Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ ธันวาคม 09, 2017, 01:01:34
-
เรื่องราวของวงการรถยนต์ ในรอบ10ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผมสนใจที่สุด ไม่ใช่ตัวรถ แต่เป็นตัวคน
นั่นก็คือ คุณ ซู สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี อดีตรองประธานบริหารฝ่ายขายของมาสด้า
ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าคือ หญิงเก่งแห่งวงการรถยนต์ คุณซู น่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ดังที่สุดในรอบ10ปีที่ผ่านมา
เธอได้รับการยกย่องว่าปั้นมาสด้าในประเทศไทย จนขายดี
แต่ผมกลับมองว่าที่มาสด้าพลิกฟื้นขึ้นมา เพราะ มาสด้า2 ไม่ว่าจะเอาใครมานั่งบริหารแทนคุณซู ผลลัพธ์มันก็จะเป็นเช่นเดียวกัน
ผมมองว่าวงการรถยนต์ ตัวรถที่ถูกออกแบบมาอย่างดีตั้งแต่แรก นั้นสำคัญกว่าคนที่มานั่งบริหารในประเทศไทย
คุณซู แค่โชคดีที่ได้อยู่ในตำแหน่งบริหารระดับสูงในช่วงเวลาที่มาสด้า2 มันถูกสร้างขึ้นมาขายพอดี
และชื่อเสียงของเธอก็พีคสุดๆ จนถูกนิสสันซื้อตัวไป ในช่วงราวๆเดือนสิงหาคมปี 2558
ผมจึงเริ่มติดตามดูผลงานของคุณซูมาตลอด ผมรอดูว่ามาสด้าจะย่ำแย่ลงหรือไม่ เมื่อคุณซูได้ลาออกไป และนิสสันจะผงาดขึ้นมายิ่งใหญ่ในประเทศไทยได้รึไม่ เมื่อได้ตัวคุณซูไปนั่งบริหาร
ผลลัพธ์ตลอด2ปีที่ผมได้ติดตามมาตลอดก็คือ ตั้งแต่นิสสันได้คุณซูไป ก็มีแต่สาละวันเตี้ยลง ในขณะที่มาสด้าเมื่อไร้เงาคุณซู กลับทำยอดขายได้มากขึ้นกว่าเดิม
ทำไมเรื่องราวมันถึงกลับตาลปัตรไปได้แบบนี้
ถ้าสื่อมวลชน ใช้ตรรกะเดียวกันกับที่เคยบอกว่า มาสด้าขายดีเพราะคุณซู วันนี้นิสสันขายตกอย่างย่ำแย่เพราะคุณซู รึไม่ ?
ตัวผมเองนั้นคิดว่า การเจริญรุ่งเรืองของมาสด้าในรอบ10ปีมานี้ และการตกต่ำของนิสสันใน3ปีที่ผ่านมา มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผู้บริหารเลย
ทุกอย่างมันจะขายได้ หรือขายไม่ได้ นั้นอยู่ที่ตัวรถล้วนๆ ในเมื่อมาสด้าออกแบบรถมาถูกใจคนไทย มันก็ขายดี จะเอาใครมานั่งบริหารมันก็ขายดี
ส่วนนิสสันเมื่อออกแบบรถมาไม่ถูกใจคนไทย ยอดขายก็เน่าอย่างที่เห็น ต่อให้เอาใครมาบริหารก็ไม่มีประโยชน์
วันนี้ผมไม่เห็นสื่อสำนักไหน พูดถึงชื่อของ คุณซู สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี อีกเลย
-
แต่น่าแปลก Nissan-Renold กลับเติบโตสุดๆที่ตลาด ตปท.
ขณะที่ไทยห้อยอันดับท้ายๆเลย
-
ยอดขายดีๆ นั้นเกิดจากหลายส่วนครับ ฝ่ายขายที่เข้มแข็ง ฝ่าย R&D ที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม ฝ่ายการตลาดที่มีความสามารถ ฝ่ายผลิตที่มีประสิทธิภาพ ฝ่ายจัดการที่ยอดเยี่ยม ceo เป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นครับ มีหน้าที่ในการบริหารให้ฝ่ายต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างดี ออกมาเป็นยอดขาย และทำตามนโยบายของกรรมการที่ได้รับมาจากผู้ถือหุ้น และเปรียบเสมือนหน้าตาของบริษัท
หากคุนเข้าใจตรงนี้ ยอดขายที่ดีในวันนี้เกิดจากชุดการกระทำที่ถูกต้องต่อเนื่อง ช่วงระยะเวลาหนึ่งและนานเพียงพอ ในอดีต ดังนั้นผมมองว่าเรื่องที่คุณพูดอาจจะเป็นไปได้ทั้งใช่ และไม่ใช่ครับ ปัญหายุ่งยากในบริษัทนั้นเป็นสิ่งที่ ceo ทุกคนต้องแก้ปัญหากันทุกบริษัทอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้นำ หรือบริษัทรอง
มีงานวิจัยนะครับ ว่าการพิจารณาความสามารถของการเปลี่ยนฝ่ายจัดการที่มีความสามารถบางครั้งอาจต้องใช้เวลาถึง 4-5 ปี โดยเฉลี่ย ดังนั้นแค่ 2 ปี ยังบอกไม่ได้ครับ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีความใกล้ชิดกับ ceo คนนั้น คุณถึงจะตรวจสอบถึงการไม่มีความสามารถของเขาได้ และการพูดถึงคนๆ เดียวนั้นอาจจะไม่ถูกต้องนัก แบบนี้ต้องว่ากันด้วยผู้บริหารทั้งชุดครับ
แปลง่ายๆ นะครับ คือ ความสำเร็จของมาสด้าเกิดจากหลายฝ่ายที่เข้มแข็ง คุณซู เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น (สื่อก็ว่ากันไป ไม่จำเป็นว่าจะต้องถูก)
ส่วนนิสสันที่ตกต่ำก็เป็นเพราะหลายฝ่ายของนิสสันเองที่อ่อนแอ ทำงานกันไม่มีประสิทธิภาพ คุณซู เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เช่นกัน
-
เห็นด้วยแต่ไม่ทั้งหมดครับ ขายดีไม่ดีผมให้เครดิตกับตัวรถ 80% ตัวรถถูกจริตกับผู้บริโภค(ต้องยกความดีให้ทีมออกแบบ) คือเห็นแล้วอยากซื้อ ได้ลองขับแล้วมีความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของ แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ซื้อที่...
