Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: benten8888 ที่ กรกฎาคม 31, 2018, 23:59:16
-
มีงบประมาณ 4 แสนบาท กับรถมือสอง ดีๆ สัก 1 คัน ครับ
งบซื้อรถ 3 แสน เตรียมปรับปรุงสภาพ 1 แสน รวม 4 แสนบาทครับ
1. Ford Focus TDCI
2. BMW E39
3. SAAB 95
4. SAAB 93ss
ขอช่วยเปรียบเทียบ
1. สมรรถนะในการขับขี่
2. ความปลอดภัย
3. ความทนทาน
4. งบประมาณในการซ่อมบำรุง ดูแลรักษา ต่อปี
ใช้ขับขี่ไปทำงานวันละประมาณ 200 km จันทร์-ศุกร์ ครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
-
จากงบในตัวเลือก e39 ครับ หาอะไหล่ ของแต่ง อู่ง่ายสุด แต่สี่แสนนี่ไม่จบนะครับ ยังต้องซ่อมเรื่อยๆ
แต่ถ้างบสี่แสนอยากได้รถจบๆ ขับทางไกลเยอะ แนะนำำ camry acv 40 ไม่จุกจิก ไม่งอแง ดูแลง่าย
-
ถ้าคิดว่าจะติดแกส เชียร์ e39 เลยครับ เพราะ e39 เครื่อง m52tu 6สูบเรียง กินดุมาก ต่อให้ขับต่างจังหวัดทางไกลยาวๆ ก็คงได้ประมาณแตะๆ 10km/l
แต่ถ้าไม่ติดแกส ไป focus ก็น่าจะดีครับ หากมีแหลงมีอู่ซ่อมไว้ใจได้นะ ส่วน saab ผมไม่มีข้อมูลเลย
งบนี้ลองดูพวก volvo v70 หรือ xc70 ก็น่าสนครับ ได้รถ van ขับ 4 ด้วย
-
ถ้าไม่มีความรู้เรื่องซ่อมรถเป็นทุน หรือมีอู่คู่ใจ เป็นผมจะเลี่ยงใช้ทั้ง 4 คันนั้นเลยครับ
ขับวันละ 200 ก.ม. นี่เยอะมากนะครับ รถที่จะรองรับการใช้งานแบบนี้ได้ สำหรับผมควรเป็นรถที่ซ่อมง่าย หาอะไหล่ง่าย เล่นรถญี่ปุ่นเจ้าตลาดดีกว่าครับ
ในงบราวๆนั้น เป็นผม คงจับ Altis หน้าแบน, Camry acv40, Accord G7 หรือ Civic fd จะขับได้สบายใจกว่าครับ
-
ขอตอบในส่วนที่ผมใช้แล้วกัน
saab 95 ระบบ t7 (โทรนิค 7) น้ำหนัก 1.7 ตัน การใช้งานถ้าเป็นผู้ใหญ่ เหมาะสมดี ความแรง เลือกได้ ตามใจปรารถนา แต่ต้องแต่งเพิ่มบ้าง ถ้าเลือกคันนี้ ควรปรับเฟิร์มแวร์ เป็นไบโอเพาเวอร์ อี 0-85 เปลี่ยนหัวฉีดเป็น 550-635 ปรับ ตามนี้ ถ้าคุณใช้ น้ำมัน โซฮอล์ 12 -14 กม/ลิตร อี 85 10 กม-ลิตร ในความเร็วคงที่ 110
จุดอ่อน ระบบเวคกั้มละเอียดมาก รั่วนิดหน่อย มันจะแสดงอาการ น้ำมันเครื่อง ให้ใช้เบอร์(หลัง) 30-40 ถ้าใช้ถึง 50 จะเกิดการดันออกก้านวัดน้ำมันเครื่อง (เดี๋ยวจะปวดหัว) มีการกินน้ำมันเครื่องบ้างพอประมาณ อะไหล่แพง ดูแลอู่เฉพาะซึ่งมีอยู่ราว ๆ8 อู่ รอบ ๆปริมณฑล เลือกเข้าได้ตามสะดวก รวมทั้ง ศูนย์ฯ คนปรับเฟิร์มแวร์ได้มี 9K T-LEX และท่านอื่น ๆ อีกสองสามท่าน แต่ผมไม่รู้จัก
