Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: AUGO ที่ สิงหาคม 15, 2020, 12:39:34

หัวข้อ: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AUGO ที่ สิงหาคม 15, 2020, 12:39:34
สวัสดีครับ
ผมเพิ่งจองรถ CX5 2.0 SP Model year 2019 ไปจะรับรถแล้วปลายเดือน 8/2020 นี้
อยากทราบว่าตัวรถ มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างน่ะครับ จะได้เตรียมตัวไว้ 55+ แล้วถ้ามีแนวทางป้องกันหรือแก้ไข รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
ลองหาข้อมูลก็เห็นบอกมีพวก ปั๊มติ๊ก ที่จะดับกลางอากาศถ้าเสีย แต่ก็มีคนมาตอบว่า เรียก Recall กันไปเปลี่ยนหมดแล้ว
ก็เลยไม่รู้ว่า จริงไหม เลยจะลองมาสอบถามที่นี่ดูครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ สิงหาคม 15, 2020, 13:08:19

 อยู่ในประกัน ไม่ต้องทำอะไร  เคลมอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ สิงหาคม 15, 2020, 13:16:46
MY2019 ปั๊มติ๊กไปแล้ว 1 คันถ้วนครับ 2.0SP นี่เลย

แต่ที่เหลือก็ยังไม่มีอะไรครับ ถ้า Mazda สามารถสร้างความมั่นใจด้านปั๊มติ๊กได้ก็น่าใช้

แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็อย่าพึ่งเลยครับ รถดับกลางทางไม่สนุกจริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: aobness ที่ สิงหาคม 15, 2020, 13:39:01
ผม 2.0 sp 2017 ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ
ใช้จริงงไม่ได้อ่านมานะครับ  :P
สตาร์ทขับอย่างเดียวมาจะ3ปีแล้วครับ 54xxx km
มีรีคอลปั๊มติ๊กไปรอบนึงก็ยังไม่เคยดับ
 เติมตอนน้ำมันก้นถังตลอด แทบไม่ต้องดูแลอะไร

นี่กำลังเครียดอยากไป 330e g20
แต่ก็รักความไม่จุกจิกของ cx5 (เบนซิน)
ปัญหาส่วนตัวผมคือถังน้ำมันเล็กเติมบ่อยแค่นั้นครับ
กับในเมืองผมว่ากินดุแปลกๆ

แต่ถ้าดีเซลเป็นผมคงไม่เสี่ยงครับ เบนซินจัดโลดครับ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MezzoForte ที่ สิงหาคม 16, 2020, 00:28:37
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ismael ที่ สิงหาคม 16, 2020, 08:27:18
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ

เริ่มพูดสวย
จบพูดเสียว
นะค้าบ
 :)
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ สิงหาคม 16, 2020, 12:10:24
ก่อนจองน่าจะมีข้อมูลมาเยอะพอสมควรแล้วนะครับ​ แต่อาจจโชคดีไม่เจออะไรก็ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ สิงหาคม 16, 2020, 15:24:04
ออก 2.0 S ตุลาคม 2018 ครับ

ปั๊มติ๊กเครมแล้ว แต่ยังไม่เคยดับ

รอบเดินเบาไม่นิ่ง 800-600 rpm (ตกจนสั่นเบาๆ) ยังเป็นอยู่
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: aobness ที่ สิงหาคม 16, 2020, 23:33:21
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ

ขอทริคหน่อยครับผมกำลังสงสัยคันผมเต็มถังไม่เคยถึง 500km ถังนึงได้แค่ 450-460 แบบดีสุดครับ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MezzoForte ที่ สิงหาคม 17, 2020, 00:06:33
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ

ขอทริคหน่อยครับผมกำลังสงสัยคันผมเต็มถังไม่เคยถึง 500km ถังนึงได้แค่ 450-460 แบบดีสุดครับ

