ผู้เขียน หัวข้อ: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S  (อ่าน 728 ครั้ง)

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 12:46:59 »
Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S

เนื่องจากที่บ้านมีแผนจะขายรถคันนี้เพื่อขยับไปเป็นรถที่ตอบโจทย์ครอบครัวมากกว่า จึงจะมารีวิวแบบง่ายๆตามประสา User ผู้ใช้รถคนหนึ่งที่อยากแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนสมาชิก Headlightmag และจะถือโอกาสใช้พื้นที่เพื่อเขียนเตือนความจำตัวเองไว้ด้วย สำหรับ Review เชิงลึก Headlightmag ได้เคยรีวิวไว้แล้วในหมวด Full Review ไปตามอ่านกันได้ครับ



รถที่ผมจะมารีวิวในกระทู้นี้คือ Subaru Levorg ซึ่งผมมองว่ามันคือโฉมแรกโฉมเดียวในไทย (รหัสตัวถัง VM4) มีพื้นฐานมาจาก Subaru WRX ซีดานสี่ประตูตัวแรง (รหัสตัวถัง VAG/VAB) ผมใช้คำว่าโฉมเดียวเพราะว่าโฉมใหม่ (Gen 2) ใช้ชื่อในการทำตลาดในไทยและประเทศอื่นๆนอกญี่ปุ่นว่า WRX Wagon หรือ WRX Sportwagon ไม่มีคำว่า Levorg อีกต่อไปแล้ว ตลาดเดียวที่ยังใช้ชื่อ Levorg สำหรับโฉมใหม่ (Gen 2) น่าจะเป็นตลาดญี่ปุ่นครับ และมีแตกรุ่นย่อยเป็น Levorg Layback อีก ซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงโฉมนั้นแล้วกันนะครับ



เอาจริงๆใครจะมองว่ามันมีโฉมเดียวหรือไม่ก็แล้วแต่ท่านครับ อย่าเถียงกันเลยนะครับผมขอ55 ผมเขียนเพื่อให้มันดูตื่นเต้นและพิเศษแล้วกันครับ (เหมือนกับที่ผมรู้สึกตื่นเต้นและพิเศษกับรถคันนี้) ในรีวิวนี้ผมอาจจะใช้คำว่า แวน และ แวก้อน (Wagon) ปนๆกันนะครับ จริงๆแล้วรถทรงนี้ควรจะเรียกว่า Wagon / Estate / Combi แล้วแต่ภาษาแล้วกันนะครับ ส่วนคำว่า Van นั้นจริงๆมันคือรถตู้ แต่ในความคุ้นเคยของคนไทย รวมถึงตัวผมด้วยเราจะติดเรียกรถแบบนี้ว่ารถแวน ก็ให้เข้าใจว่าผมจะสื่อถึง Wagon นะครับ



ในตลาดโลก Subaru Levorg ที่ออกขายจะแบ่งเป็นสองรหัสคือ VM4 = เครื่อง 1.6 ลิตร เทอร์โบ และ VMG = เครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบ ผมสนใจรถรุ่นนี้ตั้งแต่แรกเห็นด้วยความที่ชอบรถ Wagon และมาอ่านรีวิวใน Headlightmag ยิ่งอยากได้ครับ พอดีมีโอกาสไปเที่ยวฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น จึงถือโอกาสเช่า Levorg ขับดูสัปดาห์หนึ่งด้วยเพื่อดูว่าเหมาะกับเราไหม ในญี่ปุ่นเวลาไปเช่ารถขับ
ส่วนใหญ่จะได้เป็นตัว 1.6 ครับที่ญี่ปุ่นได้เป็นเบาะผ้า แต่มี Eyesight ครบถ้วนเลยครับ เสียดายที่สเปคไทยถูกตัดออกไป



ไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดีครับ ได้ขับบนถนนสวยๆที่ญี่ปุ่นหลายเส้น แฮปปี้มาก แต่ตอนนั้นยอมรับว่า ไม่ทันสังเกตว่าโช้คอัพสแตนดาร์ดมันมีความหายนะหรือเปล่า เพราะขับค่อนข้างช้าและถนนเขาดีครับ แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือ เกียร์โหมด I มันเร่งแล้วตื้อๆ ต้องปรับเป็น S ตลอดทริปเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันนี้ เวลา 12:57:33 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 12:48:12 »
พอกลับมาที่ไทยก็คิดถึง Levorg ที่เคยขับที่ญี่ปุ่น เวลาผ่านไป ปีเศษ มีรถคันหนึ่งประกาศขายเป็นรถปี 2019 อยู่ที่ศูนย์ซูบารุ เป็น Approved Used Car ด้วย ชะตาต้องกันจึงได้ขับ Levorg ในที่สุดครับ รถคันนี้ผมซื้อมาเดือน April 2021 ตอนที่รถอายุได้ 2 ปี โดยมี Warranty 5 ปี / 100,000 กิโลเมตรติดมาด้วยตอนที่ได้มาเลขไมล์อยู่ที่ 7,000 กว่าโล ถือว่าใช้น้อยมาก ประกอบกับราคารวมส่วนลดแล้วก็พอใจครับ อยู่กับผมมา 3 ปี ตอนนี้เลขไมล์ 4x,xxx กิโลเมตร