saab 93 ss เป็นรถที่ดี กว้างกว่า 95 เล็กน้อย แต่สั้นกว่า หนัก ตันสี่ ระบบควบคุ t8 เป็น ดิจิตอลทั้งระบบ เครื่องทนทาน ระบบควบคุมความร้อน ดีมาก พัดลม มีสายไฟ บวก และ ลบ สองสายเท่านั้น ไม่มี ไฮ -โลว์ แต่โวลท์จะถูกปรับ ออโต้ ตามอุณหภูมิเครื่องยนต์ ซึ่ง แกว่งแค่ 93-95 องศา เท่านั้น ไม่มี สูงต่ำกว่านี้ ขับสนุก มุดได้ เบาะเตี้ยกว่า 95 ถ้าเลือก ควรหากล่องเครื่องอีก 1 ชุด ปรับ ข้อมูลอิมโมฯชุดเดียวกัน พร้อมที่จะใช้ทดแทนกันได้ ความแรง เลือกได้ตามใจเช่นกัน อัตราการใช้เชื้อเพลิง กล่องเดิม-กล่องปรับเฟิร์มแวร์ ถ้าวิ่ง 110 อี 20 16 กม/ลิตร อี 85 13-14 กม./ลิตร
จุดด้อย ช่างเก่ง น้อยมาก และไม่ต้องห่วงเรื่องการกรอไมล์ ไม่มีใครกล้ายุ่งกับระบบ อะไหล่ทุกชิ้นที่สำคัญของรถ จะมี พาร์ทนำเบอร์ บันทึกไว้ในระบบ จะใส่อะไหล่ตัวใหม่เข้าไป มัน เก็บพาร์ทไว้ ดังนั้น การขโมยพาร์ทจากคันนี้ ไปใส่คันนั้น(ของอู่)ทำไม่ได้ มันบันทึกไว้หมด ระบบวิทยุอับเกรดเปลี่ยนยากมาก เพราะควบคุมด้วยใยแก้วนำแสง... คนที่สามารถปรับเฟิรมแวร์มีคนเดียวในไทยคือ ท่านT-LEX
ห้าปีที่ผ่านมา ค่าดูแลต่อปี ไม่รวมยาง ไม่เกินปีละสองหมืน (ผมได้มา วิ่งหกหมื่นสอง ตอนนี้วิ่งไปจะเข้าแสนเจ็ด) คุ้มกับค่าตัว ขับสนุก มุดได้เวลารีบ ๆ
ผมมีความสุขดี กับ saab ค่าดูแล ไม่สูงนัก ถ้าไม่รวมค่าแต่งเพิ่ม ถ้าเป็น 93 ปรับสภาพตามที่มันแสดงอาการเท่านั้น ถ้าได้มาสมบูรณ์ดี ไม่ต้องทำ น้ำมันเครื่อง-เกียร์ มักจะได้มาเกรดสูงอยู่แล้ว ทำต่อได้เลย.. ห้ามเลือกที่มีปัญหามา เช่นมีคำเตือนต่าง ๆ แล้วคิดว่าจะแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ถ้ามีคำเตือน ถามผมหลังไมล์ได้ว่าแก้ยากไหม?..
-
ถ้าใช้รถเยอะ ทั้ง 4 ตัวเลือกนี่จะพาไปเสียกลางทางเอาง่าย ๆ นะคับ หารถญี่ปุ่นดูน่าจะปลอดภัยจากการกินข้าวลิงมากกว่า
แต่ถ้าต้องให้เลือก คงเป็น E39 เพราะจำนวนรถเยอะ หาอะไหล่ หาอู่เข้าได้ง่ายสุดอะคับ
-
ขับไปกลับวันละ200กม.
