ่งแม้แต่คู่แข่งยังต้องมาตั้งโรงงานเพื่อผลิตส่งออกและขายคนในจีนเองเลย แถมมีรุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีนอีกต่างหาก ที่มีเงินรออุดหนุนตลอดเวลา พลังการซื้อของประชากรและรัฐบาลที่สูงมาก และทรัพยากรในการผลิตรถพวกนี้ก็เยอะด้วย แม้ว่าตอนนี้จะมีปัญหาเรื่องพลังงาน ที่มองว่าจีนน่าจะสามารถหาทางแก้ไขได้ในไม่ช้า และปัญหาขาดแคลนชิปในตอนนี้ก็ตามที
มองว่าจีนจะครองตลาดนี้ไปหลายทศวรรษเลยครับ และในเวลาเดียวกันก็ยังแผ่ขยายอำนาจและพันฐมิตรเพื่อถ่วงดุลชาติตะวันตกด้วย ซึ่งตรงนี้ที่จีนค่อนข้างน่ากลัว และค่ายรถคู่แข่งก็ต้องหาวิธีรับมือด้วยเช่นกัน
-
ให้มองเป็นทางเลือกดีกว่าครับ เพราะคนใช้รถแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน อันไหนดีก็มีคนซื้อ อันไหนไม่ดี คนก็ไม่ซื้อเอง ปรับตัวทีหลังอาจจะดีกว่าก็ได้ นึกถึงวงการมอเตอร์ไซค์ ค่ายญี่ปุ่นยังรอคนเปิดก่อนเลย จากนั้น เดินตาม ไม่ต้องลุย
-
ค่ายญี่ปุ่นคงยังไม่ขยับอะไร รอความชัดเจนก่อน
ค่ายจีนก็ต้องหาอะไรใหม่ๆมาตีตลาด ตอนนี้ EV ก็เป็นช่องว่างที่ลงมาเล่นได้ก่อน
แต่จะทำให้ EV บูมขึ้นมาแบบก้าวกระโดดก็ยังคงไม่ใช่
-
เหมือนมาอยู๋ page mg ep เลย ความเห็นแบบนี้
อย่าเอาประเทศไทยเป็นที่ตั้งเลย ประเทศด้อยพัฒนาแค่มีรถไฟฟ้ามาขายก็ toyota เป็น nokia ละ ลองคิดๆดู ความคิดคนที่คิดแบบนี้มันผู้ใหญ่หรือเด็ก
toyota เค้าก็มีรถไฟฟ้าแล้ว เค้าไม่ปรับตัวตรงไหน bz4x อ่ะ ตอบหน่อย
ถ้า toyota เอารถไฟฟ้ามาขายในไทยแบบนำเข้า cbu ก็เสียเปรียบจีนอีก ภาษีไม่เท่ากัน เค้าไม่น่าโง่มาแข่งกันในประเทศโลกที่สามมั้ย
ไม่รู้รัฐบาลชุดไหนทำสัญญากับจีนทุเรศๆแบบนี้
ตัวอย่างก็ที่เห็นเกียร์ ฮุนได นิสสันก็เอาเข้ามาก่อนจีนอีก แต่ราคามันโดนเพราะภาษีนำเข้า เลยแพง
ตอนที่ฮุนได นิสสันเอารถ ev เข้ามาไม่เห็นมีคนมาตั้งกระทู้แบบนี้เลย
พอจีนทำการตลาดยิง ad ยิง spon ใส่ face ใส่ youtube ล่ะตื่นเต้นกันจริงๆ toyota เลยเป็น nokia เลย ไอคลิปนี้ผมเห็นละใน mg ep มีคนทำใน youtube เจ้าของคลิปแม่งแบบ เด็กเนิร์ฟ ไอที คนธรรมดาไม่คบอ่า
-
ในภาพใหญ่ค่ายรถญี่ปุ่นมีข่าวความร่วมมือพัฒนาวิศวกรรมยานยนต์ร่วมกัน
ที่เรียกว่า JAMBE มีโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มาสด้า ซูบารุ
รายละเอียดเชิงลึกยังไม่ทราบ แต่เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
ในการลดต้นทุนและแบ่งปันชิ้นส่วนยานยนต์ระหว่างกันในอนาคต
-
เหมือนมาอยู๋ page mg ep เลย ความเห็นแบบนี้
อย่าเอาประเทศไทยเป็นที่ตั้งเลย ประเทศด้อยพัฒนาแค่มีรถไฟฟ้ามาขายก็ toyota เป็น nokia ละ ลองคิดๆดู ความคิดคนที่คิดแบบนี้มันผู้ใหญ่หรือเด็ก
