รถวิ่งน้อย ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ หรือกึ่งดีครับ

[Amaranthe]

รถผมวิ่ง 6 เดือน ไม่ถึง 10,000 โล จะถ่ายน้ำมันเครื่องก็รอเช็คระยะ 6 เดือน เข้าศูนย์ทีเดียว
วิ่งในเมือง นอกเมืองพอๆ กัน ปกติใช้ น้ำมันเครื่องของศูนย์ ไม่ได้ซื้อไปเอง

มีคนบอกผมว่า จะใช้สังเคราะห์ หรือกึ่ง พอโดนความร้อนในเครื่องยนต์ ก็เสื่อมคุณภาพเหมือนกันแหละ ใช้กึ่งก็พอ ประหยัดเงิน

จึงอยากถามว่า
ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ หรือกึ่งสังเคราะห์ดี ถ้ารอ 6 เดือนเปลี่ยนที ผมอยากให้น้ำมันเครื่องช่วยดูแลเครื่องยนต์ได้ตลอด 6 เดือน ก่อนเปลี่ยน แต่ก็อยากประหยัดเงินเหมือนกัน

และถ้าจะซื้อน้ำมันเครื่องไปให้ศูนย์เปลี่ยน จะใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้ออไรดีครับ

[rut191]

ถ้ายังไง6เดือนก็ต้องถ่ายอยู่แล้ว กึ่ง ก็พอครับ

[Focuszaa]

ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่นะครับ

แต่รถผมก็ใช้น้อยครับ แต่ผมก็เลือกน้ำมันสังเคราะห์ แท้ ตลอด แพงกว่าก็จริงแต่ผมก็มั่นใจกว่าครับ

เคยอ่านในนี้ว่า น้ำมันเครื่องมีอายุการใช้งาน ถ้าไม่นับเป็น กิโลเมตร ก็ นับเป็นชั่วโมง สังเคราห์ แท้ประมาณ 150 ชั่วโมง

แต่รถผมนี่สักประมาณ 7000 -8000 นี่ก็เปลี่ยนแล้วครับ ขับไม่ไกลแต่รถผมขับในเมืองรถติดตลอด เลยเปลี่ยนก่อนตลอดครับ 

เดี๋ยวยังไงก็รอให้ผู้เชี่ยวชาญในนี้มาช่วยตอบอีกทีละกันครับ ^^

[kez]

 ก็แล้วแต่จะเลือก สังเคราะห์แท้ ยังไงมันก็ดีกว่า

 แต่อยากจะประหยัดก็ไม่เป็นไร กึ่งสังเคราะห์ ก็ใช้ได้

[adis]

รถที่ใช้งานน้อย เช่นจอดสามสี่วัน แล้วไปขับสามสี่วัน หรือใช้ทุกวันแต่วิ่งวันละไม่เกิน 40 กิโล เครื่องยนต์จะสึกหรอได้ง่ายกว่ารถที่ใช้งานประจำวันละหลายกิโลหรือรถที่วิ่งทางไกลใช้ความเร็วสูงเป็นระยะ ๆ ครับ
ในคู่มือรถบางรุ่นบางยี่ห้อก็จะบอกมานะ เช่น freed นี่จะบอกมาในคู่มือด้วยครับ เหตุผลเพราะ นมค . จะตกลงอ่างมาก มี นมค. ยึดเกาะชิ้นส่วนน้อย เวลาสตาร์ท เครื่องจึงสึกหรอง่ายกว่าครับ

ถ้าใช้รถน้อย ก็ควรใช้สังเคราะห์แท้เลยครับ กึ่งสังเคราะห์นั้น จริง ๆ เค้าแค่ผสมสารสังเคราะห์ไป 10 - 20 % เค้าก็เรียกว่ากึ่งสังเคราะห์แล้ว
นมค. สังเคราะห์แท้ จะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะชิ้นส่วนที่ดีกว่า และมีความเร็วในการขึ้นมาหล่อลื่นชิ้นส่วนมากกว่า

