Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: snowjorking ที่ สิงหาคม 09, 2017, 11:19:26
-
เห็นเพื่อนผมที่ขี่ BB นั้นเหละครับเค้าซื้อน้ำยา เคลือบกระจกสีส้มๆ อะไรเนี้ยเหละ เป็นสินค้าจากญี่ปุ่น เอามาเคลือบหมวกกันน๊อกกับกระจกรถยนต์ ใครเคยใช้ไหมครับ ใช้ดีไหม จะมีปัญหากับส่วนไหนของรถยนต์หรือเปล่า
เอารูปมาให้ดูตัวนี้
(http://www.youngmeedee.co.th/wp-content/uploads/2017/08/19989262_764595320387721_5212166836380383214_n.jpg)
เห็นในคู่มือบอก สามารถเคลือบได้ทั้งแก้วและเรซิ่น เช่น โคมไฟรถ หมวกกันน็อค แว่นตา และ ของโปรงใสต่างๆได้ดีอีกด้วย ดึจังใช้ได้ในหนึ่งเดียว
ใครเคยใช้มาบอกหน่อยนะครับ ลองดู VDO เค้าน่าดูแล้วน่าทึ่งมาก 555+ จริงหรือไม่รอผู้ใช้จริงแจ้งรายละเอียดดีกว่า
https://youtu.be/hh1cpDRXqdA
-
concept ไม่ต่างอะไรกับการเคลือบ Wax ครับ แต่ด้วยน้ำยาเฉพาะ "อาจจะ" ทำให้ติดทนนานกว่า (Wax ก็ใช้ได้ ถ้าขยันลง)
ปล.1 ก่อนเคลือบ แนะนำเอาดินน้ำมัน (สำหรับรถ) ลงก่อน เพื่อให้สิ่งสกปรกขนาดเล็กออกไปก่อน จะทำให้พื้นผิวลื่นกว่าเดิมครับ
ส่วนเรื่องน้ำวิ่ง นี่จะวิ่งที่ความเร็ว 60 km/hr ขึ้นนะครับ ถ้าต่ำกว่านั้น หรือฝนตกปรอยๆ ก็จะเกาะเป็นเม็ดๆ เต็มแผง ต้องใช้ใบปัดน้ำฝนอยู่ดี
(อันนี้ ผมไม่แน่ใจ ว่ากระจกปกติ ไม่ได้เคลือบ วิ่งที่ 60km/hr น้ำจะวิ่งหรือเปล่า)
ปล.2 ยี่ห้อตามรูป บางท่านบอกว่า เคลือบแล้วใบปัดสะดุด บางท่านว่าไม่เป็น อันนี้ต่างกรรมต่างวาระ ต่างวิธีการเตรียมผิว ต่างวิธีการเช็ดส่วนเกินออก
ส่วนตัวใช้ Invisible Glass + Rain repellant ครับ
-
ส่วนตัวใช้ยี่ห้อ Glaco ครับ
ก็โอเคอยู่นะครับ วิ่งเร็วๆนี่ไม่ต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเลย สบาย แต่ไม่ค่อยทน โดนฝนไม่หลุดนะครับ แต่ถ้าต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนนี่ หายเร็วมาก
-
ใช้ของ rainx อยู่ครับ การไล่น้ำก็ลักษณะเดียวกับคลิปเลย
แต่ต้องขับด้วยความเร็ว 60-70 ขึ้นไปเม็ดน้ำถึงจะวิ่งขึ้น
ใช้ 1 ครั้งอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนครับ
(จริงๆน่าจะนานกว่านั้น แต่เริ่มไล่น้ำไม่ดีเท่าตอนแรกเลยต้องลงใหม่)
ครั้งหน้าอยากลอง gtechniq G1,G2 เคลมไว้ว่าอยู่เป็นปี
-
8) 8) 8)....เลือกแบรนด์มาตรฐาน จะใช้ดีน้ำไม่เกาะไม่มีคราบครับ :-X
-
ผมใช้ของ Glaco สำหรับเคลือบกระจกมองข้างครับเพราะว่าเป็ยยี่ห้อเดี่ยวที่หาเจอตามท้องตลาดที่เป็นสเปย์ ส่วนบ้านหน้าและหลังผมใช้ของ 3M ครับถูกกว่า Glaco ความทนทานแทบไม่ต่างกันของผมล้างรถเดือนล่ะครั้งก็จะเคลือบกระจกเดือนล่ะครั้งครับ