เอาจริงๆ ? ถ้ามีแค่4ตัวเลือกนี้ ผมเลือกe39 เพราะผมถนัดBMW ซ่อมเองเป็น โปรแกรมได้ แยกส่วนประกอบกลับใหม่ได้ อะไรเสียรู้ก่อนได้
คุณถนัดอะไรก็เลือกอันนั้นครับ ถ้าไม่ถนัดเลย
Toyota Altis จบที่สุด
-
ขอตอบในส่วนที่ผมใช้แล้วกัน
saab 95 ระบบ t7 (โทรนิค 7) น้ำหนัก 1.7 ตัน การใช้งานถ้าเป็นผู้ใหญ่ เหมาะสมดี ความแรง เลือกได้ ตามใจปรารถนา แต่ต้องแต่งเพิ่มบ้าง ถ้าเลือกคันนี้ ควรปรับเฟิร์มแวร์ เป็นไบโอเพาเวอร์ อี 0-85 เปลี่ยนหัวฉีดเป็น 550-635 ปรับ ตามนี้ ถ้าคุณใช้ น้ำมัน โซฮอล์ 12 -14 กม/ลิตร อี 85 10 กม-ลิตร ในความเร็วคงที่ 110
จุดอ่อน ระบบเวคกั้มละเอียดมาก รั่วนิดหน่อย มันจะแสดงอาการ น้ำมันเครื่อง ให้ใช้เบอร์(หลัง) 30-40 ถ้าใช้ถึง 50 จะเกิดการดันออกก้านวัดน้ำมันเครื่อง (เดี๋ยวจะปวดหัว) มีการกินน้ำมันเครื่องบ้างพอประมาณ อะไหล่แพง ดูแลอู่เฉพาะซึ่งมีอยู่ราว ๆ8 อู่ รอบ ๆปริมณฑล เลือกเข้าได้ตามสะดวก รวมทั้ง ศูนย์ฯ คนปรับเฟิร์มแวร์ได้มี 9K T-LEX และท่านอื่น ๆ อีกสองสามท่าน แต่ผมไม่รู้จัก
saab 93 ss เป็นรถที่ดี กว้างกว่า 95 เล็กน้อย แต่สั้นกว่า หนัก ตันสี่ ระบบควบคุ t8 เป็น ดิจิตอลทั้งระบบ เครื่องทนทาน ระบบควบคุมความร้อน ดีมาก พัดลม มีสายไฟ บวก และ ลบ สองสายเท่านั้น ไม่มี ไฮ -โลว์ แต่โวลท์จะถูกปรับ ออโต้ ตามอุณหภูมิเครื่องยนต์ ซึ่ง แกว่งแค่ 93-95 องศา เท่านั้น ไม่มี สูงต่ำกว่านี้ ขับสนุก มุดได้ เบาะเตี้ยกว่า 95 ถ้าเลือก ควรหากล่องเครื่องอีก 1 ชุด ปรับ ข้อมูลอิมโมฯชุดเดียวกัน พร้อมที่จะใช้ทดแทนกันได้ ความแรง เลือกได้ตามใจเช่นกัน อัตราการใช้เชื้อเพลิง กล่องเดิม-กล่องปรับเฟิร์มแวร์ ถ้าวิ่ง 110 อี 20 16 กม/ลิตร อี 85 13-14 กม./ลิตร
จุดด้อย ช่างเก่ง น้อยมาก และไม่ต้องห่วงเรื่องการกรอไมล์ ไม่มีใครกล้ายุ่งกับระบบ อะไหล่ทุกชิ้นที่สำคัญของรถ จะมี พาร์ทนำเบอร์ บันทึกไว้ในระบบ จะใส่อะไหล่ตัวใหม่เข้าไป มัน เก็บพาร์ทไว้ ดังนั้น การขโมยพาร์ทจากคันนี้ ไปใส่คันนั้น(ของอู่)ทำไม่ได้ มันบันทึกไว้หมด ระบบวิทยุอับเกรดเปลี่ยนยากมาก เพราะควบคุมด้วยใยแก้วนำแสง... คนที่สามารถปรับเฟิรมแวร์มีคนเดียวในไทยคือ ท่านT-LEX