toyota เค้าก็มีรถไฟฟ้าแล้ว เค้าไม่ปรับตัวตรงไหน bz4x อ่ะ ตอบหน่อย
ถ้า toyota เอารถไฟฟ้ามาขายในไทยแบบนำเข้า cbu ก็เสียเปรียบจีนอีก ภาษีไม่เท่ากัน เค้าไม่น่าโง่มาแข่งกันในประเทศโลกที่สามมั้ย
ไม่รู้รัฐบาลชุดไหนทำสัญญากับจีนทุเรศๆแบบนี้
ตัวอย่างก็ที่เห็นเกียร์ ฮุนได นิสสันก็เอาเข้ามาก่อนจีนอีก แต่ราคามันโดนเพราะภาษีนำเข้า เลยแพง
ตอนที่ฮุนได นิสสันเอารถ ev เข้ามาไม่เห็นมีคนมาตั้งกระทู้แบบนี้เลย
พอจีนทำการตลาดยิง ad ยิง spon ใส่ face ใส่ youtube ล่ะตื่นเต้นกันจริงๆ toyota เลยเป็น nokia เลย ไอคลิปนี้ผมเห็นละใน mg ep มีคนทำใน youtube เจ้าของคลิปแม่งแบบ เด็กเนิร์ฟ ไอที คนธรรมดาไม่คบอ่า
จีน ไม่ได้ทำกับไทย แต่ทำกับอาเซียน
-
เฉยๆ นะ ทำสินค้าเครื่องสันดาบไปเรื่อยๆ
คิดว่ายอดขายรวมทั้งปี ของทั้ง hybrid+full EV คิดว่าจะขายได้ปีและเท่าไหร่ ???
เปลี่ยนไลน์ผลิตมาผลิต EV มันไม่ใช่ปุ๊บปั้บทำได้ ค่ายญี่ปุ่นคงจับตาดูอยู่แหละ แต่ว่าจะเอา Product ตัวไหนของตัวเองมาผลิตขายซะมากกว่า
-
ขอรอดูคุณภาพ และบริการหลังการขายสัก 5 ปี ก่อนครับ 8)
-
ถ้าค่ายญี่ปุ่น ค่ายเล็กๆจะกลายเป็นแบบ nokia คงอีก 10-20ปีขึ้นไปครับ ส่วนค่ายใหญ่ในไืทยยังถ่วงเวลารถfull evอีกนานและรัฐก็okด้วยครับ
-
รถทำออกมาได้ดีนะครับ
ถ้าคุณภาพดีและศูนย์บริการดี
น่าจะขายดีแบบมีผลกระทบรถเจ้าตลาดแน่ๆแต่คงต้องใช้เวลาหลายปีครับ
-
ส่วนตัวผมเอาใจช่วยให้เจ้า Goodcat ขายดีๆ นะ เผื่อว่าปัญหา PM 2.5 ในประเทศไทยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนตัวผมยังอยากได้รถที่มี Story ที่น่าสนใจ เช่น Tesla หรือรถน้ำมัน มากกว่า
รถยนต์ไฟฟ้า EV 100% ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5
-
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
ถ้ารอราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกลงกว่าเดิมแบบนี้ รอ Mine SPA1 ไหมครับ รถยนต์ไฟฟ้าโดยคนไทย เพราะตอนนี้เพิ่งสร้างโรงงานเสร็จ
Mine SPA1 น่าจะเป็นรถยนต์แบรนด์ของคนไทย 100% แบรนด์แรก (Mercedes-Benz EQS น่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ประกอบในประเทศที่จะมาทำตลาดในไทย)
-
สนใจเหมือนกัน แต่คงยังไม่ซื้อตอนนี้ ตราบใดที่น้ำยังมากเช่นนี้
รอเวลาพิสูจน์ความสามารถในการขับบริเวณน้ำมากก่อนครับ
-
ถ้า Good Cat เปรี้ยง ยอดจองพุ่งกระฉูดแบบถล่มทลาย ฟาดไปเดือนละหลายพันคัน ยังไงเจ้าตลาดก็มีสะดุ้ง
แต่ถ้ายอดจองพอๆ H6 คิดว่าคงไม่กระทบไร อาจจะแค่ตะหงิดๆ นิดหน่อย ที่เหลือก็เดินตามแผนเหมือนเดิม เพราะยังไงคนไทยส่วนใหญ่ยังยึดติดกับคำว่าเจ้าตลาด ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคาขายต่อดี
