Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: arton ที่ เมษายน 26, 2017, 09:33:02

หัวข้อ: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arton ที่ เมษายน 26, 2017, 09:33:02
                เช้านี้ ฝนตกปรอย ๆ เจอไปครับ ไม่ต่ำกว่า 10 คันทั้งหมุน ทั้งชน ล้วนแล้วแต่เป็นรถขนาดเล็ก ไม่ก็รถที่ขับ 2WD ทั้งขับหน้า ขับหลัง เกือบทั้งนั้น เลยคิดว่า ส่วนตัวใช้รถมาทุกขนาด ตอนนี้ก็ suv 4wd รู้สึกได้ว่า รถที่มีระบบขับเคลื่อน 4WD ไม่ว่าจะ part or full time มันขับได้มั่นคง เสถียรดีกว่าในทุกสภาพถนนจริง ๆ แต่ก็ด้วยต้นทุนที่บริษัทรถ คงไม่อยากเสียเพิ่มทำให้ตัดระบบนี้ออกไป และต้นทุนของคนใช้รถที่ต้องมี คชจ. ซ่อมบำรุงที่สูงขึ้น สำหรับรถบางขนาด ผมถึงเข้าใจคนที่ชอบ ซูบี้ จริง ๆ ว่า รถทำไมถึงขับได้ดีกว่า
                สุดท้ายอาจจะไม่อยากโทษรถ น่าจะโทษคนขับว่า สภาพถนนไม่เอื้อก็พยายามขับเร็ว แต่น่ะ ถ้ามันมีตัวช่วย ในการประคองรถที่ดี ต้นทุนโดยรวมของสังคม คงจะลดลง ทั้ง เวลา งบประมาณซ่อม สภาพรถติด เพราะรถชนกันต่าง ๆ นานา (คือ ถ้า บ.รถจะพัฒนาระบบขับ 4 wd ในราคาที่ย่อมเยาว์ ก็จะดียิ่งนัก) คิดเห็นกันอย่างไรครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ เมษายน 26, 2017, 09:35:33

 รถจะมีระบบดีแค่ไหน  ถ้าคนขับไม่ระมัดระวัง  มันก็ช่วยไม่ได้หรอก
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: paeybu ที่ เมษายน 26, 2017, 09:38:00
ญี่ปุ่นก็มีให้เลือกในรถเล็กหลายรุ่นครับ แต่ผมว่าบ้านเราไม่มีหิมะ ยังไม่ต้องขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ เมษายน 26, 2017, 09:41:22
คงจะยากอยู่
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tvm ที่ เมษายน 26, 2017, 09:45:28
ถ้าคิดแค่ตื้นๆ ทุกระบบที่มีมันก็ควรมีในรถทุกคันแหล่ะครับ
แต่ข้อจำกัดมันก็มีทั้งทุน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าดูแลบำรุงรักษา ฯลฯ

เห็นด้วยกับด้านบนว่าสุดท้ายมีระบบอะไรขับไม่คิด ไม่รู้ศักยภาพรถ หรือเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดอุบัติเหตุได้ครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ เมษายน 26, 2017, 09:45:50
ญี่ปุ่นก็มีให้เลือกในรถเล็กหลายรุ่นครับ แต่ผมว่าบ้านเราไม่มีหิมะ ยังไม่ต้องขนาดนั้น

ไม่เกี่ยวกันครับ ถ้า Fulltime เข้าโค้งแรงๆ หรือหักหลบแรงๆ ถนนแห้งๆก็ได้ใช้แล้วครับ

ส่งนตัวผมเห็นด้วยนะ ของผมเลือกทั้งสองคัน 4WD Fulltime หมด ลองปรับขับ 2WD แตกต่างกันชัดเจนมาก แค่ถนนปกติเข้าโค้งก็ต้างกันแล้วครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ เมษายน 26, 2017, 09:47:47
มันมีในหลายๆ ตัวอยู่แล้วครับ เช่น Jazz หรือ Fit ที่ญี่ปุ่นมี ขับ AWD ขาย หรือพวก Fiesta ที่ออสเตเรียมี AWD ขาย และอีกหลายๆ ตัวที่เมืองนอกมี แต่ไทยไม่มี

แต่บริษัทฯ ผู้ผลิตและแนวทางการตลาด เขามองแล้วว่า ในไทย ความจำเป็น การใช้งาน กลุ่มคน และ ราคา ไม่เหมาะกับบ้านเรา
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ เมษายน 26, 2017, 09:55:14
บ้านเราขนาดฝนตกหนักยังขับซิ่งกันไฟแลบ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ เมษายน 26, 2017, 09:57:00
ถ้าช่วงฝนตกใหม่ๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ฝนทิ้งช่วงไปนานถนนจะลื่นมากครับ
หลายๆคันขับแล้วคงลืมตัว ใช้ความเร็วสูงกว่าที่ควรก็เลยลงข้างทางกันเยอะ

ที่จริงรถหลายๆรุ่นมีระบบ AWD ในรุ่น top นะ อย่าง CX-3 หรือ HR-V ตัวที่ขายในเมืองนอกก็มีรุ่น AWD แต่เมืองไทยไม่นำมาขาย
ทางการตลาดคงมองว่ากลุ่มลูกค้าบ้านเราส่วนใหญ่มองว่าไม่จำเป็น หรือแบบที่เราชอบพูดกันว่ามีแล้วก็ไม่ได้ใช้ และรถ AWD มักจะมีต้นทุนราคาสูงกว่ารุ่นปกติ

ดูอย่าง XV ก็ได้ มีแต่คนพูดถึงว่าราคาไม่ควรเกิน 1 ล้านทั้งๆที่เป็น AWD ในขณะที่รุ่น Top ของ CX-3 HR-V ราคาทะลุล้านไปแล้วทั้งที่เป็นแค่รถขับ 2
รถ AWD เจ้าอื่นรุ่นอื่นที่มักจะเป็นรุ่น Top ราคาทะลุ 1.3 ล้านขึ้นทั้งนั้น(ถ้าไม่นับกระบะ)
รถขับสี่ แต่ทำราคาสู้รถออฟชั่นฟรุ้งฟริ้งไม่ได้..........

หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arton ที่ เมษายน 26, 2017, 09:59:24
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมพยายามมองไปที่ต้นทุนของสังคม มากกว่า ว่าพอจะชดเชย ได้ไหมแต่ดูแล้ว คนไทยยังขาดความตระหนักขั้นพื้นฐานอยู่เยอะ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ เมษายน 26, 2017, 10:06:22
หลายรุ่นในต่างประเทศเขามี 4WD, AWD ให้เลือกซื้อหรือสั่งเพิ่มได้จากโรงงาน แต่บ้านเราคนที่ไม่เคยสัมผัส 4WD, AWD ก็ยังบอกว่าไม่จำเป็นต่อไป แถมยังซีเรียสเรื่องค่าบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้นด้วย (ต่อให้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ราคาย่อมเยาลง) ดังนั้นแทบไม่ต้องหวัง
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zapdos191 ที่ เมษายน 26, 2017, 10:12:28
ถามว่าควรมีไหม ก็ไม่ได้ขนาดนั้นครับเพราะบ้านเราไม่ได้มีหิมะปกคลุมอยู่เป็นประจำ แต่ถามว่ามีดีกว่าไหม ดีกว่าครับ แต่ถ้าจะเห็นผลจริงๆคือต้องเป็น Fulltime AWD นะครับ พวก Part time ก็เหมือนขับสองธรรมดาทั่วไปเลย

คราวนี้ถ้ามี Fulltime ขนาดนั้น อะไรหลายๆอย่างแพงแน่นอนครับ ตั้งแต่ต้นทุนการผลิตละ เพราะจากขับหน้าสองอย่างเดียว หรือขับสองหลังอย่างเดียว ต้องมาทำชุดขับอีก 1 ชุด น้ำมันเฟืองท้าย เพลา กล่องเกียร์ นู่นนี่นั่นเยอะครับ ราคารถจะสูงขึ้นอีกน่าจะหลักแสนในประเทศไทย และค่าบำรุงรักษาก็จะสูงขึ้นอีกนิดนึงด้วยครับ โอกาสที่จะเกิดปัญหาจุกจิกก็เพิ่มขึ้นอีก รถก็จะกินน้ำมันมากขึ้นอีก(เมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน ขับสองขับสี่ ขับสี่กินกว่า) ทั้งหมดนี้ในสุดท้าย คนไทยก็เลือกที่จะไม่เอารถ Fulltime AWD ครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shikima ที่ เมษายน 26, 2017, 10:39:37
อยู่ที่คนขับมากกว่าครับ
ถ้าไม่ประมาท รู้รถของตัวเอง แค่นี้ก็ปลอดภัยไปเยอะละ
บางคนคิดว่ารถดี กินหญ้าข้างทางมาเยอะละครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: baeyongcai ที่ เมษายน 26, 2017, 10:40:34
ถามว่า มี4WD มันก็ดีกว่าไม่มี นั้นแหละ  แต่จริงๆแล้ว ประเทศเราไม่ได้มีหิมะ หรือทางลื่นๆที่ขนาดจะต้องใช้ 4WD หรอกครับ
เอาแค่ผู้ผลิตรถ ติดตั้ง ESP ให้ครบๆทุกรุ่นย่อย ก็คงบรรเทาอาการหมุนลงข้างทางเวลาฝนตกได้เยอะพอสมควร
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ เมษายน 26, 2017, 10:41:47
ผมว่า ควรปรับวิธีจับขี่มากกว่าครับ
คนขับต้องรู้ข้อจำกัดของรถตัวเองครับ
คือระบบดีๆใครก็อยากได้ครับ
แต่ราคาคงกระโดดไปไกล
จะสังเกตได้จากบางยี่ห้อแค่ยัด จอสัมผัส
มี ระบบนำทาง ราคายังกระโดดห่างกันไม่น้อยเลย
ระบบขับสี่บางระบบคนขับก็ต้องเข้าใจระบบด้วย
ผมไม่เห็นด้วยที่จะใส่ระบบอะไรก็ตาม ใส่มาแล้ว
เพื่อหวังว่าจะขับรถเร็วได้ทุกสถานการณ์ ยังไงก็ไม่ปลอดภัยครับ
ขับขี่ปลอดภัยครับ นึกถึงเพื่อนร่วมทางครับ

หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jbrc ที่ เมษายน 26, 2017, 10:50:39
คิดๆแล้ว Subaru xv เป็นรถที่คุ้มค่าจริงๆ  ขับสี่ล้อ AWD แอร์ออโต้แท้ ถุงลม ระบบควบคุมการทรงตัวมีครบ ราคาไม่เกิน ล้าน ของดีราคาไม่แพง มีอยู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ เมษายน 26, 2017, 11:06:12
เคยขับรถมี 4WD AWD นานๆ แล้วไปใช้รถไม่มีระบบนี้ บอกเลยว่า มีหลอน 555 เสียนิสัยเลยผม
ทุกวันนี้เสียดาย ถ้า อินโนว่ามี 4WDน่าจะดีไม่น้อย มองรถครอบครัวคันใหม่อยู่พอดี
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arton ที่ เมษายน 26, 2017, 11:08:42
ขอบคุณทุกๆ ท่านมากครับ :)
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Messe ที่ เมษายน 26, 2017, 11:51:07
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ เมษายน 26, 2017, 11:52:24
ทั้งรถ ทั้งคนขับ ต้องไม่ไปเร็วเกินไป และไม่ประมาทด้วยครับ ไม่งั้นรถอะไร ระบบอะไร ก็เอาไม่อยู่ครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ เมษายน 26, 2017, 11:57:51
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ
ผมไม่เห็นว่าปาปอต มันจะทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 50% เลยนะครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JF2KPNSX ที่ เมษายน 26, 2017, 12:49:32
ที่ควรมีที่สุดคือ สติและสามัญสำนึก ในการใช้รถ ใช้ถนนครับ ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อนของรถ :-\
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ เมษายน 26, 2017, 13:00:25
เราลืมเรื่องยางที่สัมผัสพื้นถนนกันไปหรือป่าว ไหนจะถนนที่ไม่ได้มาตราฐานอีกด้วย
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: biozebastian ที่ เมษายน 26, 2017, 13:49:03
ขับจูน4fulltimeมา10ปี คันต่อมาev3.2+ก็ยัง4fulltimeเหมือนเดิม ต่างคนต่างความคิด แต่ตามจริตผม4fulltimeตรงที่สุด แก่อีกหน่อยจะไปดาวลูกไก่
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dekdemo ที่ เมษายน 26, 2017, 13:53:51
ขับต่างจังหวัดนั่งสองคนใช้ความเร็ว 100-120 เติมแก๊ส 95 มาร์ช cvt เปลี่ยนยางเป็น ps3 195/55 r15 กินน้ำมันประมาณ 15 โลลิตร forester cvt เดิมๆ กินน้ำมันประมาณ 14โลลิตร
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ เมษายน 26, 2017, 13:57:15
ขับรถ 4wd Fulltime กับขับสองปกติ

