Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 0% ที่ มิถุนายน 08, 2017, 11:48:07
-
ผมประกาศขายรถคันนึงไว้ ราคา 750000.-
มีแขก หรือ อินเดีย คนนึงสนใจมาดูรถมาก
เขาถามผ่านทางลายว่า ราคาลดได้เท่าไหร่ ผมว่า เต้นให้ผมแล้ว 710000.- และซื้อเป็นเงินสด ผมอยากได้มากกว่านี้นิดนึง
จริงๆ ราคานี่อยากให้คุยกันหน้ารถมากกว่า เป็นเรื่องปกติมากๆ แต่คนซื้อก็อยากจะต่อราคาเลย โดยที่ยังไม่ได้ดูของ
สุดท้ายเขาก็มาดู
คนซื้อเป็นอินเดีย ขับมอเตอร์ไซด์มาดู คุยกันภาษาอังกฤษหมดเลย
มาถึงก็เริ่มติว่า
1. ไมล์รถเยอะไปหน่อย (อันนี้ก็ฟังไว้ ผมไม่ได้พูดอะไร คนซื้อก้บ่นๆเป็นเรืองปกติ เพราะไมล์เราไม่ได้กรอ แต่กลับกัน ถ้าคุณรับไม่ได้กับไมล์ ก็ไม่ต้องมาดูเพราะหน้าเวปเขียนไว้ชัดเจน มีรุปเลขไมล์)
2. จริงๆเขาอยากได้แอคคอร์ด ผมก็บอกไปเลยว่า ผมช่วยอะไรไม่ได้นะ เพราะผมขายแคมรี่ อยากได้แคมรี่แต่มาดูแอคคอร์ด งงไหมละ?
3. ราคาสูงไป เห็นเจ้าอื่นปีเดียวกัน ขายกัน 550000-600000 เอง แต่อาจจะมีรอยบ้างเล็กๆน้อยๆบ้างเท่านั้นเอง
อันนี้ผมบอกถ้าคุณได้ราคานั้นจริง ไปซื้อคันนั้นเถอะ ราคาดีมากๆ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยจะต้องเพิ่มเงินเกือบ 2แสน มาซื้อรถผม เรียกได้ว่าซื้อได้ถูกกว่าเต้นท์รับเขาซะอีกนะนั่น
จบจากตรงนี้
เขาก็บอกว่าเนี่ยเขาอยากทดลองขับ ผมเลยถามว่า ตกลงคุณจะซ์้อรถผมใช่ไหม ถ้าลองแล้ว รถโอเค คุณจะวางมัดจำได้เลยไหม
เขาบอกว่าเขาต้องคิดดูก่อน ผมก็ถามว่า เขาติดอะไร เขาก็บอกต้องเทียบกันรถคันที่ราคา 550000-600000.- บาทอีกสองสามคันนั้น
แบบนี้เป็นเพื่อนๆจะทำยังไงต่อครับ
ให้ดู หรือ ไม่ให้ดู ?
-------
ผมนี่ไล่กลับเลยเพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้อยุ่แล้ว เสียเวลา ไฟแนนซ์จัดได้เกินราคาที่ผมขายซะอีก
โดยบอกว่า ผมแนะนำนะ ถ้าคุณได้ราคานั้นที่คุณอ้างมาจริง คุณก็ไปซื้อรถคันนั้นเถอะ ราคาดีมากๆเลย เพิ่มสองแสน มาซ์้อรถผมเนี่ย ไม่คุ้มเลย
------
จากประสบการณ์คน มาลองขับ ลองดูเสร็จ ก็สะบัดตุดกลับบ้านไป มันเสียเวลา เสียความรู้สึก
ผมเลยมักจะให้เขาต่อราคา คุยราคาให้จบ แล้วบอกว่า ถ้ารถโอเค ไม่มีปัญหาอะไร พี่พร้อมวางมัดจำ เซ็นสัญญาเลยนะ และ จบที่ราคานี้เลยนะ แล้วค่อยให้ไปลอง