-ซื้อเพราะกระแส จากคนส่วนมากและคนในครอบครัว
-ซื้อเพราะเทคโนโลยีและความปลอดภัย
-ซื้อเพราะส่วนลด
-ซื้อเพราะความชอบล้วนๆ
-ซื้อเพราะบริการหลังการขาย(อันนี้ผู้บริหารมีบทบาทอย่างยิ่ง)
-
แต่ดูจากฟีดแบ็คช่วงนี้แล้ว ปัญหารถที่เกิดจากวิธีใช้งานและความต้องการน้ำมันคุณภาพสูง
และอื่น ๆ ที่่เจ้าของต้องพยายามเข้าใจและเอาใจรถแล้ว เกรงว่ารถมันจะทำลายแบรนด์ด้วยตัวมันเองเอาน่ะสิครับ
ผมเฝ้าตามอ่านคอมเม้นท์มาเงียบ ๆ แล้วนึกในใจอย่างนึงคือปัญหาพวกนี้เป็นปัญหาด้านเทคโนโลยี
ที่ต้องเป็นทีมพัฒนาจากบริษัทแม่ต้องเข้ามาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาทางแก้ไขครับ
มันไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดจากทางฝั่งโรงงานหรือผู้ผลิตชิ้นส่วนที่จะให้ทางฝั่งโรงงานในท้องถิ่นแก้ไขกันเอง
เท่าที่ผ่านมา วิศวกรมาสด้าเก่งในแง่นวัตกรรมใหม่ ๆ แต่ก็มักตอบสนองกับแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ ทีรักการขับรถ
เข้าใจรถและยอมรับความจุกจิกวุ่นวายในการดูแลรถได้ แต่จะไม่ครอบคลุมถึงคนหมู่มากที่ใช้งานรถอย่างเดียว
ข้อจำกัดหรือข้อระวังต่าง ๆ มันมากเกินกว่าที่เขาจะต้องมาเข้าใจรถ และทุกอย่างต้องมีคนดูแลให้ (ช่างที่ศูนย์)
โดยที่ตัวเองใช้อย่างเดียว จ่ายตังค์แล้วทุกอย่างต้องแก้ให้ได้
แต่บังเอิญว่าช่วงหลัง ๆ นี้ ความสวยของรถกับราคามันดึงดูดลูกค้ากลุ่มหลังเข้ามาเยอะน่ะสิครับ
ยังไงก็เป็นแบบที่พี่ ๆ ข้างบนพูดแหละครับว่า 2 ปีมันเร็วไปที่จะตัดสินครับ
-
ในมุมผู้ใช้
มีโอกาสได้ใช้บริการทั้งสอง brand. ในช่วง. 5ปีที่ผ่านมา
ตัวรถนี่ไม่ประทับใจทั้งคู่แต่mazdaดูมีการปรับปรุงเรื่อง designและoption การบริการดูมั่วๆทั้งคู่ แต่ให้นิสสันแย่กว่าเนื่องจากเครมยากลีลามาก แถมตอนออกบอกว่าแถมประกันตอนออกให้เลขอะไรมาาสักอย่างบอกซื้อแล้วรอรับกรมธรรม์ ผ่านไป3เดือนโทรตามบอกลืมซื้อให้ แถมเอารถไปจดทะเบียนทั้งๆที่ติ้กว่ารอทะเบียน (ซื้อสด) สุดยอดแห่งความไม่เอาใจใส่ ทั้งหมดส่วนหนึ่งก็ต้องโทษทางผู้บริหารที่ไม่มีการกำกัการทำงานของdealerอย่างเพียงพอทำให้เสียชื่อมาก
ข้อสรุปรือNissan ไม่เอาอีกแน่นอน ส่วน Mazda. ยังเปิดโอกาสถ้ามีรุ่นที่ตอบโจทย์
-
ความสำเร็จของบนิษัทรถ มีมากกว่าผู้บริหารกับรถ
ตัวแปรอื่นๆมีอิทธิพลมากกว่า เช่น นโยบายจากบริษัทแม่ เครือข่ายผู้แทนจำหน่าย ฯลฯ
ผมมองว่ากรณี mazda ได้ผลิตภัณฑ์ที่ได้เปรียบ บวกการบริหารที่ดีก็าวยเสริมกันไป
กรณี nissan อาจจะถึงขั้นใครมาทำก็ไม่รอดก็เป็นได้
สิ่งที่เราไม่รู้คือผู้บริหารคนไทย มีโอกาสได้ออกความเห็นแค่ไหน เพราะยังไงเจ้าของบริษัทก็เป็นต่างชาติอยู่ดี
-
ผมว่านะจะมีหลายองค์ประกอบนะครับ
ตัวProduct ก็อาจจะเป็นหลักอย่างที่ท่าน จขกท ว่าไว้
แต่เรื่องคน การบริหาร การตลาด Service ต่างๆ ผมว่าก็มีส่วน
ก็อย่างว่า เวลาผู้บริโภคเลือกรถ ก็มีตั้งหลายเหตุผล ขึ้นกับใครให้น้ำหนักส่วนไหนมากกว่ากัน
-
ก็จริงครับ นิสสันไม่มีการพัฒนาเลย เดือดร้อนถึงคนใช้ จากการบริการด้วย จนต้องขายออกไปนราคาที่ช้ำใจสุดๆ
-
รถดีมากๆ ถึงการตลาดไม่ดี ก็ยังขายได้ เหมือน Mazda ช่วง 10-15 ปี ที่เติบโตในไทยครับ
