ผู้เขียน หัวข้อ: มันพอจะเป็นไปได้ไหม ที่รถเก๋งจากญี่ปุ่น จะลงเครื่อง Diesel ??  (อ่าน 8215 ครั้ง)

ออฟไลน์ the_bunz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 123
    • อีเมล์
เพราะดูจากตอนนี้รถยุโรป เช่น BMW, Mercedes รุ่นเครื่อง Diesel ค่อนข้างได้รับความนิยม
เพราะได้ทั้งความแรง และ ประหยัด

ผมเข้าใจครับว่า Diesel ญี่ปุ่น แรงมันต่างกับ Diesel ยุโรป แต่มันพอจะเป็นไปได้ไหมครับ
ที่จะมีเครื่อง Diesel ในรถเก๋ง ที่น่าจะประหยัดได้บ้าง เมื่อเทียบกับเบนซิน
เหมือนใน Innova 2.0 D4D (ตอนนี้ไม่มีขายแล้ว) จะเอาเครื่องมาลง Camry เป็นรุ่น 2.0D อะไรแบบนี้ครับ

civicferio

  • บุคคลทั่วไป
ถ้ารถญี่ปุ่น ที่ขายในยุโรป มันก็มีเครื่องที่ เป็นดีเซลอยู่แล้วค่ะ......
ยิ่งเจ้าตลาดไม่ต้องพูดถึง

แต่ในบ้านเรา หรือ ที่ญี่ปุ่นเอง คงยังไม่มีค่ะ เพราะ เน้น พํฒนาเครื่องเบนซิลตัวเองให้เด่นก่อน ไอ้เครื่องดีเซลนี่ไม่เคยอยุ่ในความคิดคนวางแผนโปรดักส์เลยนะคะนั่น??

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,483
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
เครื่องดีเซลที่ญี่ปุ่นตอนนี้มีแค่ Pajero และ X-Trail เท่านั้นเอง
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
เครื่องดีเซลที่ญี่ปุ่นตอนนี้มีแค่ Pajero และ X-Trail เท่านั้นเอง

ญี่ปุ่นเขาเจอยุคต่อต้านเครื่องยนต์ดีเซลไปพักใหญ่ๆ ช่วงปี 2002 เพราะฉะนั้น มันก็ต้องใช้เวลานิดนึง ที่จะไล่ตามยุโรปครับ

X-Trail 2.0 ผมเพิ่งรู้ว่ามี 2.0 Diesel ด้วย แถมมาตั้งกะปี 2008 ตกข่าวแฮะ

ว่าแต่เครื่อง 4M41 ของ Pajero นี่คุ้นๆ จังเลยอ่ะ 140 ม้าอีกต่างหาก นี่มันเอาเครื่อง Triton ไปใส่ทั้งดุ้นนี่หว่า แต่ Triton ที่โน่น ผลิตจากแหลมฉบัง ดันมีแต่เบนซิน สรุปแล้ว งงจริงๆ

มีตั้ง 2 คันผมก็ว่าเยอะแล้วนะครับ ก่อนหน้านั้นมีแค่ Prado รุ่นเดียวด้วยซ้ำ (แต่ตอนนี้รู้สึก Prado diesel ไม่มีแล้วแฮะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 30, 2011, 18:00:45 โดย yimyont »
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,309
New Jazz ที่ยุโรปยังมีเครื่องดีเซลเลยครับ

ผมว่าถ้าทางญี่ปุ่นสามารถทำได้จริง ก็น่าสนใจ

ออฟไลน์ earth_e60

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 533
    • อีเมล์
lexus is ที่ england ยังมี 200d เลยครับ ไม่เข้่ใจทำไมไม่มาไทย

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,154
ทางญี่ปุ่นเหมือนจะไปทาง พลังงานทางเลือกอย่างอื่นเช่น ไฟฟ้า มากกว่าครับ

ออฟไลน์ the_bunz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 123
    • อีเมล์
เมืองไทย มี Camry 2.0 D4D หรือ Altis 1.6 D4D น่าจะไม่เลว

ออฟไลน์ LaTeX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 973
คิดเล่นๆในแบบแง่ร้ายนะครับ ไม่มีข้อมูลอ้างอิง มั่วขึ้นมาทั้งสิ้น

