ผู้เขียน หัวข้อ: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ  (อ่าน 4538 ครั้ง)

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,447
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2022, 15:45:33 »
ผมเป็นห่วงเรื่องการชาร์ตไฟมากกว่า ยิ่งตามในห้าง ที่ไม่เสียเงิน คงมีพวกต้องรอให้ 100% ก่อน ถึงจะออกรถได้

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,178
    • อีเมล์
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2022, 16:35:29 »
เรื่องที่ชาร์ต  เริ่มต้นอาจไม่พอ  แต่อย่าลืมว่าที่ชาร์ตการลงทุนมันน้อยกว่าปั๊มน้ำมันเยอะ  รวมถึงใช้พื้นที่น้อยกว่า  แค่มีที่จอดรถก็ติดตั้งได้   อีกหน่อยร้านอหารหรือหน้าร้านสะดวกซื้อก็คงมี

ส่วนเรื่องอุบัติเหตุ  เกิดจากวินัยในการขับขี่  การเป็นรถไฟฟ้าอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรก  ทางยาวต้องแก้วินัยตั้งแต่เรียนอนุบาล  จริงๆควรมีวิชาขับขี่ปลอดภัยบ่มเพาะตั้งแต่เด็กๆ

ออฟไลน์ bluelawn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 664
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2022, 17:02:12 »
ใช้ EV อยู่คันนึงครับ ขอเล่าประสบการที่ลองใช้มา

ถ้าจอดแช่ช่องชารจตอนที่แบตเต็มแล้ว แอพมันปรับตังแพงมาก ไครอยากโดนอยากแช่ก็ตามสบายครับ
รถล็อคอยู่เอาสายชารจออกจากรถไม่ได้ครับ ไม่ต้องกลัวพวกมือบอน
ทุกวันนี้ไม่เคยมีปัญหากับคนขับรถเร็วครับ มีปัญหากะพวก ไฟเขียวแล้วเลียคันเร่งไม่เกิน 10% กับพวกช้าแช่ขวามากกว่า

ออฟไลน์ pass17

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
    • อีเมล์
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2022, 19:05:35 »
วันก่อน ผมบีบแตรด่า kick คันนึงลั่นถนนเลย

สาเหตุเพราะผมเกือบชนท้าย มันแย่น้อยกว่ารถไฟเบรคเสียหน่อยเดียวเอง

แล้วรถไฟฟ้าหลายรุ่นก็มีโหมดนี้ด้วยสิ ไม่รู้อนาคตจะทำสัญญาณไฟเบรคเทียมหรือยัง อันตรายมากนะครับ
ที่ทำงานก็มีคนนึงซื้อมาแล้วขิงเหลือเกินว่าซื้อเพราะone pedal
นั่นแหละครับ น่าสาปแช่งไอ้พวกเวรนี่มากครับ

ผมว่าส่วนหนึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของรถคันหลังนะครับที่ต้องกะระยะจากสิ่งกีดขวางด้านหน้า
สายตาคนขับจำเป็นต้องอยู่กับถนนตลอด และต้องแยกแยะระดับความลึกได้ เหมือนตอนสอบใบขับขี่
จริงอยู่ว่าหากมีไฟเตือน สัญญาณบอกมันก็จะช่วยเราได้มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญเลยผมว่าเราต้องใช้สายตากะระยะจากรถคันข้างหน้าครับ

ส่วนตัวเองกลับเกลียดไฟเบรก ที่ติดๆดับๆ อยู่บอยๆ มันทำให้เราต้องยกและเบรค ตามคันข้างหน้า
โดยเฉพาะคนที่ขับรถ 2 เท้าและเท้าซ้ายคุณคาไว้ที่แป้นเบรค มันทำให้ไฟเบรคติดบ่อยเอามากๆ

กรณีของ kicks หากมีแรงเบรค เกิน 0.1G ไฟเบรคถึงจะติด ผมว่า 0.1G มันก็คือชะลอความเร็วทั่วไปนะครับ
ไม่ได้เบรคแรง หรือเบรคกะทันหันอะไรเลย หากไว้ระยะที่ปลอดภัย ก็น่าจะแยกแยะและคำนวนความเร็วของคันข้างหน้าได้ไม่ยาก
ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันถ้าจังหวะรถหยุดนึ่งเลยไฟเบรคจะติดไหม ถ้าไม่ผมว่าก็ควรแก้ไขนะในจังหว่ะหยุดนึ่ง

