Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 18:57:55

หัวข้อ: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 18:57:55
อยากทราบความเห็นครับ ว่า

สมมุติว่าเราเป็นคนธรรมดาๆ ทำงานรับจ้างทั่วๆ ไป
หรือเป็นคนที่เกษียณจากการทำงานแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีภาพลักษณ์ในสังคม
ขับรถในเมืองตลอด ออกต่างจังหวัดก็แค่ แถวๆ หัวหิน ระยอง สระบุรี ไกลๆ ก็นั่งเครื่องบินไป

ระหว่าง การที่เราใช้รถราคา สัก 1 ล้าน ขึ้นไป เช่น Altis 1.8 ตัว E sport หรือ V หรือพวก MU-X ตัวล่าง
แต่ต้องใช้รถคันนั้นไม่ต่ำกว่า 10 ปี คือ จะขาย ในช่วง 10-12 ปี ไม่เกิน 15 ปี โดยเข้าศูนย์ช่วงแรก
พอครบรับประกันก็ซ่อมข้างนอก ราคาขาย จะเหลือประมาณ 10-20% ของราคารถ คือ 1-2 แสน

กับเราใช้พวกรถในกลุ่ม 5-6 แสนไม่เกินนี้ เช่น Yaris Attract MZ2 sedan โดยใช้ประมาณ 5 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปีก็ขาย
เข้าศูนย์ตลอดจนขายไป ราคาขายจะเหลือประมาณ 30-50% ของราคารถ คือ 1.5-3 แสน ไม่เกินนี้
แล้วก็ไปซื้อใหม่ รถเกรดเท่าเดิม sedan ราคาเท่าเดิม
เท่ากับว่าถ้า 10 ปีเท่ากัน เปลี่ยนรถไป 2 คันครับ คือ ขายคันเดิม ไปถอยคันใหม่ ก็เอาเงินตรงคันเดิมไปต่อยอดคันใหม่

แบบไหนดีกว่ากันครับ

เราไม่เอาเรื่องการขับขี่ รถใหญ่มั่นคงกว่า ปลอดภัยกว่านะครับ เอาแค่ว่า ใช้งานได้
รถดี เงียบ นุ่มสบายเหมือนกัน (รถแพงอาจดีกว่าหน่อย)

ผมคำนวนค่าใช้งาน (หรือค่าเสื่อม) ประมาณ 10% ต่อปีครับ ถ้าต่ำกว่านั้น ถือว่ากำไรใช้งาน
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ กันยายน 25, 2017, 19:01:11

 มันอยู่ที่คุณ ว่าจะเบื่อกับการซ่อมรถหรือเปล่า   รถอายุยิ่งเยอะมันก็ต้องซ่อมบ่อย

 ถ้าไม่เบื่อซ่อมก็ใช้รถนานได้
 
 ถ้าเบื่อจะซ่อมก็ต้องเปลี่ยนรถบ่อย

 กับหา size ที่อยากได้ก่อน  มันหลากหลายเกินไป  มีตั้้งแต่รถใหญ่ ถึงรถเล็ก

 รถทุกคันมันก็ใช้ 10 ปีได้หมด
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: z4kas ที่ กันยายน 25, 2017, 19:09:24
ผมถามต่อยอดได้ไหมครับ
ว่าจะตั้งกระทู้พอดี
จขกท.ถามถึงรถใหม่
แล้วถ้าเป็นมือสองละครับ

คือระหว่างซื้อรถใหม่ กับ รถมือสองปีใหม่
เช่น สมมุติ มาสด้า 3 (หรือรุ่นอื่นที่เล็กหรือใหญ่กว่าก็ได้)

รถใหม่ 1000000 ซื้อและใช้ยาวไป 10 ปีจนขายซื้อใหม่

กับมือสองอายุไม่เกิน 1-2ปี ราคา +- 800000
แต่ขายทุก 2-3 ปี
รวม 10 ปี จะเปลี่ย 3-4 ครั้ง
ส่วนต่างก็ต่อยอดจากรถเก่าไป

แบบนี้จะน่าสนใจกว่าซื้อมือหนึ่ง แล้วใช้ยาว 10 ปีไหมครับ
ส่วนต่างที่ต้องเพิ่มซื้อใหม่ ต่างกันไม่น่าเกิน 200000
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กันยายน 25, 2017, 19:26:06
ถ้าไม่เน้นว่าต้องป้ายแดงเท่านั้น     ผมก็ซื้อมือ 2 พวก Fortuner  ใช้ดีกว่า ในราคา 5-7 แสน  หรือเก๋งอย่างคัมรี่ 3-4 แสนบาท
ถ้าเน้นว่าต้องป้ายแดง เท่านั้น  คงต้องเลือกไปที่  Yaris Attract MZ2 sedan โดยใช้ประมาณ 7-10 ปี   เพราะงบประมาณเราไม่เยอะจะมาซื้อรถแพงกว่านี้มากก็ไม่ไ่ด้   มันถูกจำกัดที่ตัวเลือกด้านเงินไปเรียบร้อย
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Disk™ ที่ กันยายน 25, 2017, 19:58:17
ถ้าเทียบ B กับ C Segment ผมว่าเล่น C Segment ใช้ยาวๆดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 25, 2017, 20:00:09
ผมเลือกรถถูกใช้ยาวเกิน 10 ปีครับ ไม่ก้มือสองรถใหญ่ใช้ยาว
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: YZA ที่ กันยายน 25, 2017, 20:05:14
รถพื้นฐาน B segment แล้วกันครับ
อีก 5-7 ปี  เทคโนโลยีหรือขนาดรถอาจกระเถิบเข้าใกล้ C segmentตอนนี้ก็ได้
แต่แน่นอน ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ผมเลือก C ตอนนี้เลย 555
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: TheRealMeaw ที่ กันยายน 25, 2017, 20:09:19
ถ้าเอาแค่ใช้งานได้ ยังไงก็ดีเหมือนกัน ก็เอารถเล็กใช้ 12 ปี หมดประกันซ่อมข้างนอกสิครับ เอาจริงๆซื้อรถ 3 ปี หมดประกันมาแล้วเลยดีกว่า ให้คนซื้อรถใหม่เขารับค่าเสื่อมราคาไป ผมว่าทางนี้ optimal สุด
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ กันยายน 25, 2017, 20:09:57
ผมเลือกซื้อแพงใช้ 10 ปีครับ..
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มละไม ที่ กันยายน 25, 2017, 20:56:38
ถ้าตัดเรื่องความปลอดภัยทิ้งไป รถใหญ่นั่งสบายกว่า ทิ้งไป ใช้รถธรรมดา ๆ พอ แบบนี้ต้องเลือกรถราคาถูกและเปลี่ยนรถบ่อย ๆ

คหสต. ใช้รถเล็ก ถ้าลองเกิดอุบัติเหตุสักครั้ง ความคิดคุณจะเปลี่ยนทันที
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 25, 2017, 20:57:54
ผมเลือก6แสนใช้5-7ปีเปลี่ยนครับ   แต่ขอเป็นเครื่อง1500ซีซี  ใช้ง่ายจอดสบาย ไปได้ทั่วประเทศ (ไปมาหมดแล้วครับไกลแค่ไหน ชันแค่ไหน สบม.)