ภายนอก
ภายนอกรถคันนี้เป็นสีเทาเข้ม Magnetite Grey Metallic ซึ่งผมเจอค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เวลาเจอ Levorg บนท้องถนน (ซึ่งก็ไม่ได้เจอบ่อย) สีที่พบได้บ่อยจะเป็น สีขาว Crystal White Pearl, สีเงิน Ice Silver Metallic และสีดำ Crystal Black Silica ส่วนสีที่พบเจอได้รองลงมาจะมี สีแดง Pure Red และ สีฟ้าอมเทา Storm Grey Metallic สำหรับตัวผมสีที่ผมเจอน้อยที่สุดคือ สีน้ำเงินเข้ม Lapis Blue Pearl ซึ่งจะเป็นสีน้ำเงินเบอร์ตรงรุ่น Levorg 1.6 นะครับ เป็นคนละเฉดน้ำเงิน WR Blue แบบพวก WRX หรือ Levorg 2.0 Sti เมืองนอก
ทั้งนี้การเจอบ่อยเจอน้อยของผม อาจไม่ได้สื่อถึงจำนวนประชากรจริงๆของรถรุ่นนี้นะครับ เป็นเพียงการอ้างอิงจากย่านและเส้นทางที่ผมใช้งานรถ

ปกติกระจังหน้า Levorg จะเป็นโครเมียมดูหรูหราหน่อย แต่คันนี้ผมได้มาพร้อมกระจังหน้าแบบดุดัน ได้อารมณ์ WRX เป็น Accessory ของ Subaru ครับ จะเรียกมันว่าหน้าเสือแวนก็คงได้ครับ ได้มาก็จัดการพาไปเคลือบแก้ว CTS แล้วก็ติด Guard กันรอยหลุมมือจับประตูลายคาร์บอนของศูนย์เพิ่มเป็นอันจบการตกแต่งภายนอก ที่เหลือผมเน้นขับแบบเดิมๆครับ



ไฟหน้าดูเหมือนจะยกมาจาก WRX หน้าเสือ ไฟต่ำ (Dipped beam) จะเป็น LED ตามสมัยนิยม Cut off คมๆ ขับกลางคืนสว่างเห็นชัดไม่แยงตาใคร LED รุ่นนี้ไม่ได้เลี้ยวตามพวงมาลัยนะครับ สำหรับไฟสูง (Full beam) เป็นหลอดฮาโลเจนขั้ว HB3 นั่นแปลว่าโคมชุดนี้ไม่ใช่ Full LED ครับ อย่างไรก็ตามมันมีโหมดไฟสูง Auto อยู่ เท่าที่ลองใช้งานมันไม่ได้ฉลาดแบบโคม Full LED ที่ปรับลำแสงเป็นแบบ Matrix ได้ (เวลารถสวน แล้วเลือกปิดไฟบางองศาเพื่อไม่ให้แยงตารถสวน แต่มุมอื่นๆที่ไม่มีรถก็จะยังสาดไฟสูง ) ของ Levorg นี่พอมีรถสวนมา บางทีก็ปรับเป็นไฟต่ำ บางทีก็ไม่ปรับ หรือบางทีรถผ่านไปแล้วไม่มีรถสวนแล้วก็ไม่ยอมตบเป็นไฟสูงให้ ผมเลยไม่ค่อยใช้โหมด Auto นี้ครับมันไม่เวิร์คเท่าพวกโคม Full LED



โคมไฟหน้ามีไฟ LED รูปตัว C อยู่ในโคมด้วย เวลาเปิดแล้วสวยงามมาก แต่มันไม่ใช่ไฟเดย์ไลท์ครับ มันคือไฟหรี่ (Positioning light) ผมชอบรูปทรงมันมากๆ ออกแบบมาได้สอดรับกับลายเส้นตัวรถดี เคยคิดจะเปิดไฟตัวนี้แทน DRL ไปเลยสวยดี ในเว็บนอกมีคนขายชุดแปลง (Harness สำเร็จรูป) เพื่อสลับให้สัญญาณ DRL ไปติดที่ไฟตัว C นี้แทนด้วย แต่พอมานั่งคิดๆดูแล้วผมเจอ Pajero Sport และ Accord ที่ไฟ DRL เสียเหลือข้างเดียว หรือสองข้างสว่างไม่เท่ากันบ่อยๆก็เลย ... อืม ไม่ยุ่งกับมันดีกว่า DRL เป็นหลอดไส้กันชนแบบนี้แหละดีแล้ว เปลี่ยนง่ายดีไม่แพงด้วย (ใช้หลอด P13W)



ไฟเลี้ยว, ไฟเดย์ไลท์ (Daytime Running Light - DRL) และไฟตัดหมอก ถูกแยกออกมาจากชุดโคมไฟหน้า มากระจุกอยู่ที่มุมกันชนหน้า เคยโดนทักผิดเหมือนกันว่าเปิดไฟตัดหมอกทำไม คล้ายๆพวก Mazda CX5 ที่จะโดนทักว่าเปิดไฟหรี่ทำไมแหละครับแต่จริงๆมันคือไฟ DRL

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2024, 15:14:16 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 12:56:33 »
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED รูปทรงรับกันด้านหน้า (ไม่ Full LED ครับ55 ไฟเลี้ยว ไฟถอย ไฟตัดหมอก อยู่ในโคม แต่เป็นหลอดไส้)ไฟถอยมีข้างเดียวอยู่ด้านซ้าย ไฟตัดหมอกมีข้างเดียวอยู่ด้านขวา รูปทรงดูไปดูมาคล้ายๆ Ford Everest เหมือนกัน ท่อไอเสียคู่ออกสองฝั่ง เป็นท่อจริงทั้งสองฝั่ง อันนี้ชอบมาก ตอนเช้าๆอากาศเย็นสตาร์ทแล้วควันไอน้ำออกท่อสองฝั่ง ได้อารมณ์เหมือนอยู่เมืองนอกดีครับ



ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงของรถซูบารุจะอยู่ฝั่งขวาของตัวรถ เวลาเติมน้ำมันสะดวกดีครับคิวไม่ยาว บางครั้งก็มีรอคิวรถยุโรปบ้าง นานๆทีก็โดยมอเตอร์ไซค์แซงคิวทั้งๆที่เราต่อแถวอยู่ ต้องให้โมโหกันบ้าง(อารมณ์คล้ายๆเวลาจอดรอเติมลมในปั๊ม ต่อจากมอเตอร์ไซค์คันแรก แล้วอยู่ดีมอเตอร์ไซค์ที่มาทีหลังเราขี่แซงเราไปจอดในช่องเติมลมเอาหน้าด้านๆเลย



ปัญหานี้ผมใช้เงินแก้ปัญหาเรียบร้อยครับด้วยการซื้อปั๊มลม Milwaukee 18V ไว้ที่บ้านเรียบร้อย ตอนนี้กำลังค่อยๆสร้าง Ecosystem ของเครื่องมือเซ็ทนี้ขึ้นมาครับ มีปืนลม (Impact Wrench) แล้วก็ลูกหมู ใช้แบตร่วมกันได้สะดวกมาก



ภายใน
ทัศนวิสัยโดยรวมถือว่าดีเลยครับถ้าเทียบกับรถในยุคนี้ รถยุคใหม่บางทีออกแบบให้แนวเส้นประตูค่อนข้างสูง ขับแล้วอึดอัด จุดบอดด้านหลังเยอะ หรือบางคันก็เสา A ค่อนข้างหนามาก สำหรับ Levorg ขับแล้วสบายโปร่ง จุดบอดน้อย แม้จะไม่โปร่งเท่ารถทรงกล่องยุค 90 แต่ก็ถือว่าขับได้ง่าย มุดได้ถนัดเลยทีเดียว Blind Spot ที่กระจกมองข้างมีมาให้แล้วแต่ไม่มีเสียง มีแต่ไฟส้มที่กระจกเสียงเตือนจะมีเฉพาะเวลาถอยหลังแล้วมีรถวิ่งตัดหลัง (Rear Cross Traffic Alert)



ประตูล็อค-ปลดล็อค Keyless ตั้งค่าที่ศูนย์บริการได้ว่าจะปลดข้างเดียวหรือทั้งคัน เบาะหน้ากระชับดีเพราะยกมาจาก WRX หน้าเสือเลย ภายในทั้งคันจะเป็นธีมหนังสีดำเดินด้ายสีน้ำเงินตั้งแต่เบาะ  แผงประตู หัวเกียร์ ที่วางแขน พวงมาลัยทรงสวยแบบท้ายตัด ดูซิ่งดีครับ ปรับยืดเข้าออกได้ ปรับสูงต่ำได้ (แบบนี้เรียก 4 ทิศทางใช่ไหมครับ) โดยรวมดีกว่ารถรุ่นอื่นๆที่ผมใช้ซึ่งปรับยังไงก็ไม่ลงตัวซักที ถ้าเป็นคันอื่นบางทีปรับแขนพอดีขาก็จะชิดไป ถ้าขาพอดีแขนก็ตึงไป คือผมชอบปรับเบาะให้วางข้อมือบนตำแหน่ง 12 นาฬิกาแล้วข้อศอกไม่ตึงครับ



ส่วนแผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุ ลายคล้ายๆคาร์บอน แต่เป็นสีขาว ประดับโครเมี่ยม ผมตั้งชื่อมันว่า White Carbon แล้วกันครับ ช่องแอร์ขนาดพอดีเสียบคิทแคท ใช้แก้ปัญหาเวลาคิทแคทละลายได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2024, 15:15:42 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:00:53 »
โดยรวมตำแหน่งในการขับขี่ให้ 8/10 ครับ ปรับได้ลงตัวเพียงแต่ว่ามันยังสู้ MX-5 ไม่ได้ ขอหักสองคะแนนเรื่อง
1) ที่วางแขนด้านหน้า ปรับสไลด์เดินหน้าถอยหลังได้ แต่แม้จะเดินหน้าสุดแล้วก็ยังน้อยไปนิดนึงสำหรับผม วางศอกไม่ค่อยถึงครับ น่าจะเหมาะกับคนชอบนั่งเอนๆหรือขายาวหน่อย
2) เบาะ พวงมาลัย กระจก ไม่มี memory



วิทยุหน้าตาธรรมดาๆแต่การวางปุ่มใช้งานง่าย รูปลักษณ์กลมกลืนไปกับธีมภายในของตัวรถ ผมไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนเครื่องเสียงเท่าไหร่ ชอบเล่นหูฟังกับลำโพงกว่าเลยไม่ซีเรียส เครื่องเสียงพอใช้งานได้ เบสพอได้ยินแต่ต้องเร่งเสียงดังหน่อย เสียงสูงก็แหลมใสไม่น่าเกลียดแต่อาจจะไม่สุดสำหรับบางท่าน กล้องถอยจอดมีมาให้ แต่กล้องไม่ค่อยชัด เส้นกะระยะไม่เลี้ยวตามพวงมาลัย

ไฟหน้าปัด คอนโซล และ MID เป็นไปในโทน ฟ้า ขาว จอ MID ตรงกลางด้านบนคอนโซลมีรายละเอียดต่างจาก XV บ้านเราเล็กน้อย โหมดที่ผมชอบที่สุดคือ หน้าจอเกจ์ 3 สหายครับ แต่ละอันสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้แสดงค่าอะไร แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้เป็น อัตราสิ้นเปลืองในทริปนั้นๆ (ลิตร/100 ก.ม.), บูสต์เทอร์โบ แล้วก็ อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง



ระบบปรับอากาศ ในรีวิว Headlightmag มีพูดถึงอาการที่รถเปิดให้อากาศภายนอกหมุนวนเข้ามาในรถเอง ซึ่งเกิดขึ้นแบบ Random ไม่ใช่เกิดทุก 40 หรือ 60 นาทีแบบรถยุโรปบางรุ่น เท่าที่ผมใช้มาก็เจอบ้าง (สองถึงสามเดือนจะเจอซักครั้งนึง) เท่าที่สังเกตุ มันจะเปิดอากาศให้ภายนอกเข้ามาในกรณีที่ เราบิดปรับอุณหภูมิสูงขึ้นทีละหลายๆองศา เช่น จาก 19 เป็น 21 องศา แต่ไม่ได้เป็นทุกครั้งครับ

ปกติแล้วซูบารุแวน (Wagon) ยุคก่อนๆจะมีปัญหาแอร์เย็นไม่ถึงข้างหลัง เหมือนกับดีไซน์ระบบแอร์ไม่ได้เผื่อค่าความเย็นไว้สำหรับตัวแวน พอมาถึงรุ่นนี้ถือว่าปัญหาน้อยลงแม้จะไม่มีแอร์ตอนหลังมาให้ แอร์ก็ยังพอสู้แดดได้ถ้าติดฟิล์มดีๆช่วย รถผมฟิล์มค่อนข้างใส ขับใช้งานคนนั่งหลังจะไม่ได้เย็นฉ่ำแบบ Toyota ขับกลางวันยังไงต้องปรับอุณหภูมิไว้ 17-19 องศา ไม่งั้นร้อน มีเจอปัญหาตู้แอร์รั่วตอนไมล์ 3 หมื่นกว่า แต่หลังจากเคลมไปแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ



ด้านหลัง ประตูเปิดได้กว้างเข้าออกง่าย กระจกกดลงได้สุด (อันนี้ดีกว่า Legacy ยุคก่อนๆ) Legroom กว้าง นั่งสบายแต่ยังไม่เท่า Camry เบาะหลังให้จุดยึด isofix มาสองที่นั่ง และมีจุดยึด Top Tether ด้านหลัง ที่นั่งตรงกลางได้เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดด้วย ต้องถึงลงมาจากบนหลังคาเพื่อจะคาดเข็มขัด ทัศนวิสัยโปร่งนั่งแล้วไม่อึดอัด



ซูบารุยุคใหม่นี้กระจกประตูไม่ใช่แบบไร้กรอบแล้ว แต่การเก็บเสียงก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ยางที่ผมใช้เป็น Michelin Pilot Sport 4 ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเสียงดังมากมาย แต่เวลาวิ่งที่ความเร็ว 100 ขึ้นไป เสียงลมและเสียงถนนบดยางค่อนข้างชัดเจน ลูกปืนล้อพังง่ายตามสไตล์ซุบารุยุคใหม่ เคลมคู่หลังไปตอนวิ่งได้ 3 หมื่นกว่าโล (ผมไม่เคยลุยน้ำท่วมระดับครึ่งล้อด้วยครับ) เปลี่ยนแล้วก็เสียงเบาลงเยอะ แต่ยังถือว่าดังกว่า Camry ACV50 (มันรถคนละคลาส แต่พอดีที่บ้านผมมีรถบ้านให้เทียบแค่นี้ครับ คันอื่นคือเสียงท่อดังลั่นทุ่งไปเลย)



ซันรูฟ (จริงๆน่าจะต้องเรียก มูนรูฟ) กระจกได้ สไลด์ได้ มีแผ่นปิดด้านในให้ด้วย เปิดให้แสงเข้าตอนเย็นๆค่ำๆ ขับแล้วได้บรรยากาศดีครับ ชอบครับ รุ่นนี้ได้ซันรูฟบานเดียว ถ้าเป็น Legacy BG จะได้ซันรูฟสองตอน

'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:04:08 »
มาถึงไฮไลท์ของรถทรง Wagon ที่พ่อบ้านถวิลหากันคือ ความจุสัมภาระด้านหลัง สำหรับตัวเลขเป็นทางการเชิญดูในรีวิว Headlightmag ได้เลยครับ ผมขอเทียบแบบง่ายๆตามการใช้ชีวิตของผมแล้วกันครับว่าใส่อะไรได้บ้าง ใส่แบบไหน  ฝาท้ายไม่ไฟฟ้านะครับออกแรงกันนิดนึงครับ55



1. รถเข็นเด็กทุกรุ่นทุกแบบ โยนเข้าท้ายรถใส่ได้หมดครับโดยไม่ต้องพับเบาะ รถเข็นที่พับแค่ 2 ทบ (ไม่ได้พับ 3 จนหิ้วขึ้นเครื่องบินได้) ผมวางแนวตามยาวได้เลยไม่ต้องวางขวาง ห้องสัมภาระยาวมากครับ
2. ไป Ikea ใส่ได้ทุกอย่างครับ ซื้อไปเลยครับ ถ้ามันใส่รถเราไม่ได้ก็ไม่ต้องขายใครแล้วครับ



3. คอกเด็กของ Geko ไซส์ XL ขนาดใหญ่มาก ผมรื้อเป็นชิ้นๆเพื่อจะย้ายไปใช้อีกบ้านนึง ใส่ได้หมดทุกชิ้นครับ ลองดูขนาดตอนกางเทียบกับขนาดตอนรื้อยัดใส่รถนะครับ