ห้าปีที่ผ่านมา ค่าดูแลต่อปี ไม่รวมยาง ไม่เกินปีละสองหมืน (ผมได้มา วิ่งหกหมื่นสอง ตอนนี้วิ่งไปจะเข้าแสนเจ็ด) คุ้มกับค่าตัว ขับสนุก มุดได้เวลารีบ ๆ
ผมมีความสุขดี กับ saab ค่าดูแล ไม่สูงนัก ถ้าไม่รวมค่าแต่งเพิ่ม ถ้าเป็น 93 ปรับสภาพตามที่มันแสดงอาการเท่านั้น ถ้าได้มาสมบูรณ์ดี ไม่ต้องทำ น้ำมันเครื่อง-เกียร์ มักจะได้มาเกรดสูงอยู่แล้ว ทำต่อได้เลย.. ห้ามเลือกที่มีปัญหามา เช่นมีคำเตือนต่าง ๆ แล้วคิดว่าจะแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ถ้ามีคำเตือน ถามผมหลังไมล์ได้ว่าแก้ยากไหม?..
อ่านแล้ว อยากได้ SAAB เลย
หนึ่งในรถในฝัน ที่อยากได้ตอนเด็กๆเลย
รถหน้าตาประหลาดๆ แปลกๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่วิ่งกระจาย เดินทางไกลสบาย ไม่มีเหนื่อย
-
งบ 4 แสน ถ้าเป็นผม ๆ จะเอา All new Vios ปี 13-14 ที่ยังเป็นเกียร์ Auto 4 Speed ดีกว่าครับ
ดูแลรักษาง่ายและทนกว่า 4 ตัวเลือกนั้นอีก
-
วันละ 200 โล
กับ 4 ตัวเลือกด้านบน
ผมนี่กลัวแทน :-[
-
ราคานี้ไปแคมรี่ acv40 acv30 ครับถ้ามือใหม่ใช้รถนะ แต่ถ้าชำนานซ่อมเป็นวิเคราะห์ปัญหาได้ มีอู่รองรับ ผมว่า e39 ยันสวยอยู่เลย อมตะจริงๆ
-
วันละ 200 โล
กับ 4 ตัวเลือกด้านบน
ผมนี่กลัวแทน :-[
ผมวิ่งโคราช เขาใหญ่ กรุงเทพ เป็นเรื่องปกติครับ ข้อดีของ ซาบ แม้ไฟโชว์ มันจะเข้าเซฟโหมด วิ่งได้ ไม่ต้องขึ้นยานแม่ ถ้ามี odb2 อ่านโค้ต ถ้าเรื่องขี้ปะติ๋ว เคลียทิ้ง แล้วมาแก้ไขที่มันเตือน
-
อ่านแล้ว อยากได้ SAAB เลย
หนึ่งในรถในฝัน ที่อยากได้ตอนเด็กๆเลย
รถหน้าตาประหลาดๆ แปลกๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่วิ่งกระจาย เดินทางไกลสบาย ไม่มีเหนื่อย
ลองซิครับ รถราคาแค่สองสามแสน เท่านั้น ถ้าวิ่งปกติ ไม่อัดมากนัก เครื่องยนต์+เกียร์สบายมาก ซื้อ odb2 ตัวหนึ่ง สามสี่ร้อยไว้อ่านโค้ต ก็พอ แต่ส่วนใหญ่ เวลาขับ มันลืมตัว....