มันต่างกันจริงๆครับ

เทียบระหว่าง XV กับ Altis

ถ้าไปต่างจังหวัดใกล้ๆ XV สบายใจกว่า มั่นใจกว่า (ถ้าไม่เอาไปชนอะไรเข้า)

ปล.เทียบระบบขับเคลื่อน ไม่น่าคุยเรื่องคนขับ ควรตัด Factor นี้ออก เพราะ คนขับคนเดียวกัน วิ่งถนนเดียวกัน 4wd Fulltime มันมี Traction ที่ดีกว่าอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Xyclop ที่ เมษายน 26, 2017, 14:07:40
คิดๆแล้ว Subaru xv เป็นรถที่คุ้มค่าจริงๆ  ขับสี่ล้อ AWD แอร์ออโต้แท้ ถุงลม ระบบควบคุมการทรงตัวมีครบ ราคาไม่เกิน ล้าน ของดีราคาไม่แพง มีอยู่จริงๆ

ติดอยุ่สองอย่างคือ ไม่สวย เชย และไม่มั่นใจaftersale survice
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TorTy ที่ เมษายน 26, 2017, 14:15:11
ไม่ต้องถึงกับ AWD/4WD เอาแค่มีระบบช่วยเหลือการทรงตัวเป็นมาตรฐานก่อนก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ

เรื่องพื้นฐานอย่างค่าความเหมาะสมแรงดันลมยางยังมีอีกเยอะที่ดูกันไม่เป็นหรือไม่ใส่ใจเลยเอาแค่นี้ก่อนก็ช่วยได้เยอะแล้ว
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: G.K ที่ เมษายน 26, 2017, 14:19:08
ผมว่าก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นนะครับ  ที่รถชนกันตอนฝนตก ส่วนใหญ่จะเป็นการชนท้าย  สาเหตุเพราะขับกระชั้นชิดกันเกินไป  พอมีเหตุฉุกเฉินคันที่ตามมาก็เบรคไม่ทัน  สาเหตุของการเบรคก็อาจจะเกิดจากมีรถปาดหน้าเปลี่ยนเลนกระชั้นชิด  ทำให้ตัองเบรคเบรคแบบกระทันหัน คันที่ตามมาก็เลยชนท้าย 

ไม่น่าจะเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน แต่ควรจะเป็นมารยาทการขับรถ ความระแวงระวัง และประสิทธิภาพของยางบนถนนเปียกมากกว่า  เพราะรถอีกพันกว่าคันที่เป็นระบบขับสองที่วิ่งบนถนนเดัยวกัน เวลาเดียวกัน ทำไมเค้าไม่ชน 

ลองพิจารณาดูครับ ต้นเหตุอยู่ที่ไหนกันแน่

As always, the gap in the dry isn't too large, with the best to worst being seperated by under 5 metres when stopping from 100 kph. In the wet however the range is much larger. When stopping from the same speed on a wet track, the difference is over 38 meters! 

http://www.tyrereviews.co.uk/Article/2015-Market-Overview-Braking-Test.htm
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arton ที่ เมษายน 26, 2017, 14:30:00
ครับ รวมๆ กึ่งๆ ครึ่ง ๆ กันเท่าที่ฟังมา แต่เอนเอียงไปทางไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรที่จะไม่มีมากกว่า ซึ่งแต่ละท่านให้ความเห็นที่ผมไม่ได้นึกถึงเยอะเลยครับ แต่ในมุมของคนขับระบบขับ 4 มาก่อนก็คงอยากได้แบบนี้ต่ออีก (โดยเสียงส่วนใหญ่) และโจทย์ ระหว่าง ระบบขับเคลื่อน กับ ความรับผิดชอบของคนขับ อันนี้ ก็คงหาจุดลงตัวลำบาก เพราะพื้นฐาน/ความรับรู้ ต้องเริ่มจากจะสตาร์ท + สติ ต้องครบ ความพร้อมต่าง ๆ อย่างที่บางท่านบอกว่าตัดออกไปก่อน เอาแค่ระบบขับเคลื่อนล้วน ๆ ซึ่งติดรถมาบ้าง พวก VSC ก็น่าจะเพียงพอในระดับนึง แต่ถ้าเลือกได้ ก็อยากให้ 4WD เป็น option ที่เลือกได้เหมือนกันน่ะ 555
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Jatupon ที่ เมษายน 26, 2017, 15:11:11
สำหรับภูมิอากาศ  และสภาพถนนในประเทศไทย  ผมเรียงลำดับความสำคัญที่ 100 คะแนนเต็มดังนี้ครับ

1. สภาพของยางติดรถ (30 คะแนน)  หมายถึงดอกยาง อายุ รวมไปถึงยี่ห้อ รุ่นด้วย เพราะยางเป็นอุปกรณ์เดียวที่สัมผัสกับถนน  เมื่อไรยางเสีย traction เมื่อนั้นก็ต้องพึ่งพาปัจจัยช่วยอื่นๆ เช่นฝีมือคนขับ ช่วงล่าง ระบบช่วยเหลือ เพื่อที่จะเอา traction กลับมา  ผมไม่คิดว่าที่ condition  เดียวกันเปรียบเทียบระหว่าง รถที่ใส่ยาง BS potenza S001  หรือ  MC  pilot  sport 4  จะเกาะถนนน้อยกว่า พวกยาง budget  tyre  จากจีนหรืออินโด  ดังนั้นสำหรับผมเลือกใช้ยางแค่ 3-4 brand  เท่านั้นคือ  Bridgestone ,Michelin,Goodyear & Continental     

2. ผู้ขับขี่ (30 คะแนน)  ประสบการณ์ สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ  การคาดการสถานการณ์  ของผู้ขับขี่มีผลมาก จริงๆอยากจะให้เป็นลำดับแรกด้วยซ้ำ เราคงเคยเห็น  clip video  ที่มีคนเอารถ  super  car  หรือรถที่ปรับแต่งแล้วไปซัดแรงๆ จนพลาด หรือยืมรถเพื่อนไปขับแล้ว  missed....จริงๆ แล้วรถเหล่านั้นสมรรถนะสูงแต่ คนขับไปพลักให้มันหลุดจาก  safety factor ไปมันก็เอวัง

3. สมรรถนะของช่วงล่าง ระบบเบรค (20 คะแนน)   จะอิสระ 4 ล้อ คานแข็ง  multilink  หรือปรับแต่งด้วยการใส่สตรัทอะไรก็แล้วแต่  เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย รถที่มีสมดุลดีก็มีโอกาสรอดจากอุบัติเหตุได้มากกว่า  สมดุลคือเมื่อเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่กระทันหันแล้วไม่รถ under มากเกิน  ไม่ over มากเกิน .....ส่วนตัวผมไม่เคยเลือกใช้รถกระบะเลย  แม้มันเอนกประสงค์แค่ไหน  เพราะผมขับรถไม่เก่ง แล้วไม่มั่นใจว่ารถประเภทนี้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว  โหงวเฮ้ง ช่วงล่าง ระบบเบรคมันจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้

4. สภาพเส้นทาง (10 คะแนน)   ขับรถอยู่ดีๆ กลางโค้งดันมีหลุมดักอยู่  หรือถนนเป็นคลื่นเป็นลอน เช่นถนนลาดยางที่หมดสภาพ เพราะโดนสิบล้อบด  เหล่านี้ทำให้รถกระดอน เสียการควบคุมได้   ดูอย่างคอสะพานของมอเตอร์เวย์เป็นต้น   ผมจึงมักเลือกเส้นทางที่คุ้นเคย  หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่เคยใช้   เช่นไปเชียงใหม่ก็ขับไปในถนนพหลโยธินสายหลัก หลีกเลี่ยงการวิ่งขึ้นไปทางที่โค้งเยอะ วางแผนและเช็คสภาพเส้นทางก่อนเดินทาง

5. ระบบตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ (10 คะแนน)  จะ  VSC , VDC ,ESC stability control  อะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่ามีดีกว่าไม่มีครับ  แต่ผมให้เป็นลำดับสุดท้าย  เพราะเมื่อไรคุณซัดรถจนระบบพวกนี้ต้องออกมาช่วย  แปลว่าข้อ 1-4  ต้องมีอะไรผิดพลาด   

สรุปให้เห็นภาพดังนี้    รถที่ผมใช้ประจำคือ  J32 250XV-V6 

1. ยางติดรถเป็น  BS Potenza S001

2. ประสบการณ์ขับรถ  20 ปี อายุสามสิบกลางๆแล้ว....เลยวัยห้าว  และใจเย็นลงระดับนึงแล้ว

3. เปลี่ยน  shock absorber  เป็น  KYB New SR กระบอกฟ้า  เปลี่ยนสปริงหลังเป็น  pedder (แข็งกว่าเดิม ป้องกันท้ายทรุด) เพราะรถติดแก็สถังโดนัท  ผมว่าตอนนี้รถผมสมดุลดีขึ้น จากเดิมที่เป็น  sedan กลางใหญ่อุ้ยอ้าย โคลง .....ตอนนี้รถกระชับมากขึ้น  ยิ่งพอเปลี่ยนสปริงหลัง + มีถังแก็ส donut มาถ่วงอาการ under   ดีขึ้นเพราะท้ายแข็งขึ้นและผลพลอยได้จากถังแก็สมาช่วยให้ท้ายรถกวาดออกบ้าง เดิมๆ หน้าหนักจนใส่โค้งแรงๆ ตัวแทบไถลออกจากเบาะ พูดง่ายๆว่ารถสมดุลขึ้น (คิดว่านะ)

4. ก่อนเดินทางไกล วางแผนเส้นทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยหาข้อมูลจากเน็ต ก็มักมีคนมาอัพเดตเรื่อยๆ ว่าสภาพทางหลวงตรงนี้เป็นอย่างไร เราก็ระวังไว้

5. รถผมมี VDC เปิดตลอด  7 ปีแล้วยังไม่เคยและไม่อยากใช้

เมื่อรวมคะแนนทั้งหมดแล้ว ผมน่าจะมีที่  75-80 จาก 100  คะแนน  น่าจะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย 

สำหรับระบบขับสี่ AWD นั้น ถ้าไม่ใช่พวกองุ่นเปรี้ยวบอกตามตรงว่าอยากได้ครับ  แต่
Subaru XV - เครื่องแรงน้อยไป ผมขับ  V6 2.5 จะเปลี่ยนรถอย่างน้อยขอแรงเท่าหรือแรงกว่า   
PJS           - ก็อย่างที่บอกในข้อ 3  ว่าโหงวเฮ้ง ช่วงล่างมันไม่ให้ สำหรับรถกระบะหรือ SUV แบบนี้ต่อให้
                  เป็น  AWD  ผมเอา altis esport ตัวไม่มี VSC  ใส่ยาง  MC pilot sport 4  มาหักหลบฉุก
                  เฉินยังมีโอกาสรอดมากกว่าเยอะ