ถ้ามาดูแล้ว ต้องขอไปคิดดูก่อน ไปเทียบดูก่อน ต้องไปถามแม่ ถามเมีย ถามพ่อ ถามครอบครัว
ถ้าไม่จบรอบแรกที่มาดู มักจะไม่จบ ค่อนข้างละ 80% เลย
--
ปล. รถผมไฟแนนซ์ตีราคากลางมา 910000.- จัดไฟแนนซ์ 80-85% ได้เกินราคา
คนติดต่อมาเรื่อยๆ เลยไม่รีบเท่าไหร่ใครจบได้ก่อนก็คนนั้น แต่มากดราคาน่าเกลียดบ้าๆบอๆ เห็นเราเป็นไก่อ่อนก็กลับบ้านไปละกัน ผมให้มาดุรถที่บ้านไม่เสียอะไรอยู่แล้ว
ปล2. ผมไม่ได้ racist จากชนชาติ หรือ การแต่งตัวเขานะ แต่ผมดูที่การกระทำ คำพูด วิธีการของเขา
--
แค่มาแชร์ให้ฟังครับ
-
ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยครับ
-
เดี๋ยวนี้ต่างชาติซื้อไปขายต่อก็มีเยอะแยะครับ
-
เจอแขกกับงู จะจัดการอะไรก่อน ต้องเชื่อคำพูดนี้ด้วยนะครับ
จากประสบการณ์ติดต่องานกับแขก
ไม่ใช่เรื่องธรรมดาครับ บอกเลย
ฝรั่งไม่ก็คือไม่
แขกนี้คือ ไหลจริงๆ
และผมก็ไม่เคยได้งานจากพวกเขาเลยซักครั้งเดียว
-
เป็นผมคงบอกให้ไปซื้อคันที่ราคาต่ำกว่าที่เขาดูมาครับ
-
จากประสบการณ์ แขกเป็นชาติที่ไม่น่าทำอะไรด้วยเลยครับ
ปล. เพื่อนแขกดีๆก็มีครับ ผมไม่ได้อคตินะครับ
-
ถ้าเป็นผม ผมก็ทำเเบบพี่ครับ
-
ตอนผมขาย CR-V ผมขายแพงกว่าราคาตลาดไปประมาณ 1 - 1.5 แสน ผมเขียนไว้เลยว่า คันนี้ขายแพง รุ่นท๊อปสุด วิ่งไม่ถึง 4 หมื่น ถ้ารับได้ที่ราคา 940,000 บาท ติดต่อมาที่เบอร์ ....
สุดท้ายปล่อยออกไปได้ 9 แสนถ้วน
-
ถ้าเป็นผมไม่ให้ลองขับครับ
พวกนี้เป็นพวกติแล้วต่อ หาแต่ข้อเสีย
ถ้าพูดมาขนาดนี้ก็แยกย้ายเถอะ อย่างเสียเวลาเสียอารมณ์เลย
เอาจริงๆเป็นผมไม่คุยตั้งแต่เป็นแขกแล้วครับ เบื่อ....
-
คงจะลองขับเพื่อตรวจสอบช่วงล่าง ว่าอาจต้องจ่ายค่าซ่อมเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบกับคันอื่นๆ ครับ
-
เคยขายมีคนมาดูหลายคน สุดท้ายก็ขายเต้นท์เพราะได้ราคาเท่ากันแต่คนทั่วไปติอยู่นั่นแหละเลยไม่ขายแต่เต้นท์ไม่พูดติซักคำเดียวแอบๆคุยกันเองว่าต้องซ่อมอะไรที่ตรงไหนบ้างแล้วก็มาคุยราคากับผม
-
เค้ามีแต่ดูสภาพรถภายนอก ภายในโอเคร
แล้วค่อยไปทดลองขับเพื่อความมั่นใจ แน่ใจ
ไอ้นี่ติไว้ก่อนแล้วยังจะขอเจ้าของไปลองขับอีก
ปล.