อย่างบ้านผม ก็อยากได้รถไฟฟ้า แต่หลังจากที่เล่นรถแบรนด์รองมาตลอด ไล่มาตั้งแต่ Mitsubishi Chevrolet Ford เลยคิดว่าคันต่อไป ยังไงก็จะเอารถตลาดละครับ
-
บางทีอนาคตข้างหน้าอาจมีเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (Synthetic Fuel) มาแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลก็ได้ครับ
ถึงตอนนั้นอาจเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งก็ได้ครับ
-
สนใจเหมือนกัน แต่คงยังไม่ซื้อตอนนี้ ตราบใดที่น้ำยังมากเช่นนี้
รอเวลาพิสูจน์ความสามารถในการขับบริเวณน้ำมากก่อนครับ
เมื่อวานเย็นเลยครับ ขับกลับแถวราชพฤกษ์ น่าจะประมาณเกือบๆครึ่งล้อ XV แฟนผมหันมาถาม ถ้าเธอซื้อ Goodcat จะได้กลับบ้านมั้ย
เมื่ออาทิตย์ก่อนซอยศูนย์วิจัย ฝนถล่มหนัก น้ำสูงประมาณไฟหน้า Vios โชคดี Forester ผ่านได้สบาย
ไปๆมาๆ อยู่ในเมือง ชานเมืองนี่ เก๋งจะไม่รอดเอานะครับ
-
สำหรับผมว่าดีแล้ว ขอให้มีหลายๆเจ้าเข้ามาแข่งขัน
ยิ่งมีค่ายจากจีนมาผมยิ่งชอบเพราะเขาจะจัดออฟชั่นแบบจัดเต็มมาสู้
พวกญี่ปุ่นเจ้าประจำมันจะได้ปรับตัวบ้างไม่ใช่ขายในไทยแบบกั๊กๆ เพราะคิดว่าอย่างไรก็ขายได้ จะได้หมดไปสักที
ส่วนตัวก็น่าสนใจ ORA นะแต่ขอดูราคา ประกอบกับถ้ามีรถให้ทดลองขับแล้วค่อยมาว่ากันอีกที
-
ส่วนต่างค่าน้ำมันยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าล้วน ครับ
กลับบ้านมาชาร์ทไฟ ก็กินไฟอยู่ดีครับ อัตราก้าวหน้าด้วย
หารถประหยัดน้ำมัน เช่น hybrid มาใช้ตอนนี้ตอบโจทย์กว่าครับ
ค่าน้ำมัน พอๆ ecocar ครับ แต่ให้ความสะดวกสบายมากกว่า
ใช้โดยไม่คิดถึงค่าน้ำมันเลยครับ
-
แมวดีแบทอยู่ต่ำมากครับ กลัวน้ำท่วมและลูกระนาดในกทมครับ ขอรถไฟฟ้าแบบ SUV ดีกว่าครับ ถ้าเป็นแมวดีขอผ่านก่อนครับ แบตอยู่ต่ำมากๆ
-
เหมือนมาอยู๋ page mg ep เลย ความเห็นแบบนี้
อย่าเอาประเทศไทยเป็นที่ตั้งเลย ประเทศด้อยพัฒนาแค่มีรถไฟฟ้ามาขายก็ toyota เป็น nokia ละ ลองคิดๆดู ความคิดคนที่คิดแบบนี้มันผู้ใหญ่หรือเด็ก
toyota เค้าก็มีรถไฟฟ้าแล้ว เค้าไม่ปรับตัวตรงไหน bz4x อ่ะ ตอบหน่อย
ถ้า toyota เอารถไฟฟ้ามาขายในไทยแบบนำเข้า cbu ก็เสียเปรียบจีนอีก ภาษีไม่เท่ากัน เค้าไม่น่าโง่มาแข่งกันในประเทศโลกที่สามมั้ย
ไม่รู้รัฐบาลชุดไหนทำสัญญากับจีนทุเรศๆแบบนี้
ตัวอย่างก็ที่เห็นเกียร์ ฮุนได นิสสันก็เอาเข้ามาก่อนจีนอีก แต่ราคามันโดนเพราะภาษีนำเข้า เลยแพง
ตอนที่ฮุนได นิสสันเอารถ ev เข้ามาไม่เห็นมีคนมาตั้งกระทู้แบบนี้เลย
พอจีนทำการตลาดยิง ad ยิง spon ใส่ face ใส่ youtube ล่ะตื่นเต้นกันจริงๆ toyota เลยเป็น nokia เลย ไอคลิปนี้ผมเห็นละใน mg ep มีคนทำใน youtube เจ้าของคลิปแม่งแบบ เด็กเนิร์ฟ ไอที คนธรรมดาไม่คบอ่า
แต่ Toyota bZ4X กว่าจะจำหน่ายทั่วโลกจริง ก็ช่วงกลางปี-ปลายปี 2022 ครับ นานไป