-
e39 เครื่องเกียร์ทนแต่อืดหน่อย ที่ไม่ทนคือพวกพลาสติกกับพวกยางดำๆ เออ..จานเบรคชอบคดง่ายเบรคแล้วสั่นเปลี่ยนเป็นจาน brembo replm. จบเลย ข้อดีคือสวยอมตะ
-
เอาเป็นว่า จากคนคลุกคลีฟอร์ดอย่างผม ผมไม่แนะนำ Focus Tdci. อะ อะไหล่ในเครื่องบางตัว รอจากยุโรป เหงือแห้งเลย แต่ส่วนอื่นมันก็ซ่อมไม่แพง เป็นผมเลี่ยงทุกตัว ไปเอาพวก B-segment อย่าง mazda 2 diesel ดีฟ่า
-
altis เถอะครับ .. งบน้อยอย่าเลือกรถแปลกครับ .. มีเงินเยอะ ๆ มีเวลาเยอะๆ ค่อยแตกต่างครับ
-
เหมือนเคยอ่านเจอในเวปนี้ว่า SAAB บริษัทมันเจ้งแล้วไม่ใช่หรอครับ ถ้าเป็นจริงผมว่าเปลี่ยนตัวเลือกดีกว่าครับ
-
altis เถอะครับ .. งบน้อยอย่าเลือกรถแปลกครับ .. มีเงินเยอะ ๆ มีเวลาเยอะๆ ค่อยแตกต่างครับ
+1
-
ขอโทษนะครับ จากใจ มีนอกเหนือจากนี้ไหม 4 ตัวนี้สำหรับผมไม่ผ่านสักคันครับ 200 โลเยอะนะครับต่อวัน เป็นผมไปหา camry av40 2.4V วิ่งงานดีกว่าครับน่าจะปวดหัวน้อยกว่า แต่ถ้าต้องสี่ตัวนี้ คงต้อง E39 เพราะอู่พอมี เพื่อนผมก็ขายอะไหล่ BMW อยู่
-
เหมือนเคยอ่านเจอในเวปนี้ว่า SAAB บริษัทมันเจ้งแล้วไม่ใช่หรอครับ ถ้าเป็นจริงผมว่าเปลี่ยนตัวเลือกดีกว่าครับ
ถูกครับ เจ๊งไป แต่รถ ยังมีอะไหล่เพียบ....หนำซ้ำ ถ้าเป็นคันที่มีเอกลักษณ์ ราคาไม่ลงแล้วครับ มีแต่เด้ง...
อย่าง 93ss งานประมูลรถหนีภาษี ปีก่อนจบกันที่ เจ็ดแสน ปัจจุบัน ซื้อขายกัน ล้านขึ้น...
95aero ตัววาก้อน แท้ นี่ก็ไม่ลงแล้ว เก็บกันหมดแล้ว เหลือตัวล่าง ๆ ที่ออกมาขายกัน
อีกอย่างที่คนไม่เคยใช้ไม่เข้าใจ ซาบเป็นรถชอบวิ่งยาว สองร้อยนี่ขี้ผง แถมประหยัดด้วย แต่มันไม่ชอบรถติด จอดบ่อย ออกตัวบ่อย เหมือนเทน้ำมันทิ้ง..
