ก่อนอื่นเลยก็ต้อง ... สวัสดีครับ พี่ๆชาวHLM ทุกๆคน
ตามที่ได้สัญญากันเอาไว้ว่า ผมจะรีวิวฟอร์จูนเนอร์ให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน
ที่มาของชื่อกระทู้ First Review // Fortuner ม้าสีเงินที่พร้อมจะพุ่งไปข้างหน้า //
เพราะว่า รถคันนี้เนี่ย ช่วงล่างมันไม่ได้นิ่มเหมือนคู่แข่งคันอื่นๆ ถ้าเจอถนนคอนกรีตหล่ะก็ เหมือนเรากำลังควบม้าอยู่เลยครับ แถมเครื่องแรงโฮกๆ พร้อมจะพุ่งไปข้างหน้าเสมอครับ
ฟอร์จูนเนอร์ของพ่อผม เป็นรุ่นปี2010 ออกรถตอนเดือนธันวาคม ปี2010 มาตอนนี้ก็เกือบๆจะปีแล้ว อีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น รถคันนี้สีบรอนซ์ เป็นรุ่น 3.0v ขับเคลื่อน2ล้อ สาเหตุที่เอารุ่นที่ขับ2 เพราะว่าครอบครัวผมเวลาออกต่างจังหวัด ก็แค่วิ่งทางไกล ไม่จำเป็นต้องใช้แบบขับเคลื่อน4ล้อเพื่อขึ้นเขา ลงห้วยกันเท่าไร อย่าโหดๆก็แค่ขึ้นดอยอ่างขางเท่านั้นเอง
ก่อนวันจะไปรับรถ1วัน ผมกับพ่อก็ออกไปดูความเรียบร้อย ว่าใส่ของแถมหมดหรือยัง ผมก็ได้ถ่ายรูปไว้บางส่วน รูปแรกนี่เบาะยังหุ้มพลาสติกไว้อย่างดีเชียว (ฝุ่นเยอะมวากก) นั่งลงไปทีนี้ดำเลยแหละครับ เราดันไปนั่งคนแรกซะด้วย
ส่วนตรงพวงมาลัยและคอนโซลหน้าก็ยังใหม่เอี่ยมครับ
ส่วนเบาะหลังนั้นยังไม่ได้แกะพรมเลยครับ (แต่แปลกนะ อะไรที่หุ้มเอาไว้ มีฝุ่นเกาะทุกอันเลย)
โดยรวมๆแล้ว สภาพรถก็โอเคมากๆ ไม่มีอะไรที่ชำรุดหรือเสียหายแม้แต่น้อย วันนั้นก็กลับบ้านไปเตรียมเงินมารับรถกันครับ
ตอนแรกที่ขึ้นรถ พอพ่อสตาร์ท เราก็ไม่คุ้นเสียงดีเซลเท่าไรเลย เพราะอยู่แต่กับเบนซิน มาวันนี้ผมก็แปลกใจ ปกติเสียงมันต้องดังๆ เหมือนเรือหางยาว แต่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร รอบเดินเบามันก็ดังกว่าเก๋งแค่นิดเดียวเอง แต่ถ้าลงจากรถเท่านั้นแหละ หึหึ TOT พอขับออกมาจากโชว์รูม ไฟเตือนว่าน้ำมันหมด! ก็ต้องไปเติมกันตอนนั้นเลย
รถคันนี้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร แรงบิด 343 นิวตันเมตรต่อ 1400-3200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ยอมรับเลยครับ ว่าเครื่องเขาแรงจริง ตอนออกตัวนี่แรงมากๆครับ แต่ช่วงกลางไปยังปลายนี่ก็ช้าเลยครับ แต่ก็ขึ้นเลื่อยๆอืดๆไป พอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วๆไปครับ วิ่งในเมืองก็ชิลๆ รถใหญ่ ทัศนวิสัยก็ดีเยี่ยมครับ
ยิ่งเวลาขับออกต่างจังหวัด ก็สบายๆเลย แรงบิดมากพอตัว อัตราการเร่งแซงก็ดีมากๆเลย เหยียบเป็นมาๆ วิ่งทางไกลมากๆนานๆก็ล็อคครูสคอนโทรลจับพวงมาลัยอย่างเดียว สบายๆครับ
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไม่เคยจับกันจริงจังสักทีครับ แต่จะเอารูปในหน้าปัดมาแทนนะครับ
เท่าที่วิ่งมา ประหยัดสุดๆก็แค่ 14.5 กม./ลิตร ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดครับ ล็อคครูสคอนโทรลที่ 110 กม./ชม.