ข้อดีอีกอย่างของรถเล็ก คือขับทางไกล 80-90-100 ไม่ง่วงเหมือนขับรถใหญ่
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: rotaryman ที่ กันยายน 25, 2017, 20:59:56
ซื้อพอที่มีกำลังส่งครับ ส่วนจะใช้ยาวกี่ปีนั้นไม่เคยคิดใช้ไปจนกว่าจะมีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 21:01:12

 มันอยู่ที่คุณ ว่าจะเบื่อกับการซ่อมรถหรือเปล่า   รถอายุยิ่งเยอะมันก็ต้องซ่อมบ่อย

 ถ้าไม่เบื่อซ่อมก็ใช้รถนานได้
 
 ถ้าเบื่อจะซ่อมก็ต้องเปลี่ยนรถบ่อย

 กับหา size ที่อยากได้ก่อน  มันหลากหลายเกินไป  มีตั้้งแต่รถใหญ่ ถึงรถเล็ก

 รถทุกคันมันก็ใช้ 10 ปีได้หมด

ส่วนตัวผมชอบรถขนาดประมาณนี้นะคับ ไม่ชอบใหญ่ๆ

พอใจใน size นี้ คือ 4-4.5 เมตร มีท้ายเก็บของพอควร (sedan) หรือเบาะพับได้ (Hatchback)

รถใหญ่กว่านี้สำหรับ ผม คือ เกินความต้องการไปมากครับ

ที่ผมเทียบ altis กับ MU-X เพราะมันเป็นรถทั่วๆ ไปที่ใครๆ ก็ซื้อได้

ถ้ารวย ผมคงเอาเลือก พวก 118I หรือ GLA หรือ CT200H ครับ

ถ้าไม่เน้นว่าต้องป้ายแดงเท่านั้น     ผมก็ซื้อมือ 2 พวก Fortuner  ใช้ดีกว่า ในราคา 5-7 แสน  หรือเก๋งอย่างคัมรี่ 3-4 แสนบาท
ถ้าเน้นว่าต้องป้ายแดง เท่านั้น  คงต้องเลือกไปที่  Yaris Attract MZ2 sedan โดยใช้ประมาณ 7-10 ปี   เพราะงบประมาณเราไม่เยอะจะมาซื้อรถแพงกว่านี้มากก็ไม่ไ่ด้   มันถูกจำกัดที่ตัวเลือกด้านเงินไปเรียบร้อย

ผมไม่ค่อยชอบรถเก่าครับ เคยใช้ สามห่วง มาเมื่อนานมาแล้ว ไม่ไหวแล้วครับ...ขี้เกียจวิ่งไปอู่เอารถไปซ่อม
ถ้าซื้อคงเอารถ ใหม่ หรือไม่เก่ามาก พวกไม่เกิน 3 ปี

ผมเคยไปดู Toyota sure รถแพงมาก พอคำนวนมา ซื้อรถใหม่ แบบ Yaris คุ้มกว่า ราคาถูกกว่าเต็มที่ก็ 4 แสน ไม่คุ้มครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 21:05:07
ถ้าเอาแค่ใช้งานได้ ยังไงก็ดีเหมือนกัน ก็เอารถเล็กใช้ 12 ปี หมดประกันซ่อมข้างนอกสิครับ เอาจริงๆซื้อรถ 3 ปี หมดประกันมาแล้วเลยดีกว่า ให้คนซื้อรถใหม่เขารับค่าเสื่อมราคาไป ผมว่าทางนี้ optimal สุด

ครับ ผมเคยหาแต่ ผมเน้นรถ certify มันแพงมาก ออกรถใหม่ คุ้มกว่าครับ

ผมเคยใช้รถอายุ 10 กว่าปีครับ

ไม่ชอบตรงมันทำประกันชั้น 1 ไม่ได้ครับ

ถ้าตัดเรื่องความปลอดภัยทิ้งไป รถใหญ่นั่งสบายกว่า ทิ้งไป ใช้รถธรรมดา ๆ พอ แบบนี้ต้องเลือกรถราคาถูกและเปลี่ยนรถบ่อย ๆ

คหสต. ใช้รถเล็ก ถ้าลองเกิดอุบัติเหตุสักครั้ง ความคิดคุณจะเปลี่ยนทันที

ครับ แต่ผมเคยใช้ มาร์ช รถมันเล็กไป ขับแล้วน่ากลัวครับ

คันใหม่มาเลยเอา sedan ปลอดภัย ใหญ่กว่าเดิมครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 21:08:22
ผมถามต่อยอดได้ไหมครับ
ว่าจะตั้งกระทู้พอดี
จขกท.ถามถึงรถใหม่
แล้วถ้าเป็นมือสองละครับ

คือระหว่างซื้อรถใหม่ กับ รถมือสองปีใหม่
เช่น สมมุติ มาสด้า 3 (หรือรุ่นอื่นที่เล็กหรือใหญ่กว่าก็ได้)

รถใหม่ 1000000 ซื้อและใช้ยาวไป 10 ปีจนขายซื้อใหม่

กับมือสองอายุไม่เกิน 1-2ปี ราคา +- 800000
แต่ขายทุก 2-3 ปี
รวม 10 ปี จะเปลี่ย 3-4 ครั้ง
ส่วนต่างก็ต่อยอดจากรถเก่าไป

แบบนี้จะน่าสนใจกว่าซื้อมือหนึ่ง แล้วใช้ยาว 10 ปีไหมครับ
ส่วนต่างที่ต้องเพิ่มซื้อใหม่ ต่างกันไม่น่าเกิน 200000

ผมเคยอยากทำเหมือนกันครับ แต่เห็นราคาแล้ว ซื้อรถใหม่คุ้มกว่า

ใจผมตั้งใจจะใช้เจ้า Ativ 7-10 ปีครับ

แต่มาดูตอนขายมาร์ช เออ มันก็คุ้มดีนี่น่า รถเล็กราคาตกน้อย เปลี่ยนง่ายขายคล่อง

แบบนี้ใช้สัก 5-7 ปีเทคโนใหม่มาใช้คันใหม่ดีกว่า
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ กันยายน 25, 2017, 21:11:13
เลือกซื้อแพงใช้ยาวครับ. ไม่ชอบชีวิตหนี้สักเท่าไหร่ดูไม่คล่องตัว

จริงๆเลือกตามที่ต้องการ ณ เวลานั้นๆ. ตอนนี้อยากได้รถใหญ่เงียบๆแรงมีพอใช้งาน

คันล่าสุดกำลังจะผ่านปีที่7 แต่คงขายก่อน 10ปี เพราะประกันเกียร์หมดแล้ว และไม่อยากเสี่ยงกับปัญหาอื่นที่กำลังจะตามมา