555 ผมไม่มีทริคอะไรครับ พอดีเส้นทางที่ผมไปทุกวัน จะไม่ค่อยเจอรถติดสุดๆครับ
ถ้าขับในเมืองตลอด เจอรถติดๆ ก้อได้ประมาณ 460 Km เองครับ

เคยขับไป สุโขทัยใช้ Cruise Control ขับประมาณ 110-130 Km/hr ถึงจะได้ 600 km ขับไปแบบเรื่อยๆ

อยากถามว่า ท่านอื่นเป็นเหมือนรถผมมั๊ยครับ คือเวลากดสตาร์ทรถ จะมีบางที ที่เครื่องสะบัดแรงมาก แบบเขย่า เลยอะครับ คันผมเจอบ่อยอยู่เหมือนกันครับ
เป็นอาการเดียวที่ขัดใจอยู่ครับ ไม่เหมือนตอนที่ใช้ CRV G4, Camry หรือ Sienta ไม่เจออาการนี้เลยครับ แต่ผมไม่เคยเจอดับกลางอากาศนะครับ

หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Arnan_td ที่ สิงหาคม 17, 2020, 08:02:56
อาจจะแล้วแต่ดวงบางคนเจอบางคนไม่เจอ ผมเคยใช้ mazda 2  ปัญหาเยอะมาก ป้าเคยออก cx5 ตัวก่อนเปลี่ยนโฉม เปลี้ยนเกียร์ เปลี่ยนเครื่องไป 1 ครั้งถ้วน
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Poblak ที่ สิงหาคม 17, 2020, 11:34:31
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ

ขอทริคหน่อยครับผมกำลังสงสัยคันผมเต็มถังไม่เคยถึง 500km ถังนึงได้แค่ 450-460 แบบดีสุดครับ

555 ผมไม่มีทริคอะไรครับ พอดีเส้นทางที่ผมไปทุกวัน จะไม่ค่อยเจอรถติดสุดๆครับ
ถ้าขับในเมืองตลอด เจอรถติดๆ ก้อได้ประมาณ 460 Km เองครับ

เคยขับไป สุโขทัยใช้ Cruise Control ขับประมาณ 110-130 Km/hr ถึงจะได้ 600 km ขับไปแบบเรื่อยๆ

อยากถามว่า ท่านอื่นเป็นเหมือนรถผมมั๊ยครับ คือเวลากดสตาร์ทรถ จะมีบางที ที่เครื่องสะบัดแรงมาก แบบเขย่า เลยอะครับ คันผมเจอบ่อยอยู่เหมือนกันครับ
เป็นอาการเดียวที่ขัดใจอยู่ครับ ไม่เหมือนตอนที่ใช้ CRV G4, Camry หรือ Sienta ไม่เจออาการนี้เลยครับ แต่ผมไม่เคยเจอดับกลางอากาศนะครับ
ผมใช้ cx3 2.0 เป็นเหมือนกันครับ สตาร์ทแล้วเครื่องสบัดแรงมาก จะเป็นตอนขับไปแล้วจอด ดับเครื่อง ลงไปทำธุระ พอกลับมาสตาร์ท เครื่องจะสบัดจนน่าตกใจ
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iPeck ที่ สิงหาคม 17, 2020, 11:57:38
ผมออก 2.0 SP เมื่อปี 2018 ตอนออกรถขอ Mazda Care เป็นของแถม และก็ขยายประกันตัวรถเพิ่มจาก 3 ปีเป็น 5 ปี จนถึงตอนนี้ก็ 2 ปีกว่าๆ วิ่งไปกำลังจะเข้า 70,000 KM ยังไม่เคยดับซักครั้ง มี จม. เรียก Recall ปั้มติ๊ก ก็เอาเข้าไปทำ น้ำมันจะเติมตอนที่เหลือ 1/4 ของถัง น้อยครั้งที่จะปล่อยให้ไฟเตือน