รถญี่ปุ่นนิยมลดต้นทุนมั้งครับ

การวางเครื่องดีเซลคงเป็นการเพิ่มต้นทุนเพราะเครื่องแพงกว่าเบนซิน เลยไม่ทำ :o

ออฟไลน์ Valkilrey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 646
    • อีเมล์
ผมว่าคงอีกนานไม่ต่ำกว่า 15 ปี ถึงจะเริ่มมีเก๋งดีเซลค่ายญี่ปุ่นโผล่มาในเมืองไทย คือแทบจะไม่มีหวังในเร็วๆนี้เลย

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ผมว่าคงอีกนานไม่ต่ำกว่า 15 ปี ถึงจะเริ่มมีเก๋งดีเซลค่ายญี่ปุ่นโผล่มาในเมืองไทย คือแทบจะไม่มีหวังในเร็วๆนี้เลย

เห็นด้วยครับ เพราะขนาดในบ้านตัวเองก็ยังไม่มี ดังนั้นตลาดที่ไม่ได้สำคัญมากอย่างไทย ก็คงจะนานกว่านั้น

เท่าที่ดูตอนนี้ บริษัทญี่ปุ่นขายเครื่องดีเซลในยุโรปเป็นหลัก เพราะนโยบายของทางยุโรปมันเอื้อต่อเครื่องดีเซล ในทางกลับกันในตลาด Asia หลายๆ ประเทศ ประชาชนไม่ได้มี % การใช้น้ำมันดีเซล สูงเท่ารถยุโรป (ไม่นับรถเพื่อการพานิชย์) ดังนั้นถ้า volume มันน้อยกว่าเบนซิน งั้นก็ทำเบนซินอย่างเดียวดีกว่า

ในทาง marketing ผมมองว่า ถ้าเป็นตลาดใหญ่ๆ อย่าง USA, EU, จีน, อินเดีย เนี่ย การใส่ทางเลือกให้ผู้บริโภคเยอะๆ มันคุ้มครับ เพราะยังไงก็ขายได้เยอะ แต่กับประเทศที่มีแค่ 60 ล้านคน เนี่ย การมี option เยอะๆ เป็นการเปลืองต้นทุนเปล่าๆ ครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

Blue 229

  • บุคคลทั่วไป
ผมมองว่า ถ้าเมื่อไหร่มีช่องทาง เมื่อนั้นบริษัทรถยนต์ไม่รอช้าอยู่แล้วครับ
ตลาดอย่างเมืองไทย ใครไม่กล้าเสี่ยง ก็ไม่ได้กินเค้กชิ้นใหญ่ครับ

ความคิดของผม ผมมองว่าที่ยังไม่มี ซีดานญี่ปุ่นเครื่องดีเซล ในไทย
น่าจะมีปัจจัยหลักๆคือความไม่ชัดเจนของกลุ่มผู้บริโภค ครับ
ในบ้านเรา น้ำมันดีเซล = น้ำมันเื่พื่อรถการพานิชย์ ไม่ใช่รถยนต์นั่ง
รถปิคอัพ รถบรรทุก ถึงจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล คนส่วนใหญ่ยังมองแบบนี้อยู่ครับ
ดังนั้น การลงทุนเพื่อเปิดตลาดใหม่ จึงยังไม่คุ้มที่จะเสี่ยงครับ
แต่อันนี้ว่ากันเฉพาะ แบรนด์รถตลาดนะครับ
ถ้า พรีเมี่ยมแบรนด์ อันนั้นว่ากันอีกเรื่อง เพราะผู้บริโภคมันคนละกลุ่มอยู่แล้วครับ  :)

ปล. ขอเดาสนุกๆนะ ผมเดาว่า ซีดานดีเซลคันแรกจากญี่ปุ่น ที่ขายในไทยจะเป็นยี่ห้อ nissan ครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
lexus is ที่ england ยังมี 200d เลยครับ ไม่เข้่ใจทำไมไม่มาไทย
ไม่ใช่ IS220 d หรือครับ
แต่ถึงเป็นขนาดนี้ ยังสู้ 20d กับ 220(250)CDI ลำบากครับ
แต่ถ้า 250 V6 Dual VVT-i เจอรุ่นเลขเท่ากันอย่ามาเล่นด้วยให้เสียน้ำมันนะ  ;D