ไอ้ที่อยากได้คือ  AUDI ตระกูล  Quattro  ครับ คือจบเลย  แต่budget  ไม่ถึง 
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 26, 2017, 15:46:35
คิดๆแล้ว Subaru xv เป็นรถที่คุ้มค่าจริงๆ  ขับสี่ล้อ AWD แอร์ออโต้แท้ ถุงลม ระบบควบคุมการทรงตัวมีครบ ราคาไม่เกิน ล้าน ของดีราคาไม่แพง มีอยู่จริงๆ

ผมชอบคำว่าแอร์ออโต้แท้ครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 26, 2017, 15:49:56
ขับรถ 4wd Fulltime กับขับสองปกติ

มันต่างกันจริงๆครับ

เทียบระหว่าง XV กับ Altis

ถ้าไปต่างจังหวัดใกล้ๆ XV สบายใจกว่า มั่นใจกว่า (ถ้าไม่เอาไปชนอะไรเข้า)

ปล.เทียบระบบขับเคลื่อน ไม่น่าคุยเรื่องคนขับ ควรตัด Factor นี้ออก เพราะ คนขับคนเดียวกัน วิ่งถนนเดียวกัน 4wd Fulltime มันมี Traction ที่ดีกว่าอยู่แล้ว

ใช่ครับ
มันคนล่ะเรื่องกัน รถที่มี option ดีๆ ก็เรื่องนึง คนขับดีกับขับไม่ดีมันก็อีเรื่องนึงครับ
เอามารวมเป็นประเด็นเดียวกันนั้นสร้างความงงงวยให้กับชีวิต
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ เมษายน 26, 2017, 16:18:48
ครับ รวมๆ กึ่งๆ ครึ่ง ๆ กันเท่าที่ฟังมา แต่เอนเอียงไปทางไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรที่จะไม่มีมากกว่า ซึ่งแต่ละท่านให้ความเห็นที่ผมไม่ได้นึกถึงเยอะเลยครับ แต่ในมุมของคนขับระบบขับ 4 มาก่อนก็คงอยากได้แบบนี้ต่ออีก (โดยเสียงส่วนใหญ่) และโจทย์ ระหว่าง ระบบขับเคลื่อน กับ ความรับผิดชอบของคนขับ อันนี้ ก็คงหาจุดลงตัวลำบาก เพราะพื้นฐาน/ความรับรู้ ต้องเริ่มจากจะสตาร์ท + สติ ต้องครบ ความพร้อมต่าง ๆ อย่างที่บางท่านบอกว่าตัดออกไปก่อน เอาแค่ระบบขับเคลื่อนล้วน ๆ ซึ่งติดรถมาบ้าง พวก VSC ก็น่าจะเพียงพอในระดับนึง แต่ถ้าเลือกได้ ก็อยากให้ 4WD เป็น option ที่เลือกได้เหมือนกันน่ะ 555

ขับจูน4fulltimeมา10ปี คันต่อมาev3.2+ก็ยัง4fulltimeเหมือนเดิม ต่างคนต่างความคิด แต่ตามจริตผม4fulltimeตรงที่สุด แก่อีกหน่อยจะไปดาวลูกไก่

ชอบ 2 ความเห็นนี้ครับ
บอกเลยติดใจมากขับ 4 ใครบอกว่าไม่ได้ใช้ขับ 4 ในไทยนี่ฮาครับ
เพราะแค่เข้าโค้งก็ได้ใช้แล้ว ความมั่นใจต่างกันรู้สึกได้

ใช้จูนขับ 4 มาตลอด 10 ปีเหมือนกันครับ เปลี่ยนเก๋งขับ 2 บ้างไม่สนุกเลย

รถคันต่อๆไปผมนำประเด็นนี้มาอันดับต้นๆเลยนะเนี่ย ถ้ามีขับ 4 ถึงแบรนด์รองก็ยอมหละ

จริงๆครับ คุยเรื่องระบบขับเคลื่อนก็ต้องตัดปัญหาคนขับเก่งไม่เก่งไปก่อน อย่ามารวมกัน
ผมขับไม่เก่งหรอกครับ ไม่ได้เร็วแรงเหมือนใคร แค่ไม่มีอุบัติเหตุมา 10 ปีได้หละ

ส่วนใหญ่ผมยกเครดิตให้ระบบขับ 4 เลยนะ
เพราะผมไปเที่ยวทั่วไทย ถนนไม่รู้จักเยอะแยะ เดี๋ยวดิน เดี๋ยวฝุ่น น้ำขังอีก
ถ้าระบบไม่ช่วยผมก็คงหลุด หมุน ไหล ไปแล้วหละ ฮา

ปอลอ สมัยก่อนขับเก๋งตอนวัยรุ่น แค่เปลี่ยนเลนตอนฝนตกสัก 120 อัพนี่สะเทิ้นจนนับไม่ถ้วนเลย
อายุจะเลข 4 แล้ว ไม่อยากสนุกเหมือนตอนนั้นหละครับ  :o
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: starlight ที่ เมษายน 26, 2017, 16:34:05
แตกต่างความคิดกันออกไป  ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ตามความถนัดและลักษณะการขับขี่ของตัวเอง 

สำหรับผม  AWD คือตัวตัดสินใจซื้อหรือไม่ เป็นอันดับแรกเลย  ไม่ต้องรอฝนตกกระหน่ำหรือหิตกโปรยปรายเลย  แค่เจอโค้ง หรือพื้นผิวถนนที่มีน้ำขัง  มันก็รู้ถึงความแตกต่างได้ชัดเจน
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 26, 2017, 16:35:11
คิดๆแล้ว Subaru xv เป็นรถที่คุ้มค่าจริงๆ  ขับสี่ล้อ AWD แอร์ออโต้แท้ ถุงลม ระบบควบคุมการทรงตัวมีครบ ราคาไม่เกิน ล้าน ของดีราคาไม่แพง มีอยู่จริงๆ

ผมชอบคำว่าแอร์ออโต้แท้ครับ
  สมัยก่อนมันมีแอร์  ออโต เทียม  ของ TOYOTA  มาให้นี่ครับ   ด่ากันกระจายเลย  ของเทียม
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tongtom ที่ เมษายน 26, 2017, 16:41:59
รถดีแค่ไหน ช่วงฝนตกใหม่ๆ กับ ฝนกำลังจะหยุดตก  ผมให้แซงโลดครับ เก่งกว่าเอ็งไปเลย แล้วจะคอยดู... ใครวิ่ง 80 ข้าวิ่ง 65พอ อยากเอาคลิปส่งรายการ เรื่องจริงผ่านจอ เผื่อจะได้เงินค่าน้ำมัน อิๆ

ประสบการณ์อีกอย่างนึง ตอนฝนตกหนักๆ

ถนนที่โค้ง บนเขา หรือโค้งลาดเท ผมไม่ขับเลนที่น้ำไหลไปกองรวมกันแน่ๆ ผมกลัว ขนาดยางดีแค่ไหนก็เหินได้ถ้าประมาท เพราะเราแทบไม่รู้ว่า ตรงจุดนั้นนอกจากน้ำแล้ว มีอย่างอื่นไหลไปรวมกันอีกไหม  ถ้าสมัยก่อนวิ่งเส้น ตาก-แม่สอด สุโขทัย หรือ วังทอง(พิษณุโลก) หล่มสัก หล่มเก่า ...เลย พวกนี้ เขาที่ถนนไม่ดี น้ำเซาะเอาโคลนจากเขา มารวมกัน มันหนัก หน่วงมากๆ ยางดีดน้ำออกไม่ทัน จบมาหลายคันละ รถช่วงล่างล้ำๆ สมัยก่อน AUDI OPEL  ซีตรอง ว่าดีๆ แล้วยังเกือบร่วงเหวเลย ....
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: boogie2020 ที่ เมษายน 26, 2017, 16:44:06
ไม่ได้ใส่ใจกับเจ้า AWD เลยคับ  ขับรถติด ๆ คลานๆ  อยู่ในเมืองทุกวี่วัน ..... ไม่อยากเพิ่มภาระ ทั้งค่าน้ำมันและค่าดูแล



ค่ายรถเขาก็คงวิจัยมาแล้วละ ว่ามันเฉพาะกลุ่มจริง ๆ   Audi เองก็เก่ง AWD quattro ไม่แพ้ subaru  ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องขายแต่ AWD เลย  ...เพราะความจำเป็นของคนเรามันไม่เท่ากัน

ปล. คนอีกตั้งกี่ล้านคน ขับรถ FF, FR  ผ่านแอ่ง ผ่านโค้ง ฝนตก ถนนลื่น ....ที่ไม่ตกข้างทาง    นับเป็น % คันที่ตก แล้วมันจิ๊บจ้อยมาก ๆ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 26, 2017, 16:52:56
มันมีในหลายๆ ตัวอยู่แล้วครับ เช่น Jazz หรือ Fit ที่ญี่ปุ่นมี ขับ AWD ขาย หรือพวก Fiesta ที่ออสเตเรียมี AWD ขาย และอีกหลายๆ ตัวที่เมืองนอกมี แต่ไทยไม่มี

แต่บริษัทฯ ผู้ผลิตและแนวทางการตลาด เขามองแล้วว่า ในไทย ความจำเป็น การใช้งาน กลุ่มคน และ ราคา ไม่เหมาะกับบ้านเรา
  ถูกแล้วครับ     ค่ายรถเขาก็อยากทำออกมาเพราะว่ารถในญี่ปุ่นหรือบางประเทศ  พวกอิโคคาร์ก็ประกอบในโรงงานบ้านเราที่นำไปขายบ้านเค้ามันก็มีระบบ 4wd       แต่ปัญหาคือทำออกมาแล้วคนไทยไม่ซื้อ     คำตอบมันจึงอยู่ในคำถามเรียบร้อยแล้ว   ไม่อยากให้คิดว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น           แต่ให้คิดอีกแบบนึง  มีดีกว่าไม่มีแน่นอน เพราะสมรรถนะเหนือกว่า

          ส่วนวิธีการขับรถบ้านเรานั้น  จริงอยู่ที่บางท่านว่า  ขนาดฝนตกยังซิ่งกันไฟแลบ รถแรงจริงโมกันมาเต็ม   จากชมรมซิ่งแต่ละคนที่สังกัดอยู่        แต่ตัวรถล่ะ โช๊คอะไร เบรคอะไร  ยางอะไร ช่วงล่างแบบไหน     ความปลอดภัยกับสิ่งเหล่านี้แทบไม่ไ่ด้โมดิฟายตามไปด้วยเลย      มันอันตรายจริง  ๆ          หรือบางคนขับด้วยวิธีการขับที่ขาดทักษะในการขับรถจริง ๆ  อย่างความเคยชินใช้กันบ่้อยมาก  แทนที่จะใช้ความสามารถและการประมวลผลในการขับขี่          แต่ใช้ความเคยชินในการขับรถ  มันเลยมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น 