ส่วนรถที่ไม่เด่น แบบ Nissan ต่อให้เอา Messi, Ronaldo มาโปรโมต ก็คงไม่เติบโตมากมายมาก
ที่ Mazda โตในไทยมากๆ ก็ต้องชมผู้บริหารด้วย แต่รถทั้งค่าย ไม่ได้มีคุณซูบริหารอยู่คนเดียว
R&D ใช้เงินปีนึงเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท ถ้าแค่เปลี่ยนผู้บริหารคนเดียวแบบ Nissan แล้วมันเติบโตได้ ผู้บริหารคงมีค่าตัวเป็นพันล้านหมื่นล้านแล้วครับ
-
ตะวัน คำฤทธิ์ จาก MIT (Subaru Thailand)
ก็มีป้ายพนง.ห้อยคอ Nissan แล้ว เห็นมากับตา
ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำว่า เสริมทัพได้ไหม
แต่ที่แน่ๆ คนนี้ลูกค้า XV เอือมระอา
-
เก๋งนิสสันดับเพราะเกียร์ cvt พังง่ายครับ และ พัดลมดับ
บอกต่อๆกันใครจะกล้าซื้อ
ส่วนเก๋งฟอร์ด ถึงขั้น ฉิบหxx ตามเกียร์ พาวเวอร์ฉิบหxx
-
รถก็ส่วนหนึ่ง คนก็ส่วนหนึ่ง ครับ
รถดีแค่ไหน แต่การตลาดไม่ดี ไม่ชูจุดเด่น มันก็ไปไม่รอดหรอกครับ
กลับกัน
รถก็งั้นๆ แต่การตลาดดี บริการหลังการขายดี มันก็ไปได้นะ ดู Toyota / Honda / Isuzu สิครับ
อีกอย่าง คนเก่งแค่ไหน แต่ถ้าทีม ไม่เอาด้วย มันก็ประสบความสำเร็จยากครับ
-
อ่านเสร็จแล้วสงสาร Nissan เลย
เหลือบไปดูยอดขายทั้งปี อ้าว Nissan-อันดับ5 ,Mazda-อันดับ7
-
ที่งงมากๆ คือคุณซูนามสกุลอะไรครับ ละอองทองหรือโฉมทองดี หรือละอองทองเป็น Middle Name
-
จริงอยู่ที่ว่ารถมันขายได้ด้วยตัวมันเอง แต่การบริหารงานบริการหลังการขายก็สำคัญครับ
รถดี แต่บริการหลังการขายไม่ดี คนก็ซื้อน้อยครับ
เท่าที่สังเกต รถที่ดีปานกลาง แต่บริการหลังการขายดี กลับขายได้เยอะกว่า
เพราะสิ่งสำคัญที่ลูกค้าทุกคนต้องการจากสินค้าที่เค้าซื้อ ไม่ว่าจะสินค้าอะไรก็ตามก็คือ "ความเชื่อมัน"
-
ทำไมไม่คิดว่าเป็นส่วนนึงที่คุณ สุรีย์ทิพย์ วางระบบไว้แล้ว และัวางแผนงานมาแล้วผลมันออกดอกต่อยอดมาถึงปัจจุบัน
-
^^ พูดถูกครับ รถดีออกแบบสวยแต่คนขายและศูนย์บริการแย่ก็ยังพอขายได้ แต่ถ้ารถไม่สวยแถมศุนย์บริการแย่อีกต่อให้ลดราคาก็ขายคงไม่ออก นิสสันต้องโละทีมออกแบบใหม่หมด ออกแบบให้เข้ากับยุคสมัยไม่ใช่ยึดติดแต่ภาพเดิมๆเคนดีไซน์อะไรนั่น ::)
-
อ่านเสร็จแล้วสงสาร Nissan เลย
เหลือบไปดูยอดขายทั้งปี อ้าว Nissan-อันดับ5 ,Mazda-อันดับ7
อย่าว่าแต่คุณเลย ผมก็งง Nissan มีปัญหารอบด้าน คนส่วนใหญ่บ่นทุกรุ่นที่ Nissan ขายในไทย แต่ละรุ่นลากขายมาหลายปีรอเปลี่ยนโมเดลเชนจ์ยังขายได้ขนานนี้ ผมรอดูปีหน้ารถรุ่มใหม่ของ Nissan กำลังจะทยอยเปิดตัวน่าจะขายได้เยอะกว่านี้แน่ อย่างน้อย e-power น่าจะได้ยอดขายอยู่พอสมควร
-
สำหรับสินค้าทุกอย่างครับ ออกแบบสวยซื้อ ไม่เคยนึกถึงเรื่องอื่นๆ แต่กับพวกครีมล้างหน้าครีมทาหน้า จะซื้อเฉพาะตัวที่ไม่ใช้ดาราเป็นนายแบบ สินค้าตัวไหนที่ใช้ดาราหน้าซ้ำๆกับสินค้าตัวอื่นเป็นคนบอกขาย ผมงดซื้อทันที รถก็เกี่ยวด้วยครับ นิสสันโน้ต รถสวย ถูกใจ แต่ให้ซื้อคงไม่ เพราะเบื่อดาราคนที่มาเป็นนายแบบ
-
ขายตลาดไทย สิ่งแรกและหลักๆเลย สวยไหม ถ้าสวยโดนใจขายได้ครับ
nissan design generationนี้กับตลาดไทยน่าจะจบแล้วครับ คงต้องปรับแผนรอรับกับnew genที่อาจจะมีอนาคตกว่า