-
สนใจเหมือนกัน แต่คงยังไม่ซื้อตอนนี้ ตราบใดที่น้ำยังมากเช่นนี้
รอเวลาพิสูจน์ความสามารถในการขับบริเวณน้ำมากก่อนครับ
รถยนต์ไฟฟ้า(ไม่นับ SUV)เกือบทุกรุ่น สามารถลุยน้ำได้สูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 50cm
(เทียบกับรถ Mid-Size SUV หรือ PPV ได้เลยครับ)
แต่รถยนต์ทั่วไป(ไม่นับ SUV)ส่วนมาก สามารถลุยน้ำได้สูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 25cm
-
ปรับตัวอยู่แล้วล่ะครับ แต่จะมากน้อย คงต้องดูจากยอดขาย ค่ายจีน อีกที
กระแส ก็เรื่องนึง ยอดขาย ก็อีกเรื่องนึงนะครับ ... FYI
-
รถญี่ปุ่น ถ้าปรับตัวชักช้ายืดยาดแบบนี้ ตลาดไม่รอ รถจีนกินหมดแน่นอนครับ ไม่รอด
คันต่อไปผมก็คงมองรถไฟฟ้าจีน
-
อนาคตผมว่าญี่ปุ่นโดนจีนแซงแน่นอนครับ
-
เหมือนมาอยู๋ page mg ep เลย ความเห็นแบบนี้
อย่าเอาประเทศไทยเป็นที่ตั้งเลย ประเทศด้อยพัฒนาแค่มีรถไฟฟ้ามาขายก็ toyota เป็น nokia ละ ลองคิดๆดู ความคิดคนที่คิดแบบนี้มันผู้ใหญ่หรือเด็ก
toyota เค้าก็มีรถไฟฟ้าแล้ว เค้าไม่ปรับตัวตรงไหน bz4x อ่ะ ตอบหน่อย
ถ้า toyota เอารถไฟฟ้ามาขายในไทยแบบนำเข้า cbu ก็เสียเปรียบจีนอีก ภาษีไม่เท่ากัน เค้าไม่น่าโง่มาแข่งกันในประเทศโลกที่สามมั้ย
ไม่รู้รัฐบาลชุดไหนทำสัญญากับจีนทุเรศๆแบบนี้
ตัวอย่างก็ที่เห็นเกียร์ ฮุนได นิสสันก็เอาเข้ามาก่อนจีนอีก แต่ราคามันโดนเพราะภาษีนำเข้า เลยแพง
ตอนที่ฮุนได นิสสันเอารถ ev เข้ามาไม่เห็นมีคนมาตั้งกระทู้แบบนี้เลย
พอจีนทำการตลาดยิง ad ยิง spon ใส่ face ใส่ youtube ล่ะตื่นเต้นกันจริงๆ toyota เลยเป็น nokia เลย ไอคลิปนี้ผมเห็นละใน mg ep มีคนทำใน youtube เจ้าของคลิปแม่งแบบ เด็กเนิร์ฟ ไอที คนธรรมดาไม่คบอ่า
แต่ Toyota bZ4X กว่าจะจำหน่ายทั่วโลกจริง ก็ช่วงกลางปี-ปลายปี 2022 ครับ นานไป
ถ้า 2022 ก็ปลายปีหน้าแล้วนิ ไม่นานหรอก
จะบอกว่าผมสร้างบ้านขอไฟ 3 เฟส รอรถไฟฟ้าแล้วนะ อยากจะทราบว่าคนที่ตื่นเต้น good cat นี่ ที่บ้านมีที่ชาร์จแบบไหนอยู่
-
เหมือนมาอยู๋ page mg ep เลย ความเห็นแบบนี้
อย่าเอาประเทศไทยเป็นที่ตั้งเลย ประเทศด้อยพัฒนาแค่มีรถไฟฟ้ามาขายก็ toyota เป็น nokia ละ ลองคิดๆดู ความคิดคนที่คิดแบบนี้มันผู้ใหญ่หรือเด็ก
toyota เค้าก็มีรถไฟฟ้าแล้ว เค้าไม่ปรับตัวตรงไหน bz4x อ่ะ ตอบหน่อย
ถ้า toyota เอารถไฟฟ้ามาขายในไทยแบบนำเข้า cbu ก็เสียเปรียบจีนอีก ภาษีไม่เท่ากัน เค้าไม่น่าโง่มาแข่งกันในประเทศโลกที่สามมั้ย
ไม่รู้รัฐบาลชุดไหนทำสัญญากับจีนทุเรศๆแบบนี้
ตัวอย่างก็ที่เห็นเกียร์ ฮุนได นิสสันก็เอาเข้ามาก่อนจีนอีก แต่ราคามันโดนเพราะภาษีนำเข้า เลยแพง
ตอนที่ฮุนได นิสสันเอารถ ev เข้ามาไม่เห็นมีคนมาตั้งกระทู้แบบนี้เลย