ส่วนตัวเวลาขับรถน้ำมัน ก็ไม่ค่อยได้ใช้ friction brake อยู่แล้ว เพราะ engine break ก็ใช้ชะลอความเร็วได้ดี
ซึ่งตอนอยู่บน highway เวลาขับตามๆกันแล้วชะลอความเร็วเล็กน้อย ผมก็ไม่ค่อยเห็นใครใช้ friction brake กันนะครับ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2022, 20:46:24 »
วันก่อน ผมบีบแตรด่า kick คันนึงลั่นถนนเลย

สาเหตุเพราะผมเกือบชนท้าย มันแย่น้อยกว่ารถไฟเบรคเสียหน่อยเดียวเอง

แล้วรถไฟฟ้าหลายรุ่นก็มีโหมดนี้ด้วยสิ ไม่รู้อนาคตจะทำสัญญาณไฟเบรคเทียมหรือยัง อันตรายมากนะครับ
ที่ทำงานก็มีคนนึงซื้อมาแล้วขิงเหลือเกินว่าซื้อเพราะone pedal
นั่นแหละครับ น่าสาปแช่งไอ้พวกเวรนี่มากครับ

ผมว่าส่วนหนึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของรถคันหลังนะครับที่ต้องกะระยะจากสิ่งกีดขวางด้านหน้า
สายตาคนขับจำเป็นต้องอยู่กับถนนตลอด และต้องแยกแยะระดับความลึกได้ เหมือนตอนสอบใบขับขี่
จริงอยู่ว่าหากมีไฟเตือน สัญญาณบอกมันก็จะช่วยเราได้มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญเลยผมว่าเราต้องใช้สายตากะระยะจากรถคันข้างหน้าครับ

ส่วนตัวเองกลับเกลียดไฟเบรก ที่ติดๆดับๆ อยู่บอยๆ มันทำให้เราต้องยกและเบรค ตามคันข้างหน้า
โดยเฉพาะคนที่ขับรถ 2 เท้าและเท้าซ้ายคุณคาไว้ที่แป้นเบรค มันทำให้ไฟเบรคติดบ่อยเอามากๆ

กรณีของ kicks หากมีแรงเบรค เกิน 0.1G ไฟเบรคถึงจะติด ผมว่า 0.1G มันก็คือชะลอความเร็วทั่วไปนะครับ
ไม่ได้เบรคแรง หรือเบรคกะทันหันอะไรเลย หากไว้ระยะที่ปลอดภัย ก็น่าจะแยกแยะและคำนวนความเร็วของคันข้างหน้าได้ไม่ยาก
ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันถ้าจังหวะรถหยุดนึ่งเลยไฟเบรคจะติดไหม ถ้าไม่ผมว่าก็ควรแก้ไขนะในจังหว่ะหยุดนึ่ง

ส่วนตัวเวลาขับรถน้ำมัน ก็ไม่ค่อยได้ใช้ friction brake อยู่แล้ว เพราะ engine break ก็ใช้ชะลอความเร็วได้ดี
ซึ่งตอนอยู่บน highway เวลาขับตามๆกันแล้วชะลอความเร็วเล็กน้อย ผมก็ไม่ค่อยเห็นใครใช้ friction brake กันนะครับ
ทิ้งระยะห่างไว้เยอะมากนะครับ แต่ด้วยการที่รถไฟฟ้าและไฮบริดอย่างepowerมันมีเอนจิ้นเบรคที่เยอะกว่ารถน้ำมันทั่วไปจนเกือบจะเป็นเบรคหัวทิ่ม ทำให้ระยะที่ทิ้งไว้เยอะๆอาจทำให้ไม่พอขับตามได้ยากครับ เข้าใจด้วยนะครับ

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2022, 12:25:53 »
ในนอนาคตอาจจะมีข่าวไฟไหม้แท่นชาร์จ ไฟไหม้รถ ไฟไหม้บ้าน ปั๊มกันมากขึ้น  เพราะคุณภาพของรถ และผู้ใช้ที่ยังไม่ชิน