4. ล้อขอบ17 พร้อมยาง 4 วง ใส่ได้ครับ แต่ต้องพับเบาะ จุดนี้ถือว่าแพ้ Legacy BG คันเก่าของผม รายนั้นใส่ล้อพร้อมยาง4วง วาง 2 วงซ้อนกัน 2 แถวได้เลยโดยไม่ต้องพับเบาะ



5. ฝากระโปรงท้ายรถเก๋ง พร้อมหางหลัง อันนี้มาตรฐานครับ ใส่ได้เช่นกัน เล็งมุมดีๆหน่อย ในรูปนี่ตัวอย่างตอนใส่ใน Legacy ครับ ส่วน Levorg ประเมินแล้วก็ใส่ได้สบายๆเหมือนกัน



6. รถ 3 ล้อไฟฟ้าเด็กเล่น รุ่น 2 ที่นั่ง วางขวางใส่ได้เลยครับไม่ต้องพับเบาะ แต่หันแฮนด์ดีๆนะครับให้ไม่สะบัดไปมาเดี๋ยวผ้าหลังคาจะแหกเอา
7. ใส่ม่านบังสัมภาระได้ อันนี้ชอบมากครับ ของรุ่นอื่นผมไม่ทราบนะว่าทำแบบนี้ได้ไหม แต่สมัยใช้ Legacy เวลาจะขนของใหญ่ แล้วต้องเอาม่านบังสัมภาระท้ายรถออกทิ้งไว้ที่บ้านหรือวางพิงไว้ในโรงรถ สำหรับ Levorg หากคุณจะไม่ใช้ม่าน สามารถเปิดแผงปิดยางอะไหล่แล้ววางมันลงไปได้เลยครับ เขาทำร่องไว้ให้วางเรียบร้อยสวยงาม ไม่ต้องไปวางโรงรถให้ฝุ่นจับ เสี่ยงโดนแมวลับเล็บโดนหมาฉี่ใส่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2024, 13:10:34 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:07:06 »
การขับขี่ - เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้ความกระฉับกระเฉงได้ดีในระดับหนึ่ง จี๊ดจ๊าดกว่า Mazda CX-3 เครื่อง 2.0 แต่ถ้าเจอ Civic turbo / Camry 2.5 / D-Max 3.0 ก็หืดขึ้นคอครับ เวลากดคันเร่งเต็มๆ เร่งแซง บูสสูงสุดอยู่ที่ 0.8-0.9 บาร์ แล้วแต่จังหวะ แล้วแต่ความเร็ว เสร็จแล้วจะค่อนๆผ่อนลงมาเหลือ 0.7 บาร์ เกียร์ CVT ถ่ายทอดกำลังได้ดี ไม่ว่ากดคันเร่งตอนไหนก็รู้สึกเหมือนมีบูสต์มารอ เทอร์โบพร้อมทำงานเลย (นี่คงเป็นหนึ่งในข้อดีของการจับคู่เครื่องเทอร์โบเข้ากับเกียร์ CVT) ความนุ่มนวลของการตัดต่อกำลังอยู่ในระดับกลางๆครับ ยังสู้ CVT โตโยต้าไม่ได้ เวลาขับความเร็วยังมีอาการยึกยือๆเป็นหนังสติ๊กอยู่บ้าง คิดว่าส่วนหนึ่งคงเพราะมันขับสี่ด้วย



เกียร์มีสองโหมด ปรับได้จากบนพวงมาลัย คือ  I (Intelligence - ประหยัดน้ำมัน) และ S (Sport - สปอร์ต) ทั้งสองโหมด เวลาขับลอยลำ อาการจะเหมือน CVT ทั่วไป แต่เวลากดคันเร่งเพื่อเร่งแซง หรือขับด้วยความเร็ว เกียร์จะล็อคอัตราทดเป็น Virtual Gear ก็คือจะรู้สึกว่ารถเหมือนมีการไล่เกียร์ขึ้นเหมือนรถเกียร์ออโต้แบบเฟือง โหมด I คันเร่งจะค่อนข้างตอบสนองช้า ต้องกดลึกกว่าเรี่ยวแรงจะมา แต่เวลาวิ่งความเร็วเดินทางรอบจะต่ำ เหมือนเป็นเกียร์ Overdrive ทำให้ประหยัดน้ำมันครับ โหมด S รถจะกระฉับกระเฉงแทบเป็นคนละคันเลย กดเป็นมา ที่ความเร็วเดินทางรอบจะสูงกว่าโหมด I เกือบๆ 1000 รอบครับ ถ้าใครขับ S ตลอดก็อาจจะกินน้ำมันมากกว่าหน่อย



แพดเดิลชิฟท์ที่ให้มา ตำแหน่ง และการตอบสนองกำลังดีครับ ส่วนใหญ่ผมใช้เวลาลงเขาแล้วจะเอา Engine brake ครับ ตอนเวลาจะกดโหดๆ ปล่อย CVT เขาทำหน้าที่ในโหมดอัตโนมัติไปเถอะครับ ไวกว่ามาล็อคตำแหน่ง Virtual Gear ด้วยมือ