 แต่ขอบอกว่า นมค. สังเคราะห์แท้ ๆ จริง ๆ ในบ้านเรามีไม่กี่ยี่ห้อนะครับ นมค . สังเคราะห์จริง ๆ จะผลิตจากสารสังเคราะห์ที่เรียกว่า poly alpha olefin ( pao ) มีโมเลกุลขนาดเท่า ๆ กัน มีความสะอาดมากกว่าปิโตรเลี่ยม
  ส่วนใหญ่ นมค . หลาย ๆ ยี่ห้อในบ้านเรา จะผลิตจากปิโตรเลี่ยมซึ่งก็จะมีบางยี่ห้อที่ใช้ปิโตรเลี่ยม เกรดสูงหน่อย ( base oil 3 + )
แล้วนำมาผ่านกระบวนการจัดเรียงโมเลกุลให้เท่า ๆ กัน ซึ่งก็มีคุณภาพใกล้เคียงกับ pao แต่ราคาจะเบาลงมาหน่อยครับ แต่อีกหลาย ๆ ยี่ห้อ
ก็เป็นปิโตรเลี่ยมที่ไม่ได้จัดเรียงโมเลกุลให้เท่ากันนะครับ นมค. พวกนี้จะลื่นในช่วงแรก ๆ แต่พอใช้ไปราว 5000 - 6000 กิโล จะรู้สึก
เลยว่าเครื่องยนต์อืดแล้ว ไม่ลื่นเหมือนแรกใช้ เพราะมี parafin wax เกิดขึ้นในห้องเครื่อง

  ผมแนะนำให้ใช้เกรด pao 100 % หรือไม่ก็ไปใช้ แบบปิโตรเลี่ยมจัดเรียงโมเลกุล ก็ได้ครับ ถ้าคุณต้องการดูแลเครื่องยนต์ดี ๆ ซึ่งจะคุ้มค่ามากกว่าครับ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ส่วนตัวผมใช้ชนิด pao 100% ครับ เปลี่ยนถ่ายปีละครั้งพร้อมเปลี่ยนไส้กรอง นมค. ด้วยทุกครั้งครับ

 

ปล . นมค. ของศูนย์ส่วนใหญ่คุณภาพก็กลาง ๆ นะครับ ไม่ดีมากเท่าไหร่ เพราะเค้าก็ลดต้นทุนและหากำไรจากลูกค้า
ผมไม่ใช้ นมค. ของศูนย์เลยครับ หิ้วไปเองครับ อีกแย่างหนึ่ง นมค. สังเคราะห์แท้ จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้พอสมควรเลยครับ
 ถ้าสนใจว่ายี่ห้อไหน pm มาได้ครับ ( ผมไม่มีส่วนได้เสียนะครับ )

ผมขออนุญาติแนบลิงค์ที่ผมโพสความรู้เรื่อง นมค . มาให้อ่านกันนะครับ เพราะมีความเข้าใจผิดเรื่อง นมค. กันเยอะ
บทความนี้ผมรวบรวมมาจากหลายที่ ซึ่งต้องให้เครดิตผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
http://www.thaiciaz.com/index.php?topic=289.0

[jaesz]

รถใช้น้อย ที่ว่าน้อยนี่ คือ กิโลเมตร หรือ ชั่วโมงที่เครื่องทำงานล่ะครับ?

น้ำมันเครื่องมันเสื่อมด้วยชั่วโมงการทำงานของเครื่องยนต์ครับ ที่บริษัทรถบอกให้เราถ่ายทุกหมื่นโลเป็นการแปลงค่าเฉลี่ยทางสถิติมาเป็นกิโลเมตรเท่านั้นเอง

เอาเป็นว่า ขับแบบ รถติดไม่มาก รวม ๆในหกเดือนเครื่องยนต์ทำงานไม่เกิน 150 ชั่วโมง ใช้กึ่งสังเคราะห์แล้วก็ถ่ายทุกหกเดือนครับ เหลือเกินจะใช้ พอจะปกป้องได้กับรถที่ขับธรรมดา ๆทั่วไป

จะปกป้องดีไม่ดีก็อยู่ที่ชนิดและยี่ห้อน้ำมันที่คุณเอามาใช้ด้วยว่าบางหนา เคมีดีแค่ไหน

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ยี่ห้อดี ๆ ในปัจจุบัน ใส่น้ำมันเครื่อง GroupII GroupIIIรวม เกิน60% ก็มีขายแล้วครับ ไม่ต้องลำบากไปเอาของนำเข้ายี่ห้อแพง ๆมาใช้ หรือถ้าอยากได้น้ำมันสังเคราะห์แท้ที่มีGroup IV ผสมราคาไม่แพง ปตท บางจาก รุ่นสูงสุดก็ใส่มาแล้วครับ แบบนี้ก็ใช้ได้หกเดือนสบาย ๆ

ไอ้ที่ว่าน้ำมันเครื่องไหลไปนอนในอ่าง คือน้ำมันเกรดต่ำ ๆ ขาดการเติมadditive ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะที่เหมาะสมลงไป บางยี่ห้อเล่นง่าย ๆ ใส่ Ester ลงไปกับEmulsifier อย่างละนิดหน่อย มันก็แทบจะล้างออกจากโลหะไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจอดนานๆสตาร์ทแล้วเครื่องจะแห้งครับ หมดยุกแล้ว เอาไว้หลอกคนแก่ ๆสมัยยี่สิบปีก่อนโน่นพอจะยังได้อยู่  อยากรู้ว่าน้ำมันเครื่องที่ใช้เกาะบนโลหะดีแค่ไหน ก่อนสตาร์ทดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องดูก็ได้ครับ ก้านวัดแบบโลหะนะครับ ถ้าจับส่วนบน ๆ ว่ามันแห้งหรือมีน้ำมันอยู่