พอจีนทำการตลาดยิง ad ยิง spon ใส่ face ใส่ youtube ล่ะตื่นเต้นกันจริงๆ toyota เลยเป็น nokia เลย ไอคลิปนี้ผมเห็นละใน mg ep มีคนทำใน youtube เจ้าของคลิปแม่งแบบ เด็กเนิร์ฟ ไอที คนธรรมดาไม่คบอ่า
แต่ Toyota bZ4X กว่าจะจำหน่ายทั่วโลกจริง ก็ช่วงกลางปี-ปลายปี 2022 ครับ นานไป
ถ้า 2022 ก็ปลายปีหน้าแล้วนิ ไม่นานหรอก
จะบอกว่าผมสร้างบ้านขอไฟ 3 เฟส รอรถไฟฟ้าแล้วนะ อยากจะทราบว่าคนที่ตื่นเต้น good cat นี่ ที่บ้านมีที่ชาร์จแบบไหนอยู่
ก็ไฟ 1 เฟส ปกตินี่แหละคนับ ที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่ราคา1ล้าน-2ล้าน
ไม่มีคันไหนเลยที่ต้องใช้ไฟ 3 เฟส ในการชาร์จไฟ
-
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด
ส่วนตัวผมใช้สินค้าจีนมาหลายอย่างทั้ง Huawei Xiaomi Hisense Haier ก็ประทับใจพอๆกับสินค้าญี่ปุ่น ราคาถูกกว่า 20-30% ความทนทานผมว่าสมัยนี้ไม่ต่างกันมาก เพราะญี่ปุ่นเองก็ลดต้นทุนเยอะโดย อย่างที่เห็นๆกันทั้งสีบาง สนิมขึ้น เพียงแต่จุดแข็งคือบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งตรงนี้คงต้องดูกันยาวๆว่าค่ายจีนจะเอาจริงแค่ไหน ถ้าซื้อใจคนไทยได้ผมว่าญี่ปุ่นสะเทือนแน่ๆ อยากได้ลูกค้าคืนต้องอัดออปชั่น ลดราคาลงมาสู้ แต่ที่แน่ๆผู้บริโภคอย่างเราๆได้ประโยชน์เต็มๆ เมื่อก่อนความหวังจะได้ขับรถออปชั้นล้นๆเหมือนเมืองนอกต้องไปรุ่น TOP D Segment เกือบ 2 ล้าน ต่อไปแค่ B Segment 5-6แสน อาจจะได้ Adaptive Cruise Control แล้วก็ได้
อันนี้ขอเสริมเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ ตอนนี้คุณแน่ใจเหรอครับว่า ทีวี, ตู้เย็น, แอร์, ไมโครเวฟ, หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แบรนด์ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ที่คุณใช้เป็นของโรงงานเขาจริงๆ ตัวบนๆแบบ ตู้เย็น SIDE BY SIDE บางตัวก็ OEM จาก HIER MIDEA GREE หรือ ยี่ห้อที่เลวร้ายกว่าอื่นๆ และ มาแปะแบรนด์ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ครับ ตอนนี้โรงงานหลายๆที่ของจีนก็มาตั้งโรงงานในไทยเพื่อรับออเดอร์จากแบรนด์อื่นรวมไปถึงผลิตของตัวเองในภูมิภาคนี้เป็นล่ำเป็นสันครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน บางแบรนด์คุมคุณภาพได้ดีกว่าญี่ปุ่นหรือยุโรปก็มี แต่หลายๆแบรนด์ส่วนใหญ่ก็แย่กว่าครับ ไม่ได้อวยจีน แค่ บอกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ปรึกษาเพื่อนในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ดีครับ
ตามนี้จริงๆครับยืนยันอีกเสียง บริษัทญปนึงแถวๆรังสิตก็เพิ่งโดนจีนเข้าซื้อไป 1-2 ปีก่อน เอาคนจีนเข้าไปบริหาร เล่นการเมืองภายในกันสนุก เอาคนจีนไว้บีบคนไทยออก (เพื่อนผมก็ 1 ในนั้น)