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของซูบารุยังคงไว้ใจได้เสมอ และเพลาขับสมมาตรสองด้าน กดคันเร่งหนักๆตอนออกตัว พวงมาลัยไม่มีอาการสะบัด (Torque Steer) ให้รำคาญใดๆเลย ทางตรง ทางโค้ง ถนนเปียก ให้ความรู้สึกมั่นใจ ใส่ไปได้เต็มที่เลยไม่มีหลุด แต่ควรจับลิมิตรถให้ดีว่าสุดแค่ไหน เพราะรถขับสี่เวลาหลุด บางครั้งจะเริ่มจากเกิดอาการอันเดอร์สเตียร์ก่อน ผ่อนคันเร่งก้แก้อาการดึงกลับได้ แต่บางครั้งจะหลุดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย ที่แนะนำได้คือเวลาจะขับห้าวๆในโค้ง อย่าเข้าโค้งโดยไม่เหยียบคันเร่ง หรือปล่อยคันเร่งเด็ดขาดครับ ขอแค่ยังกรอคันเร่งไว้ ยังไงก็เกาะครับ

ความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ประมาณ 210 ที่มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงเปิดทดลองใช้งาน ตอนนั้นกดหนี All-new Dmax ที่ไล่หลังมาสองคัน ทรงแบบ V-cross / Highlander ครับ แต่งสุภาพ ขับสุภาพแนวผู้ใหญ่ๆหน่อย น่าจะแค่แฟลชกล่องมา Levorg ยังหนีได้อยู่ครับแต่เหนื่อย ถ้าเจอคันที่ทำเต็มๆคงโดนสวน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2024, 15:16:25 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:16:15 »
การขับขี่ - ระบบเบรคและช่วงล่าง
เบรคถือว่าให้ความมั่นใจได้ ฟีลลิ่งแป้นเบรคดี เบรคแล้วไม่ไหล ผมไม่อัพเกรดทั้งผ้าทั้งจานเพราะคันนี้ใช้ส่งลูก แต่เคยคิดว่าถ้าอัพคงหาผ้า/จาน Dixcel ใส่แค่นั้นพอ ไม่อยากเปลี่ยนปั๊มเบรคเพราะขี้เกียจหาล้อที่ลบเบรค อยากได้ฟีลล้อเดิมๆ

ช่วงล่างเดิมๆ ตอนที่ผมได้มา โช้คอัพหน้าและหลังรวมถึงสปริงเป็นของสแตนดาร์ดทั้งหมด ผมขอยืนยันว่าที่พี่แพนด่าโช้คชุดนี้ในรีวิว Headlightmag ถือเป็นความจริงทุกประการ มันคือหายนะทางวิศวกรรมของซูบารุชัดๆ โช้คสแตนดาร์ดชุดนี้เกือบทำให้รถผมเสียการควบคุมหลายรอบมากๆ ดีว่ายังมีสติเอาอยู่ไม่เช่นนั้นคงลงข้างทางไปแล้ว ถนนที่จะทำให้เกิดปัญหาคือ มอเตอร์เวย์ หรือถนนทางหลวงที่เป็นคลื่นๆ เช่น ทางเข้าสุวรรณภูมิ ที่วิ่งจากบางนา-ตราด ช่วงที่ถนนเป็นคลื่น ความเร็วตั้งแต่ 100 ขึ้นไป ช่วงท้ายของรถจะเต้นขึ้นลง ซ้ายขวา อย่างบ้าคลั่ง

โช้คอัพด้านหน้าก็มีสโตรคที่สั้นมาก การจั๊มคอสะพานในลักษณะที่ไม่ได้ผิดมนุษย์มนาแต่อย่างใดจะทำให้โช้คยันได้ง่ายๆ นำมาซึ่งเสียงที่ไม่พึงประสงค์และขาดความมั่นคงมั่นใจใดๆ การขับผ่านลูกระนาดไซส์มาตรฐานต้องเบรคจนรถแทบจะหยุดนิ่งแล้วค่อยๆหยอด ไม่อย่างนั้นจะเจออาการเด้ง กระเด็นกระดอน ราวกับโช้คอัพเสียไม่มีผิด ทำให้ต้องขับรถด้วยความเร็วต่ำมากๆเมื่อเจอลูกระนาดหรือสะพาน ช้าจนรถข้างหลังด่าครับ อันนี้ไม่ได้เว่อร์ และทั้งหมดนี้ยกดูแล้วโช้คไม่มีอาการรั่วหรือน้ำมันซึมหรือถูกเปิดซ่อมมาแต่อย่างใด อาการนี้เจอทุกคันครับ



ณ ปัจจุบัน โช้คอัพสแตนดาร์ดชุดนั้น ผมได้โยนทิ้งเป็นเศษเหล็กไปแล้ว  ::)

หลังจากทนใช้มา 1 ปีเศษ ผมก็สามารถหา Tein Endurapro Plus สำหรับรุ่นนี้ (Common สำหรับทั้ง WRX หน้าเสือ และ Levorg) มาใส่เพื่อแก้อาการดังกล่าว หลังจากใส่เข้าไปรถขับง่ายขึ้น นุ่มนวลขึ้น มีความมั่นคงที่ความเร็วสูงมากขึ้น ชีวิตดีขึ้นมากๆ ราวกับเป็นรถยนต์คนละคัน คือรถทั้งคันทำมาดี น่าใช้มากๆ แต่จบเห่ตรงโช้คอัพนี่แหละครับ



ใช้ไปซักพัก ก็อยากให้นุ่มนวลกว่านี้อีก คือ ผมเห็น Tein Endurapro Plus ที่ใส่ใน Subaru XV คนค่อนข้างพอใจว่านุ่มกัน แต่สำหรับ Levorg เวลาครอบครัวนั่ง ก็ยังรู้สึกว่ากระด้างไปนิดนึงครับ ปรับจนสุดความสามารถแล้วไม่ลงตัว