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2022, 12:41:20 »
กลายเป็นว่ายังไม่ต้องมีอีวี..ดูจากบรรยากาศในกระทู้นี้เอาก็ได้ ผมว่าสังคมเรามันแย่ถึงขั้นสุดแล้ว..โดยเฉพาะสังคมบนถนนและลานจอดรถ (รวมจุดชาร์จ) ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปยังงัย

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,868
Re: EV มันจะทำให้บรรยากาศบนถนนแย่ลงมั้ยครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2022, 12:42:08 »
วันก่อน ผมบีบแตรด่า kick คันนึงลั่นถนนเลย

สาเหตุเพราะผมเกือบชนท้าย มันแย่น้อยกว่ารถไฟเบรคเสียหน่อยเดียวเอง

แล้วรถไฟฟ้าหลายรุ่นก็มีโหมดนี้ด้วยสิ ไม่รู้อนาคตจะทำสัญญาณไฟเบรคเทียมหรือยัง อันตรายมากนะครับ
ที่ทำงานก็มีคนนึงซื้อมาแล้วขิงเหลือเกินว่าซื้อเพราะone pedal
นั่นแหละครับ น่าสาปแช่งไอ้พวกเวรนี่มากครับ

ผมว่าส่วนหนึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของรถคันหลังนะครับที่ต้องกะระยะจากสิ่งกีดขวางด้านหน้า
สายตาคนขับจำเป็นต้องอยู่กับถนนตลอด และต้องแยกแยะระดับความลึกได้ เหมือนตอนสอบใบขับขี่
จริงอยู่ว่าหากมีไฟเตือน สัญญาณบอกมันก็จะช่วยเราได้มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญเลยผมว่าเราต้องใช้สายตากะระยะจากรถคันข้างหน้าครับ

ส่วนตัวเองกลับเกลียดไฟเบรก ที่ติดๆดับๆ อยู่บอยๆ มันทำให้เราต้องยกและเบรค ตามคันข้างหน้า
โดยเฉพาะคนที่ขับรถ 2 เท้าและเท้าซ้ายคุณคาไว้ที่แป้นเบรค มันทำให้ไฟเบรคติดบ่อยเอามากๆ

กรณีของ kicks หากมีแรงเบรค เกิน 0.1G ไฟเบรคถึงจะติด ผมว่า 0.1G มันก็คือชะลอความเร็วทั่วไปนะครับ
ไม่ได้เบรคแรง หรือเบรคกะทันหันอะไรเลย หากไว้ระยะที่ปลอดภัย ก็น่าจะแยกแยะและคำนวนความเร็วของคันข้างหน้าได้ไม่ยาก
ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันถ้าจังหวะรถหยุดนึ่งเลยไฟเบรคจะติดไหม ถ้าไม่ผมว่าก็ควรแก้ไขนะในจังหว่ะหยุดนึ่ง

ส่วนตัวเวลาขับรถน้ำมัน ก็ไม่ค่อยได้ใช้ friction brake อยู่แล้ว เพราะ engine break ก็ใช้ชะลอความเร็วได้ดี
ซึ่งตอนอยู่บน highway เวลาขับตามๆกันแล้วชะลอความเร็วเล็กน้อย ผมก็ไม่ค่อยเห็นใครใช้ friction brake กันนะครับ

คุณรู้ไหม เมื่อครั้งในอดีต ก่อนมีหลอดไฟ มนุษยชาติ​ที่ใช้ถนนสัญจรเขากำหนดสัญลักษณ์​มือ เพื่อบอกให้คันหลังทราบว่าเราจะทำอะไร

ตอนผมสอบใบขับขี่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนสอบเขาก็มีบอกอยู่ว่า หากไฟเลี้ยวหรือไฟเบรคเราเสีย เราควรใช้สัญลักษณ์​มืออย่างไร

การเบรคของคันหน้า มันถือเป็นเรื่องไม่ปกติอยู่แล้วครับ เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะเบรคเมื่อไหร่ มันอยู่นอกเหนือการเฝ้าระวังปกติแน่นอน ไม่เช่นนั้น มนุษย์จะคิดสัญลักษณ์มาทำไมกันครับ