 
            ผมเปรียบเทียบนะ  ผมมี Fortuner  อยู่ 2 คัน 
        1. คันแรก Fortuner 2.7 4x4 fulltime   ขับสนุกเข้าโค้งดี มั่นใจได้ ถ้าได้ยางดีดีมั่นใจว่าไม่หลุดขอเพียงมีสติ กล้าที่จะหักพวงมาลัย ให้มั่นคง แล้วรู้ระยะกับขีดจำกัดของรถ
        2. New Fortuner  2.8 4x4  คันนี้เพิ่งซื้อมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว      ถ้าเอาสมรถนะด้านเครื่องยนต์ ช่วงล่างการซับแรงสั่นสะเทือน  เหนือกว่ารุ่นเดิม            แต่ความมั่นใจในการขับขี่ยังเป็นรอง Fortuner รุ่นเดิมครับเพราะระบบ 4wd  ที่แตกต่างกันแต่ถ้าถามว่าได้ใช้ไหม ก็ได้ใช้หมดละครับดีกว่าไม่มี         

           คือถ้าจะใ้ห้ลงกลับไปซื้อ 2wd  ผมคนนึงล่ะไม่เอา    เพราะเรื่องเงินสำคัญน้อยกว่าชีวิตตนเองครับ ไม่ตายยังหาเงินใหม่ได้    ที่ผ่านมาค่าซ่อมบำรุงระบบ 4wd น้อยกว่าที่คิดเยอะเลย  รถFortuner  คันแรกใช้มา 10 ปีแล้ว นอกจากถ่ายน้ำมันเฟืองหน้าแล้วไม่เคยซ่อมบำรุงอะไรอีก     จะมีก็ sw ไฟเกียร์ 4wd ไม่ติดแต่ระบบยังใช้ได้ปกติ      การกินน้ำมันแทบไม่ไ่ด้ต่างกันก็เลยไม่มีผลกับการเอามาคิด   ที่จะต่างกันเลยคือเรื่องราคาตอนซื้อ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ เมษายน 26, 2017, 17:22:51
ผมว่ากำลังหลงประเด็นกันอยู่นะครับทั้งฝั่งที่เชียร์ขับสี่และฝั่งที่บอกไม่จำเป็น
ที่จขกทถามคือ ในเมื่อขับสี่มันช่วยให้รถเกาะถนนดีขึ้น ควรเอาระบบขับสี่มาใส่ในรถทุกขนาดมั้ย ไม่ได้ถามว่ามันดีหรือไม่ดี จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้
คือถ้าพื้นฐานรถเท่ากัน ขับสี่มันเกาะกว่าขับสองอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าควรเอามาใส่รถทุกขนาดมั้ยผมว่าไม่ เพราะถ้าแค่อยากให้รถเกาะถนนมากขึ้น เราสามารถเอาระบบช่วยการทรงตัวต่างๆเช่น ABS ESC TRC รวมทั้งยางดีๆ ใส่เข้าไปในรถได้ ให้ผลไม่ต่างกัน(หรืออาจจะดีกว่า)การใส่ระบบขับสี่อย่างเดียว
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 26, 2017, 17:28:54
มันมีในหลายๆ ตัวอยู่แล้วครับ เช่น Jazz หรือ Fit ที่ญี่ปุ่นมี ขับ AWD ขาย หรือพวก Fiesta ที่ออสเตเรียมี AWD ขาย และอีกหลายๆ ตัวที่เมืองนอกมี แต่ไทยไม่มี

แต่บริษัทฯ ผู้ผลิตและแนวทางการตลาด เขามองแล้วว่า ในไทย ความจำเป็น การใช้งาน กลุ่มคน และ ราคา ไม่เหมาะกับบ้านเรา
  ถูกแล้วครับ     ค่ายรถเขาก็อยากทำออกมาเพราะว่ารถในญี่ปุ่นหรือบางประเทศ  พวกอิโคคาร์ปี่ประกอบในโรงงานบ้านเราที่นำไปขายบ้านเค้ามันก็มีระบบ 4wd       แต่ปัญหาคือทำออกมาแล้วคนไทยไม่ซื้อ     คำตอบมันจึงอยู่ในคำถามเรียบร้อยแล้ว   ไม่อยากให้คิดว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น           แต่ให้คิดอีกแบบนึง  มีดีกว่าไม่มีแน่นอน เพราะสมรรถนะเหนือกว่า

          ส่วนวิธีการขับรถบ้านเรานั้น  จริงอยู่ที่บางท่านว่า  ขนาดฝนตกยังซิ่งกันไฟแลบ รถแรงจริงโมกันมาเต็ม   จากชมรมซิ่งแต่ละคนที่สังกัดอยู่        แต่ตัวรถล่ะ โช๊คอะไร เบรคอะไร  ยางอะไร ช่วงล่างแบบไหน เพื่อความปลอดภัยกับสิ่งเหล่านี้แทบไม่ไ่ด้โมดิฟายตามไปด้วยเลย      มันอันตรายจริง  ๆ          หรือบางคนขับด้วยวิธีการขับที่ขาดทักษาะในการขับรถจริง ๆ  อย่างความเคยชิน   ใช้กันบ่้อยมาก  แทนที่จะใช้ความสามารถและการประมวลผลในการขับขี่          แต่ใช้ความเคยชินในการขับรถ  มันเลยมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น 

 
            ผมเปรียบเทียบนะ  ผมมี Fortuner  อยู่ 2 คัน 
        1. คันแรก Fortuner 2.7 4x4 fulltime   ขับสนุกเข้าโค้งดี มั่นใจได้ ถ้าได้ยางดีดีมั่นใจว่าไม่หลุดขอเพียงมีสติ กล้าที่จะหักพวงมาลัย ให้มั่นคง แล้วรู้ระยะกับขีดจำกัดของรถ
        2. New Fortuner  2.8 4x4  คันนี้เพิ่งซื้อมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว      ถ้าเอาสมรถนะด้านเครื่องยนต์ ช่วงล่างการซับแรงสั่นสะเทือน  เหนือกว่ารุ่นเดิม            แต่ความมั่นใจในการขับขี่ยังเป็นรอง Fortuner รุ่นเดิมครับเพราะระบบ 4wd  ที่แตกต่างกันแต่ถ้าถามว่าได้ใช้ไหม ก็ได้ใช้หมดละครับดีกว่าไม่มี         

           คือถ้าจะใ้ห้ลงกลับไปซื้อ 2wd  ผมคนนึงล่ะไม่เอา    เพราะเรื่องเงินสำคัญน้อยกว่าชีวิตตนเองครับ ไม่ตายยังหาเงินใหม่ได้    ที่ผ่านมาค่าซ่อมบำรุงระบบ 4wd น้อยกว่าที่คิดเยอะเลย  รถFortuner  คันแรกใช้มา 10 ปีแล้ว นอกจากถ่ายน้ำมันเฟืองหน้าแล้วไม่เคยซ่อมบำรุงอะไรอีก     จะมีก็ sw ไฟเกียร์ 4wd ไม่ติดแต่ระบบยังใช้ได้ปกติ      การกินน้ำมันแทบไม่ไ่ด้ต่างกันก็เลยไม่มีผลกับการเอามาคิด   ที่จะต่างกันเลยคือเรื่องราคาตอนซื้อ

อ่านแล้วอยากได้ฟูลไทม์ 555
บ้านเรามีรุ่นไหนบ้างครับที่ฟูล
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: voyager ที่ เมษายน 26, 2017, 17:57:58


ลองใช้แล้วมันก็ดีแหละครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบ xdrive มาก เป็นขับสี่ที่ทำงานร่วมกับ torque vectoring ได้ฉลาดสุดๆ เข้าโค้งง่ายมาก ทั้งทางแห้งทางเปียก

แต่ fulltime AWD ขอให้เป็นตัวเลือกดีกว่า
ใครที่ไม่ได้ใช้ก็ต้องปรับปรุงทักษะการขับขี่ให้เหมาะสม
เจ้าของรถบางคันประหยัดมาก ประกันชั้นสามยังไม่คิดจะทำเลย จะมาอยากได้ของพรรค์นี้เหรอครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ เมษายน 26, 2017, 18:17:52
ผมก็อยากให้มีรุ่น 4WD Fulltime โดยเฉพาะรถ PPV SUV

แต่ผู้ใช้(บางคน) ก็ไม่เข้าใจในระบบ ไม่เห็นคุณค่าของ 4WD Fulltime คิดไปว่า ซื้อมา ถ้าไม่ได้เอารถไปลุย ก็ไม่ได้ใช้งานระบบขับ 4 ไม่มีประโชยน์ กินน้ำมันเปล่าๆ ซื้อขับ 2 ดีกว่า
มีเสียงเรียกร้องกันเยอะ ตอนสมัยฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ๆ ครับ
พอฟอร์จูนเนอร์ออกรุ่นขับ 2 ออกมา ก็ได้รับความนิยม เพราะค่าตัวที่ถูกว่าด้วยครับ

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime ขับตอนฝนตกถนนลื่น เจอน้ำขังบนพื้นถนนหลายครั้ง อาการเหินน้ำ แฉลบ มีน้อยกว่ารถขับ 2 ครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ เมษายน 26, 2017, 18:18:44
ก็เลือกซื้อกันตามงบประมาณครับ จะเป็นระบบ AWD 4WD แบบไหน จะ full time หรือ Part Time

https://www.youtube.com/watch?v=RGHYZAxKxs4

แต่ที่แน่ๆขอให้มีระบบช่วยการทรงตัว มาครบๆเป็นอุปกรณ์ พื้นฐานมาก็พอใจแล้ว
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ เมษายน 26, 2017, 18:29:57
เคยใช้ยางติดรถ michelin energy เหินน้ำสุดๆ ผมวิ่งได้80 ยังจะหยุดเลย  หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็น bs gr90 เข้า120ยังไม่มีอาการเหินน้ำหน้าแถเลย

ผมว่ามันไม่มีความจำเป็นกับทุกคน ถ้ารู้ลิมิตรถตัวเอง แน่นอนมีน่ะดีกว่าถ้าเงินถึง แต่ถามว่าจำเป็นมั๊ย ผมว่าไม่จำเป็น

เหมือนมีคนบอกว่าขับรถสูงดีกว่า สบายใจ มีอะไรหล่นบนถนนก็ขับค่อมได้ แต่รถเก๋งคนเค้าก็ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

ผมเห็นด้วย ว่า 4wd ขับดีกว่า แต่ไม่ใช่ parttime
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ เมษายน 26, 2017, 19:14:51
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 26, 2017, 19:30:08
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ

  ข้อมูลของคุณ Jimmy ที่ทดสอบไว้   ขนาด New Fortuner  ใหม่ระหว่างรุ่น 2.4 ขับ 2wd  กับ 2.8 4wd  ขับ110   ยังกินน้ำมันต่างกันนิดเดียวเอง  นี่ขนาดเครื่องยนต์ต่างกันด้วยนะ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ เมษายน 26, 2017, 20:01:17
ผมขอ ESP พอคับ

จริงๆ ชอบ full time แต่เติมน้ำมันไม่ไหวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ เมษายน 26, 2017, 20:02:44
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nakung ที่ เมษายน 26, 2017, 20:20:09
ยางสำคัญสุด
รองลงมา TRC ESP

ใครเคยขับตอนฝนตกบวกน้ำขังเกิน 100 ก็จะเข้าใจได้
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ เมษายน 26, 2017, 20:34:51
มีให้เลือกก็คงดีครับ แต่ยังไงผมก็คงเลือกซื้อขับ 2 แต่มีระบบช่วยการทรงตัวเหมือนเดิมครับ สำหรับผมที่ขับความเร็วเดินทางปกติแค่นี้ก็เกินพอแล้วครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PAN ที่ เมษายน 26, 2017, 22:22:17
ใช่ครับผมก็ชอบขับ4ฟูลทาม มันเกาะและมั่นใจดี ถ้าไม่ขับ4ฟูลก็ขอขับหน้า ผมไม่กล้าใช้รถขับหลังเท่าไหร่ กลับปัดแล้วคุมไม่อยู่ แต่ขับ4ก็ถ้ามั่นใจเกินแล้วเกินลิมิตรถนี่ก็คุมไม่ได้ยิ่งกว่า ::)
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Messe ที่ เมษายน 26, 2017, 23:56:35
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ เมษายน 27, 2017, 03:13:40
ยางที่มีดอกและไม่แข็งรีดน้ำดีๆ กับ ESP+TCS แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ 90-100 วิ่งในฝนได้ไม่มีปัญหาละ