คนประเภทนี้ติ เขาว่าเขา แต่อยากได้ของเขาครับ
-
ถ้าไม่อยากปวดจิตกับคนขอดูรถ ขายเต๊นท์สบายใจกว่าครับ
จบเป็นจบ ไม่ต้องคุยรอบ2 รอบ3 หรือไม่ก็บอกขายคนรู้จักก่อน
แต่ถ้ามองในมุมคนซื้อ เขาก็ควรมีสิทธิ์ที่จะได้ลองขับบ้าง (ถ้าเขาสนใจจริง)
แต่แบบนั้นมันก็เป็นความเสี่ยงของคนขาย ก็ชั่งใจดูเอาเองครับ
-
ผมว่าคนที่ จขกท เจอ เป็นมืออาชีพนะครับ ไม่ได้แค่คนบ้านๆ ที่อยากซื้อรถไปใช้ต่อ
-
ถ้าผมเป็นคนซื้อ จะซื้อไปทำอะไรก็แล้วแต่ ผมจะไม่ตกลง หรือจ่ายอะไรก็แล้วแต่ (ยกเว้นค่าน้ำมันในการลองรถ) จนกว่าจะได้ทดลองขับครับ ;)
-
ถ้าดูจากที่เล่ามา
ไมล์ติว่าวิ่งมาเยอะ
ราคา เทียบกับที่อื่น ต่างกันเยอะ
ยิ่งรุ่นยี่ห้อที่ต้องการ มันคนละรุ่นอีก
เจอแบบนี้ ผมไม่ให้ลองครับ
-
เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อน
ตามสำนวนนี้ครับ ผมขายของเจอแขกหนิไล่หนีเลยเรื่องมากสุดๆ
มั่วสุดๆด้วย
-
ถ้าคนซื้อเข้ามาต่อแบบถล่มทลายอย่าไปขายเลยครับเสียความรู้สึก :D แต่เรื่องลองขับก่อนซื้อก็เป็นสิทธิ์ของผู้ซื้อนะครับ เหมือนเราจะไปซื้อรถมือสองแต่เขาไม่ให้ลองแสดงว่าต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองอีกที
-
ผมมองว่ามันแล้วแต่เจ้าของกระทู้นะครับ คือที่คิดน่ะไม่ผิด
แต่ผมว่าคุณจะขายของควรเตรียมรับมือกับคนหลายรูปแบบนะครับ ถ้าคุณคิดว่าเค้าไม่ใช่ และคุณไม่โอเคกับเค้าจริงๆ ผมว่าก็ไม่ควรเก็บมาคิดให้หัวเสียอะไรครับ
ถ้าคุณหงุดหงิดอย่าขายเองเลยครับ อารมณ์เสียเปล่าๆ ขายเตนไปดีกว่าครับ แต่ถ้าคุณอยากได้เกิน ก็อย่าหงุดหงิดเลยครับ ในเมื่อคุณปฏิเสธเค้าแล้วจะมาหงุดหงิดทำไม ใจเขาใจเราครับ เค้าคนซื้อก็หงุดหงิดเหมือนกัน ไม่พูดถึงกรณีมิจฉาชีพนะครับ
เนี่ยแหละครับที่บางคนเค้าบอกว่า มันไม่ใช่อาชีพเรา
-
ปกติการซื้อรถลูกค้า้ต้องขอทดลองครับอยู่แล้วครับ และลูกค้าทุกคนควรจะต้องทำแบบนั้นด้วยเพราะนี่คือรถมือ 2 อย่า่จ่ายเงินจนกว่าจะแน่ใจและได้ลองสินค้านั้นด้วยตนเอง ถ้าไม่โอเคก็ไม่จำเป็นต้องคุยถึงจุดอื่น ยกเว้นว่ารถคันนั้นเห็นแล้วร้องยี้จนไม่อยากลองแน่ ๆ ไม่ควรเสียเวลาไปลอง
ของคุณถ้าต้องวางมัดจำก่อนได้ลองรถ ผมว่าไม่มีใครอยากทำแน่ คือจ่ายเงินทั้งที่ยังไม่ได้ลองรถ เนื่องจากเป็นรถยนต์มือ 2 มันเป็นสินค้าที่ต้องทดลองก่อนซื้อ ถ้าไม่สะดวกใจในการให้ลูกค้าลอง กลัวมิจฉาชีพผมว่าตัดใจขายเต๊นท์ไปดีกว่าครับจะได้สบายใจ
ส่วนเรื่องอื่น ๆ คงเป็นเทคนิคการต่อราคาของแขกมากกว่า ซึ่งคุณก็ทำตามนั้นไม่ผิดอะไร