mazda designนี่มาถูกทางครับยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเยอะ
โจทย์เรื่องdesignให้ถูกจริตคนทั่วโลกนี่ก็ลำบาก เพราะรถยนต์ใช้global modelกันหมดแทบทุกยี่ห้อรุ่นอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเน้นเอาใจตลาดหลักของค่ายนั้นๆอยู่ดี
-
นิสสัน มีรุ่นรถ ขายมากกว่า มาสด้า ยอดรวม ยังไงก็มากกว่า. ต้องเทียนรุ่น ชน แล้วจะเห็นภาพ
-
บริษัทมือถือค่ายนึงก็เอาคนต่างชาติ ที่คิดแต่จะเอากำไรมาบริหาร
สุดท้ายจากเบอร์2 กลายเป็นเบอร์3 ในตลาด nissan อนาคตคงไม่ต่างกัน
โตต้าที่เป็นเบอร์1ได้ทุกวันนี้ถ้าไม่นับเรื่องความคงทนตัวโปรดักแล้วสิ่งที่ทุกคนก่อนซื้อรถ
นึกถึงต่อคือมี service ที่ดี มันก็อยู่ในนโยบายการบริหารนั้นละครับ
-
เก๋งนิสสันดับเพราะเกียร์ cvt พังง่ายครับ และ พัดลมดับ
บอกต่อๆกันใครจะกล้าซื้อ
ส่วนเก๋งฟอร์ด ถึงขั้น ฉิบหxx ตามเกียร์ พาวเวอร์ฉิบหxx
ลองดูยอดขายอัลเมร่าในกระทู้ข้างล่างก่อนนะครับ รถปลายอายุตลาดข้าวของติดรถก็ธรรมดา แต่ยังอยู่อันดับ4ห่างอันดับ3แค่หลักสิบคัน ทิ้งอันดับ5เป็น100คัน ผมยังทึ่งเลยทำได้ไงหว่า
-
ผมไม่ออกความเห็นเรื่อง บุคคลท่านนั้นนะ แต่แค่มีข้อสังเกต เกี่ยวกับยอดขายรถ ทั้ง 2 ยี่ห้อ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คุณคนนั้น ย้ายจาก Mazda มาอยู่กับ Nissan เมื่อไหร่
...................................Mazda........Nissan
10 เดือนแรก 2555.......59,372.......92,730 ** ยอดขายเพิ่มพิเศษ เพราะนโยบายรถคันแรก **
10 เดือนแรก 2556.......45,657.......82,501 ** ยอดขายเพิ่มพิเศษ เพราะนโยบายรถคันแรก **
10 เดือนแรก 2557.......29,002.......48,800
10 เดือนแรก 2558.......29,641.......39,952
10 เดือนแรก 2559.......34,827.......34,044
10 เดือนแรก 2560.......40,081.......47,214
-
เดี๋ยวบางคนจะงง ปีก่อนๆ เอายอดแค่ 10 เดือน มาดูทำไม ทำไมไม่ดูยอดทั้งปี ?? ... มาละ
.....................................Mazda........Nissan
ยอดทั้งปี 2555..............73,764.....123,850 ** ยอดขายเพิ่มพิเศษ เพราะนโยบายรถคันแรก **
ยอดทั้งปี 2556..............52,914.......98,187 ** ยอดขายเพิ่มพิเศษ เพราะนโยบายรถคันแรก **
ยอดทั้งปี 2557..............34,326.......59,220
ยอดทั้งปี 2558..............39,471.......51,193
ยอดทั้งปี 2559..............42,537.......42,677
10 เดือนแรก 2560.........40,081.......47,214 ****
-
เก๋งนิสสันดับเพราะเกียร์ cvt พังง่ายครับ และ พัดลมดับ
บอกต่อๆกันใครจะกล้าซื้อ
ส่วนเก๋งฟอร์ด ถึงขั้น ฉิบหxx ตามเกียร์ พาวเวอร์ฉิบหxx
ลองดูยอดขายอัลเมร่าในกระทู้ข้างล่างก่อนนะครับ รถปลายอายุตลาดข้าวของติดรถก็ธรรมดา แต่ยังอยู่อันดับ4ห่างอันดับ3แค่หลักสิบคัน ทิ้งอันดับ5เป็น100คัน ผมยังทึ่งเลยทำได้ไงหว่า
ผมดูแล้วอันดับ 3 4 5 พอๆกันครับ เกียร์ cvt เหมือนกันถ้าจำไม่ผิดลูกเดียวกันด้วย คือถ้ามันจะพังคงไม่ต่างกัน
ดูเก๋งใหญ่หน่อย
ซีฟี่ขายได้ 76 คัน เทียร์น่า 35 คัน ห่างที่๑ กี่สิบเท่า
-
ก็ต้องดูว่ามาสด้ายอดจะลดจากปัญหาเครื่องดีเซลมาสด้า2ไหม แต่ตอนนี้ HRV โดนพังหน้าบูทไปแล้ว
-
อ่านเสร็จแล้วสงสาร Nissan เลย