ปัญหาทั่วไปก็กระจกไม่ยอมพับ สลับกันเป็นทีละข้าง ข้างนี้หาย ซักพักอีกข้างเป็นต่อ ก็ถ่ายคลิปเก็บไว้ และก็เข้าไปเคลม , รับรถมาช่วงแรกๆ ถ้าขับนานเกิน 1 ชม. ขึ้นไปเวลาจอดจะได้กลิ่นน้ำมันฟุ้งแรงมากด้านนอกแถวๆท้ายรถ ก็แจ้งศูนย์ไปทำเคลมเปลี่ยนท่อส่งน้ำมัน + กรองชาโคล
และก็เวลาเจอหลุม หรือทางไม่เรืยบ โช๊คหน้าดัง ก็เอาเข้าไปแก้ จากนั้นก็ไม่เคยดังอีกเลย นอกจากนั้นก็ไม่เคยเจอปัญหาอะไร
น้ำมันเกียร์เคยเปลี่ยนไปตอน 20,000 Km (ตอนนั้นยังสามารถเปลี่ยนได้อยู่) หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้เปลี่ยน เพราะนโยบายใหม่ Mazda ห้ามเปลี่ยน กำลังมองหาอู่นอกเปลี่ยนที่ระยะ 70,000

iActivSense ใช้งานได้ดี Adeptiv LED ฉลาดดี ขับ ตจว. ทางมืดๆมีประโยชน์มาก ลำโพง Bose ก็เสียงโอเค แต่ห้ามไปฟัง Bose ใน New Mazda 3 เพราะจะฟัง Bose ใน CX-5 ไม่เพราะทันที

ส่วนอัตราสิ้นเปลือง เติมสลับกันไป Gas95 , E20 , E85 บ้าง จับระยะทางและความคุ้มค่าต่อกิโลเมตร E20 คุ้มสุด น้ำมัน 1 ถังวิ่งในเมืองได้ประมาณ 430-450 Km , วิ่ง ตจว ได้ 480-600 Km แล้วแต่ความเร่งรีบ และน้ำหนักเท้า และ น้ำหนักบรรทุก

ส่วนข้อเสียของรุ่นนี้ ส่วนตัวคิดว่า เครื่อง 2.0 มันอึดไปหน่อย นั่งเต็มคัน หรือ บรรทุกของ รู้สึกได้เลยว่าอึด
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iPeck ที่ สิงหาคม 17, 2020, 12:03:19
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ

ขอทริคหน่อยครับผมกำลังสงสัยคันผมเต็มถังไม่เคยถึง 500km ถังนึงได้แค่ 450-460 แบบดีสุดครับ

555 ผมไม่มีทริคอะไรครับ พอดีเส้นทางที่ผมไปทุกวัน จะไม่ค่อยเจอรถติดสุดๆครับ
ถ้าขับในเมืองตลอด เจอรถติดๆ ก้อได้ประมาณ 460 Km เองครับ

เคยขับไป สุโขทัยใช้ Cruise Control ขับประมาณ 110-130 Km/hr ถึงจะได้ 600 km ขับไปแบบเรื่อยๆ

อยากถามว่า ท่านอื่นเป็นเหมือนรถผมมั๊ยครับ คือเวลากดสตาร์ทรถ จะมีบางที ที่เครื่องสะบัดแรงมาก แบบเขย่า เลยอะครับ คันผมเจอบ่อยอยู่เหมือนกันครับ
เป็นอาการเดียวที่ขัดใจอยู่ครับ ไม่เหมือนตอนที่ใช้ CRV G4, Camry หรือ Sienta ไม่เจออาการนี้เลยครับ แต่ผมไม่เคยเจอดับกลางอากาศนะครับ
ผมใช้ cx3 2.0 เป็นเหมือนกันครับ สตาร์ทแล้วเครื่องสบัดแรงมาก จะเป็นตอนขับไปแล้วจอด ดับเครื่อง ลงไปทำธุระ พอกลับมาสตาร์ท เครื่องจะสบัดจนน่าตกใจ