คันหน้าคงเลือกเจ้าตลาดและหวังว่าจะผ่าน 10 ได้สบายๆ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: CHANOM ที่ กันยายน 25, 2017, 21:15:15
ปกติที่บ้านจะเปลี่ยนรถทุก 10-11 ปีค่ะ เป็นเวลาที่รู้สึกว่าราคามือสองของรถมันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แน่นอนว่า ยิ่งเก่ามันยิ่งถูกลง แต่เราจะไม่บาดเจ็บมากเท่ากับปีแรกๆ

ตอนนี้เท่าที่สังเกตดู W203 เราน่าจะปล่อยได้ 550K - 600K (ซื้อมา 2.95 M) ส่วน W169 น่าจะได้สัก 300K - 350K (ซื้อมา 1.69M) ซึ่งก็พอรับได้ค่ะ

ส่วน Mazda 2 ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะใช้ไปให้ถึง 10 ปีเหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอเอาให้ถึง 5 ปี โดนไม่มีปัญหาเครื่องยนต์ก่อนละกันค่ะ   :-X
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 21:19:34
ปกติที่บ้านจะเปลี่ยนรถทุก 10-11 ปีค่ะ เป็นเวลาที่รู้สึกว่าราคามือสองของรถมันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แน่นอนว่า ยิ่งเก่ามันยิ่งถูกลง แต่เราจะไม่บาดเจ็บมากเท่ากับปีแรกๆ

ตอนนี้เท่าที่สังเกตดู W203 เราน่าจะปล่อยได้ 550K - 600K (ซื้อมา 2.95 M) ส่วน W169 น่าจะได้สัก 300K - 350K (ซื้อมา 1.69M) ซึ่งก็พอรับได้ค่ะ

ส่วน Mazda 2 ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะใช้ไปให้ถึง 10 ปีเหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอเอาให้ถึง 5 ปี โดนไม่มีปัญหาเครื่องยนต์ก่อนละกันค่ะ   :-X

เคยสนใจ MZ2 Sedan 1.3 คับ ชอบความประหยัด แต่พอเห็นค่าดูแลรักษาที่สูง ปัญหาเรื่องการทำสี ของศูนย์บริการที่น้อยกว่ายี่ห้ออื่น

สุดท้ายเลยยอมครับ

ไม่กล้าซื้อสักที เลยออก Toyota แทน ;D
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ กันยายน 25, 2017, 21:35:06
ถ้าสมมติเป็นวัยเกษียณแล้ว ผมเลือก C-seg รุ่นท้อปแล้วใช้ยาวๆไปเลยครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ToRToNGPaT ที่ กันยายน 25, 2017, 21:40:54
ที่บ้านผมไม่มีกำหนดที่จะเปลี่ยนรถ ขายรถ ซื้อรถ ที่แน่นอนครับ ขึ้นอยู่กับ ความจำ โอกาส จังหวะและความพร้อมครับ ผมไม่เคยคิดเลยว่า ที่บ้านจะซื้อ 2 คันภายใน 6 เดือน หลังจากที่ไม่ได้ซื้อรถใหม่มา 12 ปี แต่ถ้าตามความคิดผม รถคันนึง คงใช้อย่างน้อย 7 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 12 ปี ยกเว้นคันที่จะเก็บ ก็คงเก็บไปเรื่อยๆตามกำลังที่เรามี ส่วนรถรุ่นไหน Segment ไหน ผมคงเลือกรถที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดอะครับ

อย่าง Jazz ซื้อมา 745,000 ผ่านไป 7 ปีคงเหลือราว 2แสนกว่าๆ แต่คันนี้เป็นของขวัญจากพ่อกับแม่ ผมกะเก็บยาวๆ เหลือเท่าไหร่ ช่างมัน 555
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 25, 2017, 21:50:38
ถ้าสมมติเป็นวัยเกษียณแล้ว ผมเลือก C-seg รุ่นท้อปแล้วใช้ยาวๆไปเลยครับ

ใช่ครับ

แนวคิดนี้ มาจากพ่อผม ที่เกษียณเลย

เขาเห็นผมขาย มาร์ช ได้ 203,000 บาท ราคาซื้อมา 4.59 แสน นี่คือขายเต้นท์นะครับ

ดูๆ แล้ว ได้กำไรดีมากๆ เทียบกับ Altis CNG ปีเดียวกัน ราคา 2.5-2.8 แสน

เลยถึงบางอ้อ กันว่า ถ้าเราใช้รถไม่มาก ไม่ได้วิ่งอะไรมากมาย ไม่ได้ต้องการภาพลักษณ์

เอารถเก๋ง B-seg จะเป็น Eco car or 1.5 คุ้มกว่า ไปถอยรถแพงๆ

เปลี่ยนได้ง่าย บ่อยๆ สัก 5-7 ปี ทำประกันอะไหล่ 5 ปี เข้าศูนย์ตลอด

ใช้สบายใจกว่า ใช้รถแพงๆ แต่ต้องใช้ยาวๆ และมาซ่อมครับ

จากความคิดพ่อ ผม เห็นด้วยเลยครับ

มามองย้อน แบบนี้ ผมไม่ต้องซื้อ Toyota ก็ได้

ขอแค่รถคันนั้น ราคาไม่แพงมาก สัก 5-6 แสน

เป็นยี่ห้อติดตลาด

เช่น Honda Mazda ราคาขายต่อดีๆ
หรือ Mitsu (ไม่แน่ใจเรื่องราคาขายต่อ)

มีรับประกัน 5 ปีให้ซื้อหรือแถม หรือมีพวกบำรุงรักษา

ผมว่า ใช้ได้ทั้งนั้นครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ariazero ที่ กันยายน 25, 2017, 21:54:56
ซื้อ รถถูก 5-7 ปี เปลียน 1 ทีครับ

เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตากันมั่ง เทคโนโลยีก็เปลี่ยนทุกปี  อายุเราก็ใช่ว่าจะมีกันเยอะ บางคน 60 ปีก็จะม่องเท่งแล้ว

คิดเป็นจำนวนรถ 5 ปีก็ได้ 12 คันพอดี เปลี่ยนๆมั่งเถอะครับ

ผมเลือกที่จะซื้อรถ 5แสน - 3 ล้าน เอามานอนเล่นในโรงรถ2-3คัน 4-5ปี ดีกว่า ซื้อรถตูมเดียวเลย 8-10 ล้านแล้วใช้ 10 ปี ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้มันถึงใหมกลัวมันพังก่อน 
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: HappyCar ที่ กันยายน 25, 2017, 23:22:43
ถ้าเป็นผม ผมเลือกรถแพงแล้วใช้ยาวเกิน 10 ปีแล้วค่อยขายครับ ส่วนตัวผมว่ารถที่มี Segment ใหญ่กว่า มาตรฐานความปลอดภัยย่อมสูงกว่าอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องขับถนอมเครื่องยนต์หน่อยเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: siwakorn ที่ กันยายน 26, 2017, 00:19:37
รถใหญ่ใช้นานครับ เพราะรถถูกขนาดมั้นไม่ได้อะครับ ตัวผมก็ไม่ได้ใหญ่นะสูงก็ประมาณ 180 ปกติขับ Altis หน้าหมู ไปลองขับ Mirage แล้ว ลองนั่ง city vios ตัวล่าสุดแล้วมันไม่ได้อะครับ ขาแข้งมันวางได้ไม่เต็มที่ และได้ลอง Ativ มาก็เหมือนจะกว้างดีแต่พอผมไปนั่งหลัง ปลายผมที่ไปโดนหลังคาพอดีถ้านั่งตรงๆ สรุปว่าสำหรับผมถ้าไม่ให้มองที่การขับขี่ก็ติดที่เรื่องขนาดอยู่ดีแหละครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ กันยายน 26, 2017, 07:12:06
หากห่วงเรื่องราคาขาย ก็น่าจะกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเข้าเช็คระยะ ค่าประกัน
เป็นผมเอารถเล็กดีกว่าครับ เก่าก็เปลี่ยน ได้ใช้รถใหม่ด้วย เทคโนโลยีมันพัฒนาเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กันยายน 26, 2017, 07:13:48
เทียบยากหน่อยครับ

ยกตัวอย่าง ลุงผมซื้อ FTN ตัวท๊อป 4x4 13 ปีแล้ว
ราคาขายต่อโครตแข็ง ซื้อมา 1.3 ขายต่อยังได้ 5 แสน
และยังคงใช้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะรถมันทนหายห่วง

ในขณะที่พ่อผม ซื้อแคมรี่ 1.4 ล้าน ใช้มา 14 ปี
ราคาขายตอนนี้หล่นลงไปเหลือ 2 แสน แถมปล่อยยาก หาคนซื้อไม่ค่อยได้

สำหรับผม ซื้อรถใหญ่ไปเลย ดูแลดีๆ 10 ปีมันอยู่กับเราได้สบายๆครับ
สำคัญคือเรื่องความปลอดภัย กับสมรรถนะ ซึ่งรถใหญ่ ต่อให้เป็นรุ่นเก่า ก็เหนือกว่ารถเล็ก
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: tvm ที่ กันยายน 26, 2017, 07:18:18
ถ้าเอาแบบท่านว่า ใช้งานได้เท่านั้น ไม่สนสิ่งอื่นเลย ตัวแค่ตัวเงิน แนะนำจัด B seg เลยครับ ตัวถูกสุดด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 26, 2017, 08:00:06
มันอยู่ที่ตัวบุคคลครับ

   แต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน พื้นฐานการใช้งาน การซ่อมบำรุงต่างกัน ความคุ้มค่าก็ต่างกัน

    ผมเคยตอบหลายครั้ง  ทำไมผมไม่ใช้รถป้ายแดง  ใช้แค่รถมือสอง  สองสามแสน  ผมใช้รถสามแสน  อย่างจะขาดทุน  ก็ไม่เกินสามแสน  ไม่เกินนี้  คันสุดท้ายที่ขายไป  ซื้อสองแสนเจ็ด  ใช้ไปสองปี  ขายไปสองแสน  คันใหม่ซื้อมาสองแสนสาม  ...  อยากเปลี่ยนรถเมื่อไรผมก็เปลี่ยน  ถ้าซื้อเป็นล้าน  ตัดสินใจยากครับ....
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ กันยายน 26, 2017, 08:10:37
ผมมองว่าถ้าตัวเราไปถึงจุดๆนึง แล้วมีฐานะพอที่จะไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้เงิน

สิ่งแรกที่ผมจะนึกคือคำว่า  Quality of life ก่อนเลย แล้วใช้เงินเพื่อตอบโจทย์ตรงนั้นเป็นเรื่องหลัก แล้วจะว่าไปคำๆนี้ ความหมายในความคิดของแต่ละคนก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ซึ่งผมเชื่อว่าถ้ามันยังมาไม่ถึงจริงหลายอย่างที่คิดว่ามันน่าจะใช่ในวันนี้เอาเข้าจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเมื่อเวลามาถึงครับ แต่ถ้าต้องเลือกก็เน้นความปลอดภัยในชีวิตเป็นหลักใหญ่ครับ เพราะคนเราถ้าเกษียณแล้วก็คงอยากจะมีเวลาได้อยู่กับความสุขนั้นนานๆ ผมมองแบบนั้นแหละครับ

หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กันยายน 26, 2017, 09:33:01
ดีกว่ากันคือดีในแง่การเงินรึเปล่าครับ เพราะไม่สนการขับขี่ ไม่สนภาพลักษณ์บ้าบอคอแตกทั้งหลาย แบบนี้คิดง่ายเลย

ใช้รถที่ถูกที่สุดที่ดูแลง่ายที่สุดครับ7ปีขาย  แล้วซื้อใหม่ ทำแบบนี้ 21ปีใช้เงินไม่ถึงค่าเสื่อมรถดีๆ10ปีหรอกครับ ได้เปลี่ยนรถใหม่บ่อยกว่าด้วย

สมมติตอนนี้Camry 1.5ล้าน ผ่านไปสิบปีขายเหลือไม่ถึง5แสน เท่ากับหายไปล้านนึง

Ativ อีก7ป ข้างหน้า คงเหลือ 2-3แสนก็หายไปแค่ 2-3แสน ซื้อคันใหม่ทำแบบเดียวกันอีกสองครั้งก็หายไม่เกิน9แสน แถมได้รถใหม่ไม่ต้องซ่อมหนักด้วย
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ กันยายน 26, 2017, 09:42:08
ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 26, 2017, 10:09:38
มันมีหลายปัจจัยครับ
บางคนมองว่ารถเป็นแค่พาหนะ พาจาก A--> B เลือกรถรุ่นอะไรก็ได้ ขอแค่ขับได้พอ
บางคนมองการอยู่ในรถบนท้องถนนมีความเสี่ยง ก็ยอมเสียเงินซื้อรถที่ระบบ safety ดีๆ เพื่อช่วยให้ผ่อนหนักเป็นเบากรณีเจออุบัติเหตุ
บางคนมีความสุขเวลาอยู่ในรถ เพราะชีวิตต้องอยู่ในรถวันละหลายชั่วโมง
บางคนขับมาหมดแล้ว รถราคาไม่แพง รถราคาแพง อิ่มตัว ขับรถอะไรก็ได้
ฯลฯ

แต่สุดท้าย ทุกอย่างอยู่ที่ งบประมาณที่คุณมีครับ ซื้อรถให้เหมาะกับตัวคุณ ใช้แล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อน ครอบครัว Happy แค่นั้นก็พอแล้วครับ

สมัยก่อนผมมองว่ารถอะไรก็ได้ ขอให้ขับถึงจุดหมายพอ แต่พอมีเจ้าตัวเล็กความคิดก็เปลี่ยน มองเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นครับ
ดังนั้นถ้าถามตอนนี้ ผมจิ้มไปที่รถราคาแพงแล้วใช้นานครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ กันยายน 26, 2017, 10:20:08
เท่าที่อ่านดู ในคำถามก็มีคำตอบของเจ้าของกระทู้อยู่ในตัวแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ กันยายน 26, 2017, 10:21:13
ยังคงคอนเซป บาลานซ์ชีวิตให้ดีครับ

ในมุมผมทุกอย่างมีขั้นกลางๆให้เลือก
คือน้อยกว่านี้ไม่ดี แต่มากกว่านี้ก็ยังไม่จำเป็นเท่าไหร่(และมากขึ้นไปสูงได้มากๆๆ)

คือถ้าจะมองแต่คอนเซปการเงินอย่างเดียว ตามที่จขกทว่ามามันโอเคที่สุดแล้ว

แต่ชีวิตจริงมันประกอบด้วยหลายๆอย่าง
ทั้งขนาด ทั้งการใช้งาน ทั้งอรรถประโยชน์ ฯลฯ

คอนเซปนี้ลองไปใช้สัก 10 กว่าปีก่อนสิครับ
รับรองไม่น่าผ่าน ถ้าตอนนั้นป้ายแดงรถเล็กมีประมาณ toyo soluna ให้เลือกเท่านั้น

เพราะขนาด การขับขี่ ฯลฯ หลายๆอย่างไม่น่าผ่านความรู้สึกขั้นต่ำของหลายๆคน
ยุคก่อน แบ่งลูกค้าตามระดับความมีตัง รถเล็กสำหรับคนจนมีรายได้น้อย
แต่ยุคนี้เริ่มเบนเข้าสู่การใช้งาน รถเล็กสำหรับคนชอบความคล่องตัว คนทั่วไปใช้ได้

-------

เข้าโจทย์ ถ้าของผมก็คือซื้อดีที่สุดที่เราไหว และครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดครับ
บ้านผมสายช่าง ก็จะมองความคุ้มค่า และการใช้งานมาก่อน

ดูแลไปเรื่อยๆ ใช้นานๆครับ ตามอีโก้ให้สมกับสายช่าง ;D
ประมาณว่าใช้พัง ใช้ไม่ทน แสดงว่าดูแลไม่เป็น ไม่ใส่ใจมากกว่า
คือจะสอนให้ทุกคนในบ้านใส่ใจกับทุกสิ่งครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: InBkk ที่ กันยายน 26, 2017, 11:09:28
คหสต ผมจะซื้อรถที่ ผ่อนแล้วไม่เหนื่อย ยังเหลือกินเหลือใช้ครับ เพราะเคยเจอคนซื้อรถแพง ผ่อนเดือนละ 40-50% ของรายได้ ดาวน์ต่ำสุด ผ่อนงวดบอลลูน ภาระอื่นก็มีอีกไม่ใช่น้อยๆ สุดท้ายเหลืองวดบอลลูนอีกเกินครึ่งล้าน ไม่มีปัญญาจ่าย ที่ผ่อนมาทั้งหมด 4-5 ปี สูญเลยครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: CookiE ที่ กันยายน 26, 2017, 11:27:14
ถ้าถามตัวผม ผมขอเลือกรถที่ตัวเองชอบดีกว่าครับ

ไม่เช่นนั้นจะเหมือนตัวผมเอง ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ผมมานั่งบวกส่วนต่างรถที่เสียไป (บางคันใช้ 8 เดือนขาย บางคันไม่ถึง 1 ปี ขาย)

ผมเสียเงินกับรถไป 7 หลักกลางๆ เพราะไปซื้อรถที่ตัวเองไม่ชอบ สุดท้ายก็จอดแช่ไม่ได้ใช้ แล้วก็ขายขาดทุนไป - -

จนสุดท้ายได้รถที่ตัวเองชอบ นี่ขับมา 1 ปีพอดี ยังไม่เบื่อเลยครับ ฟินทุกครั้งที่ได้ขับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: rut191 ที่ กันยายน 26, 2017, 11:28:18
อัสติส 10 ปี ถ้าวิ่งปีละ 20000กม. ค่าดูแลไม่น่าแพงนะครับไม่น่าจะโทรมมากด้วย
ถ้าขับเยอะๆแบบรถบริษัท 5 ปี 3แสนกม.+เปลืย่นรถบ่อยๆน่าจะคุ้มกว่า
ส่วนเรื่องรถใหญ่รถเล็กหลักๆเลยคืองบครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: NPS2 ที่ กันยายน 26, 2017, 12:51:39
เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าอายุมาก

ผมจะใช้แค่ city หรือ civic แค่นั้นแหละ

รู้สึกว่ามันไม่แพง ดูแลง่าย ศูนย์ก็ใกล้บ้าน

ใช้ๆมันไปไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย แค่นั้นชีวิตผมก็มีความสุขแล้ว
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: mrcna ที่ กันยายน 26, 2017, 13:58:43
ถ้า มีเงิน 1,000,000 บาท
เลือกรถ
- 1,000,000 บาท -> Top C segment
- 800,000 บาท -> Entry C segment
- 600,000 บาท -> Entry B segment

คัน 1,000,000 บาท ใช้ 10 ปี ขายได้ 200,000 บาท สรุปเงินเหลือ 200,000 บาท
คัน 800,000 บาท ใช้ 10 ปี ขายได้ 150,000 บาท สรุปเงินเหลือ 350,000 บาท
คัน 600,000 บาท ใช้ 5 ปี ขายได้ 280,000 บาท แต่ระยะเวลาคือ 10 ปี จึงซื้อ 2 คัน สรุปเงินเหลือ 360,000 บาท

จากตัวเลขนี้
ผมจะเลือก 800,000 บาท ครับ เพราะ ระยะเวลา 10 ปี รถที่ segment สูงกว่าแลกกับเงินส่วนต่าง 10,000 บาท ผมยอมครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กันยายน 26, 2017, 16:02:31

 ด




ถ้าไม่เน้นว่าต้องป้ายแดงเท่านั้น     ผมก็ซื้อมือ 2 พวก Fortuner  ใช้ดีกว่า ในราคา 5-7 แสน  หรือเก๋งอย่างคัมรี่ 3-4 แสนบาท
ถ้าเน้นว่าต้องป้ายแดง เท่านั้น  คงต้องเลือกไปที่  Yaris Attract MZ2 sedan โดยใช้ประมาณ 7-10 ปี   เพราะงบประมาณเราไม่เยอะจะมาซื้อรถแพงกว่านี้มากก็ไม่ไ่ด้   มันถูกจำกัดที่ตัวเลือกด้านเงินไปเรียบร้อย

ผมไม่ค่อยชอบรถเก่าครับ เคยใช้ สามห่วง มาเมื่อนานมาแล้ว ไม่ไหวแล้วครับ...ขี้เกียจวิ่งไปอู่เอารถไปซ่อม
ถ้าซื้อคงเอารถ ใหม่ หรือไม่เก่ามาก พวกไม่เกิน 3 ปี

ผมเคยไปดู Toyota sure รถแพงมาก พอคำนวนมา ซื้อรถใหม่ แบบ Yaris คุ้มกว่า ราคาถูกกว่าเต็มที่ก็ 4 แสน ไม่คุ้มครับ
        แสดงว่าคุณยังไม่ค่อยเข้าใจประเภทของรถ   ธรรมชาติรถปิคอัพหรือ PPV  มันออกแบบมาถึกทน สมบุกสมบันมากอยู่แล้ว  ใช้งานได้ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงต่ำ    ถ้าไม่ใช่กระบะไฮโซ        เพราะฉะนั้นรถปิคอัพหรือ PPV  ใช้งาน 10 ปี การซ่อมแซมค่อนข้างน้อย ถึงมืซ่อมก็ไมไ่ด้แพงหรือหนักหนาอะไร ส่วนมากอาการไม่จุกจิกหรือไม่ลุกลามต่อไปจุดอื่น     ถ้ารถไม่เคยชนมาหนักหรือเกิดปัญหาเครื่องฮีทเครื่องพังจากจุดอื่นมาก่อน  การซื้อมือ 2  ไม่ค่อยมีปัญหากับการซ่อมหรือจุกจิกซ่อมแบบรถเก๋งหรือรถยุโรปครับ 
อย่างผมใช้ Vigo Fortuner  ผมใช้เบนซินนะ      ตอนแรกที่ผมบอกเครื่องยนต์เบนซินวิ่งได้ขั้นต่ำ 1 ล้านกิโลเมตร เกียร์ Auto วิ่งได้ขั้นต่ำ 5-8 แสนกิโลเมตร  ถ้าเครื่องดีเซลขั้นต่ำ 2 ล้านกิโลเมตร  คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อ        ที่จริงหลักการไม่ได้มีอะไรมากก็ตามที่ยกตัวอย่างที่กล่าวมาเลย     การซื้อรถมือ 2 ไม่ได้น่ากลัว ถ้าดูเป็น  แต่ก็ต้องรู้จักรถและเข้าใจธรรมชาติของรถรุ่นนั้นๆ  ด้วย 

ถ้าไปใช้ค่าย Ford  Ranger เกียร์พังที่ 2- 3 แสนโล ท่ออินเตอร์แตกหลังจากหมดประกันไม่ใช่เรื่องแปลก
หรือไปใช้รถเก๋งยุโรป เตรียมค่าซ่อมปีล่ะ 1 แสนอย่างที่สมาชิกในนี้เาบอกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน
แต่เราต้องรู้จักรถ รุ่นนั้น ๆ ก่อน จะได้เตรียมตัวถูก


  เปรียบแค่ 3 ห่วง ก็ได้เพราะผมก็เคยใช้มาก่อน ใครว่า 3 ห่วงซ่อมถูก ถึกทน   จริงบางข้อและไม่จริงอีกหลายข้อ    เพราะโดยโครงสร้างรถเก๋งเล้กสู้ปิคอัพไมไ่ด้อยู่แล้วเรื่องความทนทานและค่าซ่อม       3 ห่วงไม่จุกจิกแต่เฉพาะเครื่องกับเกียร์  แต่ส่วนควบอื่นไม่ดีไปด้วย โดยเฉพาะช่วงล่างถ้าไม่เล่นของแท้หมดมักไม่ค่อยจบแบบยาว ๆ  ใช้ไม่ทนเท่าเดิม         ที่นิยมเพราะแท๊กซี่สมัยนั้นเอาไปทำและมีอู่เยอะ  เสียก็เข้าซ่อมอู่แท๊กซี่หาคันอื่นไปต่อ แต่รถบ้านอยากใช้ดีดีมันจะซ่อมแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว  ถ้าไม่ยอมรับสภาพจุกจิก
รถยิ่งเล็กการสึกหรอจะสูงกว่ารถใหญ่ในการใช้งานที่เหมือนกัน  มันเป็นไปตามทฤษฎีอยู่แล้วครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กันยายน 26, 2017, 16:07:24
ปล. แต่ไม่คิดอะไร  ดูรถเก่าไม่เป็นหรือไม่มีพื้นฐานเข้าใจรถเพียงพอ       รถใหม่ก็คือทางเลือกที่ดีที่สุดครับ 
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 26, 2017, 17:25:23
ถ้า มีเงิน 1,000,000 บาท
เลือกรถ
- 1,000,000 บาท -> Top C segment
- 800,000 บาท -> Entry C segment
- 600,000 บาท -> Entry B segment

คัน 1,000,000 บาท ใช้ 10 ปี ขายได้ 200,000 บาท สรุปเงินเหลือ 200,000 บาท
คัน 800,000 บาท ใช้ 10 ปี ขายได้ 150,000 บาท สรุปเงินเหลือ 350,000 บาท
คัน 600,000 บาท ใช้ 5 ปี ขายได้ 280,000 บาท แต่ระยะเวลาคือ 10 ปี จึงซื้อ 2 คัน สรุปเงินเหลือ 360,000 บาท

จากตัวเลขนี้
ผมจะเลือก 800,000 บาท ครับ เพราะ ระยะเวลา 10 ปี รถที่ segment สูงกว่าแลกกับเงินส่วนต่าง 10,000 บาท ผมยอมครับ

ขอมองต่างมุมนิด1ครับ     สำหรับผม ต่างกันมากกว่า10000ครับ....เงิน2แสนตลอดระยะเวลา10ปีผมสามารถทำให้เกิดดอกผลได้1-2แสน....ส่วนต่างค่าซ่อม5ปีหลังต่างกันอีก50000-1แสน
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Akeem-CLII ที่ กันยายน 26, 2017, 17:47:52
สำหรับผม คำนวนแล้ว ค่าเฉลี่ยต่อปี หายไปประมาณ 50,000 บาท ก็โอเคครับ
รถ segment ใหญ่กว่า ต้องเสียเงินมากกว่า อยู่แล้วครับ ค่าน้ำมันก็ด้วย

ตัวอย่างของบ้านผมนะครับ ไม่นับค่าบำรุงรักษา
Volvo 940 1,300,000 -> 300,000 ใช้ไป 14 ปี = 71,428 บาท/ปี
Nissan Neo 799,000 -> 240,000 ใช้ไป 11 ปี = 50,818 บาท/ปี
Mitsu strada 491,000 -> 230,000 ใช้ไป 7 ปี = 37,285 บาท/ปี (คนที่ซื้อต่อ ใช้ไป 10 ปี ขายได้ 150,000 คุ้มมาก)
Honda City 628,000 -> 250,000 ใช้ไป 9 ปี = 42,000 บาท/ปี
Honda Jazz(มือสอง) 450,000 -> 200,000 ใช้ไป 7 ปี = 35,714 บาท/ปี

ถ้าอยากได้ ก็ซื้อเถอะครับ แต่ละ segment น่าจะ ต่างกันไม่เกิน ปีละ 30,000 บาท ถ้าไม่มีปัญหา ก็น่าซื้อ
ที่สำคัญคือ ต้องดูรถตลาดๆ ที่มีอนาคตด้วยครับ ราคาขายต่อไม่ตกดีครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 26, 2017, 17:48:58
แต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ไปซี เซ็ก เลยนะครับ  ถ้าถูกใจมากๆก้ เอายุ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 26, 2017, 19:51:05
คนธรรมดา ทำงานประจำ ใช้งานทุกวัน เอาพวกBเพราะประหยัดน้ำมัน
ถ้าเกษียณแล้วเลือกเซ็กเม้นที่สูงกว่า เพราะต้องการความสบายเป็นหลัก อย่างอื่นเรื่องรอง
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 26, 2017, 20:09:21
ดีกว่ากันคือดีในแง่การเงินรึเปล่าครับ เพราะไม่สนการขับขี่ ไม่สนภาพลักษณ์บ้าบอคอแตกทั้งหลาย แบบนี้คิดง่ายเลย

ใช้รถที่ถูกที่สุดที่ดูแลง่ายที่สุดครับ7ปีขาย  แล้วซื้อใหม่ ทำแบบนี้ 21ปีใช้เงินไม่ถึงค่าเสื่อมรถดีๆ10ปีหรอกครับ ได้เปลี่ยนรถใหม่บ่อยกว่าด้วย

สมมติตอนนี้Camry 1.5ล้าน ผ่านไปสิบปีขายเหลือไม่ถึง5แสน เท่ากับหายไปล้านนึง

Ativ อีก7ป ข้างหน้า คงเหลือ 2-3แสนก็หายไปแค่ 2-3แสน ซื้อคันใหม่ทำแบบเดียวกันอีกสองครั้งก็หายไม่เกิน9แสน แถมได้รถใหม่ไม่ต้องซ่อมหนักด้วย

ใช่ครับ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ

ผมว่าขายรถปีที่ 6 ไป 7 คุ้มสุดแล้ว...อยู่ใน range 30-50% ได้

รองลงมา คือปีที่ 9 ไป 10 ครับ อันนี้ถ้ารถไม่เปนอะไร แต่มันก็ต้องขายเพราะประกันชั้น 1 อาจจะไม่ให้ทำแล้วก็ได้ครับ

ถ้าถามตัวผม ผมขอเลือกรถที่ตัวเองชอบดีกว่าครับ

ไม่เช่นนั้นจะเหมือนตัวผมเอง ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ผมมานั่งบวกส่วนต่างรถที่เสียไป (บางคันใช้ 8 เดือนขาย บางคันไม่ถึง 1 ปี ขาย)

ผมเสียเงินกับรถไป 7 หลักกลางๆ เพราะไปซื้อรถที่ตัวเองไม่ชอบ สุดท้ายก็จอดแช่ไม่ได้ใช้ แล้วก็ขายขาดทุนไป - -

จนสุดท้ายได้รถที่ตัวเองชอบ นี่ขับมา 1 ปีพอดี ยังไม่เบื่อเลยครับ ฟินทุกครั้งที่ได้ขับ

ผมตั้งคำถามกับตัวเองครับ ว่า ถ้าขยับไปใช้รถสูงขึ้นจะเป็นไง สุดท้าย ผมรู้สึกว่า

ถ้าผมไปกระบะ ถึงผมจะชอบรถสูงๆ ลุยๆ มาก แบบ D-max 1.9 Z AT 4 ประตู แต่ด้วยการใช้งานไม่เหมาะสมกับผมเลยครับ

เคยคิดมาหลายรอบเรื่องกระบะเพราะกลัวน้ำท่วม สุดท้าย เงินที่เพิ่มไป ผมว่ามันไม่คุ้ม เพราะการใช้งานผมอยู่ในเมืองครับ
ซอยแคบ ที่จอดรถน้อย ขับลำบาก

ผมว่ากระบะแพงไปมากจริงๆ ครับ ถ้าจำเป็นต้องใช้เพื่อทำงานขนของ ผมคงเอาตัว cab และมี Eco car คู่กันคุ้มกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 26, 2017, 20:15:01

 ด




ถ้าไม่เน้นว่าต้องป้ายแดงเท่านั้น     ผมก็ซื้อมือ 2 พวก Fortuner  ใช้ดีกว่า ในราคา 5-7 แสน  หรือเก๋งอย่างคัมรี่ 3-4 แสนบาท
ถ้าเน้นว่าต้องป้ายแดง เท่านั้น  คงต้องเลือกไปที่  Yaris Attract MZ2 sedan โดยใช้ประมาณ 7-10 ปี   เพราะงบประมาณเราไม่เยอะจะมาซื้อรถแพงกว่านี้มากก็ไม่ไ่ด้   มันถูกจำกัดที่ตัวเลือกด้านเงินไปเรียบร้อย

ผมไม่ค่อยชอบรถเก่าครับ เคยใช้ สามห่วง มาเมื่อนานมาแล้ว ไม่ไหวแล้วครับ...ขี้เกียจวิ่งไปอู่เอารถไปซ่อม
ถ้าซื้อคงเอารถ ใหม่ หรือไม่เก่ามาก พวกไม่เกิน 3 ปี

ผมเคยไปดู Toyota sure รถแพงมาก พอคำนวนมา ซื้อรถใหม่ แบบ Yaris คุ้มกว่า ราคาถูกกว่าเต็มที่ก็ 4 แสน ไม่คุ้มครับ
        แสดงว่าคุณยังไม่ค่อยเข้าใจประเภทของรถ   ธรรมชาติรถปิคอัพหรือ PPV  มันออกแบบมาถึกทน สมบุกสมบันมากอยู่แล้ว  ใช้งานได้ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงต่ำ    ถ้าไม่ใช่กระบะไฮโซ        เพราะฉะนั้นรถปิคอัพหรือ PPV  ใช้งาน 10 ปี การซ่อมแซมค่อนข้างน้อย ถึงมืซ่อมก็ไมไ่ด้แพงหรือหนักหนาอะไร ส่วนมากอาการไม่จุกจิกหรือไม่ลุกลามต่อไปจุดอื่น     ถ้ารถไม่เคยชนมาหนักหรือเกิดปัญหาเครื่องฮีทเครื่องพังจากจุดอื่นมาก่อน  การซื้อมือ 2  ไม่ค่อยมีปัญหากับการซ่อมหรือจุกจิกซ่อมแบบรถเก๋งหรือรถยุโรปครับ 
อย่างผมใช้ Vigo Fortuner  ผมใช้เบนซินนะ      ตอนแรกที่ผมบอกเครื่องยนต์เบนซินวิ่งได้ขั้นต่ำ 1 ล้านกิโลเมตร เกียร์ Auto วิ่งได้ขั้นต่ำ 5-8 แสนกิโลเมตร  ถ้าเครื่องดีเซลขั้นต่ำ 2 ล้านกิโลเมตร  คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อ        ที่จริงหลักการไม่ได้มีอะไรมากก็ตามที่ยกตัวอย่างที่กล่าวมาเลย     การซื้อรถมือ 2 ไม่ได้น่ากลัว ถ้าดูเป็น  แต่ก็ต้องรู้จักรถและเข้าใจธรรมชาติของรถรุ่นนั้นๆ  ด้วย 