เหลือบไปดูยอดขายทั้งปี อ้าว Nissan-อันดับ5 ,Mazda-อันดับ7
ผมว่ามันดูแต่ยอดขายไม่ได้ครับ เพราะ nissan product เยอะ กว่า mazda มากก แทบจะพอๆ กับ toyota เลย
ทั้ง march, almera, note, sylphy, pulsa,juke,livana,teana,x-trail,navara, van urban
ต้นทุน nissan น่าจะเยอะกว่า mazda พอสมควร จะดูจริงต้องดูผลกำไร แต่ก็ไม่มีใครมีข้อมูลตรงนี้
-
ต้องให้ฮีโร่อย่างกรอสมาแล้วครับ สำหรับตลาดเมืองไทย
ปล
คุณจะรู้ได้อย่างไร ถ้าไม่มีคุณชูอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้จริงมั๊ย
-
สังเกตเหมือนกันครับ
คิดเหมือนเจ้าของกระทู้เลยครับ
-
คหสต.
มองว่า รถมีส่วนไม่เกิน 50% ขอแค่รถคันนึงออกมาถูกจริตคนซื้อ ออฟชั่นไม่ขี้เหร่มากนัก ก็ไปได้แล้ว ดูง่ายๆ เช่น toyota,isuzu ซึ่งมันทำให้เห็นว่า บริการหลังการขาย แลความเชื่อมั่นต่างหาก ที่เป็นตัวขาย หรือ ส่งเสริมให้ product นั้นไปได้
รถขับดี ช่วงล่างดี ออฟชั่นเยอะๆ หน้าตาวาบหวิว ฉาบฉวย แต่ศูนย์บริการ กับ บริการหลังการขาย ไม่ดี มันทำให้ product ดีๆ ตายมานักต่อนักล่ะ
สมมุติว่า C Seg สัก 1 คัน ให้รถฟรี ใช้งานแล้วไม่พังตลอดอายุการใช้งาน ไม่มีปัญหาจุกจิกใดๆ ทั้งสิ้นเลย เติมน้ำมันวิ่งอย่างเดียว ผมไม่เลือก Mazda 3 แต่จะเลือก Ford Focus
แต่ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่สมมุติ
ผมกลัวอย่างเดียว Mazda จะมาเส้นทางเดียวกับ Ford และ Chev เรื่องกับแก้ไขและการรับมือกับปัญหา
-
เป็นลูกค้าเก่านิสสันคับ
แต่คันปัจจุบัน ก็ไม่ใช้นิสสันแล้ว
;)
และถามว่าจะซื้อนิสสันอีก ไหมตอบว่า...ไม่ครับ
เว้นแต่ ผมรวยและ Benz เอา Navara ไปเป็น X-class เท่านั้น
ตัวอื่น ผมว่ามันห่วย ไม่น่าใช้เลยสักตัวครับ
-
แต่ยอดขาย nissan สูงกว่า mazda นะครับ ถ้าproduct ขายได้ด้วยตัวมันเอง ทำไม Skyactiv ที่มาสด้ามีความคาดหวังสูงมาก แต่เอาชนะnissan ไม่ได้ล่ะครับ
ในมุมของผม ผมว่าผู้บริหารmazda คนปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองมากกว่าคุณซูนะครับ มีอาวุธหนักในมือ อย่าง Skyactiv และระบบช่วงล่างที่เป็นจุดขายของ mazda แต่กลับทำยอดขายแซงnissan ไม่ได้
ผมว่าคุณซูเก่งตรงที่ว่าแบรนด์ที่ไม่มีอะไรเด่นเลย แต่กลับทำยอดได้ขนาดนี้
ตอนคุณซูอยู่ mazda มีแต่เครื่อง MZR และเกียร์ 4 Speed เก่า ๆ ยังสร้างแบรนด์ mazda มาได้ถึงขนาดนี้
มีดทื่อ ๆ(การตลาดnissan) ลับเป็นมันก็คมได้นะครับ แต่มีอาวุธสงครามรุ่นล่าสุด(Skyactiv) แต่ถ้าไม่รู้วิธีใช้ มันก็คือเศษเหล็กดี ๆ นี่เอง
-
แต่ยอดขาย nissan สูงกว่า mazda นะครับ ถ้าproduct ขายได้ด้วยตัวมันเอง ทำไม Skyactiv ที่มาสด้ามีความคาดหวังสูงมาก แต่เอาชนะnissan ไม่ได้ล่ะครับ
ในมุมของผม ผมว่าผู้บริหารmazda คนปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองมากกว่าคุณซูนะครับ มีอาวุธหนักในมือ อย่าง Skyactiv และระบบช่วงล่างที่เป็นจุดขายของ mazda แต่กลับทำยอดขายแซงnissan ไม่ได้
ผมว่าคุณซูเก่งตรงที่ว่าแบรนด์ที่ไม่มีอะไรเด่นเลย แต่กลับทำยอดได้ขนาดนี้
ตอนคุณซูอยู่ mazda มีแต่เครื่อง MZR และเกียร์ 4 Speed เก่า ๆ ยังสร้างแบรนด์ mazda มาได้ถึงขนาดนี้