เครื่องสั่นแรงตอนสตาร์ท สั่นแบบสะท้านบางทีก็เจอเหมือนกันครับ เจอตั่งแต่ Mazda 3 รุ่นก่อนแล้ว พอมา CX-5 ก็เจอ คิดว่าเครื่องบล็อคเดียวกันบุคลิกคงเหมือนๆกัน บางทีตอนกดสตาร์ทได้ยินเสียงเหมือนเขกดังป๊อก 1 ทีและเครื่องค่อยติดก็มี แต่แปลกอย่างนึงถ้าเครื่องติดเองจาก iStop ไม่เคยสั่นแรงเลย
หัวข้อ: Re: CX-5 2.0 SP Model year 2019 มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MezzoForte ที่ สิงหาคม 17, 2020, 12:09:57
ผมใช้ 2.0 SP y2018 ออกรถกลางปี มาตอนนี้ใช้มา 67,xxx Km. แล้วครับ เติมแต่ E20 ล้วนๆครับ เฉลี่ยถังนึงขับได้ 500-560 Km จากเต็มถึงจนถึงไฟน้ำมันหมดเตือนครับ มากสุดเคยลองได้ 600 Km. จนไฟเตือนเหลือขับได้อีก 30 Km. เติมน้ำมันปกติ 9xx บาทขับได้ 500 Km. กว่าๆ ถือว่ารับได้เลยเรื่องการกินน้ำมัน กับรถ size ขนาดนี้

ปัญหาที่ผมเจอจากการใช้คือ ช่วงแรก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินแรงมาก ซึ่งตอนหลังได้แก้ไขโดยเปลี่ยนตัวกรองดักใหม่ ก้อหายนะครับ Lot ใหม่ๆ ไม่น่าเจอแล้วนะครับ
อีกปัญหาที่เจอคือ กระจกมองข้าง พับมั่งไม่พับมั่ง ก้อเคลมกันไป ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ่ายคลิปไปให้ศูนย์ดูเปลี่ยนที่เดียว 2 ข้างเลย ทีแรกยังกลัวจะงอแงหรือป่าวอยู่เลย
อีกปัญหาที่เจอคือ ระบบ Auto HiBeam Headlight ชอบ Error ขึ้นมาเตือนแต่พอดี ไม่ได้ใช้งานมันบ่อยเลยช่างมัน
คันผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องปั๊มติ๊ก รถดับนะครับ แต่มีศูนย์แจ้งให้มาเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปรอบนึง

สำหรับเรื่องศูนย์ห่วย ที่มีหลายคนบ่นกัน ผมกลับไม่ได้เจอปัญหาอะไรกับศูนย์นะครับ Happy ดีกับการบริการครับ โทรเข้าไปนัดซ่อม ก้อเสร็จตามเวลาหมด

ปัญหาตัวรถอย่างอื่นไม่เจออะไรนะครับ ต้องบอกว่า Happy กับการใช้งานมาก โดยเฉพาะการขับขี่โดนใจมากครับ
โดยรวม มีความสุขที่ได้ใช้ CX-5 นะครับ จะติหน่อยก้อตรงที่เครื่องน่าจะเป็น 2.5 NA จะ Match กับ body ขนาดนี้มากครับ 2.0 เล็กไปหน่อย โดยเฉพาะเวลาคนนั่งเต็มคันนี่ติดอืดเลยครับ

ปล. ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 Km ครับ แต่ศูนย์บอกถ้าเปลี่ยนจะหมดประกันเกียร์ ก้อให้มันรู้ไป เปลี่ยนบ่อยๆ กับศูนย์แล้วพัง จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน 555
อ้อ ผมไปทำระบบ Stop and Go ด้วยคือสามารถใช้ Adaptive Cruise Control ลงมาจนหยุดนิ่งได้เลย บอกได้เลยว่าขับรถติดๆมีความสุขมากครับ เวลารถหยุดแล้วจะวิ่งต่อนี่กด Resume อย่างเดียวสบายเลยครับ
แต่ต้องระวังฝึกการใช้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นรถอาจจะพุ่งได้