-
ปกติการซื้อรถลูกค้า้ต้องขอทดลองครับอยู่แล้วครับ และลูกค้าทุกคนควรจะต้องทำแบบนั้นด้วยเพราะนี่คือรถมือ 2 อย่า่จ่ายเงินจนกว่าจะแน่ใจและได้ลองสินค้านั้นด้วยตนเอง ถ้าไม่โอเคก็ไม่จำเป็นต้องคุยถึงจุดอื่น ยกเว้นว่ารถคันนั้นเห็นแล้วร้องยี้จนไม่อยากลองแน่ ๆ ไม่ควรเสียเวลาไปลอง
ของคุณถ้าต้องวางมัดจำก่อนได้ลองรถ ผมว่าไม่มีใครอยากทำแน่ คือจ่ายเงินทั้งที่ยังไม่ได้ลองรถ เนื่องจากเป็นรถยนต์มือ 2 มันเป็นสินค้าที่ต้องทดลองก่อนซื้อ ถ้าไม่สะดวกใจในการให้ลูกค้าลอง กลัวมิจฉาชีพผมว่าตัดใจขายเต๊นท์ไปดีกว่าครับจะได้สบายใจ
ส่วนเรื่องอื่น ๆ คงเป็นเทคนิคการต่อราคาของแขกมากกว่า ซึ่งคุณก็ทำตามนั้นไม่ผิดอะไร
ไม่ได้หมายความว่า ให้วางมัดจำก่อนจะลองรถ เพียงแต่ ต้องการตกลง ด้วยวาจาสัจจะ ว่า ถ้าลองแล้วรถไม่มีปัญหาอะไร คุณจะตกลงซื้อในราคาเท่าไหร่ หรือ พร้อมจะวางมัดจำเลยไหม
เข้าใจว่าต้องลองก่อนซื้อผมให้ลอง แต่ลองรถทั้งขับรูดหลังเต่า เร่งเครื่องไป 6-7 พันรอบ red line เสร็จแล้วก็ไม่ว่าอะไร แล้วสะบัดตูดไปแบบนี้ผมก็ไม่โอเค
-
ดูแล้วท่าจะไม่ซื้อ คนซื้อจะไม่เรื่องมาก ต่อนิดหน่อยพอเป็นพิธี แต่มันจะมีเหรอถ้ารู้ว่ารถรุ่นเดียวกันต่างกันแสนสองแสนยังจะมาขอลอง ถ้าคนทั่วไปก็เดินหนีแล้วล่ะ อาจเป็นมิจฉาชีพอย่างว่าละครับ
-
ส่วนใหญ่ผมพยามจบตั้งแต่โทรละครับ มีอะไรบอกหมด ที่จะให้มาดูคือ จะซื้อแถวๆ 60% - 70% แล้วแหละ อยากได้รูปอะไรตรงไหนจัดให้ แต่มาแล้วติๆๆ ต่อโหดๆหน้างาน นี่เชิญกลับไปเลย
-
ไม่ซื้อหรอกครับ พวกแขก ชอบกดราคาอยู่แล้วเป็นนิสัย
-
คอมเม้นท์ที่ว่าขายเต้นท์ไม่ปวดหัว ผมมองตรงข้ามนะครับ เบื่อคุยเต้นท์มาก เหลี่ยมจัด พูดให้ร้ายให้ของเราไร้ค่า
ไม่ร้อนซะอย่าง ผมขายเองทุกคันครับ ไม่ปวดหัวด้วย เพราะรถผมรักษาสภาพดีจริง
เรามีจุดยืนครับ ราคาที่ต้องการในใจ ตั้งไว้เผื่อต่อ 10,000 นิดหน่อยเท่านั้น
ยืนราคาตั้งไว้ให้ทนสุดๆครับ ไม่ต้องลด ไม่เอา ก็ไปเทียบคันอื่น เดี๋ยวก็กลับมาเอง
จริงๆคือไม่ลดเลยดีสุดไม่วุ่นวายไม่ปวดหัวครับ
ส่วนใหญ่ถ้าตั้งราคาดีตั้งแต่แรกมันจบง่ายครับ
ถูกกว่าราคาตลาดแต่ได้มากกว่าเต้นท์ ยี่ห้อตลาด จบง่ายทุกคันครับ
-
มือ 2 ยังไงก็ต้องขอลองขับนะครับ ไม่ลองแล้วซื้อเลยจะให้เสี่ยงโชคเล่นหรือ เต้นท์ไหนไม่ให้ผมลองก็เลิกคุย หลายเต้นท์บอกจะลองขับต้องตกลงซื้อก่อนตลก อย่างน้อยเจ้าของขับให้ลองนั่งก็ยังดี
-
เวลาผมขายของมือสอง.