มีดทื่อ ๆ(การตลาดnissan) ลับเป็นมันก็คมได้นะครับ แต่มีอาวุธสงครามรุ่นล่าสุด(Skyactiv) แต่ถ้าไม่รู้วิธีใช้ มันก็คือเศษเหล็กดี ๆ นี่เอง
นิสสันมีกี่รุ่น กี่ segment ครับ
Nissan (2016)
- march (4664), almera(12946) , note (ขาย 2017) ยอดรวม 17628 คัน
- juke ขายได้ 1096 คัน
- pulsar , slyphy ขายได้ 1223 คัน
- teana ขายได้ 987 คัน
- X-trail ขายได้ 2824 คัน
- navara ขายได้ 17762 คัน
- Urvan ขายได้ 852 คัน
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 40,533 คัน
Mazda (2016)
- Mazda 2 4+5 drs ขายได้ 23223 คัน
- Mazda 3 ขายได้ 4121 คัน
- Mazda CX-3 ขายได้ 4787 คัน
- Mazda CX-5 ขายได้ 3323 คัน
- bt-50 ขายได้ 7052 คัน
- แถม MX-5 ให้เลยอีกอันจะได้ดูไม่น้อยรุ่นกว่ามาก
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 42,506 คัน
ที่มา HLM 2016 ครับ >> http://www.headlightmag.com/sales-report-december-2016/
-
แต่ยอดขาย nissan สูงกว่า mazda นะครับ ถ้าproduct ขายได้ด้วยตัวมันเอง ทำไม Skyactiv ที่มาสด้ามีความคาดหวังสูงมาก แต่เอาชนะnissan ไม่ได้ล่ะครับ
ในมุมของผม ผมว่าผู้บริหารmazda คนปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองมากกว่าคุณซูนะครับ มีอาวุธหนักในมือ อย่าง Skyactiv และระบบช่วงล่างที่เป็นจุดขายของ mazda แต่กลับทำยอดขายแซงnissan ไม่ได้
ผมว่าคุณซูเก่งตรงที่ว่าแบรนด์ที่ไม่มีอะไรเด่นเลย แต่กลับทำยอดได้ขนาดนี้
ตอนคุณซูอยู่ mazda มีแต่เครื่อง MZR และเกียร์ 4 Speed เก่า ๆ ยังสร้างแบรนด์ mazda มาได้ถึงขนาดนี้
มีดทื่อ ๆ(การตลาดnissan) ลับเป็นมันก็คมได้นะครับ แต่มีอาวุธสงครามรุ่นล่าสุด(Skyactiv) แต่ถ้าไม่รู้วิธีใช้ มันก็คือเศษเหล็กดี ๆ นี่เอง
นิสสันมีกี่รุ่น กี่ segment ครับ
Nissan (2016)
- march (4664), almera(12946) , note (ขาย 2017) ยอดรวม 17628 คัน
- juke ขายได้ 1096 คัน
- pulsar , slyphy ขายได้ 1223 คัน
- teana ขายได้ 987 คัน
- X-trail ขายได้ 2824 คัน
- navara ขายได้ 17762 คัน
- Urvan ขายได้ 852 คัน
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 40,533 คัน
Mazda (2016)
- Mazda 2 4+5 drs ขายได้ 23223 คัน
- Mazda 3 ขายได้ 4121 คัน
- Mazda CX-3 ขายได้ 4787 คัน
- Mazda CX-5 ขายได้ 3323 คัน
- bt-50 ขายได้ 7052 คัน
- แถม MX-5 ให้เลยอีกอันจะได้ดูไม่น้อยรุ่นกว่ามาก
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 42,506 คัน
ที่มา HLM 2016 ครับ >> http://www.headlightmag.com/sales-report-december-2016/
ถ้างั้นเอามาสด้า ไปเทียบ isuzu ได้มั้ยล่ะครับ isuzu รุ่นน้อยกว่ามาสด้า แต่ทำยอดขายได้สูงกว่า ผู้บริหารมาสด้า ควรพิจารณาตัวเองด้วยมั้ย
การที่อ้างproduct น้อยกว่ามันเป็นเรื่องภายในของแต่ละบริษัท แต่เวลาลงมาแข่งขันในตลาด คู่แข่งเขาสนใจเหรอว่าproduct คุณน้อยกว่า ยอมรับเถอะว่า การตลาดมาสด้า อ่อน
-
แต่ยอดขาย nissan สูงกว่า mazda นะครับ ถ้าproduct ขายได้ด้วยตัวมันเอง ทำไม Skyactiv ที่มาสด้ามีความคาดหวังสูงมาก แต่เอาชนะnissan ไม่ได้ล่ะครับ