 

[ttum]

ใช้แบบไหนก็ได้ หรรือแบบธรรมดาก็พอ แค่น้ำมันเครื่องไม่แห้ง ไม่ต่ำกว่าlow เครื่องไม่พังหรอกครับ อย่าคิดมาก

[ismael]

กึ่ง
จบ
บ๊ายบาย

[2k]

รถที่ใช้งานน้อย เช่นจอดสามสี่วัน แล้วไปขับสามสี่วัน หรือใช้ทุกวันแต่วิ่งวันละไม่เกิน 40 กิโล เครื่องยนต์จะสึกหรอได้ง่ายกว่ารถที่ใช้งานประจำวันละหลายกิโลหรือรถที่วิ่งทางไกลใช้ความเร็วสูงเป็นระยะ ๆ ครับ
ในคู่มือรถบางรุ่นบางยี่ห้อก็จะบอกมานะ เช่น freed นี่จะบอกมาในคู่มือด้วยครับ เหตุผลเพราะ นมค . จะตกลงอ่างมาก มี นมค. ยึดเกาะชิ้นส่วนน้อย เวลาสตาร์ท เครื่องจึงสึกหรอง่ายกว่าครับ

ถ้าใช้รถน้อย ก็ควรใช้สังเคราะห์แท้เลยครับ กึ่งสังเคราะห์นั้น จริง ๆ เค้าแค่ผสมสารสังเคราะห์ไป 10 - 20 % เค้าก็เรียกว่ากึ่งสังเคราะห์แล้ว
นมค. สังเคราะห์แท้ จะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะชิ้นส่วนที่ดีกว่า และมีความเร็วในการขึ้นมาหล่อลื่นชิ้นส่วนมากกว่า

 แต่ขอบอกว่า นมค. สังเคราะห์แท้ ๆ จริง ๆ ในบ้านเรามีไม่กี่ยี่ห้อนะครับ นมค . สังเคราะห์จริง ๆ จะผลิตจากสารสังเคราะห์ที่เรียกว่า poly alpha olefin ( pao ) มีโมเลกุลขนาดเท่า ๆ กัน มีความสะอาดมากกว่าปิโตรเลี่ยม
  ส่วนใหญ่ นมค . หลาย ๆ ยี่ห้อในบ้านเรา จะผลิตจากปิโตรเลี่ยมซึ่งก็จะมีบางยี่ห้อที่ใช้ปิโตรเลี่ยม เกรดสูงหน่อย ( base oil 3 + )
แล้วนำมาผ่านกระบวนการจัดเรียงโมเลกุลให้เท่า ๆ กัน ซึ่งก็มีคุณภาพใกล้เคียงกับ pao แต่ราคาจะเบาลงมาหน่อยครับ แต่อีกหลาย ๆ ยี่ห้อ
ก็เป็นปิโตรเลี่ยมที่ไม่ได้จัดเรียงโมเลกุลให้เท่ากันนะครับ นมค. พวกนี้จะลื่นในช่วงแรก ๆ แต่พอใช้ไปราว 5000 - 6000 กิโล จะรู้สึก
เลยว่าเครื่องยนต์อืดแล้ว ไม่ลื่นเหมือนแรกใช้ เพราะมี parafin wax เกิดขึ้นในห้องเครื่อง

  ผมแนะนำให้ใช้เกรด pao 100 % หรือไม่ก็ไปใช้ แบบปิโตรเลี่ยมจัดเรียงโมเลกุล ก็ได้ครับ ถ้าคุณต้องการดูแลเครื่องยนต์ดี ๆ ซึ่งจะคุ้มค่ามากกว่าครับ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ส่วนตัวผมใช้ชนิด pao 100% ครับ เปลี่ยนถ่ายปีละครั้งพร้อมเปลี่ยนไส้กรอง นมค. ด้วยทุกครั้งครับ

 

ปล . นมค. ของศูนย์ส่วนใหญ่คุณภาพก็กลาง ๆ นะครับ ไม่ดีมากเท่าไหร่ เพราะเค้าก็ลดต้นทุนและหากำไรจากลูกค้า
ผมไม่ใช้ นมค. ของศูนย์เลยครับ หิ้วไปเองครับ อีกแย่างหนึ่ง นมค. สังเคราะห์แท้ จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้พอสมควรเลยครับ
 ถ้าสนใจว่ายี่ห้อไหน pm มาได้ครับ ( ผมไม่มีส่วนได้เสียนะครับ )

