จากที่ผมเจอมาในการทำทดองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ผมพบว่า ความเร็ว กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ตาม
ไม่ใช่ตัวบ่งชี้วัดว่า ขับเร็วเท่าไหร่ถึง ประหยัดน้ำมัน
แต่ปัจจัยที่สำคัญ อยู่ที่รอบเครื่องยนต์ ซึ่งมันจะเกี่ยวเนื่องมาจากอัตราทดเกียร์
อัตราทดเฟืองท้าย แถมยังมีเรื่องของน้ำหนักตัวรถ น้ำหนักบรรทุก ปริมาณของเหลวในระบบ
สภาพอากาศภายนอก ความดันลมยาง พฤติกรรมการขับ ลักษณะการเหยียบคันเร่งและเบรก
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่แวดล้อม และมีผลต่อตัวเลขความประหยัดน้ำมันทั้งสิ้นครับ
ทีนี้ ถ้านึกไม่ออก ว่าควรจะขับอย่างไรถึงจะประหยัด
ผมขอแนะนำดังนี้
1. ศึกษาส้นทาง และฟังข่าวจราจร ก่อนออกจากบ้าน
2. ขับในเมือง ตอนออกตัวจากไฟแดง เหยียบคันเร่ง เท่าที่เหมาะสม
3,000 รอบ/นาที เพียงพอแล้วที่จะเร่งให้รถออกตัวไปข้างหน้า อย่างว่องไว
ไม่โดนรถคันที่ตามมา ก่นด่าบุพการี พอความเร็วไต่ขึ้นไปถึงระดับที่เหมาะสม
และระยะห่างจากรถคันข้างหน้า มากพออย่างเหมาะสมต่อการเบรกกระทันหันที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว
ถอนคันเร่งลงมา เลี้ยงไว้ให้อยู่ในระดับ แตะๆ ความเร็ว ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
ยิ่งถ้าออกตัวเร็วมากๆ โอกาสแซงผ่านสี่แยกข้างหน้า ก็จะไวขึ้น แต่จะเปลืองน้ำมันขึ้นกว่าเดิมนิดนึง
ซึ่ง คุ้มค่ากว่า การออกตัวช้าๆ แล้วค่อยๆ คล้านไปติดไฟแดง อีกรอบ
3. ขับทางไกล รอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม อยู่ในช่วงตั้งแต่ 1,600 - 2,500 รอบ/นาที ณ เกียร์สูงสุด ครับ
ขึ้นอยู่กับว่า เป็นรถแบบไหน รุ่นไหน เพราะแต่ละรุ่น แต่ละคัน จุดที่ขับแล้วประหยัดไม่เหมือนกันครับ
4. เหยีบคันเร่ง นิ่งๆ แผ่วๆ เบาๆ กำลังดี ให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร
เหยียบมาก กินมาก เร็วมาก และอันตรายมาก
เหยียบน้อย กินน้อย แต่รถวิ่งช้า อันตราย น้อยหรือมาก ขึ้นอยู่กับว่ารถคันข้างหลัง รีบแค่ไหน ใหญ่คับฟ้าแค่ไหน
และคุณขับระวังเกินไปหรือไม่