มาดูภายนอกรถกันครับ
รถคันนี้ใส่ชุดแต่ง TRDII รอบคันครับ ถ้าไม่ใส่มันจะเห็นยางอะไหล่หลัง ดูแล้วไม่ค่อยสวย (อุปมาไปเองหรือป่าวหว่า)
ไฟหน้าคันนี้เป็นแบบโปรเจคเตอร์ เดิมๆจากโรงงานเลยครับ ไม่ได้เปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น
ไฟตัดหมอกก็เดิมๆทั้งหมดเลยครับ วิ่งในเมืองก็สงสารรถเล็กๆนะครับ ก็เลยปิดเอาไว้ เปิดเฉพาะตอนฝนตกหนักๆ และตอนออกต่างจังหวัดเท่านั้นครับ
ไฟหลังเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ขอบอกกันเลยครับ ว่าสว่างแสบตาพอสมควร เวลาพ่อถอยไปทำงานตอนเช้านี่ แสงมันเข้าตาแสบตามาก แต่ไม่ถึงขนาดแคมรี่นะครับ :)
3.0 D4D และไฟเลี้ยวด้านข้างครับ
สัญลักษณ์ VSC ครับ
รถคันนี้ติดฟิล์มไฮคูล 60 40 รอบคันครับ (แบบปรอท)
ยางที่ติดรถมาให้ เป็นมิชลิน ขอบ17 ครับ
บันไดข้างครับ เพิ่งขัดใหม่ๆ (อันนี้ถ้าเป็นคนสูงอายุขึ้น คงจะลำบากสักหน่อยครับ แต่ก็ดีที่ว่ารถคันนี้เขาให้ที่จับมาเพื่ออำนวยความสะดวกครับ)
มือจับเป็นแบบโครเมียม ที่ครอบมือจับนั้นเป็นของแถมมาจากโรงงานครับ
เส้นสายด้านข้างของรถครับ (ผมว่าวิศวกรออกแบบมาก็สวยดีนะครับ คหสต :") )
ถ้าเป็นรุ่นที่ไมเนอร์เชนแล้วจะมีเครื่องหมายนี้ครับ อยากจะถามเขาดูเหมือนกันว่า จะแปะมาเพื่อ?? ผมว่าไม่แปะจะดูดีกว่านิดนึง :"(
( เขาคงตอบว่า ผมแปะมาให้คุณถาม !! ถ้าผมไม่แปะ คุณคงไม่ถามหรอก 555+)
ส่วนด้ายท้ายของรถ ผมว่าท้ายมันบานๆแปลกๆ แต่ว่าในมุมมองผม ผมว่ามันก็สวยดีนะ (อย่างน้อยก็ยังดูดีกว่าไฟท้ายบริโอ้อ่ะนะ)
ด้านหลังมีเซนเซอร์อยู่ 2 จุด ช่วยทำให้การกะระยะทำได้ง่ายขึ้นมากๆ แถมไม่หลอกตาอีกตังหาก (มีแต่เสียง บี๊บๆๆๆ ปนเสียงเกียร์)
ไฟท้ายพอคาดด้วยโครเมี่ยม ผมว่ามันก็ดูอารมแบบหรูดีนะ เห็นคนใส่กันเยอะ แต่ถ้าไม่ดูแลดีๆนะ มันจะเป็นดวงๆเยอะแยะมากมาย จะล้างทีต้องเคลือบไว้ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานครับ
อันนี้คือไฟเบรคดวงที่ 3 ติดอยู่กับสปอยเลอร์ท้าย ซึ่งมองเห็นได้ค่อนข้างชัดในเวลากลางคืน