ผมขออนุญาติแนบลิงค์ที่ผมโพสความรู้เรื่อง นมค . มาให้อ่านกันนะครับ เพราะมีความเข้าใจผิดเรื่อง นมค. กันเยอะ
บทความนี้ผมรวบรวมมาจากหลายที่ ซึ่งต้องให้เครดิตผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
http://www.thaiciaz.com/index.php?topic=289.0

รบกวนช่วยระบุยี่ห้อและรุ่นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ๆมาทีครับ จะลองซื้อมาใช้มั่ง 

[Dubee]

สังเคราะห์แท้มันก้มีสองเกรด เกรดพรี่เมี่ยมกับเกรดธรรมดา แบบแรกก็พันห้าอัพ แบบที่สองหลังร้อยปลายๆยันพันกลางๆครับ
ยกตัวอย่างเชลล์ เฮนริก อุลตร้า 0w40 เบนซิน ราคาราวๆ 2000 นิดๆ กับเชลล์ เฮนริก HX8 5w40 เบนซินแค่พันต้นๆเองครับ สองตัวนี้สังเคราะห์แท้ 100% เหมือนกัน แต่เกรดต่างกัน ราคาจึงต่างกันครับ หรือถ้าคุณเป็นอีโคคาร์ ตัวนมค. เชลล์ เฮนริก HX8 0w20 เบนซิน แค่790 เองครับ เห็นไหมคตรับนมค.สังเคราะห์ถ้าคุรไม่เลือกเกรดพรีเมี่ยมก็จะได้ราคาถูกลงมา

ละทีนี้ใช้นมค.กึ่งสังเคราะห์หรือสังเคราะห์ดี ผมแนะให้เลือกอย่างหลังจะดีต่อเครื่องยนต์ที่สุดครับ วิ้งน้อย (ผมเองก็ใช้รถวิ้งน้อยครับ) เปลี่ยนทุกๆ 6 เดือนครับ

ผมใช้หลักว่า เรื่องรถยนตืโอเคหลาะมันต้องมีการบำรุงรักษา ผมจะใช้คติที่ว่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายครับ ดูแลรถทั้งทีใช้ของดีกว่าในราคาที่พอเอื้อมถึงไปเลย รถจะได้สภาพดีๆอยุ่ใช้งานกับเราไปนานๆครับ รถราคาไม่ใช่บาทสองบาทนะครับ เปลี่ยนหรือซ้อมทีหลายตัง เพราะแะนั้นดูแลให้อยู่ในสภาพดีดีที่สุดครับ

[Slipknot`]

ผมใช้กึ่งตลอดครับ
ปีนึงวิ่งไม่เกิน 12,000 เข้าเปลี่ยนถ่ายทุก6เดือน

[yourturle]

กึ่งพอ ครับ

[veturilo]

รถใช้น้อย ที่ว่าน้อยนี่ คือ กิโลเมตร หรือ ชั่วโมงที่เครื่องทำงานล่ะครับ?

น้ำมันเครื่องมันเสื่อมด้วยชั่วโมงการทำงานของเครื่องยนต์ครับ ที่บริษัทรถบอกให้เราถ่ายทุกหมื่นโลเป็นการแปลงค่าเฉลี่ยทางสถิติมาเป็นกิโลเมตรเท่านั้นเอง

เอาเป็นว่า ขับแบบ รถติดไม่มาก รวม ๆในหกเดือนเครื่องยนต์ทำงานไม่เกิน 150 ชั่วโมง ใช้กึ่งสังเคราะห์แล้วก็ถ่ายทุกหกเดือนครับ เหลือเกินจะใช้ พอจะปกป้องได้กับรถที่ขับธรรมดา ๆทั่วไป

จะปกป้องดีไม่ดีก็อยู่ที่ชนิดและยี่ห้อน้ำมันที่คุณเอามาใช้ด้วยว่าบางหนา เคมีดีแค่ไหน

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ยี่ห้อดี ๆ ในปัจจุบัน ใส่น้ำมันเครื่อง GroupII GroupIIIรวม เกิน60% ก็มีขายแล้วครับ ไม่ต้องลำบากไปเอาของนำเข้ายี่ห้อแพง ๆมาใช้ หรือถ้าอยากได้น้ำมันสังเคราะห์แท้ที่มีGroup IV ผสมราคาไม่แพง ปตท บางจาก รุ่นสูงสุดก็ใส่มาแล้วครับ แบบนี้ก็ใช้ได้หกเดือนสบาย ๆ