-
ขอโทษนะครับ จากใจ มีนอกเหนือจากนี้ไหม 4 ตัวนี้สำหรับผมไม่ผ่านสักคันครับ 200 โลเยอะนะครับต่อวัน เป็นผมไปหา camry av40 2.4V วิ่งงานดีกว่าครับน่าจะปวดหัวน้อยกว่า แต่ถ้าต้องสี่ตัวนี้ คงต้อง E39 เพราะอู่พอมี เพื่อนผมก็ขายอะไหล่ BMW อยู่
ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ผมอาจจะวิตกกังวลไปหน่อย แต่ยอมรับตามตรงเลย
ขนาดรถที่ผมดูแลมาตั้งแต่ป้ายแดงจนตอนนี้อายุ 10 กว่าปี ผมยังไม่ค่อยมั่นใจถ้าใช้มันทุกวันโดยที่วิ่งวันละ 200 กม.ครับ
แต่ถ้าไม่มองตัวอื่นแล้วจริงๆ E39 ดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
-
ขอโทษนะครับ จากใจ มีนอกเหนือจากนี้ไหม 4 ตัวนี้สำหรับผมไม่ผ่านสักคันครับ 200 โลเยอะนะครับต่อวัน เป็นผมไปหา camry av40 2.4V วิ่งงานดีกว่าครับน่าจะปวดหัวน้อยกว่า แต่ถ้าต้องสี่ตัวนี้ คงต้อง E39 เพราะอู่พอมี เพื่อนผมก็ขายอะไหล่ BMW อยู่
วันละ 200 Km. ไม่มากหรอกครับ ผมยังใช้ E30 ไปทำงานไปกลับ กทม. - นครปฐม รถยุโรปใช้เดินทางไกลหน่อยดีกว่าขับในเมือง ถ้าเป็นผมจะเลีอก Saab แตผมจะลงไปเอา Saab 9000 aero ด้วยงบขนาดนี้ด้รถสวยๆเลยครับ ราคามีแต่ขึ้นครับ
-
แยกกันก่อนไหมระหว่าง รถเก็บ กับรถใช้งาน รถเก็บจะไงก็ได้ เพราะเก็บแบบเกรงกำไร เหมือนที่ผมมี mini mark 1 ผมก็มีไว้เพราะ ชอบ และ อนาคตราคาขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับผม รถใช้งานจะต้องเป็นรถที่ไว้ใจได้ พังตรงไหน ก็หาอู่ที่ใกล้และสามารถซ่อมได้ทันที รถวิ่งงานต้องทำเงินนะครับ ถ้ามาวิ่งบ้างเข้าอู่บ้าง ระวังจะเสียงานนะครับ ฝากไว้แค่นี้ครับ
-
ตอบแบบตรงคำถาม ถ้า 4 ตัวนั้น BM ครับ อู่เยอะ อะไหล่เยอะ พวกเยอะ
แต่ตอบแบบความเห็น
ต้องถามว่า มีรถ Spare หรือเปล่า และ 200k ทุกวัน ใช้ทำงานหรือเปล่า ยอมให้รถเสียได้กี่วัน และ มีงบซ่อมไหม
รถอายุเยอะๆ มันต้องการการดูแล ถ้าต้องทำมาหากินด้วย มันจะเหนื่อยครับ
คอนอื่นๆ แนะนำมาเยอะแล้วแหละ ผมเชื่อว่า คุณก็น่าจะเข้าใจ
-
จากที่เคยมี e46 ซึ่งดูแลเหมือนๆ e39
ตอนนี้มี tdci
และเพิ่งได้ e46 มาอีกคัน จะช่วยเก็บสภาพให้เพื่อนใช้
ผมเชียร์ tdci. มีกรุปไลน์เฉพาะผู้ใช้จริง 200กว่าคนคอยช่วยเหลือ
ไม่เห็นมีอะไรเสียที่จะต้องนอนกินข้าวลิง อาการส่วนใหญ่เวลาเสียจะยังขับได้ทั้งนั้น
และมีวิธีซ่อมที่ไม่แพงแทบครบหมดแล้ว
ซึ่ง e39 ก็ดูไม่ต่างกันในเรื่องนี้ อู่ที่เชี่ยวชาญและอะไหล่ก็มากกว่า
แต่เนื่องจากมันเก่ากว่า tdci ไปอีก10ปี ตอนแรกที่ได้มาต้องปล้ำกับมันให้จบจริง ยังไงก็โทรมมา
และค่าน้ำมัน tdci ถูกกว่า e39 ใช้แก็สอะครับ
ส่วน saab มองไม่เห็นว่าคนไม่เชี่ยวเรื่องอู่เรื่องรถมือ2หนักๆ จะถือใช้ได้ไง