Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กรกฎาคม 10, 2018, 15:27:56
-
ราคาอย่างเป็นทางการ Ford Everest Minorchange ดีเซล 2.0 Turbo 180 แรงม้า
/ Bi-Turbo 213 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ : 1,299,000 - 1,799,000 บาท
ชมภาพ และ รายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/official-price-ford-everest-minorchange-thailand/
(https://www.img.in.th/images/4a66d813f3177fe9d9671a609ef89d90.jpg)
-
อยากรู้จังครับ 1.599 กับ 1.799 นอกจากเครื่อง ออพชั่นมีไรต่างบ้างครับ :)
-
ราคาพอรับได้ครับ รออีกสักพักคงมีโปรส่วนลดต่างๆมาเสริม
แต่ตอนนี้รอชมออปชั่นแต่ละรุ่นย่อยครับ
-
อยากดูอุปกรณ์รุ่นเริ่มต้นว่าจะให้มาแบบเพียงพอไหม
-
ออพชั่นมาเต็มมาก ;D
-
รอดู Option แต่ละรุ่นย่อยครับ 8)
-
เครื่องใหม่ ออพชั่นมาเต็ม
-
ภายในเป็นสีดำอย่างเดียวเลยวุ้ย น่าจะมีสีอ่อนให้เลือกแบบรุ่นที่ผ่านมา
-
ขัดตรงสีภายในนี่หละ ทำไมไม่ทำสีเบจเหมือนเดิมละเพิ่มสีดำมาก็ได้ นอกนั้น เมพขิงชัดๆ
-
แม็กซ์ขอบ20"ทุกรุ่นเลยเหรอ
ออพชั่นร้นมากๆ
-
ขาดแค่ paddle shift จริงๆ ขัดใจปุ่มเปลี่ยนเกียร์มาก
-
ขาดแค่ paddle shift จริงๆ ขัดใจปุ่มเปลี่ยนเกียร์มาก
แต่ระบบเบรคมือเป็นแบบไหน
คันโยกเหมือนแหละครับ แต่เอาจริงๆผมว่าเบรคมือแบบนี้เหมาะกับการใช้งานรถประเภทนี้มากกว่าแบบอื่นนะครับ
-
เพิ่งเห็นในรูปครับ มองไม่ดีเองครับผม
ส่วนตัวผมชอบแบบมือดึงนี่แหละครับ ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเยอะเลยครับ
-
นอกจากล้อลายใหม่ผมชอบทุกอย่าง
-
เหลือแค่ปัญหาตัวรถและบริการหลังการขายที่ต้องแก้อีกยาว นอกนั้นผมว่าเทพมากแล้ว 8) 8)
-
เปิดตัว MC นี่ เหมือนตอนเปิดตัวใหม่หรือป่าว กว่าจะเปิดจองและรับรถ นี่หลังจากเปิดตัวหลายเดือนเลย
นอกจากล้อลายใหม่ผมชอบทุกอย่าง
ลายล้อมันเหมือน Isuzu BluePower ไปหน่อย
ส่วนตัวมองว่า ล้อ 20 ตัวเดิม สวยมากกว่านะ
-
เสียดายสีเบาะภายในเหลือแต่สีดำ
สอบถามหน่อยครับ ช่วงล่าง วัตต์ลิงค์ของ everest ดีกว่าพวก fortune กับ pajero ยังไงครับ
ขอบคุณครับ
-
สุดในรุ่น ;D
-
อยากได้ขับสี่ต้องจ่ายถึง 1.8 ล้านเลยหรือนี่
-
ภายในดำมาซะที สีครีมเบจมันดูแลยาก