ในมุมของผม ผมว่าผู้บริหารmazda คนปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองมากกว่าคุณซูนะครับ มีอาวุธหนักในมือ อย่าง Skyactiv และระบบช่วงล่างที่เป็นจุดขายของ mazda แต่กลับทำยอดขายแซงnissan ไม่ได้
ผมว่าคุณซูเก่งตรงที่ว่าแบรนด์ที่ไม่มีอะไรเด่นเลย แต่กลับทำยอดได้ขนาดนี้
ตอนคุณซูอยู่ mazda มีแต่เครื่อง MZR และเกียร์ 4 Speed เก่า ๆ ยังสร้างแบรนด์ mazda มาได้ถึงขนาดนี้
มีดทื่อ ๆ(การตลาดnissan) ลับเป็นมันก็คมได้นะครับ แต่มีอาวุธสงครามรุ่นล่าสุด(Skyactiv) แต่ถ้าไม่รู้วิธีใช้ มันก็คือเศษเหล็กดี ๆ นี่เอง
นิสสันมีกี่รุ่น กี่ segment ครับ
Nissan (2016)
- march (4664), almera(12946) , note (ขาย 2017) ยอดรวม 17628 คัน
- juke ขายได้ 1096 คัน
- pulsar , slyphy ขายได้ 1223 คัน
- teana ขายได้ 987 คัน
- X-trail ขายได้ 2824 คัน
- navara ขายได้ 17762 คัน
- Urvan ขายได้ 852 คัน
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 40,533 คัน
Mazda (2016)
- Mazda 2 4+5 drs ขายได้ 23223 คัน
- Mazda 3 ขายได้ 4121 คัน
- Mazda CX-3 ขายได้ 4787 คัน
- Mazda CX-5 ขายได้ 3323 คัน
- bt-50 ขายได้ 7052 คัน
- แถม MX-5 ให้เลยอีกอันจะได้ดูไม่น้อยรุ่นกว่ามาก
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 42,506 คัน
ที่มา HLM 2016 ครับ >> http://www.headlightmag.com/sales-report-december-2016/
ถ้างั้นเอามาสด้า ไปเทียบ isuzu ได้มั้ยล่ะครับ isuzu รุ่นน้อยกว่ามาสด้า แต่ทำยอดขายได้สูงกว่า ผู้บริหารมาสด้า ควรพิจารณาตัวเองด้วยมั้ย
การที่อ้างproduct น้อยกว่ามันเป็นเรื่องภายในของแต่ละบริษัท แต่เวลาลงมาแข่งขันในตลาด คู่แข่งเขาสนใจเหรอว่าproduct คุณน้อยกว่า ยอมรับเถอะว่า การตลาดมาสด้า อ่อน
เอาแบรนด์ที่เกิดใหม่มาเทียบกับ แบรนด์ตลาดที่ขายดีมานาน ?
ตรรกะเพี้ยนนะ ผมเทียบให้ยุติธรรมที่สุดแล้วนะ แต่ก็เถอะต้องยกอิซุสุมาข่มแสดงว่ามาสด้ามาไกล
-
ถ้าเป็นเคสรถยนต์ ผมยกย่องทีมการตลาดของ Chev ตอนช่วงขสย Aveo นะครับ รถสู้คู่แข่งไม่ได้เลย แต่ขายได้
-
แต่ยอดขาย nissan สูงกว่า mazda นะครับ ถ้าproduct ขายได้ด้วยตัวมันเอง ทำไม Skyactiv ที่มาสด้ามีความคาดหวังสูงมาก แต่เอาชนะnissan ไม่ได้ล่ะครับ
ในมุมของผม ผมว่าผู้บริหารmazda คนปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองมากกว่าคุณซูนะครับ มีอาวุธหนักในมือ อย่าง Skyactiv และระบบช่วงล่างที่เป็นจุดขายของ mazda แต่กลับทำยอดขายแซงnissan ไม่ได้
ผมว่าคุณซูเก่งตรงที่ว่าแบรนด์ที่ไม่มีอะไรเด่นเลย แต่กลับทำยอดได้ขนาดนี้
ตอนคุณซูอยู่ mazda มีแต่เครื่อง MZR และเกียร์ 4 Speed เก่า ๆ ยังสร้างแบรนด์ mazda มาได้ถึงขนาดนี้
มีดทื่อ ๆ(การตลาดnissan) ลับเป็นมันก็คมได้นะครับ แต่มีอาวุธสงครามรุ่นล่าสุด(Skyactiv) แต่ถ้าไม่รู้วิธีใช้ มันก็คือเศษเหล็กดี ๆ นี่เอง
นิสสันมีกี่รุ่น กี่ segment ครับ
Nissan (2016)
- march (4664), almera(12946) , note (ขาย 2017) ยอดรวม 17628 คัน
- juke ขายได้ 1096 คัน
- pulsar , slyphy ขายได้ 1223 คัน
- teana ขายได้ 987 คัน
- X-trail ขายได้ 2824 คัน