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
lexus is ที่ england ยังมี 200d เลยครับ ไม่เข้่ใจทำไมไม่มาไทย

ยุโรป เป็นตลาดที่ จำเป็น ต้องมี diesel ครับ เพราะคนยุโรปใข้รถ Diesel เยอะครับ

ในทางตรงข้าม ในตลาดญี่ปุ่น หรือแม้แต่ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (ไม่รวมรถพานิชย์) เครื่องดีเซล ไม่ได้เป็นตัวเลือกหลักเท่าไรนัก (แต่ก็เริ่มมีบ้าง) แต่ยังไม่ถึงขั้น จำเป็น ต้องทำขายครับ ซึ่งถ้ายังไม่ถึงขั้นจำเป็นต้องทำขาย เขาก็คงไม่อยากลงทุนเพิ่มหรอกครับ เพราะยอดขายแต่เดิมก็เยอะอยู่แล้ว แล้วก็อีกอย่าง เครื่องดีเซล เป็นสิ่งที่บริษัทญี่ปุ่นไม่ชำนาญด้วย ถึงจะทำออกมาขาย แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถึงจะสู้บริษัทจากยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันได้ เช่น VW, Mercedes, BMW

แต่ถ้าคนจีนแผ่นดินใหญ่ หันมาใช้รถดีเซลมากกว่าเบนซินเมื่อไร ผมว่าบริษัทญี่ปุ่นก็คงไม่ยอมแพ้ฝรั่งเหมือนกัน เมื่อนั้น clean diesel car จากญี่ปุ่น มาแน่ครับ

แต่สำหรับเมืองไทย อืมม เราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น คือเราสำคัญในแง่การเป็นฐานการผลิต แต่ในแง่ความเป็นผู้บริโภคนั้น เรายังห่างไกลครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,198
lexus is ที่ england ยังมี 200d เลยครับ ไม่เข้่ใจทำไมไม่มาไทย
ไม่ใช่ IS220 d หรือครับ
แต่ถึงเป็นขนาดนี้ ยังสู้ 20d กับ 220(250)CDI ลำบากครับ
แต่ถ้า 250 V6 Dual VVT-i เจอรุ่นเลขเท่ากันอย่ามาเล่นด้วยให้เสียน้ำมันนะ  ;D

เปลี่ยนเป็น 200d แล้วครับ เครื่องเดิมลดกำลัง จำไม่ได้ว่ากี่แรงม้า
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
แต่ผมคิดว่าคนไทยไม่มีโอกาสได้มช้เครื่องดีเซลในรถญี่ปุ่นครับ นอกเหนือจากเหตุผลที่รั้งท้ายด้านเทคโนโลยีจากทางยุโรปแล้วเหตุผลสำคัญเลยคือค่านิยมของคนไทยที่ดูถูกเครื่องยนต์ดีเซล คนไทยมักจะเน้นที่ภาพลักษ์ของเครื่องเบนซินโดยที่ไม่ได้เรียนรู้เลยว่าเครื่องดีเซลในปัจจุบันเค้าก้าวไปไกลมากแล้ว โอกาสขายได้น้อยมากค่ายรถไม่น่าจะเสี่ยงนำเข้ามายิ่งเจ้าตลาดแล้วหมดหวังเพราะของที่มีอยู่ขายดีอยู่แล้ว ถ้าจะหวังน่าจะเป็นเบนซินเครื่องเล็กลงแต่ใส่เทอร์โบมาให้จากโรงงานมากกว่า หรือไม่ก็ต้องรอให้คนรุ่นนี้หายไปหมดเสียก่อนจนกว่าค่านิยมอคติเครื่องดีเซลจะหายไป เมื่อนั้นแหละถึงจะพอลุ้นได้บ้าง ซึ่งรุ่นเราคงไม่ทันเห็นหรอก   :P
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
ผมมองว่า ถ้าเมื่อไหร่มีช่องทาง เมื่อนั้นบริษัทรถยนต์ไม่รอช้าอยู่แล้วครับ
ตลาดอย่างเมืองไทย ใครไม่กล้าเสี่ยง ก็ไม่ได้กินเค้กชิ้นใหญ่ครับ

ในตลาดโลกนะ

ตลาดรถยนต์นั่งบ้านเรา ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลยนะครับ