ออกตัวก่อนนะครับว่าได้ลองแค่ช่วงสั้นๆ และไม่มีรูปถ่ายมาให้ดูนะครับ เนื่องจากไปดูเองคนเดียว ทดสอบขับเองกับเซลอยู่กันแค่สองคน
อะ...เข้าเรื่อง
ตั้งแต่อุปกรณ์ตกแต่งและการออกแบบภายนอกต่างๆ ถือว่าปรับปรุงได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนๆ เช่น gen2 และ persona แต่ยังไม่คิดว่าภายในจะยังมีความหรูหราพอที่จะสู้กับเจ้าตลาดได้ ยังพอมีความก๊องแก๊งหลงเหลืออยู่บ้างบางส่วน
ภายนอกนี่ผมยอมรับเลยว่าออกแบบได้สวยขึ้นเยอะ ไฟหน้ามีไฟลูกแก้ว(เรียกไม่ถูก)ครบทุกรุ่น และมี led กับไฟตัดหมอกหน้าให้กับรุ่นกลางและรุ่นสูง นอกนั้นดูเหมือนกัน แต่หากมองข้างรถแบบเผินๆ แล้วคิดว่าเป็น city ทุกที
ภายในนี่จะรู้สึกแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างรุ่นกลางกับรุ่นสูง โดยถ้าคนที่ไม่คิดอะไรมาก ไม่เน้นลูกเล่น รุ่นกลางจะเหมาะมาก มีอุปกรณ์พื้นฐานให้มาครบครันดี ส่วนรุ่นท็อปจะมีของเล่นอะไรให้เล่นเยอะแยะเช่นสวิชต์ควบคุมที่พวงมาลัยต่างๆ ก้านปรับความเร็ว(ที่หยิบยืมมาจาก toyota) ระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์(ใช้ยากทั้งรุ่นที่มีและไม่มี) ปุ่ม push start ที่ต้องเสียบกุญแจใส่รูก่อนถึงสตาร์ทได้ แอร์ออโต้ ฯลฯ แต่มีจุดทีสังเกตุอีกอย่างหนึ่งคือก้านไฟกับที่ปัดน้ำฝนจะอยู่สลับกันกับรถญี่ปุ่นทั่วไป ซึ่งตอนผมขับครั้งแรกแล้วเปิดที่ปัดน้ำฝนเองทุกที - -"
เรื่องการขับขี่ ควบคุม ผมถือว่าช่วงล่างใช้ได้เลย ตอนวิ่งความเร็วต่ำๆ แบบคลานมีสะเทือนบ้างเล็กน้อย แต่ตอนที่อัดด้วยความเร็วสูงด้วยระยะทางสั้นๆ แล้วเปลี่ยนเลนกระทันไปหันมาพร้อมกับมีเบรคหัวทิ่มเพราะเลยสนามบ้างถือว่าผ่าน ตัวรถไม่โครงตัวมาก และไม่ย้วยเท่า camry รุ่นก่อนปัจจุบันที่ผมเคยขับอยู่
พวงมาลัยไม่คมและเบาโฮกฮากเท่า jazz แต่ก็ไม่นิ่งเท่า camry คิดว่าเดินทางไกลน่าจะได้ความสนุกกับมันบ้าง และไม่เหนื่อยกับมันเท่าไร
ต่อมาเรื่องเครื่องยนต์ ผมยอมรับเลยว่าเครื่อง 1.6 เทอโบนี่มาแรงดีจริงๆ เหยียบเป็นมา กระฉับกระเฉงแม้ไม่เหยียบมิด และถ้ายิ่งเล่นเกียร์ +- ด้วยยิ่งมันสุดๆ แต่ระบบเกียร์แบบปรับเองมีหน่วงนิดหน่อย ถ้าคุ้นชินจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ใครที่ชอบความสนุกในการขับขี่นี่ผมแนะนำเครื่อง 1.6 เทอโบเท่านั้นครับ เพราะถ้าไปเล่น 1.6 ธรรมดาแล้วความสนุกในการขับขี่หายไปเยอะเลย โดยเฉพาะช่วงที่อัดมิดนี่แทบไม่ค่อยพุ่ง ออกแนวอืดเลยล่ะ ขับ jazz ยังรู้สึกว่าพุ่งกว่า แถมใช้รอบเครื่องสูงกว่า 1.6 เทอโบนิดหน่อย อ้อ! มีข้อสังเกตุของ 1.6 เทอโบอยู่นิดนึงตอนเวลาที่ปล่อยคันเร่งเพื่อชะลอความเร็ว จะได้ยินเสียงวี้ๆ เหมือนพัดลมตัวเล็กๆ เป่าลมออกมาชัดเจนมาก และเป็นเฉพาะช่วงปล่อยคันเร่งชะลออย่างเดียว ไม่รู้ใช่เสียงเทอโบมันระบายหรือป่าว
สุดท้าย...เรื่องสีรถที่มีให้เลือกจะเป็น gray scale และมีสีฟ้าให้อีกหนึ่งสี ส่วนใครที่อยากได้สีแดงนั้นอดครับ สงสัยจะเก็บเอาไว้เปิดตัวช่วงกลางๆ ผมล่ะหงุดหงิดจริงๆ ที่ค่ายรถยนต์หลายค่ายที่ชอบเน้นแต่สี gray scale ไม่ก็สีทองแก่ๆ สำหรับรถที่รุ่นใหญ่ขึ้นมาหน่อยทุกที (แต่ละคันที่บ้านมีทั้งแดง ฟ้า และส้ม)
สรุป...หากใครที่กำลังมองรถระดับ C-Segment ราคาประหยัด ประสิทธิภาพการควบคุมและความแรงเกินตัว(เฉพาะเทอโบ) ไม่แคร์เรื่องภายในที่ก๊องแก๊งบ้าง ผมว่า Proton Preve เป็นทางเลือกที่เหมาะสมดีครับ ส่วนเรื่องบริการหลังการขาย และค่าอะไหล่นี่ผมไม่ทราบ รู้แต่ว่าเขามีประกันให้ 5 ปีแน่ะ
ถ้าให้ผมตัดสินใจ ณ เดี๋ยวนั้นเทียบกันกับ Lancer EX รุ่นต่ำสุดที่แพงกว่า Proton Preve ตัวท็อปประมาณสามหมื่น(มั้ง?) ผมเลือก Proton Preve ตรงที่มันขับสนุกกว่าจริงๆ (ในชีวิตจริงผมยังชอบขับ Jazz มากกว่า Camry เพราะมันสนุกและดูโปร่งกว่าแค่นั้น) แต่ถ้าเน้นเรื่องวัสดุอุปกรณ์ภายในนี่ผมยกให้ Lancer EX ครับ
ปล. บูท Proton เงียบมาก
ปล.2 เหตุผลที่เลือก Lancer EX มาเปรียบเทียบช่วงท้ายเนื่องจากได้ทราบข่าวมาว่าใช้โครงสร้างร่วมกันกับ Lancer EX ครับ