ถ้าไปใช้ค่าย Ford  Ranger เกียร์พังที่ 2- 3 แสนโล ท่ออินเตอร์แตกหลังจากหมดประกันไม่ใช่เรื่องแปลก
หรือไปใช้รถเก๋งยุโรป เตรียมค่าซ่อมปีล่ะ 1 แสนอย่างที่สมาชิกในนี้เาบอกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน
แต่เราต้องรู้จักรถ รุ่นนั้น ๆ ก่อน จะได้เตรียมตัวถูก


  เปรียบแค่ 3 ห่วง ก็ได้เพราะผมก็เคยใช้มาก่อน ใครว่า 3 ห่วงซ่อมถูก ถึกทน   จริงบางข้อและไม่จริงอีกหลายข้อ    เพราะโดยโครงสร้างรถเก๋งเล้กสู้ปิคอัพไมไ่ด้อยู่แล้วเรื่องความทนทานและค่าซ่อม       3 ห่วงไม่จุกจิกแต่เฉพาะเครื่องกับเกียร์  แต่ส่วนควบอื่นไม่ดีไปด้วย โดยเฉพาะช่วงล่างถ้าไม่เล่นของแท้หมดมักไม่ค่อยจบแบบยาว ๆ  ใช้ไม่ทนเท่าเดิม         ที่นิยมเพราะแท๊กซี่สมัยนั้นเอาไปทำและมีอู่เยอะ  เสียก็เข้าซ่อมอู่แท๊กซี่หาคันอื่นไปต่อ แต่รถบ้านอยากใช้ดีดีมันจะซ่อมแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว  ถ้าไม่ยอมรับสภาพจุกจิก
รถยิ่งเล็กการสึกหรอจะสูงกว่ารถใหญ่ในการใช้งานที่เหมือนกัน  มันเป็นไปตามทฤษฎีอยู่แล้วครับ

สามห่วง มันไม่ได้ทนหมดนะคับ

อย่างผม ที่เจอ คือ อะไหล่ช่วงล่างแพงมาก ผมเลยเอารถไป ซ่อมลูกหมาก อัดโช๊ค สุดท้าย เน่าเลยครับ

ทำแค่ปีเดียวก็ไม่แน่นแล้ว มีเสียงครับ

แต่ผมขายรถไปก่อน

อีกอย่าง คือ ทำประกันได้แค่ 3+ 2+ เสี่ยงมากเลยครับ ตอนนั้นผมมือใหม่ด้วยไม่รู้ว่าผ่านมาได้ไงเหมือนกันครับ

สำหรับผม คำนวนแล้ว ค่าเฉลี่ยต่อปี หายไปประมาณ 50,000 บาท ก็โอเคครับ
รถ segment ใหญ่กว่า ต้องเสียเงินมากกว่า อยู่แล้วครับ ค่าน้ำมันก็ด้วย

ตัวอย่างของบ้านผมนะครับ ไม่นับค่าบำรุงรักษา
Volvo 940 1,300,000 -> 300,000 ใช้ไป 14 ปี = 71,428 บาท/ปี
Nissan Neo 799,000 -> 240,000 ใช้ไป 11 ปี = 50,818 บาท/ปี
Mitsu strada 491,000 -> 230,000 ใช้ไป 7 ปี = 37,285 บาท/ปี (คนที่ซื้อต่อ ใช้ไป 10 ปี ขายได้ 150,000 คุ้มมาก)
Honda City 628,000 -> 250,000 ใช้ไป 9 ปี = 42,000 บาท/ปี
Honda Jazz(มือสอง) 450,000 -> 200,000 ใช้ไป 7 ปี = 35,714 บาท/ปี

ถ้าอยากได้ ก็ซื้อเถอะครับ แต่ละ segment น่าจะ ต่างกันไม่เกิน ปีละ 30,000 บาท ถ้าไม่มีปัญหา ก็น่าซื้อ
ที่สำคัญคือ ต้องดูรถตลาดๆ ที่มีอนาคตด้วยครับ ราคาขายต่อไม่ตกดีครับ

ครับ ผมพอตั้งนโยบายว่าจะสมัครรับประกัน 5 ปี

ผมเริ่มรู้สึกว่า แบบนี้ผมใช้รถสัก 6-7 ปีขายคุ้มกว่า

แบบนี้ผมอาจจะไม่ต้องใช้ Toyota ก็ได้ เพราะถ้าไม่เข้าอู่นอก ซ่อมศูนย์ รถตลาด ยี่ห้อไหนก็คงไม่ต่างกันมาก (เว้น นิสสัน ที่รถจุกจิก)

เล็งๆ ไว้ว่า แบบนี้ ผมอาจจะไปคบ Honda หรือ Mazda ก็ได้ หรือ Mitsu (ไม่แน่ใจเรื่องราคาขายต่อ)
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กันยายน 26, 2017, 21:55:29
ซื้อพอที่มีกำลังส่งครับ ส่วนจะใช้ยาวกี่ปีนั้นไม่เคยคิดใช้ไปจนกว่าจะมีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ

+1 ซื้อรถ อย่าให้กระทบการเงินในบ้านครับ เอาเท่าที่จ่ายไหว เปลี่ยนเมื่อจำเป็น ตอนไหนก็ตอนนั้นครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Terng ที่ กันยายน 26, 2017, 22:10:04
ซื้อรถถูกแล้วใช้ 10 ปีคับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: supercat ที่ กันยายน 26, 2017, 22:36:32
มี choice ใช้รถถูก ลากยาวนานๆมั้ยครับ  :-* :-* :-*
หัวข้อ: Re: ระหว่าง ซื้อรถราคาแพงแล้วใช้ 10 ปี กับรถราคาถูกแต่ใช้ 5-7 ปี แบบไหนดีกว่ากันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slow But Sure ที่ กันยายน 27, 2017, 09:14:15
เวลาซื้อผมมองแค่ห้าปี ไม่เคยมองถึง10ปี
แล้วหลังจากห้าปีจะเก็บไว้มั้ย อันนี้จะตัดสินใจจากการใช้งานระหว่าง 5ปี