ไอ้ที่ว่าน้ำมันเครื่องไหลไปนอนในอ่าง คือน้ำมันเกรดต่ำ ๆ ขาดการเติมadditive ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะที่เหมาะสมลงไป บางยี่ห้อเล่นง่าย ๆ ใส่ Ester ลงไปกับEmulsifier อย่างละนิดหน่อย มันก็แทบจะล้างออกจากโลหะไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจอดนานๆสตาร์ทแล้วเครื่องจะแห้งครับ หมดยุกแล้ว เอาไว้หลอกคนแก่ ๆสมัยยี่สิบปีก่อนโน่นพอจะยังได้อยู่  อยากรู้ว่าน้ำมันเครื่องที่ใช้เกาะบนโลหะดีแค่ไหน ก่อนสตาร์ทดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องดูก็ได้ครับ ก้านวัดแบบโลหะนะครับ ถ้าจับส่วนบน ๆ ว่ามันแห้งหรือมีน้ำมันอยู่

สอบถามเป็นความรู้ครับ ถ้าอายุน้ำมันเครื่องนับจากระยะเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน
หยั่งงี้ถ้าเราใช้รถทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย แปลว่าแทบจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 6 สัปดาห์เลยใช่มั้ยครับ
ที่ถามหยั่งงี้เพราะรถทั่วๆไปในกรุงเทพฯ เช้าก็รถติดชั่วโมงครึ่ง เย็นก็จัดไปอีกชั่วโมงครึ่ง
ใช้งานรวมๆน่าจะ 3-4 ชั่วโมงต่อวันแน่ๆ เห็นเปลี่ยนๆกันก็หกเดือนหรือหมื่นโลเป็นส่วนใหญ่

[jaesz]

รถใช้น้อย ที่ว่าน้อยนี่ คือ กิโลเมตร หรือ ชั่วโมงที่เครื่องทำงานล่ะครับ?

น้ำมันเครื่องมันเสื่อมด้วยชั่วโมงการทำงานของเครื่องยนต์ครับ ที่บริษัทรถบอกให้เราถ่ายทุกหมื่นโลเป็นการแปลงค่าเฉลี่ยทางสถิติมาเป็นกิโลเมตรเท่านั้นเอง

เอาเป็นว่า ขับแบบ รถติดไม่มาก รวม ๆในหกเดือนเครื่องยนต์ทำงานไม่เกิน 150 ชั่วโมง ใช้กึ่งสังเคราะห์แล้วก็ถ่ายทุกหกเดือนครับ เหลือเกินจะใช้ พอจะปกป้องได้กับรถที่ขับธรรมดา ๆทั่วไป

จะปกป้องดีไม่ดีก็อยู่ที่ชนิดและยี่ห้อน้ำมันที่คุณเอามาใช้ด้วยว่าบางหนา เคมีดีแค่ไหน

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ยี่ห้อดี ๆ ในปัจจุบัน ใส่น้ำมันเครื่อง GroupII GroupIIIรวม เกิน60% ก็มีขายแล้วครับ ไม่ต้องลำบากไปเอาของนำเข้ายี่ห้อแพง ๆมาใช้ หรือถ้าอยากได้น้ำมันสังเคราะห์แท้ที่มีGroup IV ผสมราคาไม่แพง ปตท บางจาก รุ่นสูงสุดก็ใส่มาแล้วครับ แบบนี้ก็ใช้ได้หกเดือนสบาย ๆ

ไอ้ที่ว่าน้ำมันเครื่องไหลไปนอนในอ่าง คือน้ำมันเกรดต่ำ ๆ ขาดการเติมadditive ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะที่เหมาะสมลงไป บางยี่ห้อเล่นง่าย ๆ ใส่ Ester ลงไปกับEmulsifier อย่างละนิดหน่อย มันก็แทบจะล้างออกจากโลหะไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจอดนานๆสตาร์ทแล้วเครื่องจะแห้งครับ หมดยุกแล้ว เอาไว้หลอกคนแก่ ๆสมัยยี่สิบปีก่อนโน่นพอจะยังได้อยู่  อยากรู้ว่าน้ำมันเครื่องที่ใช้เกาะบนโลหะดีแค่ไหน ก่อนสตาร์ทดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องดูก็ได้ครับ ก้านวัดแบบโลหะนะครับ ถ้าจับส่วนบน ๆ ว่ามันแห้งหรือมีน้ำมันอยู่