-
ออฟชั่น นี่รถยุโรปมีอาย ไม่ต้องพุดถึงฟอร์จูนเนอร์เรย จ่ายล้านแปดเท่ากัน อยู่ที่คนบริโภคแล้วละ
-
พอติดตลาดหน่อย ก็ขึ้นราคากันหมดทุกรุ่นย่อย ความน่าสนใจลดลงทันที เพราะขึ้นราคาเนี่ยแหละ
-
เริ่มลงโชว์รูมแล้วครับ
(https://www.img.live/images/2018/07/10/IMG_1270.jpg)
(https://www.img.live/images/2018/07/10/IMG_1271.jpg)
(https://www.img.live/images/2018/07/10/IMG_1272.jpg)
(https://www.img.live/images/2018/07/10/IMG_1273.jpg)
(https://www.img.live/images/2018/07/10/IMG_1274.jpg)
-
2.0 ลิตร 180 แรงม้า ของ Isuzu 1.9 ได้แค่ 150
เครื่องฟอร์ดเทพมาก
-
ภายในดำมาซะที สีครีมเบจมันดูแลยาก
ภายในดำมีมาตั้งแต่ตัว MY 2017 แล้วครับ แต่จับคู่สีภายนอกเงินและทองเท่านั้นครับ สีอื่นจะได้ภายในเบจหมด
-
2.0 ลิตร 180 แรงม้า ของ Isuzu 1.9 ได้แค่ 150
เครื่องฟอร์ดเทพมาก
ศูนย์บริการก็อยากให้เทพในทางที่ดีด้วยครับ ไม่ใช่เป็นแบบเทพจากที่ผ่านมา :-X
-
2.0 ลิตร 180 แรงม้า ของ Isuzu 1.9 ได้แค่ 150
เครื่องฟอร์ดเทพมาก
ศูนย์บริการก็อยากให้เทพในทางที่ดีด้วยครับ ไม่ใช่เป็นแบบเทพจากที่ผ่านมา :-X
ภ
ศูนย์ ford เมืองไทยก็ดีอันดับตันๆของโลกแล้วนะ(วัดเฉพาะfordด้วยกัน) เพราะความคิดของผู้บริหารอเมริกาด้วยล่ะที่เน้นแต่ขาย ไม่เน้นหลังการขาย ยอดขายมันถึงแพ้รถญี่ปุ่นขนาดในบ้านตัวเองยังแพ้ยับ
-
พอติดตลาดหน่อย ก็ขึ้นราคากันหมดทุกรุ่นย่อย ความน่าสนใจลดลงทันที เพราะขึ้นราคาเนี่ยแหละ
เปลี่ยนเครื่องเปลี่ยนเกียร์นะครับ ต้นทุนมันสูงให้เค้าหน่อยเถอะครับ รู้ว่าแพง แต่ดูค่ายอื่นมีใครให้แบบนี้บ้างครับ ไม่ได้อวยนะ แต่ครั้งนี้เค้ามาเต็มจริงๆ
-
ออฟชั่น นี่รถยุโรปมีอาย ไม่ต้องพุดถึงฟอร์จูนเนอร์เรย จ่ายล้านแปดเท่ากัน อยู่ที่คนบริโภคแล้วละ
อยู่ที่ฟอร์ดด้วยครับ ว่าจะพัฒนาศูนย์ และบริการให้ล้ำเหมือนรถที่เขาทำออกมาไหม ตรงนี้ก็สำคัญ
-
ภายในดำมาซะที สีครีมเบจมันดูแลยาก
ภายในดำมีมาตั้งแต่ตัว MY 2017 แล้วครับ แต่จับคู่สีภายนอกเงินและทองเท่านั้นครับ สีอื่นจะได้ภายในเบจหมด
จริงด้วยครับ ผมก็ลืมไปเลย
เคยขับของเพื่อนสีเงินภายในดำ พลาดเองครับ
8) 8) 8)
-
ภายในดำมาซะที สีครีมเบจมันดูแลยาก