ส่วน AWD + ESP+TCS อันนี้ ยิ่งรู้สึกมันใจ แต่ก็ขับไม่เร็วไปกว่านั้นแล้วหละครับ ฝนๆปัจจัยอื่นๆอาจทำให้คุมรถไม่อยู่เพราะเกินลิมิต
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ เมษายน 27, 2017, 06:54:42
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ขอทราบ รถที่ขับสี่กิน 8กม/ลิตร และรถที่ขับสองกิน 12กม/ลิตร ครับ

คือตรรกะแปลกๆนะครับ ถ้าจะเทียบขับสองและขับสี่ ต้องเทียบคันเดียวกันแล้วปรับขับสี่และขับสองน่าจะถูกแล้วนะครับเหมือนความเห็นด้านบน ถ้าคุณเทียบ Fortunerขับสี่ กับ Civic ขับสอง มันจะไปเทียบกันได้ยังไงล่ะครับ มันก็ต้องเทียบบอดี้เดียวกันสิครับ

แล้วต่อให้ไม่ต้องลอยตัวทางยาวๆ ใช้ในเมืองนอกเมืองเฉลี่ยกัน ของผมก็ต่างกันแค่ 1กม/ลิตร ผมเลยตั้งขับสี่ไว้ตลอดเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขับสองแล้วครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ เมษายน 27, 2017, 07:33:22
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ขอทราบ รถที่ขับสี่กิน 8กม/ลิตร และรถที่ขับสองกิน 12กม/ลิตร ครับ

คือตรรกะแปลกๆนะครับ ถ้าจะเทียบขับสองและขับสี่ ต้องเทียบคันเดียวกันแล้วปรับขับสี่และขับสองน่าจะถูกแล้วนะครับเหมือนความเห็นด้านบน ถ้าคุณเทียบ Fortunerขับสี่ กับ Civic ขับสอง มันจะไปเทียบกันได้ยังไงล่ะครับ มันก็ต้องเทียบบอดี้เดียวกันสิครับ

แล้วต่อให้ไม่ต้องลอยตัวทางยาวๆ ใช้ในเมืองนอกเมืองเฉลี่ยกัน ของผมก็ต่างกันแค่ 1กม/ลิตร ผมเลยตั้งขับสี่ไว้ตลอดเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขับสองแล้วครับ

รถขับสี่ มันต้องเทียบแบบนั้นถูกแล้วครับ
เช่น vigo ขับ2  วิ่งเทียบกับ vigo ขับ4 และการขับแบบลอยลม 110 อย่างเดียวมันล้มเหลวในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองครับ เพราะรถคันนึงมีมีสภาพการวิ่งที่ได้เปรียบเสียเปรียบต่างกัน

อย่าง vcross ที่ผมใช้ วิ่งนอกเมืองก็ไม่ประหยัดเท่าไหร่ครับ แต่ไม่แพ้เพื่อน  ลองไปเจอรถติดสิครับ โคตรประหยัดเลย ไม่รู้ทำได้ไง
ส่วนการขับปลดขับ2 กับขับ4 ตัวvcross ได้มีการลดการกินกำลังของการหมุนเพลาฟรี ความต่างอัตราสิ้นเปลืองน้อย  ตรงนี้muxเคยนำมาโปรโมท   นั่นหมายความว่ารถขับ4ที่ผลิตก่อนหน้า มีการกินกำลังของรถและอัตราสิ้นเปลืองไม่ดีอยู่พอสมควรเทียบกับรุ่นปัจจุบันแม้จะปลดเป็นขับ2แล้วก็ตาม

ฉะนั้นถ้าจะวัด ควรนำรถขับ2ยกสูงมา1คัน  กับรถขับ4แล้วมาวิ่งขับ2เทียบกันถึงจะถูกต้องครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ เมษายน 27, 2017, 07:53:36
การจะเทียบมันต้องเทียบบอดี้เดียวกัน
เช่น กระบะ ก็เทียบกระบะขับ2เทียบใส่ขับ4
(https://www.uppic.org/image-17A6_58E87EC8.jpg)

PPV (เรียกตามภาษีบ้านเรา)
(http://upic.me/i/mr/ppv_table_update.jpg)

SUV
(http://upic.me/i/ct/fvsuv.jpg)
มันไม่ได้ต่างกันจนน่าเกลียดขนาดนั้น
คงไม่ต้องถึงขั้นให้ผมมาร์คสีที่ช่องหรือตัวไหน ขับ4นะ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ เมษายน 27, 2017, 08:04:18
(http://upic.me/i/gu/bsegment_table.jpg)

หรือ ทีนี้มาดูช่อง B - seg
ยังไงก็ต่างกันไม่ถึง 50% แน่นอน
สมมุติรุ่น เฟียตตร้า ได้ 17.90 กิโลเมตรต่อลิตร ผมให้ชนกับ Honda CRV 2.4 4WD  ที่ได้ 14.29 กิโลเมตรต่อลิตร
เครื่องยนต์ 1.0 อีโคบูส กับเครื่องใหญ่กว่า 2,400 กินน้ำมันยังไม่ต่างกันเยอะเลยครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: flybigbear ที่ เมษายน 27, 2017, 09:11:07

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ขอทราบ รถที่ขับสี่กิน 8กม/ลิตร และรถที่ขับสองกิน 12กม/ลิตร ครับ

คือตรรกะแปลกๆนะครับ ถ้าจะเทียบขับสองและขับสี่ ต้องเทียบคันเดียวกันแล้วปรับขับสี่และขับสองน่าจะถูกแล้วนะครับเหมือนความเห็นด้านบน ถ้าคุณเทียบ Fortunerขับสี่ กับ Civic ขับสอง มันจะไปเทียบกันได้ยังไงล่ะครับ มันก็ต้องเทียบบอดี้เดียวกันสิครับ

แล้วต่อให้ไม่ต้องลอยตัวทางยาวๆ ใช้ในเมืองนอกเมืองเฉลี่ยกัน ของผมก็ต่างกันแค่ 1กม/ลิตร ผมเลยตั้งขับสี่ไว้ตลอดเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขับสองแล้วครับ

รถขับสี่ มันต้องเทียบแบบนั้นถูกแล้วครับ
เช่น vigo ขับ2  วิ่งเทียบกับ vigo ขับ4 และการขับแบบลอยลม 110 อย่างเดียวมันล้มเหลวในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองครับ เพราะรถคันนึงมีมีสภาพการวิ่งที่ได้เปรียบเสียเปรียบต่างกัน

อย่าง vcross ที่ผมใช้ วิ่งนอกเมืองก็ไม่ประหยัดเท่าไหร่ครับ แต่ไม่แพ้เพื่อน  ลองไปเจอรถติดสิครับ โคตรประหยัดเลย ไม่รู้ทำได้ไง
ส่วนการขับปลดขับ2 กับขับ4 ตัวvcross ได้มีการลดการกินกำลังของการหมุนเพลาฟรี ความต่างอัตราสิ้นเปลืองน้อย  ตรงนี้muxเคยนำมาโปรโมท   นั่นหมายความว่ารถขับ4ที่ผลิตก่อนหน้า มีการกินกำลังของรถและอัตราสิ้นเปลืองไม่ดีอยู่พอสมควรเทียบกับรุ่นปัจจุบันแม้จะปลดเป็นขับ2แล้วก็ตาม

ฉะนั้นถ้าจะวัด ควรนำรถขับ2ยกสูงมา1คัน  กับรถขับ4แล้วมาวิ่งขับ2เทียบกันถึงจะถูกต้องครับ
ใช่ครับ แม่นเลย
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Pasakorndvm ที่ เมษายน 27, 2017, 09:32:37
นอกจากสติแล้ว คุณภาพกับสภาพยางก็มีผลนะครับ อาศัย AWD อย่างเดียวก็ไม่แน่
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ เมษายน 27, 2017, 09:48:10
จขกท พูดถึงสังคม ภาพรวมของปัญหาอุบัติเหตุในบ้านเรา  พูดกันตรงๆมันเลี่ยงไม่ได้หรอกครับ ว่า อุบัติเหตุบ้านเรา  มันเกิดจาก "คน" ครับ  ไม่ใช่ "รถ"

ปัญหาทุกอย่างมันจะไม่เกิด  ถ้าจำกัดความเร็วได้เข้มๆแบบเมืองนอกนะผมว่า 

ขับรถที่ไม่ใช่ขับสี่มานานมาก  แต่ก็ "ไม่เคย" มีโอกาสได้ใช้ระบบช่วยเหลือของรถ  เพราะปกติ "ขับแบบมีสติ" "ความเร็วตามกฎหมาย"    ทำให้ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ

ตอนสอบใบขับขี่  ผมว่าเขาก็สอนนะ  เรื่องเว้นระยะคันหน้า  แต่สมองคนไทยมันความจำสั้น สอบแปปๆก็ลืมกันหมดนั่นละครับ

ทำได้ตามกฎอุบัติเหตุมันก็ไม่เกิด

แก้ที่รถผมว่ามันปลายเหตุ  ลำพังรถน่ะ  มันทำตัวเองให้เสียอาการไม่ได้  มันต้อง  "คน"  นั่นแหละ ที่ขับเร็วเกินจนต้องให้รถเข้ามาช่วยเหลือ

บางทีผมก็ไม่เห็นเหตุที่จะต้องเอารถทุกคันไปแบกน้ำหนักเพิ่มเพื่อระบบขับสี่   ควรดัดสันดานคนขับ  ปรับหนักๆแบบ ยุโรปเขาสักที  แนวคิดออโตบาร์นมันขายฝัน  วินัยคนไทย นิสัยไทยๆ มันไม่มีทางเป็นไปได้  เอางบสร้างถนน ไปซื้อกล้องมาถ่ายแล้วปรับตามเรตค่าครองชีพ  อัตราความเร็วแบบ UK ก็เข้าท่า

เมืองนอกเขาขับสี่เยอะนะ  แต่เหตุผลเขาคือ "เขามีหิมะ พื้นถนนเป็นน้ำแข็งสุดลื่น  ไหนจะต้องมีแบ่ง Snow Tire , Summer Tire"  มามองพี่ไทยแล้ว  ก็ลาดยางปรกติ  เต็มที่ด็แค่ฝนตก  แต่ขับรถชุ่ยๆ ประมาทกันเอง  เอาจริงๆ มีแค่ VSC ESP พวกนี้ก็เหลือพอแล้ว

ย้ำว่าพูดถึงการขับรถให้ปลอดภัยไม่ไปเดือดร้อนชาวบ้าน ไม่ได้เอาในแง่สมรรถนะขับเอามันส์เอาฟีลลิ่งส่วนบุคคล

คนทำตามกฎจราจรนี่น้อยนะ  เอาสัดส่วนเพื่อนผม  คนขับรถเรียบร้อยๆไม่มักง่ายนี่มีแค่ 2/10 คนเองนะ   เห็นการใช้รถใข้ถนนบ้านเรา  เทียบกับเมืองนอกเขาแล้วรู้สึกว่ามันด้อยพัฒนามากๆ 

 (อารมณ์หลังจากดู  Topgear พอมาเปรียบเทียบ มันเห็นได้ชัดว่าพี่ไทยขับรถได้อินเดียสไตล์มากๆ  แต่ผมว่าหลังๆ  เขาเริ่มพัฒนาให้อุบัติเหตุน้อยลง    ส่วนพี่ไทยเราก้าวหน้าพยายามแซงเป็นที่ 1 ในด้านปริมานอุบัติเหตุแทน  ขับรถกันแย่ลงทุกวันๆ)