คราวนี้เลยหาทางออกใหม่ จนมาเจอโช้คชุดสุดท้ายในการใช้รถคันนี้ครับ นั่นก็คือ ... KYB New SR MC



ข้อมูลโช้คตัวนี้ในไทยยังค่อนข้างน้อย เท่าที่ดูมันคือตัวที่จะมาแทน New SR Special กระบอกฟ้าที่เราคุ้นตากันในไทยแหละครับ เพียงแต่ในช่วงแรกๆ Line-up เขาจะยังมีแค่ไม่กี่รุ่น เน้นรถที่ขายดีๆในญี่ปุ่นก่อน โดยโช้คซีรีส์นี้จะผลิตแยกออกมา 2 รุ่น ตามคาแรกเตอร์รถแต่ละรุ่น เท่าที่ทราบยังไม่เข้าไทย ชุดนี้ผมสั่งมาเองจากญี่ปุ่น รุ่นนี้ตัวโช้คจะเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้วพ่นมาด้านๆหน่อย ดู Premium มากครับ
MC = More Comfortable สำหรับพวกรถตู้ รถ Wagon ทั้งหลาย แนวคิดคือทรงตัวดี และยังให้ความนุ่มนวลด้วย
MS = More Sporty สำหรับรถแนวสปอร์ต รถซีดาน แนวคิดคือทรงตัวดี และมีความสปอร์ตมากกว่าโรงงานเล็กน้อย



ผมขอยกย่องวิศวกร KYB ที่บรรจงรังสรรค์โช้คอัพชุดนี้มา มันเกิดมาเพื่อ Levorg จริงๆครับ จากรถที่ผมเข็ดขยาดที่จะขับไปห้างแถวบ้านเพราะไม่อยากเจอลูกระนาด พอมา Tein อาการดีขึ้นจริง แต่ยังติดกระด้างอยู่ แต่เจอ KYB ชุดนี้เข้าไป Levorg ของผมคือพร้อมรบครับ ถนนแบบไหนก็มาเถอะ ไปได้หมด ถนนโลกพระจัน ลูกระนาด ก็ไม่กลัว มันไปได้แบบสบายๆ อาจจะไม่ได้นุ่มแบบ Camry นะครับ มันก็ตึงตังบ้างอารมณ์เหมือน BMW 3-series ล้อใหญ่ๆหน่อย แต่เท่านี้ผมก็ ok ละครับ ผมถือว่า โช้คอัพชุดนี้ทำให้ประสบการณ์ใช้ Levorg ของผมจบบริบูรณ์ ไม่มีอะไรค้างคาใจแล้วครับ ลงตัวมากๆ



มันให้ความนุ่มนวลสบายตูดในระดับที่ ผมขับจาก กทม. ไปขอนแก่น ยิงยาว พักสั้นๆเพื่อเข้าห้องน้ำที่ปั๊มก่อนเข้าตัวเมืองขอนแก่น 15 นาที แล้วไปต่อได้เลยโดยถึงที่หมายไม่ได้รู้สึกเมื่อยล้าเท่าไหร่ครับ ก็ไว้ใจได้ เจอลมพัดขวางแนวรถไม่มีอาการวูบวาบ ฟีลลิ่งตอนนี้คิดว่าถ้าถอยไปใส่ล้อขอบ 17 จะยิ่งถูกใจกว่านี้อีกครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2024, 15:16:52 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:20:36 »
สรุปผลการใช้งาน หลังเป็นเจ้าของมา 3 ปี

รถคันนี้เป็นรถที่โรงงานปรุงแต่งมาเกือบดีแล้ว มาตกม้าตายเรื่องช่วงล่าง ถ้าเจ้าของรถเข้าใจ รับได้ ที่จะต้องเสาะแสวงหาโช้คอัพที่ตรงจริตของคุณ รถคันนี้ก็จะรับใช้คุณได้เป็นอย่างดีครับ อัตราเร่งไว้ใจได้ พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางถูกใจพ่อบ้าน หน้าตาหล่อเหลาขับไป Meeting กินกาแฟได้ไม่อายใคร แถมยังดูเด่นเวลาอยู่บนท้องถนนอีกต่างหาก สำหรับเรื่อง Reliability ของรถคันนี้ผมให้ 9/10ครับ ใช้มา 3 ปี จนตอนนี้อายุเกือบ 5 ปีแล้วไม่เคยกินข้าวลิง ถ้าสไลด์ก็มีแค่ว่า จำเป็นต้องย้ายรถแต่ไม่มีคนขับให้ครับ สิ่งที่เคยเคลมไปจะมี ตู้แอร์ ตอน2หมื่นกว่าโล แล้วก็ลูกปืนล้อ เคยมีไฟ Check Engine ขึ้น ผมเอา OBD Tool ที่บ้านเสียบดูขึ้น Fault O2 sensor เป็นช่วงที่ขับผ่านถนนน้ำขัง แต่พอทิ้งไว้ให้แห้งผ่านไป 2-3 วันก็ลบออกครับ ไม่มีปัญหากลับมาอีก

สิ่งที่ยังต้องปรับปรุงคือ Down time ในการรอะไหล่ครับ รถคันหลักของบ้านควรมี Down time จากการรออะไหล่น้อยที่สุดหรือแทบเป็นศูนย์ครับรถรุ่นนี้มันค่อนข้าง Rare ครับ มีสมาชิกในไทยน้อย (แต่ถ้าอยู่ญี่ปุ่นนี่อีกเรื่องเลยนะLevorg แทบทุกหัวระแหง ยิ่งฮอกไกโดนี่เรียกว่ารถโหลได้เลย) ชิ้นส่วนพื้นฐาน ช่วงล่างต่างๆ ไม่น่าห่วงครับ common กับ Subaru XV หรือรุ่นอื่นๆ แต่ถ้าเจออะไหล่เฉพาะที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นนี่รอกันเป็นเดือนครับ ... แต่ก็อย่างว่านะครับ รถมัน Rare ขนาดนี้  ;D