ผลของการใช้งาน น้ำไม่เกาะ ถ้าวิ่งเร็วเกิน 50km/h แต่ก็มีผลเสียนะครับ น้ำยาเคลือบมันจะไปเกาะที่ใบปักน้ำฝนด้วย ถ้ามีการใช้ปักน้ำฝน และมันก็จะทำให้ใบปัดน้ำฝนมีอาการฝืด อันนี้ผมแก้ไขโดยการใช้กระดาษทราบเบอร์ 1000 ลูบยางปัดน้ำฝนเอาครับ โดนจะใช้วิธีนี้ประมาณ 2-3 เดือนครั้ง เพื่อเอาคราบยาเคลือบกระจกออกครับ
-
concept ไม่ต่างอะไรกับการเคลือบ Wax ครับ แต่ด้วยน้ำยาเฉพาะ "อาจจะ" ทำให้ติดทนนานกว่า (Wax ก็ใช้ได้ ถ้าขยันลง)
ปล.1 ก่อนเคลือบ แนะนำเอาดินน้ำมัน (สำหรับรถ) ลงก่อน เพื่อให้สิ่งสกปรกขนาดเล็กออกไปก่อน จะทำให้พื้นผิวลื่นกว่าเดิมครับ
ส่วนเรื่องน้ำวิ่ง นี่จะวิ่งที่ความเร็ว 60 km/hr ขึ้นนะครับ ถ้าต่ำกว่านั้น หรือฝนตกปรอยๆ ก็จะเกาะเป็นเม็ดๆ เต็มแผง ต้องใช้ใบปัดน้ำฝนอยู่ดี
(อันนี้ ผมไม่แน่ใจ ว่ากระจกปกติ ไม่ได้เคลือบ วิ่งที่ 60km/hr น้ำจะวิ่งหรือเปล่า)
ปล.2 ยี่ห้อตามรูป บางท่านบอกว่า เคลือบแล้วใบปัดสะดุด บางท่านว่าไม่เป็น อันนี้ต่างกรรมต่างวาระ ต่างวิธีการเตรียมผิว ต่างวิธีการเช็ดส่วนเกินออก
ส่วนตัวใช้ Invisible Glass + Rain repellant ครับ
ใช่ดินน้ำมันขัดสีรถหรือเปล่าครับที่บอกเอามาขัดกระจกได้ ผมใช้ของ soft99 อยู่ครับแต่ไม่เคยใช้กับกระจก ตัวดินน้ำมันแบบนี้หรือเปล่าครับ
(http://www.youngmeedee.co.th/wp-content/uploads/2017/08/09076-550x550.jpg)
ผมได้โทรไปถามเค้าแนะนำให้ใช้ ตัวนี้ครับ เป็น compound เอาใว้ใช้ก่อนลงน้ำยาคล้ายๆเครียกระจกก่อนลง
(http://www.youngmeedee.co.th/wp-content/uploads/2017/08/100547660-9f4e16568574901a5035751926e9977e.jpg)
-
ส่วนตัวใช้ยี่ห้อ Glaco ครับ
ก็โอเคอยู่นะครับ วิ่งเร็วๆนี่ไม่ต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเลย สบาย แต่ไม่ค่อยทน โดนฝนไม่หลุดนะครับ แต่ถ้าต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนนี่ หายเร็วมาก
น่าจะอ่านว่า กลาโก้ ใช่ไหมครับ ถ้าผมอ่านไม่ผิด จะได้ไปหาซื้อถูก ขอบคุณครับ
-
ยี่ห้อไหนก็ได้ เคลือบ ดีกว่าไม่เคลือบเป็นร้อยเท่าเลยครับ
เคลียร์ ใส โดยเฉพาะยามฝนตกตอนกลางคืน คันไหนไม่เคลือบ ไปไม่เป็นเลยครับ
-
ผมใช้ของ karshine ซื้อได้ตาม lotus big c ฝนตกใส่นี่ไหลเป็นเม็ดเลยครับ แต่ก็ต้องวิ่งเร็วหน่อย
แต่ตอนเช็ด จะเช็ดยากหน่อย แล้วก็รู้สึกฝุ่นจะเกาะกระจกมากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะบานหลัง เยอะมาก
-
ใช้ของ คาร์ไชน์ เคลือบ 2เดือนครั้ง ก่อนเคลือบผมทำความสะอาดกระจกให้สะอาดที่สุด แล้วค่อยเคลือบ