บางทีก็น้อยใจเล็กๆ ว่าผมขับรถตามกฎหมายทุกอย่าง   ส่วนมากก็เจอไอ้พวกประมาท  ขับผิดกฎหมาย  ขับไร้สามัญสำนึก  ทะเล่อทะล่ามาชน   หรือปาด แทรก จนรถติดขยับไม่ได้  เดือดร้อนก็เพราะไอ้พวกเห็นแก่ตัวพวกนี้   จนบางทีก็คิดว่า  นี่ตูอยู่ในประเทศด้อยพัฒนา  เละเทะไร้ระเบียบขนาดนี้เลย   กฎหมายไม่ได้ช่วยสร้างความมั่นใจ  ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินผมได้เลย  ต้องระมัดระวังเอาเองทุกอย่าง  หรือต่อให้ระวัง  ผมก็อาจจะตายได้ทุกเมื่ออยู่ดี  เหมือนเคส CLS ไปชน Fiesta ที่ขับเฉยๆปกติก็ตายได้
 :'(  :-\
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 27, 2017, 09:52:13
ผมว่าคำว่า 50% เขาพูดให้ฟังเว่อร์เฉยๆ ครับ

ผมอยากให้มี awd ให้เลือกทุกรุ่นนะ แล้วให้สูงขึ้นอีกหน่อยด้วย
สามารถจับแต่งแปลงเป็น crossover มันได้ทุกรุ่นเลยถ้าเป็นรถท้ายตัด
จ่ายเพิ่ม 5 หมื่นถึงแสนก็จัดมาให้เลือก

หวังว่าจะแชร์ชิ้นส่วนกันได้ทุกรุ่น ต้นทุน part จะได้ไม่สูงครับ
เหมือเกียร์ jatco ใช้กันทั้งอุตสาหกรรม 555


หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 27, 2017, 10:04:26
มีให้เลือกก็คงดีครับ แต่ยังไงผมก็คงเลือกซื้อขับ 2 แต่มีระบบช่วยการทรงตัวเหมือนเดิมครับ สำหรับผมที่ขับความเร็วเดินทางปกติแค่นี้ก็เกินพอแล้วครับ
จากที่เคยขับทั้งเก๋ง  ปิคอัพ  PPV    เพราะที่บ้านมีหมด

   1. รถเก๋งถ้าจะเลือกเอา VSC  ช่วยในการทรงตัวมันไม่ค่อยจำเป็นเลย    เพราะการขับให้ระบบ VSC  ทำงานนี่ต้องเค้นรถออกมามากจริง  ๆ ไม่ใช่การขับแบบปกติทั่วไปแน่  ๆ   เรียกว่าต้องเค้นจนกระทั่งตัวถังรถบิดเลยทีเดียว  หรือเข้าโค้งแรงเกินจำเป็น ซึ่งบนถนนจริง  ๆ รถเก๋งขับแบบนั้นไม่ไ่ด้แน่อันตรายเกิน    ยกเว้นรถเสียการทรงตัวไปแล้วซึ่งตอนนั้นมี VSC  คงเอาไม่อยู่แล้วล่ะ    คือจากการขับปกติในชีวิตประจำวันแม้จะขับแว้นซิ่งไปบ้าง ผมยังไม่เคยเจอว่าจะงัดระบบ VSC  ออกมาใช้ได้ยังไง      แต่ถ้าระบบ 4wd  ในรถเก๋งยังไ้ด้ใช้แน่นอน     แต่ถ้าถามว่าระบบ 4wd ในรถเก๋งจำเป็นไหม   คงต้องบอกว่าในรถเก๋งไม่ถึงกับจำเป็น  ยกเว้นคนชอบสมรรถนะของรถอย่าง อิโว ซูบารู STI  อะไรทำนองนั้น คือเป็นมากกว่ารถที่ใช้งานปกติอันนั้นใช่เลย

    2.  รถปิคอัพ  ถ้าตัวเตี้ย  ๆ  มี VSC  ก็ดีช่วยได้ระดับนึงเพราะโอกาสเสียการทรงตัวมีครับ
           รถปิคอัพตัวยกสูง   ควรมีครับระบบ VSC  ไม่มีแล้วยกสูงอย่างเดียว  ผมว่ามันไม่น่าขับ   เพราะอาการของรถมันออกไ้ด้ตลอดเวลาตอนยัดโค้งแรง หรือวิ่งแฉลบหรือส่าย VSC  ก็ได้ใช้แล้ว 
          รถปิคอัพยกสูง ถ้าชอบวิ่งเที่ยวโน่นนี่นั่น    หรือใช้งาน ตจว บ่อย ๆ  4wd ก็น่าจะจำเป็นครับช่วยในการขับให้มั่นคงขึ้น พวงมาลัยแน่นขึ้น ไม่หวิว  ผมว่ามันผ่อนคลายกว่าถ้าวิ่งทางไกล 
 
    3.  PPV  ระบบต่าง ๆ ก็ควรมีให้พร้อม 4wd VSC TRC  อาการรถมันออกเร็วมาก โคลงกว่ารถปกติเห็นได้ชัดไม่ว่ารุ่นอะไร   ถึงแม้ไม่ไ่ด้เอาไปลุยที่ไหนแต่ระบบ4wd จำเป็นทำให้การขับขี่ดูหนักแน่นขึ้น       ยกเว้นว่าซื้อ PPV  มาใช้ในเมืองรถติด ซื้อกับข้าว ส่งลูกไป รร ยกสูงหนีน้ทำ่ท่วม  ตัวล่างสุด PPV  ไม่ต้องมีอ๊อพชั่นอะไรเลยก็ซื้อได้ครับ
   
 
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 27, 2017, 10:28:04
มีให้เลือกก็คงดีครับ แต่ยังไงผมก็คงเลือกซื้อขับ 2 แต่มีระบบช่วยการทรงตัวเหมือนเดิมครับ สำหรับผมที่ขับความเร็วเดินทางปกติแค่นี้ก็เกินพอแล้วครับ
จากที่เคยขับทั้งเก๋ง  ปิคอัพ  PPV    เพราะที่บ้านมีหมด

   1. รถเก๋งถ้าจะเลือกเอา VSC  ช่วยในการทรงตัวมันไม่ค่อยจำเป็นเลย    เพราะการขับให้ระบบ VSC  ทำงานนี่ต้องเค้นรถออกมามากจริง  ๆ ไม่ใช่การขับแบบปกติทั่วไปแน่  ๆ   เรียกว่าต้องเค้นจนกระทั่งตัวถังรถบิดเลยทีเดียว  หรือเข้าโค้งแรงเกินจำเป็น ซึ่งบนถนนจริง  ๆ รถเก๋งขับแบบนั้นไม่ไ่ด้แน่อันตรายเกิน    ยกเว้นรถเสียการทรงตัวไปแล้วซึ่งตอนนั้นมี VSC  คงเอาไม่อยู่แล้วล่ะ    คือจากการขับปกติในชีวิตประจำวันแม้จะขับแว้นซิ่งไปบ้าง ผมยังไม่เคยเจอว่าจะงัดระบบ VSC  ออกมาใช้ได้ยังไง      แต่ถ้าระบบ 4wd  ในรถเก๋งยังไ้ด้ใช้แน่นอน     แต่ถ้าถามว่าระบบ 4wd ในรถเก๋งจำเป็นไหม   คงต้องบอกว่าในรถเก๋งไม่ถึงกับจำเป็น  ยกเว้นคนชอบสมรรถนะของรถอย่าง อิโว ซูบารู STI  อะไรทำนองนั้น คือเป็นมากกว่ารถที่ใช้งานปกติอันนั้นใช่เลย

    2.  รถปิคอัพ  ถ้าตัวเตี้ย  ๆ  มี VSC  ก็ดีช่วยได้ระดับนึงเพราะโอกาสเสียการทรงตัวมีครับ
           รถปิคอัพตัวยกสูง   ควรมีครับระบบ VSC  ไม่มีแล้วยกสูงอย่างเดียว  ผมว่ามันไม่น่าขับ   เพราะอาการของรถมันออกไ้ด้ตลอดเวลาตอนยัดโค้งแรง หรือวิ่งแฉลบหรือส่าย VSC  ก็ได้ใช้แล้ว 
          รถปิคอัพยกสูง ถ้าชอบวิ่งเที่ยวโน่นนี่นั่น    หรือใช้งาน ตจว บ่อย ๆ  4wd ก็น่าจะจำเป็นครับช่วยในการขับให้มั่นคงขึ้น พวงมาลัยแน่นขึ้น ไม่หวิว  ผมว่ามันผ่อนคลายกว่าถ้าวิ่งทางไกล 
 
    3.  PPV  ระบบต่าง ๆ ก็ควรมีให้พร้อม 4wd VSC TRC  อาการรถมันออกเร็วมาก โคลงกว่ารถปกติเห็นได้ชัดไม่ว่ารุ่นอะไร   ถึงแม้ไม่ไ่ด้เอาไปลุยที่ไหนแต่ระบบ4wd จำเป็นทำให้การขับขี่ดูหนักแน่นขึ้น       ยกเว้นว่าซื้อ PPV  มาใช้ในเมืองรถติด ซื้อกับข้าว ส่งลูกไป รร ยกสูงหนีน้ทำ่ท่วม  ตัวล่างสุด PPV  ไม่ต้องมีอ๊อพชั่นอะไรเลยก็ซื้อได้ครับ
 

หลายคนยังนิยมพูดแบบรวมๆ ไม่ยอมแยกประเด็น
หรือแยกไม่เป็น ทั้งๆที่มีความรู้เยอะ อธิบายปากฉีกถึงหูเขาก็ยังไม่เข้าใจครับ
เหมือนเรื่องแอร์ออโต้ที่ผมพยายามอธิบายยังไง คนที่ไม่รู้เรื่องก็คือไม่รู้เรื่อง
คนเราต้องหัดแยกประเด็นเก่งๆ ครับ ดูคุยง่ายฉลาดไม่ยึดติดและดูมีความคิดสร้างสรรค์ดี
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arton ที่ เมษายน 27, 2017, 10:44:35
เมื่อคืนไม่ได้เข้ามาอ่าน ไล่เก็บประเด็น ความคิดของแต่ละท่าน ๆ ก็ไม่ต่างจากแรก ๆ ครับ การแยกประเด็นของท่าน auto เห็นภาพชัดดี ครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแชร์ความคิดครับผม ก็หวังว่า จิตสำนักของคนขับรถบ้านเราจะดีขึ้นตามการพัฒนาของประเทศ + บ.รถจะเห็นความสำคัญของระบบต่าง ๆ โดยยอมลดกำไรลงบ้าง + เมื่อคนไทยมีรายได้ถึงระดับที่เพียงพอ ก็คงได้ใช้ระบบดี ๆ ในรถของเรา ๆ ท่าน ๆ เพิ่มขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Messe ที่ เมษายน 27, 2017, 11:52:57
อ่านแล้วก็มึน มีคนคิดได้ไงว่าเอารถคนละยี่ห้อคนละรุ่น ขับสี่กับขับสองมาเทียบกัน

ผมน่ะเก็บตัวเลขจากการใช้งานจริงวิ่งมาเป็นปีๆบนเส้นทางเดียวกันวิ่งหมดถังหลายๆรอบ ในรถบอดี้เดียวกัน fortuner 3.0 fulltime 4wd เติมเต็มถัง 65 ลิตร วิ่งได้ประมาณ 550 กม.ก็ประมาณ 8.4 กม/ลิตร กับอีกคันนึง fortuner 3.0 2wd เติมเต็มถัง 65 ลิตรวิ่งได้ประมาณ 750 กม. ก็ประมาณ 11.5 กม/ลิตร

