Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Bangkok Infinity X12 ที่ มีนาคม 02, 2012, 18:45:28
-
ผมอยากทราบว่าถ้ารถยนต์ทุกประเภทติดตั้งไฟหน้า ไฟท้าย DRL กับ LED คุณจะเลือกระหว่าง
-DRL LED จากโรงงาน ราคาแพง vs DRL LED จากตามร้าน ติดตั้งเอง ราคาถูก พร้อมบอกเหตุผล
อีกเรื่องนึง ทำไมรถกระบะ รถตู้ญี่ปุ่น ไม่ติดไฟ DRL กับ LED จากโรงงาน เพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ
-
ปกติ DRL ด้านท้ายไม่จำเป็นนะครับ ถ้าให้เลือกก็ขอรุ่นหลังตลาด ที่มีคุณภาพหน่อย อาจจะ่จ่ายมากกว่าแต่มั่นใจได้ ส่วนรถกระบะ จากญี่ปุ่นอย่างอีซูซุ ก็มีไฟท้ายใช้ LED แล้วนะครับ ส่วนเรื่อง DRL คงเพราะงกมากกว่า แต่ตอนผมอยู่เชียงรายก็เห็นรถตู้บางสายเปิดไฟให้เองนะครับ
-
เลือก DRL จากโรงงานครับ คุณภาพดีกว่า ผมว่าปลอดภัยดีนะครับ อีกหน่อยคงเป็นมาตรฐานบังคับใช้
อีกอย่างจากโรงงานเห็นบอกว่ามันปรับความเข้มแสงได้เองนะ
ส่วน LED อีกหน่อยก็คงมีครบครับ ตอนนี้ราคาอาจจะยังสุงอยุ่
-
DRL ย่อซะผมงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ถ้าเป็นผมผมคงขอเลือกจากโรงงานดีกว่าครับ เพราะเค้ามีระบบอะไรหลายๆอย่างที่ของซื้อมาติดเองไม่มี (แต่ถ้ายี้ห้อดังๆอย่าง Philips ก็แล้วไปครับ เจ้านั้นทำถูกหลัก แต่ถ้าร้านติดไม่เป็นก็เหมือนเดิม) เพราะว่า DRL แสงไปจะต้องมี 2 จังหวะ คือ แสงเต็ม 100% ในเวลากลางวัน และลดแสง 50% ในเวลากลางคืน เนื่องจากหลายๆคันที่ไปติดมา แสบตามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะ 1 คนติดตั้งอาจติดตั้งไม่เป็น 2 ของคุณภาพต่ำจริงๆ มีแสงแค่จังหวะเดียว
เรื่อง DRL ผมอยากให้มีในรถทุกๆคันเพราะในเวลากลางวันเราจะเห็นมาแต่ไกลว่า รถคันนี้กำลังสวนมา ถึงเราไม่ตั้งใจมอง แสงไฟมันจะแว๊บๆเข้าตาเราทำให้เราระวังมากขึ้น
ตอนนี้ผมทำ DRL ใช้เอง โดยได้แรงบันดาลใจจาก Benz
ผมตั้งเงือนไขการทำงานง่ายๆครับ
-เมื่อบิดสวิทช์กุนแจ ไปที่ ตำแหน่ง ON ไฟ DRL จะติดเต็ม 100% (ปิดไปที่ตำแหน่ง START ไปจะดับ(คือ ให้ขณะสตาสเครื่องไปจะดับ))
-เมื่อเปิดไฟหรี่ หรือไฟหน้า DRL จะถูกสั่งงานให้ลดแสงตัวเองเหลือ 50%
-เมื่อเปิดสวิทช์ไฟตัดหมอก (ไฟหรี่หรือไฟหน้าต้องเปิดอยู่) DRL จะถูกสั่งให้ให้เพิ่มแสงเต็ม 100% (ในกรณีนี้ต้องเป็นตอนที่วิสัยทัศน์เลวร้ายจริงๆเท่านั่น เพราะถ้าเป็นตอนวิสัยทัศน์ปรกติ แสงที่ออกมาจะแรงมากแสบตาโคตรๆ)
ผมทำเองหมดงบไป 5000 บาท เพราะผมเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆตามมาตรฐานรถ สายไฟต้องร้อยท่อพร้อมพันเทปกาวทุกเส้น งานนี้สิ่งที่อยากที่สุดคือ ตัว control กว่าจะลงตัว ;) ใช้เวลาในการทำ 2 เดือน ทดสอบและวิจัยเรื่องทิศและความเข้มของแสง 5 เดือน และ ทดสอบความทนทาน 9 เดือนแล้วครับ ตัวที่ติดอยู่ในรถผมตอนนี้ผมยังถือว่าเป็นตัว ทดลองใช้งาน แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีเลยที่เดียวครับ
-
ถ้ามันมาพร้อมกับราคารถเลยก็ดี แต่นี่ไม่มา
-
DRL ย่อซะผมงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
(แต่ถ้ายี้ห้อดังๆอย่าง Philips ก็แล้วไปครับ เจ้านั้นทำถูกหลัก แต่ถ้าร้านติดไม่เป็นก็เหมือนเดิม) เพราะว่า DRL แสงไปจะต้องมี 2 จังหวะ คือ แสงเต็ม 100% ในเวลากลางวัน และลดแสง 50% ในเวลากลางคืน เนื่องจากหลายๆคันที่ไปติดมา แสบตามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะ 1 คนติดตั้งอาจติดตั้งไม่เป็น 2 ของคุณภาพต่ำจริงๆ มีแสงแค่จังหวะเดียว