พอเคลือบเสร็จใบปัดจะกระโดด อยู่ซัก10รอบได้ต่อให้เป็นใบปัดใหม่ก็ตามจากนั้นก็จะไม่กระโดดแล้วครับไ
-
ใช้ของ คาร์ไชน์ เคลือบ 2เดือนครั้ง ก่อนเคลือบผมทำความสะอาดกระจกให้สะอาดที่สุด แล้วค่อยเคลือบ
พอเคลือบเสร็จใบปัดจะกระโดด อยู่ซัก10รอบได้ต่อให้เป็นใบปัดใหม่ก็ตามจากนั้นก็จะไม่กระโดดแล้วครับไ
เคยใช้ยี่ห้ออื่นใช้ดีเลยครับ
แต่รถคันใหม่ที่ปัดน้ำฝนทำงานดีแล้ว พร้อมกับระบบrain sensor เลยไม่จำเป็นต้องใช้การเคลือบกระจกช่วยเหลืออีก
การเคลือบน้ำยานี้ บางท่านเกลียดเลย เพราะเจอปัญหาที่ปัดน้ำฝนทำงานแบบติดขัด ฝืด กระโดด
แต่มีเทคนิคครับ หลังจากลงน้ำยาเคลือบรอสักครู่ให้แห้งเป็นคราบฝ้าขาวๆบางๆติดบนกระจก
หลังจากนั้นผมใช้กระดาษทิชชูซ้อนเป็นแผ่น ต้องออกแรงมากสักหน่อย ค่อยๆเช็ดคราบขาวๆออกให้หมด
มองเอียงๆสะท้อนแสงว่าไม่มีคราบฝ้าขาวตกค้าง ถ้ายังมีจุดนั้นจะทำให้ที่ปัดน้ำฝนฝืดตรงนั้น
ต้องเช็ดออกให้หมดดูใสปิ้ง
ตอนนี้กระจกก็จะใส ลื่น น้ำไม่เกาะ เมื่อวิ่งถึงความเร็วหนึ่งจะเหมือนหยดน้ำกลิ้งวิ่งบนกระจกแล้ว
-
ยี่ห้อไหนก็ได้ เคลือบ ดีกว่าไม่เคลือบเป็นร้อยเท่าเลยครับ
เคลียร์ ใส โดยเฉพาะยามฝนตกตอนกลางคืน คันไหนไม่เคลือบ ไปไม่เป็นเลยครับ
ขอบคุณครับ ผมก็เดินทางต่างจังหวัดกลางคืนบ่อย ฝนตกหนักทีต้องจอดข้างทางเลยมองไม่เห็นทางอันตรายมากครับ
เห็นรถบางคันฝนตกหนักๆวิ่งรูดขวาอย่างสบายใจ สงสัยเค้าคงใช้น้ำยาเคลือบกระจก
-
ผมใช้ของ karshine ซื้อได้ตาม lotus big c ฝนตกใส่นี่ไหลเป็นเม็ดเลยครับ แต่ก็ต้องวิ่งเร็วหน่อย
แต่ตอนเช็ด จะเช็ดยากหน่อย แล้วก็รู้สึกฝุ่นจะเกาะกระจกมากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะบานหลัง เยอะมาก
ขอบคุณครับ ยี่ห้อนี้คุ้นๆนะครับ น่าจะเป็นของคนไทยผลิตนะครับ คุณภาพผมมองว่ายังสู้ของญี่ปุ่นไม่ได้ เท่าไหร่ผมขอมองข้ามยี่ห้อนี้ไปนะครับ (ผมมันติ่ง Japan ถ้าเกี่ยวกับรถยนค์ ;) ;) ;))
-
ส่วนตัวใช้ยี่ห้อ Glaco ครับ
ก็โอเคอยู่นะครับ วิ่งเร็วๆนี่ไม่ต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเลย สบาย แต่ไม่ค่อยทน โดนฝนไม่หลุดนะครับ แต่ถ้าต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนนี่ หายเร็วมาก
ผมก็ใช้ Glaco ตัวนี้ แต่ถ้าวิ่งต่ำกว่า 50 ก็ไม่เห็นผล แต่ถ้าวิ่งเร็วก็เห็นผลชัดเจน
เทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ที่เคยใช้มา ยี่ห้ออื่นจะติดทน ไม่ต้องเคลือบบ่อยๆ ครับ
(http://fb1-cb.lnwfile.com/3fm2eb.jpg)
-
3m karshine clearview ราคา 180-260 ไม่ต่างกันเลยครับ ใช้ได้เหมือนกัน เดือนละครั้ง ขับ 20-30 น้ำก็วิ่งแล้ว รถที่บ้านลงทุกคัน ไม่ลงเวลาปัดกระจกแล้วไม่เคลียร์ โคมไฟหน้ารถนี่ ขึ้นอยู่กับวัสดุด้วยนะครับ บางยี่ห้อ ใช่ได้ บางยี่ห้อใช้แล้วไปลอกสารเคลือบโคมไฟ