คงไม่ต้องมาขอดูรูปพิสูจน์อะไรอีกนะครับเพราะรถขายไปหมดแล้ว หันมาใช้รถขับสองตัวถังเบาๆสบายใจกว่าประหยัดน้ำมัน เมื่อก่อนหน้านี้ก็เคยอยากใช้แหละครับรถขับสี่ ใช้มาสิบกว่าปีรู้แล้วว่าไม่จำเป็นสำหรับถนนเมืองไทยปกติทั่วประเทศ ถ้าถนนเมืองไทยมีโอกาศลื่นเป็นน้ำแข็งหรือหิมะแบบญี่ปุ่นหรือยุโรปหรืออเมริกานี่สิรถขับสี่ถึงจะจำเป็น
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ เมษายน 27, 2017, 12:39:51
ไม่ต้องมึนหรอกครับ อธิบายให้มันเครียๆ เทคโนโลยีเมื่อสมัยที่คุณขับ 10 กว่าปีก่อน กับสมัยนี้
อัตราการบริโภคมันก็ต่างกันแล้ว ระบบขับเคลื่อนก็เริ่มมีความแตกต่างกันแล้ว เกียร์เอย น้ำหนักรถเอย อัตราทดเอย คือ โลกมันพัฒนาไปเรื่อยๆ คุณจะอ้างแต่ไอ้รถสมัยเมื่อ10กว่าปีก่อน มาตัดสินรถสมัยนี้ ผมว่าไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ จุดเริ่มต้นมาผิดพลาดที่คุณสื่อว่า ขับ4มันทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นถึง50% จะยอมรับกันได้ไหม ทีนี้ก็มีคนแย้งคุณว่า ไม่นะ ในการใช้งานจริง ต่างกันก็แค่ราวๆ 1 กิโลเมตรเอง ตรรกะของคุณคือ รถเมื่อสมัย10กว่าปี
     ทีนี้ เรื่องรถ AWD 4WD (ขอเรียกว่าขับ4) แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ โอเคแล้วไป คือคนเรามันชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เรื่องขับรถมีสติ เน้นดอกยาง เน้นระบบช่วยเหลืออื่นๆ ก็ว่ากันไป แล้วแต่ชอบแบบไหน สนทนากันไป
ส่วนเรื่องระบบขับเคลื่อน ถ้ามันมีให้เป็นตัวเลือกก็คงดี ใครชอบขับ4 ก็เอาขับ4ไป ใครชอบขับ2ก็เอาขับ2ไป ให้ผู้บริโภคได้เลือกว่าชอบสไตร์ไหน ไม่อยากให้ไปตัดสินแทนคนนั้น คนนี้ว่า ขับนั้นไม่ดี ขับนี้ไม่ดี เค้าใช้เค้ารู้แหละ ว่ารถไหนเหมาะกับเค้า เค้าถึงเลือกซื้อ ทีนี้ ที่ผมเอาภาพอัตราบริโภคมาให้ดู ก็ให้เทียบให้เห็นแบบมีหลักฐานว่า นี่ จริงๆแล้ว อัตราการบริโภคมันไม่ได้ต่างกันมากนะ แม้นว่า บอดี้มันจะใหญ่ขึ้น ขับ4ด้วยนะ ต่างกันไม่เยอะ นี่ไงหลักฐานยืนยันจากการทดสอบทางเว็บ ใครรับได้ มีงบถึง ก็เล่นได้ ต่างจากขับ2ไม่เท่าไหร่ จะมาอ้างไม่ได้ว่า ต่างกัน 50%เลยนะ ใช้มาแล้ว10กว่าปีไม่ได้
ครับผม
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Messe ที่ เมษายน 27, 2017, 13:05:46
ไม่ต้องมึนหรอกครับ อธิบายให้มันเครียๆ เทคโนโลยีเมื่อสมัยที่คุณขับ 10 กว่าปีก่อน กับสมัยนี้
อัตราการบริโภคมันก็ต่างกันแล้ว ระบบขับเคลื่อนก็เริ่มมีความแตกต่างกันแล้ว เกียร์เอย น้ำหนักรถเอย อัตราทดเอย คือ โลกมันพัฒนาไปเรื่อยๆ คุณจะอ้างแต่ไอ้รถสมัยเมื่อ10กว่าปีก่อน มาตัดสินรถสมัยนี้ ผมว่าไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ จุดเริ่มต้นมาผิดพลาดที่คุณสื่อว่า ขับ4มันทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นถึง50% จะยอมรับกันได้ไหม ทีนี้ก็มีคนแย้งคุณว่า ไม่นะ ในการใช้งานจริง ต่างกันก็แค่ราวๆ 1 กิโลเมตรเอง ตรรกะของคุณคือ รถเมื่อสมัย10กว่าปี
     ทีนี้ เรื่องรถ AWD 4WD (ขอเรียกว่าขับ4) แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ โอเคแล้วไป คือคนเรามันชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เรื่องขับรถมีสติ เน้นดอกยาง เน้นระบบช่วยเหลืออื่นๆ ก็ว่ากันไป แล้วแต่ชอบแบบไหน สนทนากันไป
ส่วนเรื่องระบบขับเคลื่อน ถ้ามันมีให้เป็นตัวเลือกก็คงดี ใครชอบขับ4 ก็เอาขับ4ไป ใครชอบขับ2ก็เอาขับ2ไป ให้ผู้บริโภคได้เลือกว่าชอบสไตร์ไหน ไม่อยากให้ไปตัดสินแทนคนนั้น คนนี้ว่า ขับนั้นไม่ดี ขับนี้ไม่ดี เค้าใช้เค้ารู้แหละ ว่ารถไหนเหมาะกับเค้า เค้าถึงเลือกซื้อ ทีนี้ ที่ผมเอาภาพอัตราบริโภคมาให้ดู ก็ให้เทียบให้เห็นแบบมีหลักฐานว่า นี่ จริงๆแล้ว อัตราการบริโภคมันไม่ได้ต่างกันมากนะ แม้นว่า บอดี้มันจะใหญ่ขึ้น ขับ4ด้วยนะ ต่างกันไม่เยอะ นี่ไงหลักฐานยืนยันจากการทดสอบทางเว็บ ใครรับได้ มีงบถึง ก็เล่นได้ ต่างจากขับ2ไม่เท่าไหร่ จะมาอ้างไม่ได้ว่า ต่างกัน 50%เลยนะ ใช้มาแล้ว10กว่าปีไม่ได้
ครับผม

นี่ก็ยิ่งมึนเข้าไปใหญ่ ทำไมจะเอามาอ้างไม่ได้ในเมื่อมันเป็น fact ที่ผมทดลองทดสอบมาเอง ไม่ได้ไปอ้างผลการทดสอบของคนอื่นมาใช้  แล้วเทคโนโลยีมันไม่ได้ล้าหลัง 10 ปีนะครับ มันล้ำหน้าและอยู่ในรถตัวท็อปอย่าง prado จนถึงทุกวันนี้ แต่มันแพงและสิ้นเปลืองเขาถึงคิดว่ามันไม่จำเป็นในรถระดับชาวบ้านใช้ ทุกวันนี้ถ้ามันดันมี prado ขับสี่กับขับสองอย่างเดียวมาทดสอบเปรียบเทียบกันมันก็ได้ผลเหมือนแบบนี้

ผมว่าตรรกะที่เพี้ยนนี่คือ เอารถคันเดียวกันแต่ปรับขับสี่กับขับสองมาเทียบกันมากกว่า เพราะโจทย์ของกระทู้นี้คือ ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดหรือเปล่า แปลว่ารถทั่วไปที่เป็นระบบขับสองควรเพิ่มระบบขับสี่เข้าไปหรือเปล่า ไม่ได้ถามว่ารถทั่วไปที่มีระบบขับสี่อยู่แล้วแต่ปกติขับสองอยู่ ควรใช้ระบบ 4 wd ไว้ตลอดเวลาหรือเปล่า

ดังนั้นการออกความเห็นของผม จึงอยู่บนพื้นฐานคำตอบว่ารถปกติที่มีแค่ระบบขับสองพอเพิ่มเติมระบบขับสี่เข้าไป มันต้องเพิ่มชิ้นส่วนเพิ่มน้ำหนักเพิ่มระบบการควบคุมการทำงานเข้าไปอีก ทำให้เครื่องยนต์มีโหลดการทำงานมากขึ้นจึงทำให้กินน้ำมันมากกว่า มันเป็น fact ไม่เห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีตรงไหน

ถ้าจะใช้ผลจากรถคันเดียวกัน มันต้องเอาไปยกถอดระบบขับ 4 ทั้งหมดออกก่อนครับ แล้วค่อยมาทดสอบเปรียบเทียบกัน

หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 27, 2017, 13:33:21
ตอบในฐานะอยู่ Fortunerclub มาพอสมควร ของท่าน  ดูกินมากเกินไปแบบผิดปกติในรถคันนั้น   ยกเว้นว่าเป็นรุ่น TRD

   1. Fortuner 2.7 4x4 fulltime  นอกเมือง กินน้ำมัน 7 km/l  ในเมือง 5-6 km/l
   2. Fortuner 2.7 2wd นอกเมือง กินน้ำมัน 8-9 km/l  ในเมือง 6-6.5  km/l
   3. Fortuner 3.0 4x4 fulltime  นอกเมือง กินน้ำมัน 10-11 km/l  ในเมือง 7-9 km/l
   4. Fortuner 3.0 2wd VSC นอกเมือง กินน้ำมัน 11-12 km/l  ในเมือง 9-10 km/l
   5. Fortuner 3.0 4x4 fulltime รุ่นเกียร์ 5AT นอกเมือง กินน้ำมัน 11-12 km/l  ในเมือง 9-10 km/l
   6. Fortuner 3.0 4x4 fulltime  G เกียร์ธรรมดา นอกเมือง กินน้ำมัน 11-11.5 km/l  ในเมือง 9-10 km/l
   7. Fortuner 2.5  2wd  นอกเมือง กินน้ำมัน 13-14 km/l  ในเมือง 10-11 km/l

 
       ์New Fortuner 
    1. Fortuner 2.8 4x4 part time  นอกเมือง กินน้ำมัน 12-12.5 km/l  ในเมือง 10 km/l
    2. Fortuner 2.4 2wd  นอกเมือง กินน้ำมัน 13-14.5 km/l  ในเมือง 10-11 km/l

   
   
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 27, 2017, 13:40:30
ไม่ต้องมึนหรอกครับ อธิบายให้มันเครียๆ เทคโนโลยีเมื่อสมัยที่คุณขับ 10 กว่าปีก่อน กับสมัยนี้
อัตราการบริโภคมันก็ต่างกันแล้ว ระบบขับเคลื่อนก็เริ่มมีความแตกต่างกันแล้ว เกียร์เอย น้ำหนักรถเอย อัตราทดเอย คือ โลกมันพัฒนาไปเรื่อยๆ คุณจะอ้างแต่ไอ้รถสมัยเมื่อ10กว่าปีก่อน มาตัดสินรถสมัยนี้ ผมว่าไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ จุดเริ่มต้นมาผิดพลาดที่คุณสื่อว่า ขับ4มันทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นถึง50% จะยอมรับกันได้ไหม ทีนี้ก็มีคนแย้งคุณว่า ไม่นะ ในการใช้งานจริง ต่างกันก็แค่ราวๆ 1 กิโลเมตรเอง ตรรกะของคุณคือ รถเมื่อสมัย10กว่าปี
     ทีนี้ เรื่องรถ AWD 4WD (ขอเรียกว่าขับ4) แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ โอเคแล้วไป คือคนเรามันชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เรื่องขับรถมีสติ เน้นดอกยาง เน้นระบบช่วยเหลืออื่นๆ ก็ว่ากันไป แล้วแต่ชอบแบบไหน สนทนากันไป
ส่วนเรื่องระบบขับเคลื่อน ถ้ามันมีให้เป็นตัวเลือกก็คงดี ใครชอบขับ4 ก็เอาขับ4ไป ใครชอบขับ2ก็เอาขับ2ไป ให้ผู้บริโภคได้เลือกว่าชอบสไตร์ไหน ไม่อยากให้ไปตัดสินแทนคนนั้น คนนี้ว่า ขับนั้นไม่ดี ขับนี้ไม่ดี เค้าใช้เค้ารู้แหละ ว่ารถไหนเหมาะกับเค้า เค้าถึงเลือกซื้อ ทีนี้ ที่ผมเอาภาพอัตราบริโภคมาให้ดู ก็ให้เทียบให้เห็นแบบมีหลักฐานว่า นี่ จริงๆแล้ว อัตราการบริโภคมันไม่ได้ต่างกันมากนะ แม้นว่า บอดี้มันจะใหญ่ขึ้น ขับ4ด้วยนะ ต่างกันไม่เยอะ นี่ไงหลักฐานยืนยันจากการทดสอบทางเว็บ ใครรับได้ มีงบถึง ก็เล่นได้ ต่างจากขับ2ไม่เท่าไหร่ จะมาอ้างไม่ได้ว่า ต่างกัน 50%เลยนะ ใช้มาแล้ว10กว่าปีไม่ได้
ครับผม