ภายในดำมีมาตั้งแต่ตัว MY 2017 แล้วครับ แต่จับคู่สีภายนอกเงินและทองเท่านั้นครับ สีอื่นจะได้ภายในเบจหมด
จริงด้วยครับ ผมก็ลืมไปเลย
เคยขับของเพื่อนสีเงินภายในดำ พลาดเองครับ
8) 8) 8)
แต่พอดี2สีนี้คนไม่ค่อยสั่งกันเลยกลายเป็นของหายากไปซะงั้นครับ เลยเหมือนว่าภายในสีดำมันไม่มีตัวตน 555
-
ให้ออพชั่นมาล้นขนาดนี้ เจ้าอื่นๆปรับตัวไม่ทัน
-
ภายในดำมาซะที สีครีมเบจมันดูแลยาก
ภายในดำมีมาตั้งแต่ตัว MY 2017 แล้วครับ แต่จับคู่สีภายนอกเงินและทองเท่านั้นครับ สีอื่นจะได้ภายในเบจหมด
จริงด้วยครับ ผมก็ลืมไปเลย
เคยขับของเพื่อนสีเงินภายในดำ พลาดเองครับ
8) 8) 8)
แต่พอดี2สีนี้คนไม่ค่อยสั่งกันเลยกลายเป็นของหายากไปซะงั้นครับ เลยเหมือนว่าภายในสีดำมันไม่มีตัวตน 555
จริงครับ ภาพEVที่ติดตายังไงก็สีเบจ
-
ดังนั้น ราคา RANGER ไม่น่าจะหนีจากกระทู้นี้แน่นอนเลย
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=65316.0
-
อยากได้ paddle shift เบิกพวงมาลัย Raptor มาเลยครับทำได้แน่นอน
เรื่องศูนย์ไม่ห่วงครับ เดี๋ยวนี้เคลมง่าย ไม่งี่เง่า ยกเว้นสั่งอะไหล่ที่ไม่สต็อกไว้จะต้องรอ แต่เร็วนะเดี๋ยวนี้ถ้าเทียบกับสมัยก่อน สั่งเช้าเย็นมาถึงแต่โทรไปสั่งไม่ได้ต้องเข้าไปศูนย์เซ็นว่าสั่ง
-
มีผลอัตราสิ้นเปลืองออกมาบ้างรึยังครับ
-
ว่างๆไว้จะแวะไปดูซะหน่อย
-
รุ่น top 213 แรงม้า จะได้ช่วงล่างเหมือน Raptor ไม๊ครับ?
-
กล้อง 360 องศามาไหม?
-
เสียดายสีเบาะภายในเหลือแต่สีดำ
สอบถามหน่อยครับ ช่วงล่าง วัตต์ลิงค์ของ everest ดีกว่าพวก fortune กับ pajero ยังไงครับ
ขอบคุณครับ
Everest มีจุดยึดจับตัวถังกับแชสซี6จุด เรียกว่าWatt link (มากกว่าSUVรุ่นอื่นในตลาดไทย)
ในสภาวะการขับที่ล้อใดข้างหนึ่งลอยยกจากพื้น
ล้อที่เหลือ จะยังคงยึดเกาะพื้นถนน โอกาสพลิกคว่ำน้อยลงครับ
-
ถ้าจับเครื่องตัวนี้มาลงรถเก๋ง เช่น fiesta นี่คงได้ 20โลลิตร 0-100 6 วิ
-
ถ้าจับเครื่องตัวนี้มาลงรถเก๋ง เช่น fiesta นี่คงได้ 20โลลิตร 0-100 6 วิ
Fiesta มี Ecoblue 1.5 ใหม่แล้วครับ ดีเซล
-
นอกจากเครื่องใหม่แล้ว ทำไมผมไม่รู้สึกว้าวกับอะไรอีกเลยสำหรับ everest mc รอบนี้
-
ภายในสีดำ ดูเเลง่ายเบย
-
เห็นOptionแล้ว คิดถึงน้องTerraตรูมาตอนตลาดวายได้อีก
-
จัดเต็มมากๆ ชอบเลยแบบนี้..