เอาว่าถ้ามีใจชอบเป็นทุนอยู่แล้ว ซื้อได้ครับ ที่เหลืออยู่ที่โชคแล้วว่าจะเจอ Jackpot หรือป่าวครับ

ขอทริคหน่อยครับผมกำลังสงสัยคันผมเต็มถังไม่เคยถึง 500km ถังนึงได้แค่ 450-460 แบบดีสุดครับ

555 ผมไม่มีทริคอะไรครับ พอดีเส้นทางที่ผมไปทุกวัน จะไม่ค่อยเจอรถติดสุดๆครับ
ถ้าขับในเมืองตลอด เจอรถติดๆ ก้อได้ประมาณ 460 Km เองครับ

เคยขับไป สุโขทัยใช้ Cruise Control ขับประมาณ 110-130 Km/hr ถึงจะได้ 600 km ขับไปแบบเรื่อยๆ

อยากถามว่า ท่านอื่นเป็นเหมือนรถผมมั๊ยครับ คือเวลากดสตาร์ทรถ จะมีบางที ที่เครื่องสะบัดแรงมาก แบบเขย่า เลยอะครับ คันผมเจอบ่อยอยู่เหมือนกันครับ
เป็นอาการเดียวที่ขัดใจอยู่ครับ ไม่เหมือนตอนที่ใช้ CRV G4, Camry หรือ Sienta ไม่เจออาการนี้เลยครับ แต่ผมไม่เคยเจอดับกลางอากาศนะครับ
ผมใช้ cx3 2.0 เป็นเหมือนกันครับ สตาร์ทแล้วเครื่องสบัดแรงมาก จะเป็นตอนขับไปแล้วจอด ดับเครื่อง ลงไปทำธุระ พอกลับมาสตาร์ท เครื่องจะสบัดจนน่าตกใจ

แสดงว่าน่าจะเจอกันหลายคันเลย อาการเครื่องสะบัดเนี่ยครับ ทำให้คิดหนัก ที่จะซื้อมาสด้าเพิ่ม เพราะใช้รถมาเป็นสิบคัน ไม่เคยเจออาการนี้เลยครับ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือหัวฉีดจ่ายน้ำมันไม่พอเวลาสตาร์ท หรือเป็นอาการปกติของเครื่องหัวฉีดตรงหรือป่าวครับ วานผู้รู้บอกหน่อยครับ
อาการสะบัดแรงผมกลัวนานๆ ไปจะเป็นสตาร์ทครั้งเดียวไม่ติดได้หรือป่าวครับ ผวาอยู่เหมือนกัน เวลาสะบัดบางครั้งแรงมาก รถเขย่าไปทั้งคันเลยครับ
ยังดีนะที่การขับขี่ ใช้งาน ดีหมด ไม่ดับ ก้อยัง Ok อยู่ แต่พอจะซื้อใหม่ อาการเครื่องสะบัด นี่ทำให้คิดหนักเหมือนกันครับ

อ้อ ลืมบอกไปครับ ผมไปโปรแกรมปิดระบบ i-Stop ไว้ด้วยครับ เพราะอาการเครื่อง Start สั่นแรงเนี่ยแหละครับ ปล่อยให้เครื่องติดๆดับๆ ทั้งๆที่เขย่าแรง กลัวยางแท่นเครื่อง ไดสตาร์ท Batt ไปก่อนเวลาอันควรครับ พอปิดระบบนี้ไป ขับรถมีความสุขขึ้นเยอะเลยครับ ไม่ต้องมาคอยกดปิดตอน start รถเองครับ