ซื้อจริงๆเพื่อเอาเทคโนโลยี + ไลน์ผลิตไปพัฒนาแบรนด์ตัวเอง ลดนู่นนี่ออก พวกรุ่นใหม่ๆถ้าเห็นว่าแบรนด์ญปเขาเหมือนแบรนด์จีน ก็เข้าใจว่าเขา Badge Engineering นั่นแหละครับ
ส่วนตัวผมที่เล่นเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนผสมกับญป จะบอกว่าของญปที่ทนจริงๆ (ไม่เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน) ส่วนมากเพราะเขาไม่ได้ใส่อะไรหวือหวาครับ
เอาง่ายๆ เครื่องปรับอากาศงี้ของยี่ห้อมิตซู จะบอกว่าไส้ในมันไม่เปลี่ยนมาตลอดเกือบ 20 ปีจะว่าผมเว่อร์ไหมครับ? ไปถามช่างแอร์ดูก็ได้ จ้างล้างแอร์ที่บ้านทีไรสบาย เผื่ออะไหล่ครั้งเดียวใช้ได้หมดทุกห้อง
ในขณะที่เกาหลีและจีน เขาเปลี่ยน/ใส่ฟีเจอร์มาตลอด คือมันดีในกรณีที่คุณเสพความใหม่ๆตลอดเวลา แต่เหนื่อยคนซ่อม/ช่างครับ อะไหล่บางอย่างมัน Compatible ได้ก็รอดไป แต่ส่วนมากเกิน 10 ปีก็แทบไม่ซ้ำเก่าละ
รถยนต์ก็แบบเดียวกัน อะไหล่โตโยต้า/ฮอนด้าบางอย่างก็ใช้ Part เดิมเป็น 10-20 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง (เบอร์อาจจะเปลี่ยน แต่ทรงเดิมหรือเปลี่ยนจากเดิมแค่นิดเดียว ใช้ร่วมกันได้)
ในขณะที่รถจีน.. รอดูกันไปครับ
-
ไม่ต้องห่วงครับ เทคโนโลยีรถไฟฟ้าค่ายญี่ปุ่นเค้ามีกันทุกค่ายแหละ อย่าง prius plug-in ถอดเครื่องออกเพิ่มขนาดแบตมันก็กลายเป็น BEV ละ อยู่แค่ที่ว่าเค้าจะขายตอนไหน จังหวะไหนใช่ก็ขาย
รถไฟฟ้าฟ้ามันสำคัญสุดที่แบต ใครบอกญี่ปุ่นจะสู้จีนไม่ได้วิศวกรพานาโซนิคคงนั่งซดสาเกร้องไห้อยู่ในไลน์ผลิตแบตเทสล่า
-
ไม่ต้องห่วงครับ เทคโนโลยีรถไฟฟ้าค่ายญี่ปุ่นเค้ามีกันทุกค่ายแหละ อย่าง prius plug-in ถอดเครื่องออกเพิ่มขนาดแบตมันก็กลายเป็น BEV ละ อยู่แค่ที่ว่าเค้าจะขายตอนไหน จังหวะไหนใช่ก็ขาย
รถไฟฟ้าฟ้ามันสำคัญสุดที่แบต ใครบอกญี่ปุ่นจะสู้จีนไม่ได้วิศวกรพานาโซนิคคงนั่งซดสาเกร้องไห้อยู่ในไลน์ผลิตแบตเทสล่า
Tesla ไปใช้ CATL (supplier แบตเดียวกับที่ทำให้ ZS EV, EP) กับ LG Chem แล้วครับ เลิก panasonic
ส่วนเรื่องแค่ถอดเครื่องออกก้อกลายเป็น BEV มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการจูนทำรถ BEV ให้ดี สมดุล มันต้องมีสกิลด้าน IT software ซึ่งพวกหัวอนาล็อค mechanical อย่างยุ่นไปไม่เป็นเลยทีเดียว และขาดแคลน human capital แนวนี้อยู่แล้ว
สังเกตทำไม Tesla ถึง efficiency ทั้งพลังความแรงและระยะทางวิ่งได้สูงสุดเหนือกว่าคู่แข่งมาก
-
รถไฟฟ้า มาแน่
อีกหน่อย คงมาทุกเจ้า
เปรียบเครื่องสันดาบ คงเหมือน กล้อง Film
รถไฟฟ้า คงเหมือนกล้อง Digital
แต่ มันไม่เร็วขนาดนั้น เพราะราคาของมัน รถไม่ใช่คันละหมื่น สองหมื่น
ไปบอกใครเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่า Sony จะขายกล้อง