นี่ก็ยิ่งมึนเข้าไปใหญ่ ทำไมจะเอามาอ้างไม่ได้ในเมื่อมันเป็น fact ที่ผมทดลองทดสอบมาเอง ไม่ได้ไปอ้างผลการทดสอบของคนอื่นมาใช้  แล้วเทคโนโลยีมันไม่ได้ล้าหลัง 10 ปีนะครับ มันล้ำหน้าและอยู่ในรถตัวท็อปอย่าง prado จนถึงทุกวันนี้ แต่มันแพงและสิ้นเปลืองเขาถึงคิดว่ามันไม่จำเป็นในรถระดับชาวบ้านใช้ ทุกวันนี้ถ้ามันดันมี prado ขับสี่กับขับสองอย่างเดียวมาทดสอบเปรียบเทียบกันมันก็ได้ผลเหมือนแบบนี้

ผมว่าตรรกะที่เพี้ยนนี่คือ เอารถคันเดียวกันแต่ปรับขับสี่กับขับสองมาเทียบกันมากกว่า เพราะโจทย์ของกระทู้นี้คือ ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดหรือเปล่า แปลว่ารถทั่วไปที่เป็นระบบขับสองควรเพิ่มระบบขับสี่เข้าไปหรือเปล่า ไม่ได้ถามว่ารถทั่วไปที่มีระบบขับสี่อยู่แล้วแต่ปกติขับสองอยู่ ควรใช้ระบบ 4 wd ไว้ตลอดเวลาหรือเปล่า

ดังนั้นการออกความเห็นของผม จึงอยู่บนพื้นฐานคำตอบว่ารถปกติที่มีแค่ระบบขับสองพอเพิ่มเติมระบบขับสี่เข้าไป มันต้องเพิ่มชิ้นส่วนเพิ่มน้ำหนักเพิ่มระบบการควบคุมการทำงานเข้าไปอีก ทำให้เครื่องยนต์มีโหลดการทำงานมากขึ้นจึงทำให้กินน้ำมันมากกว่า มันเป็น fact ไม่เห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีตรงไหน

ถ้าจะใช้ผลจากรถคันเดียวกัน มันต้องเอาไปยกถอดระบบขับ 4 ทั้งหมดออกก่อนครับ แล้วค่อยมาทดสอบเปรียบเทียบกัน

อย่าดราม่ากันเลยนะๆๆ
คนไม่อยากได้ และใช้งานตัวขับสองโอเคก็ว่าไม่จำเป็นครับ
ส่วนคนที่ชอบที่อยากได้ และรู้ว่ามันต้องได้ใช้ก็ขอให้ค่ายรถช่วยจัดสเป็คแบบมี AWD ให้หน่อย

มองด้านเทคโนโลยีไม่มองอย่างอื่น
AWD พวกนี้ก็คือสิ่งที่พยายามพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ สังเกตุดูวีดีโอโปรโม
ก็ไม่ได้ให้รถวิ่งบนหิมะ แต่ให้รถวิ่งบนทางปกตินี่แหล่ะครับ ซึ่งมันมีศักยภาพ
ทำให้รถดูดถนนขึ้น ขับมันขึ้น ขับได้สะใจขึ้น

มองด้านประหยัดคุ้ม ไม่เอา อย่าใส่มาเพิ่ม ไม่จำเป็น ขอร้อง (55)

แอร์ออโต้กลายเป็นกระเทยหลายรุ่นก็เพราะ อยากประหยัด cost ไม่อยากดูแลรักษา
กลัวตู้รั่ว กลัวเย็นช้ากินน้ำมัน แต่เมื่อตัดฮีทเตอร์ไปแล้วก็มีคนมากมายเดือดร้อน
เห็นมั้ยครับว่ามันมองต่างมุมกัน และกระทู้นี้เราไม่ได้พูดกันถึงเรื่องความประหยัด

ผมพูดแค่นี้แหล่ะครับ ไม่อยากออกนอกประเด็น
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ เมษายน 28, 2017, 12:51:34
กระทู้นี้มันส์พะย่ะค่ะ  ???
อยากลองเก๋งขับสี่ AWD ซักครั้ง
ที่เล็งๆไว้ก็มีแต่ซู-outback แต่เห็น
ราคาแล้วขับ 2WD ต่อไปเถอะ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ttcl ที่ เมษายน 29, 2017, 00:02:54
ผมไม่เคยมีรถขับสี่เลย แต่ผมเชื่อครับว่าในทางลื่นๆ ระบบขับสี่รักษาอาการของรถดีกว่าระบบขับสองแน่ๆ(เอาระบบเทียบกันอย่างเดียว ยังไม่พูดถึงระบบช่วยเหลืออื่นๆ)

สมัยก่อนผมชอบดูแรลลี่
ตอนที่ทีม audi นำระบบ quattro มาใช้เป็นครั้งแรก ตอนนั้น walter rohrl นักขับแรลลี่ที่หลายๆคนให้การยอมรับว่าดีที่สุดในโลกในขณะนั้น (ปัจจุบันเป็นคนขับ porsche หลายรุ่นทำเวลาในสนาม nurburgring ) ตอนนั้นอยู่ทีมอื่น ไม่ได้อยู่ audi, walter rohrl บอกเลยว่า ไม่มีทีมไหนจะสามารถไปเอาชนะ audi quattro ได้

และก็เป็นจริงตามนั้น ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีระบบ esp , การแข่ง rally แข่งในทางลูกรังบ้าง หิมะบ้าง เส้นทางที่ลื่น ในขณะที่ทีมอื่นขับสอง แต่ audi ขับสี่ , ระบบขับสี่ของ audi ไปเร็วและมั่นคงกว่าใคร , audi ได้แชมป์ในปีนั้นไป , ต่อมา walter rohrl ก็ได้ย้ายไปอยู่ทีม audi

ข้างต้นคือนานมาแล้ว หลายสิบปี
พอเวลาผ่านไป มีเทคโนโลยีอะไรต่างๆมากขึ้น รวมถึงระบบ esp
มีการทดสอบ โดยนำรถรุ่นเดียวกันขับสองล้อหลังและเครื่องวางหลัง ซึ่งน่าจะท้ายปัดได้ง่าย คือ porsche 911 (C2) มาเปรียบเทียบกับรถรุ่นเดียวกันแต่มีระบบขับสี่ล้อ (C4)
มีการทดสอบโดยขับเป็นวงกลม เพิ่มความเร็วไปเรื่อยๆ เพื่อให้ท้ายปัด
และอีกด่านคือเปลี่ยนทิศทางเร็วๆบนพื้นที่ฉีดน้ำไ้วให้ลื่น

ตอนแรกปิดระบบ esp ทั้ง 2 คัน (porsche เรียกระบบ psm) ปรากฎว่า รถขับสอง หมุนเสียอาการ แต่รถขับสี่ ระบบขับสี่ช่วยไว้ได้มากกว่าอย่างชัดเจน

พอเปิดระบบ esp ทั้ง 2 คัน ด่านแรกที่ขับเป็นวงกลมและเพิ่มความเร็ว ระบบขับสองก็ไม่ปัดครับ เพราะ เครื่องยนต์ตัดกำลังเมื่อความเร็วเกินไปที่จะทำให้รถไถล และก็ยังช่วยเบรคที่ล้อ
ด่านที่เปลี่ยนเลนกระทันหันในพื้นที่ลื่นก็เช่นกัน ระบบขับสองก็ไม่ปัด มี esp ช่วยไว้
(แต่ถ้าความเร็วเกินไปมากๆ ทั้ง esp ทั้งขับสี่ ก็คงช่วยไม่ได้)

ผลทดสอบนั้นสรุปว่า ระบบขับสี่ดีกว่าระบบขับสองจริง แต่โลกได้พัฒนามาระดับหนึ่งแล้ว เทคโนโลยีก็เช่นกัน esp ได้เข้ามาขจัดข้อด้อยของการลื่นไถลของระบบขับสองได้  ทำให้ปัจจุบันระบบขับสองที่มี esp ก็ไม่ได้ลื่นไถลได้ง่ายแบบเมื่อก่อนแล้ว

มาถึงประเด็นที่ทางเจ้าของกระทู้เป็นห่วงเกี่ยวกับการลื่นไถลที่ไดประสบพบเห็นมา
อย่างที่ผมได้กล่าวตอนต้นว่าผมเชื่อว่าระบบขับสี่ดีกว่าระบบขับสองในทางที่ลื่นแน่นอน (เมื่อวัดกันที่ระบบอย่างเดียว)
แต่การที่จะบังคับให้รถทุกคันมีระบบขับสี่นั่น หลายๆประเทศเห็นว่าคงเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ
ประเทศที่ห่วงใยเรื่องความปลอดภัยจากการลื่นไถลนี้ หลายๆประเทศจึงบังคับให้รถใหม่ที่ขายมี esp แทน , ประเทศไทยเราไม่ถึงกับบังคับในรถใหม่ทุกคัน แต่ทำเป็นในแนวแรงจูงใจในการลดภาษีสรรพสามิต คือ รถที่จะเข้าอีโคคาร์เฟส2 บังคับว่าต้องมีระบบ esp
ถ้ามีการผลักดันอย่างจริงจัง ในอนาคต อาจเป็นไปได้ที่กฏหมายในไทยจะเดืนตามหลายๆประเทศที่บังคับให้รถใหม่ที่จำหน่าย ต้องมีระบบ esp ครับ
หัวข้อ: Re: กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ เมษายน 29, 2017, 13:17:04
เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ฟอร์จูนเนอร์ full time มันปรับเป็นขับ 2 ไม่ได้นะครับ แค่เข้าเกีบร์ D มันก็ขับ 4 ตลอดเวลา
และ
ที่ผมเทียบ ก็เทียบกับฟอร์จูนเนอร์ 2WD ซึ่งมีน้ำหนักรถน้อยกว่า 4WD นะครับ
เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่มีรูปแบบเส้นทางคล้ายๆ กัน
และไม่ได้เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองของรถของรถผม  1 คัน กับ 2 WD 1 คัน แต่เอาตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองของ 4WD หลายๆ คัน และก็อัตราสิ้นเปลืองของ 2WD หลายๆ คัน มาเปรียบเทียบครับ

คันของผม 4WD full time เดินทาง ตจว. ขับเกิน 140 กม./ชม. ก็ยังได้ถึง 1x.xx กิโลเมตรต่อลิตรครับ