โดยรวมแล้วเป็นรถที่ผมหลงรักตั้งแต่แรกเห็น ตอนนี้ก็ยังรักอยู่ เพียงแค่เส้นทางของเรามันจำเป็นต้องแยกจากกัน วันนึงหากได้วนเวียนมาอยู่หลังพวงมาลัยรถรุ่นนี้อีก เชื่อว่า Levorg ก็ยังสร้างรอยยิ้มให้ผมได้เหมือนเดิมครับ



ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ครับ ขอให้ท่านสนุกกับรถที่รัก ขับขี่ปลอดภัยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2024, 15:17:38 โดย saran_1st »
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออฟไลน์ Xtream@tom

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 17:20:44 »
สวยลงตัวมากครับ

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,193
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 17:42:06 »
เขียนได้ดีครับ อ่านเพลินเลย รูปประกอบก็สวย โดยเฉพาะรูปจากฮอกไกโด

ออฟไลน์ Destiny_gun

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 390
    • อีเมล์
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 23:17:21 »
เขียนได้ดีเลยครับ ผมรบกวนอ่าน pm หน่อยครับ

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 23:38:33 »
สวยลงตัวมากครับ
ขอบคุณครับ ดีใจที่มีคนชอบครับ  :)

เขียนได้ดีครับ อ่านเพลินเลย รูปประกอบก็สวย โดยเฉพาะรูปจากฮอกไกโด
ขอบคุณครับ เขียนๆแก้ๆฉบับร่างให้กระชับและเลือกรูปอยู่นานครับ กลัวรูปจะเยอะไปและซ้ำมุมเดิม ทริปฮอกไกโดได้ขับจนอิ่มใบไม้แดงเลยครับ  ;D

เขียนได้ดีเลยครับ ผมรบกวนอ่าน pm หน่อยครับ
ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้แบ่งปันเรื่องราวและขอบคุณที่สละเวลามาอ่านมาคอมเมนท์ครับ  :) ผมตอบ pm ไปแล้วนะครับ
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,748
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:03:45 »
รถน่าใช้มากครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าเขามีรุ่นนี้ด้วย รถแวนซุบารุ ผมก็นึกว่ามีแต่ lagacy ซะอีก

เสียดายรถไทยเราตัดสเป็คเขาออก ไม่งั้นทรงนี้ 2.0 เทอร์โบ นี่มันๆกันเลย
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ Edwardsella

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 97
    • อีเมล์
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:42:37 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ครับ อ่านเพลินครับ
จำได้ว่าช่วงออกมาใหม่ๆ ยังบ่นตันจงว่าทำไมไม่เอา 2.0T มา แต่จริงๆ ก็คงไม่ได้ซื้อยู่ดี ณ เวลานั้น

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันนี้ เวลา 10:14:54 »
เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ผมว่า สวยลงตัวมากๆครับ

ขอบคุณสำหรับการรีวิวครับ

ออนไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
Re: Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:13:30 »
รถน่าใช้มากครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าเขามีรุ่นนี้ด้วย รถแวนซุบารุ ผมก็นึกว่ามีแต่ lagacy ซะอีก

เสียดายรถไทยเราตัดสเป็คเขาออก ไม่งั้นทรงนี้ 2.0 เทอร์โบ นี่มันๆกันเลย
ขอบคุณครับ Legacy นี่ขวัญใจพ่อบ้านเลยครับ รุ่นหลังๆมันขยายร่างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งตัวปี 2012 นี่คันเท่าบ้านเลยครับ ช่วงที่ Levorg ออกมาคือจะมาจับตลาดคนที่อยากได้ Estate ที่ขนาดตัวรถไม่ใหญ่มากครับ (เอาจริงๆขนาดมันใกล้เคียงกับ Legacy ตัวแรกๆครับ)

ตอนนี้มีหลายคันเอาหัวตัดเครื่อง 2.0 เทอร์โบมาลงแล้วครับ ไว้มีโอกาสลองจะมาบอกนะครับว่าดึงขนาดไหน  ;D

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ครับ อ่านเพลินครับ
จำได้ว่าช่วงออกมาใหม่ๆ ยังบ่นตันจงว่าทำไมไม่เอา 2.0T มา แต่จริงๆ ก็คงไม่ได้ซื้อยู่ดี ณ เวลานั้น
ขอบคุณครับ ตอนนั้น 2.0 ก็อยากให้มาครับ แต่ถ้ามาจริงราคาคง 3ล้าน++ แน่ๆ เหมือนอย่าง WRX Wagon ตัวใหม่ที่เป็น 2.4 เทอร์โบครับ ราคาไหลไปไกลมากๆเลย  :'(

เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ผมว่า สวยลงตัวมากๆครับ

ขอบคุณสำหรับการรีวิวครับ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับ ทรงแนวหลังคาตัวนี้จะไม่ได้เป็นตู้ปลาแบบ Estate ยุคก่อนๆครับ มันเลยดูปราดเปรียว แต่ก็แลกกับพื้นที่ใช้สอยมันหายไปนิดนึง (ถ้าเทียบกับ Legacy ตัวเก่า หรือพวก Volvo ยุคเก่าๆนะครับ) หลังๆรถ Estate ใหม่ๆมาทรงนี้หมดเลยครับ
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S