Samsung จะขายมือถือ หรือ Apple จะขาย I phone ก็คงแปลกๆ
ผมสนใจ ORA Good CAT เพราะชื่อ ของมัน ผมชอบแมว
แต่ ไม่เคยคิดจะซื้อ
ผมไม่เชื่อว่า ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว
อีก ปี สอง ปี น่าจะเต็มตลาด ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา
ให้เลือก
ส่วนตัว ก็ตามกำลัง
ผมตั้งใจว่า อีกซัก 5 ปี คงถึงเวลา เปลี่ยนรถ
คงไปหา EV มาใช้ซักคัน
สรุป เดี๋ยวเดือนหน้า ก็รู้ ว่า Good Cat จะ ยอดดี ไหม มาแรงแต่ข่าวหรือไม่ จะมีคนจองกี่คน
-
ไม่ต้องห่วงครับ เทคโนโลยีรถไฟฟ้าค่ายญี่ปุ่นเค้ามีกันทุกค่ายแหละ อย่าง prius plug-in ถอดเครื่องออกเพิ่มขนาดแบตมันก็กลายเป็น BEV ละ อยู่แค่ที่ว่าเค้าจะขายตอนไหน จังหวะไหนใช่ก็ขาย
รถไฟฟ้าฟ้ามันสำคัญสุดที่แบต ใครบอกญี่ปุ่นจะสู้จีนไม่ได้วิศวกรพานาโซนิคคงนั่งซดสาเกร้องไห้อยู่ในไลน์ผลิตแบตเทสล่า
อย่างน้อย ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าญี่ปุ่น ที่เคยจำหน่ายมา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
..
Mitsubishi i-MiEV
Nissan Leaf
-
รถไฟฟ้า มาแน่
อีกหน่อย คงมาทุกเจ้า
เปรียบเครื่องสันดาบ คงเหมือน กล้อง Film
รถไฟฟ้า คงเหมือนกล้อง Digital
แต่ มันไม่เร็วขนาดนั้น เพราะราคาของมัน รถไม่ใช่คันละหมื่น สองหมื่น
ไปบอกใครเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่า Sony จะขายกล้อง
Samsung จะขายมือถือ หรือ Apple จะขาย I phone ก็คงแปลกๆ
ผมสนใจ ORA Good CAT เพราะชื่อ ของมัน ผมชอบแมว
แต่ ไม่เคยคิดจะซื้อ
ผมไม่เชื่อว่า ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว
อีก ปี สอง ปี น่าจะเต็มตลาด ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา
ให้เลือก
ส่วนตัว ก็ตามกำลัง
ผมตั้งใจว่า อีกซัก 5 ปี คงถึงเวลา เปลี่ยนรถ
คงไปหา EV มาใช้ซักคัน
สรุป เดี๋ยวเดือนหน้า ก็รู้ ว่า Good Cat จะ ยอดดี ไหม มาแรงแต่ข่าวหรือไม่ จะมีคนจองกี่คน
การเปรียบเทียบรถสันดาปกับรถไฟฟ้า เสมือนการเปรียบเทียบระหว่างกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลนั้น
ดูเหมือนจะเทียบกันได้เลยตรง ๆ
แต่... อยากให้ลองมองย้อนกลับไปว่า การเปลี่ยนผ่านจากกล้องฟิล์มไปเป็นกล้องดิจิตอลนั้น
ปัจจัยมันไม่ใช่ที่ตัวกล้องหรือที่ความแตกต่างระหว่างฟิล์มกับดิจิตอล
แต่ปัจจัยมันเป็น environment ของการเก็บรูปและใช้งานรูปครับ
นั่นคือว่า ถ้าโลกเรายังคงต้องอัดรูปบนกระดาษ แล้วส่งรูปทางไปรษณีย์
หรือแปะรูปบนกระดาษเพื่อทำรายงาน แบบนั้นกล้องดิจิตอลคงไม่เกิด
แต่ environment ที่มันเปลี่ยนคือโลกของอินเตอร์เน็ตที่เข้ามา
ทำให้เราถ่ายรูปแล้วแนบรูปลงในรายงาน power point หรือ word
