ถ้าใจไปทาง X1 ก็ซื้อ X1 ครับ เงินที่ต่างกันก็คิดซะว่าเอาไปฝากไว้กับรถ ตอนขายเป็นมือสองก็ได้เงินคืนมามากกว่า CR-V แน่ๆ แม้ว่าจะได้คืนมาไม่เท่ากับส่วนต่างตอนป้ายแดง แต่ก็ถือว่าแลกกับหลายๆ อย่าง เช่น
- ค่าบำรุงรักษาตลอด 5 ปี 100,000 กม. อันนี้มูลค่ารวมๆ น่าจะหลายแสนบาทอยู่สำหรับรถ BMW ซึ่งไม่ต้องจ่ายเอง มีหน้าที่แค่เติมน้ำมันกับเปลี่ยนยาง ถ้าจะซื้อควรซื้อช่วงนี้ก่อนที่ BMW จะเปลี่ยนนโยบาย BSI เหลือ 3 ปี 60,000 กม. แต่ถ้าเป็น CR-V ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ต้องจ่ายเองแน่ๆ แม้จะไม่แพงเท่าก็ตาม
- แลกกับสมรรถนะที่ X1 ดีกว่า CR-V แน่ๆ แม้จะดีไม่เท่า X1 20d ตัวเก่า (E84) เพราะเครื่องเล็กลงและเปลี่ยนมาขับหน้า แต่ถ้าจะซื้อ X1 ตัวใหม่จริงๆ ผมว่าเอารุ่น 18d M sport ดีกว่า ราคาต่างกัน 1 แสน แต่ดูลงตัวกว่า โดยเฉพาะเบาะหน้า ที่เป็นทรงสปอร์ต ปรับรองน่องได้ เพราะเบาะหน้าทรงเปลือกหอยรุ่น xLine นี่นั่งไม่สบายจริงๆ เบาะหลังก็ทำใจหน่อยเพราะไม่สบายเท่ากัน
- ความปลอดภัยทุกครั้งที่โดยสารในรถ เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ ผมยังไว้ใจรถยุโรปมากกว่ารถญี่ปุ่นอยู่ดี
- ภาพลักษณ์ อันนี้ผมไม่ได้นำมาคิดเวลาซื้อรถเลย แต่ก็เอามาคิดคำนวณด้วยก็ได้ถือเป็นของแถม
ผมขอเสนอ 2 ทางเลือก
1. ถ้าซื้อรถเงินสด ลองไปหา X1 ตัวเก่า (E84) LCI แล้ว มือสอง สภาพดี BSI เหลือเยอะหน่อยสัก 2-3 ปี ราคาน่าจะถูกกว่า CR-V อีก ก่อนหมด BSI ก็เคลมให้เยอะๆ จนแทบได้รถคันใหม่ ทีนี้ก็ใช้ยาวไปเลย ตอนขายแม้จะขาดทุน แต่ก็ไม่น่าจะมากเท่าซื้อ X1 ตัวใหม่ป้ายแดงแล้วขายแน่ๆ
2. ถ้าซื้อรถเงินผ่อน ลองดู X3 F25 20d M sport ที่กำลังจะตกรุ่น แต่ละที่ก็ให้ส่วนลดเต็มที่ เท่าที่เคยถาม ไม่เกิน 3 ล้าน เทียบค่างวดแล้วน่าจะเพิ่มไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าเกินงบก็เพิ่มแค่ 1 แสนเอา X1 F48 18d M sport ครับ