เจอคนที่ต่อราคาทางโทรศัพท์ ผมก้อไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่
ผมจะบอกเค้าเสมอว่า ไว้ดูของก่อนแล้วค่อยต่อราคาก้อได้ครับ อย่าเพิ่งต่อโดยไม่ได้เห็นของเลย ;D
ในเคสของ จขกท. ถ้าเป็นผม ผมก้อไม่ให้ลองครับ ติหลายข้อเกิน..และเหตุผลที่ติก้อไม่สมเหตุผล เพราะทุกอย่างได้แจ้งไว้ตั้งแต่ตอนประกาศขายแล้ว :)
-
เคยเจอเหมือนกัน ทั้งๆที่รู้ข้อมูลอยู่แล้วพอมาหน้างานมาแย็บเพื่อขอลดราคา
แล้วยังไม่เห็นของจะขอลดแล้ว ต้องหน้างานเท่านั้นแหละ
-
สงสัยจะเป็นแขกในร่างเต้นท์
-
คนซื้อจะเป็นใคร ก่อมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง.
หากใครสนใจแต่พอเจอของจริงแล้วไม่ปลื้ม. คุณก้อรีบบอกเลยว่า. เขิญกลับไป
-
สงสัยจะเป็นแขกในร่างเต้นท์
เป็นไปได้มากเลย
พวกเต๊นท์แขกผมเคยคุยด้วยตอนจะซื้อกดราคาเยอะเวอร์กว่าคนอื่น
พอตัวเองจะขายก็ตั้งขายแพงกว่าเจ้าอื่น แถมต่อรองไม่ค่อยได้
-
สำหรับผมนะ ถ้ามาถึงแล้วติเยอะขนาดนี้ เป็นผม ผมก็ไม่ให้ลองนะครับ
อย่างว่าแหล่ะครับ อย่าว่าแต่แขกเลยครับ คนบางคนชอบคิดว่ามาถึงปุ๊บต้องติไว้ก่อน เพื่อกดราคาได้อีก
ผมเคยเจอเคสนึงพ่อแฟนเก่าผมอยากได้รถมือสอง ผมเลยแนะนำเต้นท์ที่สนิทกัน เพราะไว้ใจได้ (รถบ้านผมหลายคันก็เอามาจากเต้นท์นี้ คือเต้นท์เฮียแกซื้อแต่รถตามสภาพ ถ้าไม่สวยจริง หรือแค่เหม็นกลิ่นบุหรี่เฮียก็ไม่เอาแล้ว) ผมเลยแนะนำให้อดีตว่าที่พ่อตา ผมไปดูที่เต้นท์เฮีย (แต่ผมไม่ได้ไปด้วยนะ แค่โทรบอกเฮียเอาไว้ก่อนว่านี่พ่อตาผม) ปรากฎว่าตกเย็นเฮียโทรมาด่าผมกระเจิงว่า เอ็งพาใครมาวะ มาถึงปุ๊บก็ติๆๆๆๆ คือกะกดราคาอย่างเดียว จนเฮียแกบอกเลยว่าไม่ขายแล้ว ผมงี้เสียหมาไปเลยครับ ไม่ค่อยกล้าแนะนำใครไปแล้วถ้าไม่รู้จักนิสัยจริงๆ
-
ถ้าเจอต่อตั้งแต่ยังไม่เห็นรถ .. ผมไม่นัดเจอแน่ ถามว่าราคาลดได้ไหมโอเค แต่มาเป็นเลขเลยนี่ไปไกลๆเลย
ส่วนเรื่องลอง เวลาผมซื้อ ถ้าไม่ 80-90% พร้อมจบ ผมจะไม่ขอลองเด็ดขาด แต่ผมจะลองก่อนจบเรื่องราคานะ ตอนขายก็ดูว่าเค้าเอาจริงขนาดไหน แต่ที่ผ่านๆมาก็ไม่เคยมีปัญหาคนที่มาดูรถก็ขอลองเฉพาะก่อนจะจบทั้งนั้น