เราส่งรูปทางเมล์ ทางแอป แชท ต่างๆ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ฟิล์มมันตาย
แต่วันนี้ ระหว่างรถสันดาป กับรถน้ำมัน มันยังทำหน้าที่เหมือนกันคือ
การเดินทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง ถ้าให้เปรียบกับกล้อง ก็เปรียบเสมือนว่า
ช่วงเวลานี้ ยังเป็นเวลาที่คนถ่ายรูปแล้ว ไม่ว่าจะถ่ายด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องดิจิตอล
ต่างก็ยังต้องไปอัดรูปลงกระดาษเหมือนกัน ยังไม่มีการส่งรูปทางเมล์หรือแอปแชท
เพียงแต่ว่า จุดเปลี่ยนที่จะ disrupt รถสันดาปกับรถไฟฟ้า น่าจะเป็น platform
อะไรบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถใช้งานรถสันดาปกับ platform นั่นได้
(เหมือนกับที่การถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม ก็ไม่สามารถแนบรูปไปในแอปแชทได้เลยทันที
นั่นแหละครับ)
ซึ่งผมคิดว่า เมื่อไหร่ที่เกิด platform นั่นขึ้น รถสันดาปก็จะสูญพันธ์แน่ ๆ
แม้ว่ารถไฟฟ้าจะยังวิ่งได้ไม่ไกล ยังต้องชาร์จไฟนาน ๆ แต่เราก็ต้องใช้มัน
เหมือน ๆ กับที่เรายอมชาร์จไฟ smart phone กันวันละครั้งหรือมากกว่า
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราชาร์จมือถือแบบปุ่มกดกันสัปดาห์ละครั้งเอง
แม้จะไม่สะดวกแต่เราก็ต้องยอมอ่ะครับ
ปล. จริง ๆ แล้วในมุมของการ disrupt ที่เกิดจาก environment นั้น ไม่ใช่แค่เรื่อง
กล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลหรอกครับ เรื่องของมือถือแบบปุ่มกดกับ smart phone
ก็เช่นกัน มันถูก disrupt ด้วย platform ของการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือที่เครื่องแบบ
ปุ่มกดไม่สามารถทำได้ เพราะถ้าโลกนี้การใช้งานโทรศัพท์เป็นแค่เพียงการโทรเข้า-โทรออก
โทรศัพท์แบบปุ่มกดยังทำหน้าที่ได้ครบถ้วนทุกอย่าง มันก็ยังคงอยู่ได้ครับ
-
รถไฟฟ้า มาแน่
อีกหน่อย คงมาทุกเจ้า
เปรียบเครื่องสันดาบ คงเหมือน กล้อง Film
รถไฟฟ้า คงเหมือนกล้อง Digital
แต่ มันไม่เร็วขนาดนั้น เพราะราคาของมัน รถไม่ใช่คันละหมื่น สองหมื่น
ไปบอกใครเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่า Sony จะขายกล้อง
Samsung จะขายมือถือ หรือ Apple จะขาย I phone ก็คงแปลกๆ
ผมสนใจ ORA Good CAT เพราะชื่อ ของมัน ผมชอบแมว
แต่ ไม่เคยคิดจะซื้อ
ผมไม่เชื่อว่า ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว
อีก ปี สอง ปี น่าจะเต็มตลาด ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา
ให้เลือก
ส่วนตัว ก็ตามกำลัง
ผมตั้งใจว่า อีกซัก 5 ปี คงถึงเวลา เปลี่ยนรถ
คงไปหา EV มาใช้ซักคัน
สรุป เดี๋ยวเดือนหน้า ก็รู้ ว่า Good Cat จะ ยอดดี ไหม มาแรงแต่ข่าวหรือไม่ จะมีคนจองกี่คน
น่าจะเป็นไปได้ 50:50 ครับ