- navara ขายได้ 17762 คัน
- Urvan ขายได้ 852 คัน
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 40,533 คัน
Mazda (2016)
- Mazda 2 4+5 drs ขายได้ 23223 คัน
- Mazda 3 ขายได้ 4121 คัน
- Mazda CX-3 ขายได้ 4787 คัน
- Mazda CX-5 ขายได้ 3323 คัน
- bt-50 ขายได้ 7052 คัน
- แถม MX-5 ให้เลยอีกอันจะได้ดูไม่น้อยรุ่นกว่ามาก
นับเฉพาะที่มี segment ซ้ำกัน 42,506 คัน
ที่มา HLM 2016 ครับ >> http://www.headlightmag.com/sales-report-december-2016/
ถ้างั้นเอามาสด้า ไปเทียบ isuzu ได้มั้ยล่ะครับ isuzu รุ่นน้อยกว่ามาสด้า แต่ทำยอดขายได้สูงกว่า ผู้บริหารมาสด้า ควรพิจารณาตัวเองด้วยมั้ย
การที่อ้างproduct น้อยกว่ามันเป็นเรื่องภายในของแต่ละบริษัท แต่เวลาลงมาแข่งขันในตลาด คู่แข่งเขาสนใจเหรอว่าproduct คุณน้อยกว่า ยอมรับเถอะว่า การตลาดมาสด้า อ่อน
เอาแบรนด์ที่เกิดใหม่มาเทียบกับ แบรนด์ตลาดที่ขายดีมานาน ?
ตรรกะเพี้ยนนะ ผมเทียบให้ยุติธรรมที่สุดแล้วนะ แต่ก็เถอะต้องยกอิซุสุมาข่มแสดงว่ามาสด้ามาไกล
การตลาดนี่เขามีกำหนดด้วยหรือครับว่า ต้องแยกแบรนด์เกิดใหม่ กับแบรนด์ที่มีมานาน คราวหน้าก็จัดอันดับยอดขายใหม่นะ แยกมาสด้าไปจัดอันดับเองยี่ห้อเดียว เห็นยอด bt50 กับ navara แล้วเกินบรรยาย นี่ขนาดคุณซูไร้ฝีมือนะเนี้ย
ตรรกะเพี้ยนน่าจะเป็นคุณมากกว่า ตอนเทียบยอดขาย เทียบกันทุกยี่ห้อ แต่เวลาเอามาเปรียบ ถ้ามาสด้าเสียเปรียบก็อ้างแบรนด์เก่า แบรนด์ใหม่ ทุกวันนี้มาสด้าคิดได้ยังว่า ตัวเองเหนือกว่าคู่แข่งอย่างไร เคยมีเซลตอบได้มั้ยครับว่า "เทคโนโลยี Skyactiv ของ mazda ดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างไร (จงอธิบาย)"
-
ไม่ต้องเถียงกันครับ ถือเป็นการให้ความรู้สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องด้วย วิธีการจะดูว่าบริษัทไหนเก่งกว่ากันง่ายๆ เลย คือ การดู market share ครับ
บริษัทไหนกิน market share บริษัทไหน market share ลด หรืออุตสาหกรรมรถยนต์ปีนั้นขยายตัว หรือหดตัว ดูประกอบกันครับ เห็นแต่ละคนดูแต่ยอดขายที่เป็นตัวเลขสัมบูรณ์แล้วเพลียครับ ยอดขายที่เป็นตัวเลขแทบจะมีประโยชน์น้อยที่สุดในการวิเคราะห์ด้วยซ้ำครับ มันบอกได้แค่ขนาดเท่านั้นแหละครับ เคยเรียนบัญชีมั้ยครับ เวลาวิเคราะห์งบเค้าจะทำแนวตั้ง แนวนอนก่อนแรกๆ เลย เพราะอะไรครับ??? get รึยังครับ???
ข้อมูล market share หาไม่ง่ายนะครับ เพราะมันไม่ใช่ข้อมูลดิบ ส่วนใหญ่ฝ่าย research จะทำข้อมูลไว้ หรือไม่ก็พวกบริษัทซื้อขายข้อมูล องกรค์กลางจะทำไว้ ไม่งั้นก็ต้องหาเอง ทำเองครับ
-
ถ้ามี Nissan เข้ามาเกี่ยว กระทู้ยาวแน่ๆ ::) ::) ::) ::)
มีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมาก ถ้า ผบห. ยังคิดแบบ ไม่เอาลูกค้าเป็นหลัก ผมว่าลำบากครับ ตัวเลขยอดขาย market share อะไรที่ตั้งๆกันไว้ คงยากที่จะถึง
-
นั่นไง มันต้องมีต้องมี
อะไรๆ ผิดหมด เสมอ
-
ผมเชื่อว่ามาจากกลยุทธ์ครับ
กลยุทธ์คือการเลือก. ผู้บริหารมาสด้าที่ญี่ปุ่น มีการตัดสินใจที่ดี
ในการจะเลือกวางposition สินค้าในช่วงเวลาที่เหมาะสม
หากMazda 2 ตัวนี้ขายดีมาเจอ กับvios สมัยรุ่งๆก็ไม่เกิดก็ เป็นได้