-
ใช้ glaco ตัวธรรมดาครับ แพคเกจมันจะมีหัวสำหรับทาในตัว ทาแล้วเช็ดออก หรือถ้าทำแบบผมคือขี้เกียจ ทาเสร็จก็เอาน้ำราดแล้วเอาฟองน้ำลูบออกเลยครับ
ถ้าใช้ตัว 0km/h จะใช้สำหรับกระจกมองข้างเท่านั้น (ตัวนี้ฉีดแล้วห้ามเช็ดออก ถ้าเช็ดออกคือน้ำยาหลุดเลยครับ มันกะปริมาณให้พอดีได้ยาก ฉีดเยอะไปเป็นฝ้าอีก)
-
3m karshine clearview ราคา 180-260 ไม่ต่างกันเลยครับ ใช้ได้เหมือนกัน เดือนละครั้ง ขับ 20-30 น้ำก็วิ่งแล้ว รถที่บ้านลงทุกคัน ไม่ลงเวลาปัดกระจกแล้วไม่เคลียร์ โคมไฟหน้ารถนี่ ขึ้นอยู่กับวัสดุด้วยนะครับ บางยี่ห้อ ใช่ได้ บางยี่ห้อใช้แล้วไปลอกสารเคลือบโคมไฟ
+1
-
เหมือนหยดน้ำบนใบบัวครับ
-
ใช้ 3M ครับ ชอบมากน้ำไหลทันทีไม่ว่าหยดเล็กหยดใหญ่
ถ้าขยันหน่อยเคลือบ panoramic roof ไปด้วย ดึกๆรถติดเงยหน้ามองน้ำไหลมีความสุขดีครับ
-
เวลาเคลือบพี่ๆเคลือบกันยังไงครับ
พ่น/ทา แล้ว เช็ดเลย
หรือว่า พ่น/ทา แล้วทิ้งสักพักค่อยเช็ดอะครับ
-
ผมใช้ทั้ง Karshine และ Glacoทั้งตัวธรรมดาและ0km/h
ผมชอบKarshineมากกว่าครับ ทนกว่า น้ำวิ่งมากกว่า ที่สำคัญคือถูกกว่าด้วย
ส่วนGlaco 0km/h เหมาะกับกระจกมองข้างมากกว่าครับ เพราะเช็ดแล้วหลุดเลย แถมทำให้ใบปัดน้ำฝนกระโดดด้วย
-
ผมใช้ของ 3 m เคลือบกระจกรอบคัน ยกเว้นกระจกหน้า เพราะมีใบปัดอยู่แล้วครับ
รู้สึกพอใจ เพราะน้ำเกาะน้อยลง มองทางได้ดีขึ้นครับ ไม่ต้องกดปุ่มไล่น้ำเกาะกระจกหลังด้วย
ราคากลางๆ ไม่ถูก ไม่แพงครับ ถ้าไม่ชอบไม่ใช้ก็ไม่มีอะไร ที่ผ่านมาขับเป็นสิบปีก็ไม่เคยใช้
แต่เพราะ ปี 2 ปี หลัง ฝนตกบ่อย เลยลองซื้อมาใช้ดู
-
ยี่ห้อไหนก็ได้ เคลือบ ดีกว่าไม่เคลือบเป็นร้อยเท่าเลยครับ
เคลียร์ ใส โดยเฉพาะยามฝนตกตอนกลางคืน คันไหนไม่เคลือบ ไปไม่เป็นเลยครับ
ขอบคุณครับ ผมก็เดินทางต่างจังหวัดกลางคืนบ่อย ฝนตกหนักทีต้องจอดข้างทางเลยมองไม่เห็นทางอันตรายมากครับ
เห็นรถบางคันฝนตกหนักๆวิ่งรูดขวาอย่างสบายใจ สงสัยเค้าคงใช้น้ำยาเคลือบกระจก
นั่นเลยอาการรถผม ฝนตกแล้ววิ่งสบายใจ ;D
นั่งมองคันอื่นๆ เปิดไฟผ่าหมาก ต้องเดาใจกันอีก ฮา
ธรรมดาเคลือบก็น้ำไหลทิ้งเป็นเดือน
แต่อาทิตย์แรก น้ำวิ่งหลุดกันเลยทีเดียว
เอาชัวร์ก่อนออกเดินทางไกลก็เคลือบไว้อีกครั้งครับ
เพิ่มเวลาอีกไม่กี่นาที เคลือบทีละบานๆ
พอเสร็จบานท้ายก็ไล่เช็ดบานแรก แป๊บเดียวเอง :o
-
ใช้ดีกว่าไม่ใช้แน่นอน ผมใช้ rainoff ขวดละร้อย กับ Glaco ที่แพงกว่าเยอะ ไม่เห็นแตกต่าง Rainoff เช็ดออกง่ายกว่าด้วย