หลักงานทำงานของผมทำคือ
ไม่งงนะครับ อย่างก้านไฟ Camry USA ก็มีให้บิดปิด ย่อว่า DRL OFF อยู่แล้วครับ
ส่วนตัวผมเองก็ใช้ retrofit ของ Philips คุณภาพเยี่ยมครับ (ราคาก็ :'( :'( ) และเวลาเปิดไฟหรี่มันจะดับไปทั้งชุดเลยครับ ง่ายดี
รอการแชร์วิธีทำนะครับ
-
ถ้าเอามาติดเองโดยที่รถรุ่นนั้นม่ะได้ติดให้มาตั้งแต่ผลิต ผมว่าเชย ... (เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)
แต่ถ้าเป็น C-Class รุ่นต่ำสุด แต่เอามาใส่ของรุ่นทอปอันนี้โอเค แต่พวกรถกระบะ รถตู้ เก๋งบ้านๆ อื่นๆ ผมว่าเชยนะ
-
ถ้าเอามาติดเองโดยที่รถรุ่นนั้นม่ะได้ติดให้มาตั้งแต่ผลิต ผมว่าเชย ... (เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)
ความเห็นส่วนตัว ผมก็คิดว่า Daytime LED running lights on cars are gay, especially aftermarket ones http://www.facebook.com/groups/153195084734817/ (http://www.facebook.com/groups/153195084734817/) ไอ้พวกนี้แม่งก็โคตร shitty เลยครับ
-
เอ่าเฮ้.....คราวนี้พวก ตร. จะมีรายได้มากขึ้น
กำเอ้ยยยย ออกกฏมาเพื่อให้ ปชช. แจกใบแดงเพื่อความรวดเร็วและไม่ต้องเอาใบสั่งไปโรงพัก
-
ติดเยอะๆ นึกว่ารถคณะหมอลำ เสียงอีสาน ปอยฝ้าย มาลัยพร มาเองกันเลยทีเดียว !!!
-
อะไรที่เป็นเรื่องโง่ๆ มักเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องเสียให้สัมพเวสีในเครื่องแบบเสมอ ไม่จอดใครจะทำไมอยากจับก็เอารถมาไล่ละกัน
-
แล้วรถทัวร์ที่ติดลำโพงด้านนอกล่ะ
ติดไฟแดงน่ารำคาญมาก
อายแทนคนร้องเกะข้างใน
นั่นก็สร้างความรำคาญเหมือนกัน
รถสั่นไปหมด
ทำไมไม่จับบ้าง ???
-
เอ่อ......เริ่มจะออกทะเลนิดๆ แล้วนะ... :)
DRL = Daytime Running Light ครับ เป็นไฟวิ่งกลางวัน ช่วยให้คนที่ขับรถสวนเรามองเห็นเราได้ง่ายขึ้น
(แต่บ้านเราไม่มีก็ได้ เพราะแดดส่องทั่วถึงอยู่แล้ว แต่จะมีประโยชน์ตอนหน้าหนาวอะนะ...)
รถยุโรปมักให้ออปชันนี้มาครับ เช่น E-Class Coupe ครับ
สงสัยจริงๆ ว่า ถ้ามีไฟ DRL แล้ว แล้วไฟหรี่ล่ะ?? เอาไว้ทำไม
-
DRL มันไว้ใช้ตอนกลางวัน
แต่ไฟหรี่เอาไว้ใช้ตอนเริ่มเข้าพลบค่ำไงครับ
เวลา DRL ติด ไฟท้ายมันไม่ได้ติดขึ้นมาด้วยนะ
-
DRL = Daytime Running Light ครับ เป็นไฟวิ่งกลางวัน ช่วยให้คนที่ขับรถสวนเรามองเห็นเราได้ง่ายขึ้น
(แต่บ้านเราไม่มีก็ได้ เพราะแดดส่องทั่วถึงอยู่แล้ว แต่จะมีประโยชน์ตอนหน้าหนาวอะนะ...)
แสง(แดด)พุ่งลงที่รถเรา กับแสงออกจากรถของเรา มันคนละอย่างกันครับ เพราะ DRL ก็มีประโยชน์กับการต้านทาน solar glare
-
ไฟหรี่ ตามหลักสากลเค้าเปิดใช้เฉพาะเวลาจอดรถ"เท่านั้น"
-
ขอเป็นแแบมาจากโรงงานเลยดีกว่าครับ ปลอดภัยต่อสายตามากกว่า ถึงมันจะแพงอีกซักหน่อย แต่มันก้ติดมากับตัวรถเรียบร้อยแล้ว มีปัญหาอะไรก้คุยกับศูนย์ได้เลย ผมว่าน่าจะออกมาเป็นกฏหมายอย่างต่างประเทศเลยนะว่า รถทุกคันที่ผลิตออกมาจากโรงงานต้องมีไฟ DRL จะได้ไม่เป็นปัญหากัน
-
แต่ออกกฏมาอย่างงี้เหมือนจงใจว่า ใครติดจับหมด ไม่ว่ากี่เม็ดไม่มีข้อยกเว้น
-
ขอจากโรงงานครับ แล้วก็แจ้งประกันด้วยในส่วนของแต่งเพิ่ม เวลาเคลมจะได้เคลมได้ครบๆ
ไม่โดนศูนย์ยึกยักด้วยว่า พี่ไปใส่ของนอกมา ประกัน(โคมไฟและหลอดไฟ)หลุด อะไรแบบนี้