สอบถามเป็นความรู้ครับ ถ้าอายุน้ำมันเครื่องนับจากระยะเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน
หยั่งงี้ถ้าเราใช้รถทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย แปลว่าแทบจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 6 สัปดาห์เลยใช่มั้ยครับ
ที่ถามหยั่งงี้เพราะรถทั่วๆไปในกรุงเทพฯ เช้าก็รถติดชั่วโมงครึ่ง เย็นก็จัดไปอีกชั่วโมงครึ่ง
ใช้งานรวมๆน่าจะ 3-4 ชั่วโมงต่อวันแน่ๆ เห็นเปลี่ยนๆกันก็หกเดือนหรือหมื่นโลเป็นส่วนใหญ่

ใช่ครับ

หลักการมันเป็นอย่างนี้

อายุน้ำมันที่ 100องศาเซลเซียส คือ 300  ชั่วโมง จะใช้จนมันหมดสภาพทุกหยด เอาครึ่งชีวิตพอคือ 150 ชั่วโมง คูรด้วยความเร็วเฉลี่ย 70 km/hr ก็เท่ากับว่าได้ระยะทาง 10,500 km

ผมมีเอกสารของFord ที่เป็นDiesel Truck คำนวนด้วย factor 20km/hr แต่กดอายุน้ำมัน 600 ชั่วโมง
แต่ละบริษัทก็มีเทคนิกการคำนวณต่าง ๆกันไป

รถที่วิ่งในกทม รถติด ๆวันละ 3ชั่วโมง เท่ากับว่าใช้ได้แค่ 50 วันเท่านั้นล่ะครับ ไปทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ก็ได้ประมาณ 10 สัปดาห์ คนที่ใช้รถกลุ่มนี้เอามาถ่าย6 เดือนหรือ 1 หมื่นโล ส่วนใหญ่พอวิ่งไปใกล้ๆสองแสนโล เครื่องจะหลวมจัด เพราะเจอแต่น้ำมันเป็นกรด หมดสภาพ โดยเฉพาะเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆที่เน้นเบา แต่ไม่ทน ไปดูแท๊กซี่เป็นตัวอย่างครับ ไม่มีคันไหนเครื่องไม่หลวม ปีเดียวก็ยกเครื่องกันแล้ว

[M-Titan Man@NacT]

หลักทางวิศวกรรม ถ่ายตาม ชม การทำงาน

แต่จะเอาคิดง่ายๆ แบบคนทั่วไป ใช้น้อย ถ่ายตามเวลา ใช้มาก ถ่ายตามระยะทาง

กึ่ง หรือ สังเคราะห์ อยู่ที่ความพอใจ และลักษณะการใช้งาน

[MC Stradale]

รถที่ใช้งานน้อย เช่นจอดสามสี่วัน แล้วไปขับสามสี่วัน หรือใช้ทุกวันแต่วิ่งวันละไม่เกิน 40 กิโล เครื่องยนต์จะสึกหรอได้ง่ายกว่ารถที่ใช้งานประจำวันละหลายกิโลหรือรถที่วิ่งทางไกลใช้ความเร็วสูงเป็นระยะ ๆ ครับ
ในคู่มือรถบางรุ่นบางยี่ห้อก็จะบอกมานะ เช่น freed นี่จะบอกมาในคู่มือด้วยครับ เหตุผลเพราะ นมค . จะตกลงอ่างมาก มี นมค. ยึดเกาะชิ้นส่วนน้อย เวลาสตาร์ท เครื่องจึงสึกหรอง่ายกว่าครับ

ถ้าใช้รถน้อย ก็ควรใช้สังเคราะห์แท้เลยครับ กึ่งสังเคราะห์นั้น จริง ๆ เค้าแค่ผสมสารสังเคราะห์ไป 10 - 20 % เค้าก็เรียกว่ากึ่งสังเคราะห์แล้ว
นมค. สังเคราะห์แท้ จะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะชิ้นส่วนที่ดีกว่า และมีความเร็วในการขึ้นมาหล่อลื่นชิ้นส่วนมากกว่า

 แต่ขอบอกว่า นมค. สังเคราะห์แท้ ๆ จริง ๆ ในบ้านเรามีไม่กี่ยี่ห้อนะครับ นมค . สังเคราะห์จริง ๆ จะผลิตจากสารสังเคราะห์ที่เรียกว่า poly alpha olefin ( pao ) มีโมเลกุลขนาดเท่า ๆ กัน มีความสะอาดมากกว่าปิโตรเลี่ยม
  ส่วนใหญ่ นมค . หลาย ๆ ยี่ห้อในบ้านเรา จะผลิตจากปิโตรเลี่ยมซึ่งก็จะมีบางยี่ห้อที่ใช้ปิโตรเลี่ยม เกรดสูงหน่อย ( base oil 3 + )
แล้วนำมาผ่านกระบวนการจัดเรียงโมเลกุลให้เท่า ๆ กัน ซึ่งก็มีคุณภาพใกล้เคียงกับ pao แต่ราคาจะเบาลงมาหน่อยครับ แต่อีกหลาย ๆ ยี่ห้อ
ก็เป็นปิโตรเลี่ยมที่ไม่ได้จัดเรียงโมเลกุลให้เท่ากันนะครับ นมค. พวกนี้จะลื่นในช่วงแรก ๆ แต่พอใช้ไปราว 5000 - 6000 กิโล จะรู้สึก
เลยว่าเครื่องยนต์อืดแล้ว ไม่ลื่นเหมือนแรกใช้ เพราะมี parafin wax เกิดขึ้นในห้องเครื่อง