ด้านบนหลังคา มีที่ยึดแล็คอยู่ แต่ว่าครอบครัวผมไม่จำเป็นต้องติดแล็ค เพราะว่าเวลาไปต่างจังหวัดจะไปกันแค่ 4 คน แต่ผมว่า ถ้ามันไม่มีคานแล็คแล้ว มันจะเหมือนรถหัวโล้น ไม่สวยยังไงบอกไม่ถูก
มาดูกันที่ภายในกันบ้างดีกว่า
เริ่มที่ตำแหน่งคนขับ
การเข้าออกทำได้ไม่ยากนัก เพราะว่ามีที่สำหรับจับ ตอนขึ้นรถ ประตูก็กว้างพอสมควร ตรงบานประตู เขาบุหนังสีครีม ตัดกับลายไม้ ผมชอบตรงนี้มากๆ มันดูหรูหราดีจริงๆ :")
เบาะของคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ซึ่งจุดนี้ก็แพ้คู่แข่งอย่างปาเจโร่เฉยเลย เพราะเขามีมาให้ในตำแหน่งผู้โดยสารข้างคนขับ (BMC ไปแล้วก็ยังไม่มีให้เลยอ่ะ อันนี้ไม่ยอม)
คันเร่งและเบรค อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมดีแล้ว แต่เบรคดูท่าจะสูงไปนิด แต่แค่นิดเดียว + ล็อคเทค (ของแถมจากโรงงาน)
ต่อมาคือที่เปิดฝากระโปรงหน้ารถ และที่เปิดฝาถังน้ำมัน ( นี่แหละ คือวันแรกที่พ่อผมออกรถ น้ำมันก็หมด ต้องไปเติม ไอเรามันก็อยู่อต่เก๋ง ที่เปิดฝาถังน้ำมันก็อยู่แต่ตรงใต้เบาะ วันแรกมาควานหากันไม่เจอ เด็กปั้มเดินมา ... พี่ๆ ไอสีดำๆนั่นอ่ะ ดึงโลด ... ผมก็นิ่งไปสักพัก คิดในใจ เจ้าของรถยังไม่รู้เลย แต่น้องเขารู้ได้ไงเนี่ย พ่อผมก็ถาม พี่แกก็บอกว่า ทำงานอยู่ปั้มนี้มานานแล้ว คนออกรถมาก็มาเติมแต่ที่นี่ เจอมาหลายรายแล้วครับ เราก็ อ๋ออออ อย่างนี้นี่เองงง)
ถัดมาคือตำแหน่งของสัญญาณกันขโมย ที่ปรับแสงหน้าปัด และที่ปรับกระจกมองข้างแบบไฟฟ้าพร้อมพับกระจกอัตโนมัติ ( ฟอร์จูนคัน ล้านสองเท่ากะพรีอูส แต่ฟอร์จูนมี พรีอูสหายไปไหนหว่าาา !! )
ตำแหน่งวางแก้วของคนขับ อันนี้ขอแนะนำครับ เวลาเดินทางไปต่างจังหวัด จะมีที่วางแก้วคู่หน้าอยู่หน้าช่องแอร์ เอาน้ำขวดที่จะดื่มหน่ะครับ เอามาวางให้แอร์เป่า สัก 10 นาที ขอบอกว่าเย็นชื่นในมากกกก (คงไม่เท่าใส่น้ำแข็งนะครับ :") )
เบาะคนขับผมว่ามันก็ใหญ่และกระชับดีนะครับ แต่ถ้าวิ่งทางไกลคงต้องพักบ้างแหละครับ เมื่อยมากพอสมควรเลย