-
สรุปใช้เครื่องใหม่ 2.0 ด้วยกันหมด แล้วแต่ว่า turbo เดี่ยวหรือคู่
-
สีทองโปรโมตสวยมากๆ หลังจากที่สีนี้หายจากรถไปหลายยี่ห้อนหลายปีทั้งที่เป็นสีที่ดูแลง่าย แถมดูขึ้นกับ EV โฉมนี้ซะด้วย :-* :-*
ราคากับ option ค่อนข้างเร้าใจ เพราะเพิ่มรุ่นย่อยมาเริ่มที่ 1.3 ตัวเดิมนี่เริ่ม 1.369
กำลังการผลิตไม่รู้ว่าจะเยอะแค่ไหน จะเจียดมาให้กับ ประเทศไทยได้มากน้อยเพียงใด เข้าใจว่ายอดขายต่อเดือนก็ประมาณเดิม 700-900 คัน
:-X :-X
-
ปุ่ม start/stop กับ smart entry มีซะที ... ชอบมาก สะดวก
ขอถามนอกเรื่องครับ แล้ว EVEREST RAPTOR ข่าวจริงหรือหลอกครับ 8)
-
สีทองโปรโมตสวยมากๆ หลังจากที่สีนี้หายจากรถไปหลายยี่ห้อนหลายปีทั้งที่เป็นสีที่ดูแลง่าย แถมดูขึ้นกับ EV โฉมนี้ซะด้วย :-* :-*
ราคากับ option ค่อนข้างเร้าใจ เพราะเพิ่มรุ่นย่อยมาเริ่มที่ 1.3 ตัวเดิมนี่เริ่ม 1.369
กำลังการผลิตไม่รู้ว่าจะเยอะแค่ไหน จะเจียดมาให้กับ ประเทศไทยได้มากน้อยเพียงใด เข้าใจว่ายอดขายต่อเดือนก็ประมาณเดิม 700-900 คัน
:-X :-X
เขาเริ่มผลิตแล้วเหรอครับ ค่ายนี้ปกติ เปิดตัวรถก็จริง แต่กว่าจะผลิต จะส่งรถได้ ต้องมีหลังนั้น 3-4 เดือน ตลอด
ปุ่ม start/stop กับ smart entry มีซะที ... ชอบมาก สะดวก
ขอถามนอกเรื่องครับ แล้ว EVEREST RAPTOR ข่าวจริงหรือหลอกครับ 8)
ผมเคยตั้งกระทู้ถามว่า ทำไม EVEREST ไม่มี push start smart entry keyless
มี คนมาตอบท่านนึง บอกว่า เพราะรถส่งออกไปขายตะวันออกกลาง กลัวเขาทำเป็นปุ่มระเบิด เลยไม่ใส่มา
ผมนี่ฮาลั่นเลย คิดได้ไง เปลี่ยนจุดด้อยเป็นจุดเด่นได้ เชดดด
::) ::)
-
สเปคแต่ละรุ่นย่อยครับ
รุ่น Trend 2.0 Turbo 4x2 : 1,299,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อม Manual Mode
- ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์
- ราวหลังคาและบันไดข้าง
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65 R17
- กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะหนังสีดำ
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ภาษาไทย หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Bluetooth และ Wi-Fi
- ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟลายเออร์
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
รุ่น Titanium 2.0 Turbo 4x2 : 1,439,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Trend 140,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Trend) ได้แก่
- ไฟหน้าแบบ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- ไฟท้าย LED
- ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี
- อัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
รุ่น Titanium+ 2.0 Turbo 4x2 : 1,599,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Titanium 160,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Titanium) ได้แก่
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน
- เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่
- หลังคา Panoramic Moonroof
- อัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
- ระบบแผนที่นำทาง
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
- ระบบตรวจจับลมยาง
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
- ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด
รุ่น Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 4x4 : 1,799,000 บาท เพิ่มจาก Titanium+ 200,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Titanium+ 2.0 Turbo 4x2) ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo (เทอร์โบคู่)
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management
- เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
-
สเปคแต่ละรุ่นย่อยครับ
รุ่น Trend 2.0 Turbo 4x2 : 1,299,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อม Manual Mode
- ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์
- ราวหลังคาและบันไดข้าง
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65 R17
- กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะหนังสีดำ
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ภาษาไทย หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Bluetooth และ Wi-Fi
- ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟลายเออร์
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