  ผมแนะนำให้ใช้เกรด pao 100 % หรือไม่ก็ไปใช้ แบบปิโตรเลี่ยมจัดเรียงโมเลกุล ก็ได้ครับ ถ้าคุณต้องการดูแลเครื่องยนต์ดี ๆ ซึ่งจะคุ้มค่ามากกว่าครับ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ส่วนตัวผมใช้ชนิด pao 100% ครับ เปลี่ยนถ่ายปีละครั้งพร้อมเปลี่ยนไส้กรอง นมค. ด้วยทุกครั้งครับ

 

ปล . นมค. ของศูนย์ส่วนใหญ่คุณภาพก็กลาง ๆ นะครับ ไม่ดีมากเท่าไหร่ เพราะเค้าก็ลดต้นทุนและหากำไรจากลูกค้า
ผมไม่ใช้ นมค. ของศูนย์เลยครับ หิ้วไปเองครับ อีกแย่างหนึ่ง นมค. สังเคราะห์แท้ จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้พอสมควรเลยครับ
 ถ้าสนใจว่ายี่ห้อไหน pm มาได้ครับ ( ผมไม่มีส่วนได้เสียนะครับ )

ผมขออนุญาติแนบลิงค์ที่ผมโพสความรู้เรื่อง นมค . มาให้อ่านกันนะครับ เพราะมีความเข้าใจผิดเรื่อง นมค. กันเยอะ
บทความนี้ผมรวบรวมมาจากหลายที่ ซึ่งต้องให้เครดิตผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
http://www.thaiciaz.com/index.php?topic=289.0

ความรู้ใหม่ ขอบคุณครับ จริงๆผมก็แอบคิดมาเสมอเลยว่าวิ่งน้อยไม่จำเป็นต้องใช้สังเคราะห์แท้

[adis]

รถที่ใช้งานน้อย เช่นจอดสามสี่วัน แล้วไปขับสามสี่วัน หรือใช้ทุกวันแต่วิ่งวันละไม่เกิน 40 กิโล เครื่องยนต์จะสึกหรอได้ง่ายกว่ารถที่ใช้งานประจำวันละหลายกิโลหรือรถที่วิ่งทางไกลใช้ความเร็วสูงเป็นระยะ ๆ ครับ
ในคู่มือรถบางรุ่นบางยี่ห้อก็จะบอกมานะ เช่น freed นี่จะบอกมาในคู่มือด้วยครับ เหตุผลเพราะ นมค . จะตกลงอ่างมาก มี นมค. ยึดเกาะชิ้นส่วนน้อย เวลาสตาร์ท เครื่องจึงสึกหรอง่ายกว่าครับ

ถ้าใช้รถน้อย ก็ควรใช้สังเคราะห์แท้เลยครับ กึ่งสังเคราะห์นั้น จริง ๆ เค้าแค่ผสมสารสังเคราะห์ไป 10 - 20 % เค้าก็เรียกว่ากึ่งสังเคราะห์แล้ว
นมค. สังเคราะห์แท้ จะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะชิ้นส่วนที่ดีกว่า และมีความเร็วในการขึ้นมาหล่อลื่นชิ้นส่วนมากกว่า

 แต่ขอบอกว่า นมค. สังเคราะห์แท้ ๆ จริง ๆ ในบ้านเรามีไม่กี่ยี่ห้อนะครับ นมค . สังเคราะห์จริง ๆ จะผลิตจากสารสังเคราะห์ที่เรียกว่า poly alpha olefin ( pao ) มีโมเลกุลขนาดเท่า ๆ กัน มีความสะอาดมากกว่าปิโตรเลี่ยม
  ส่วนใหญ่ นมค . หลาย ๆ ยี่ห้อในบ้านเรา จะผลิตจากปิโตรเลี่ยมซึ่งก็จะมีบางยี่ห้อที่ใช้ปิโตรเลี่ยม เกรดสูงหน่อย ( base oil 3 + )
แล้วนำมาผ่านกระบวนการจัดเรียงโมเลกุลให้เท่า ๆ กัน ซึ่งก็มีคุณภาพใกล้เคียงกับ pao แต่ราคาจะเบาลงมาหน่อยครับ แต่อีกหลาย ๆ ยี่ห้อ
ก็เป็นปิโตรเลี่ยมที่ไม่ได้จัดเรียงโมเลกุลให้เท่ากันนะครับ นมค. พวกนี้จะลื่นในช่วงแรก ๆ แต่พอใช้ไปราว 5000 - 6000 กิโล จะรู้สึก
เลยว่าเครื่องยนต์อืดแล้ว ไม่ลื่นเหมือนแรกใช้ เพราะมี parafin wax เกิดขึ้นในห้องเครื่อง