ที่ปัดน้ำฝน สามารถหน่วงเวลาได้ 4 ระดับครับ ที่ปัดน้ำฝนหลังก็เป็นแบบ เปิด-ปิด ธรรมดา
ที่เปิดไฟหน้าเป็นแบบอัตโนมือครับ หลี่กับสูง BMC มีมาให้เป็นแบบAUTOครับ ส่วนข้างๆนั่นคือไฟตัดหมอกครับ
รถคันนี้มีถุงลมเฉพาะผู้โดยสารคู่หน้าครับ
ครูสคอนโทรลครับ
ปุ่มควบคุมมาตรวัดต่างๆในหน้าจอดิจิตอลครับ
ต่อมาก็คือปุ่มควบคุมเครื่องเสียง เปลี่ยนคลื่น เปลี่ยนเพลง ต่างๆนานาครับ
นี่คือคันเกียร์แบบขั้นบันได ก็ใช้ง่ายดีครับ แต่เวลาช่วงระหว่าง N กับ D มันกระตุกครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร คิดในแง่ดีเข้าไว้ เครื่องมันแร๊งงงง
นี่ก็ไฟฉุกเฉินและไล่ฝ้ากระจกหลังครับ
แอร์เป็นแบบดิจิตอลครับ (แอร์เย็นเร็วมากๆครับ หนาวเลยด้วยซ้ำ :") )
วิทยุเป็นแบบ CD 6แผ่นครับ (เครื่องเสียงติดรถเสียงผู้ค่ายอื่นไม่ได้นะครับ แต่ผมก็ไม่ได้คิดมาก เพราะฟังแค่วิทยุตอนไปโรงเรียนแค่นั้น)
ปุ่มเปิด-ปิด เซนเซอร์ท้าย ปุ่มเปิด-ปิด แอร์หลัง และระบบป้องกันลื่นไถลครับ
อันนี้คือที่จุดบุหรีครับ หรือจะชาร์ตแบตมือถือก็ได้ครับ
อันนี้คือที่ชาร์ตแบตแบบ12โวล 120 วัต
ที่เก็บแว่นตาและไฟส่องแผนที่ครับ
กระจกมองหลังเป็นแบบธรรมดา ไม่ได้ตัดแสงเหมือนแคมรี่
ลำโพงเป็นแบบ 6 ตำแหน่ง (เสียงห่วย) !!!
ระบบเซนทรัลล็อค และปุ่มควบคุมกระจกไฟฟ้าครับ (ฟอร์จูนเนอร์มีระบบอะไรไม่รู้ ผมจำชื่อไม่ได้ ที่ป้องกันการถูกหนีบมือหน่ะครับ วันนั้นผมลองทดสอบดูว่าได้ผมมั้ย ทดสอบโดยเอาแขนที่มีเนื้อมีหนังของผมเนี่ยแหละ ปรากฎว่า กำลังจะร้อง โอ๊ย ดังๆ มันก็ดึงลงอัตโนมัติเลยครับ อันนี้สอบผ่านชัวร์ๆ)
ที่บังแดดฝั่งที่นั่งข้างคนขับมีกระจกให้ด้วย
สคัพเพลส (ของแต่งจากโรงงาน)
ลิ้นชักใส่ของด้านหน้า ขอบอกว่า ตื้นโฮกๆ ใส่ของได้นิดเดียวเอง TOT
อันนี้คือที่ใส่ใบเสร็จค่าทางด่วน
ช่องใส่ซีดีก็ลึกอยู่พอสมควร และสามารถวางแขนได้ในตำแหน่งที่กำลังพอดี เหมาะสมครับ
พื้นที่วางขาด้านหน้าครับ ค่อนข้างจะสั้นไปสักหน่อย นั่งนานๆแล้วจะเมื่อย (ผมสูง 178)