รุ่น Titanium 2.0 Turbo 4x2 : 1,439,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Trend 140,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Trend) ได้แก่
- ไฟหน้าแบบ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- ไฟท้าย LED
- ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี
- อัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
รุ่น Titanium+ 2.0 Turbo 4x2 : 1,599,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Titanium 160,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Titanium) ได้แก่
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน
- เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่
- หลังคา Panoramic Moonroof
- อัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
- ระบบแผนที่นำทาง
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
- ระบบตรวจจับลมยาง
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
- ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด
รุ่น Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 4x4 : 1,799,000 บาท เพิ่มจาก Titanium+ 200,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Titanium+ 2.0 Turbo 4x2) ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo (เทอร์โบคู่)
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management
- เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
ถ้าคนไม่สนลูกเล่นอะไรมาก ตัวเริ่มต้นคุ้มสุดละ
-
ปุ่ม start/stop กับ smart entry มีซะที ... ชอบมาก สะดวก
ขอถามนอกเรื่องครับ แล้ว EVEREST RAPTOR ข่าวจริงหรือหลอกครับ 8)
ส่วนตัว ford น่าทำ everest แบบ raptor เพราะทำแบบช่วงล่าง ranger raptor มาแล้ว แค่เอากระดอง เปลี่ยนจุดยึด และขยายโปร่ง everest เท่านั้น ก็จะสร้างมาตรฐานใหม่ ให้กับ SUV หรือ PPV ไทย ที่อาจจะแซงหน้า toyota landcruiser prado เลยทีเดียว ทุกวันนี้เทคโนโลยีก็ล้ำกว่า เพียงแต่ศูนย์บริการหลังการขายยังไม่น่าเชื่อถือเท่า toyota ซึ่งต้องดูกันยาว ยาว
-
สเปคแต่ละรุ่นย่อยครับ
รุ่น Trend 2.0 Turbo 4x2 : 1,299,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อม Manual Mode
- ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์
- ราวหลังคาและบันไดข้าง
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65 R17
- กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะหนังสีดำ
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ภาษาไทย หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Bluetooth และ Wi-Fi
- ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟลายเออร์
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
รุ่น Titanium 2.0 Turbo 4x2 : 1,439,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Trend 140,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Trend) ได้แก่
- ไฟหน้าแบบ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- ไฟท้าย LED
- ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี
- อัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
รุ่น Titanium+ 2.0 Turbo 4x2 : 1,599,000 บาท เพิ่มจากรุ่น Titanium 160,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Titanium) ได้แก่
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน
- เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่
- หลังคา Panoramic Moonroof
- อัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
- ระบบแผนที่นำทาง
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
- ระบบตรวจจับลมยาง
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
- ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด
รุ่น Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 4x4 : 1,799,000 บาท เพิ่มจาก Titanium+ 200,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่น Titanium+ 2.0 Turbo 4x2) ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo (เทอร์โบคู่)
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management
- เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
รู้สึกว่า ถ้า option 1.29 ล้าน ขนาดนี้ เอาแค่นี้พอละ
เอามาตบยี่ห้ออื่นหมดเลยมั้งนี่
-
อยากรู้อัตราเร่งเครื่อง 2 รุ่นนี้จังว่าต่างกันมากแค่ไหน
เกียร์ 10 จังหวะ นี่ก็น่าสน แต่ก็กลัวเกียร์เยอะจะไม่ทนมั้ย เสียง่ายมั้ย
-
แจ๋วเลย มารอบนี้
-
รอดูยอดขายในเดือนหน้าอยู่นะครับ
-
ทำไมออฟชั่นเยอะเยี่ยงเน้ 8)
รอชม terra