  ผมแนะนำให้ใช้เกรด pao 100 % หรือไม่ก็ไปใช้ แบบปิโตรเลี่ยมจัดเรียงโมเลกุล ก็ได้ครับ ถ้าคุณต้องการดูแลเครื่องยนต์ดี ๆ ซึ่งจะคุ้มค่ามากกว่าครับ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ส่วนตัวผมใช้ชนิด pao 100% ครับ เปลี่ยนถ่ายปีละครั้งพร้อมเปลี่ยนไส้กรอง นมค. ด้วยทุกครั้งครับ

 

ปล . นมค. ของศูนย์ส่วนใหญ่คุณภาพก็กลาง ๆ นะครับ ไม่ดีมากเท่าไหร่ เพราะเค้าก็ลดต้นทุนและหากำไรจากลูกค้า
ผมไม่ใช้ นมค. ของศูนย์เลยครับ หิ้วไปเองครับ อีกแย่างหนึ่ง นมค. สังเคราะห์แท้ จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้พอสมควรเลยครับ
 ถ้าสนใจว่ายี่ห้อไหน pm มาได้ครับ ( ผมไม่มีส่วนได้เสียนะครับ )

ผมขออนุญาติแนบลิงค์ที่ผมโพสความรู้เรื่อง นมค . มาให้อ่านกันนะครับ เพราะมีความเข้าใจผิดเรื่อง นมค. กันเยอะ
บทความนี้ผมรวบรวมมาจากหลายที่ ซึ่งต้องให้เครดิตผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
http://www.thaiciaz.com/index.php?topic=289.0

ความรู้ใหม่ ขอบคุณครับ จริงๆผมก็แอบคิดมาเสมอเลยว่าวิ่งน้อยไม่จำเป็นต้องใช้สังเคราะห์แท้

ครับ ยินดีครับ ผมเองเคยเข้าใจผิดมาเยอะเลยครับ เลยไปหาความรู้มาจากหลายที่ที่เชื่อถือได้ จากกรมธุรกิจพลังงานก็มีครับ
แต่จำไม่ได้ว่าบทความไหน ก็ต้องขอให้เครดิตผู้รู้เหล่านั้นด้วย แล้วผมก็รวมความเข้าใจผิดไว้ครับ คราวก่อนลืมแนบลิงค์นี้ไปครับ

http://www.thaiciaz.com/index.php?topic=355.msg4005#msg4005

ผมได้เคยทดลองพิสูจน์มาแล้วด้วยครับ ก็เป็นไปตามที่ผู้รู้เค้าให้มาจริง ๆ เลยมาเปลี่ยน นมค. ที่ใช้ แล้วมาดูความคุ้มค่าประกอบกันไปด้วย
ก็เห็นว่า การใช้ นมค. คุณภาพดี ๆ แล้ว ราคามันอาจจะดูแล้วแพงกว่า นมค.เกรดรองลงมา แต่มันไม่ได้แพงกว่ามากมายเลยครับ
ซึ่งสามารถยืดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายไปได้ ปีนึงผมเปลี่ยนครั้งนึงครับ รถผมสองคัน วิ่งปีละ 10000 - 15000 กิโล เคยลากไป 25000
ยังคงมีความเสถียร ยังลื่นปกติ เนื้อน้ำมันยังไม่มีอาการข้นครับ  ผิดกับที่เคยใช้เกรดรอง วิ่งไปได้ 5000 - 6000 กิโล นี้รู้สึกเลยว่าเครื่องอืดขึ้น

[Amaranthe]

ขอขอบคุณทุกท่านมากครับ ได้ความรู้ที่ดีมาก ๆ เลย

[natthakona]

ผมใช้โททาลกึ่งสังเคราะห์กระป๋องเงินมาตลอด ก็โอเคนะครับ
ถ้าวิ่ง 6 เดือนน้อยกว่าหมื่นโลคุ้มเงินดี เปลี่ยนทีสบายกระเป๋า