Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: anavin ที่ กันยายน 03, 2011, 18:39:40
-
พอดีจะซื้อรถ แล้วก็กำลังเล็ง Honda City Minor Change ตัว Top อยู่ราคาประมาณ 690,000
แต่พอดีมีคนข้างบ้านธุรกิจทำเกี่ยวกับหารถบ้านมือ 2 มาขาย....ซึ่งผมเลยลองถามดูถึงรุ่นในฝันของผม คือ BMW E46 ตายก
แล้ววันนี้เค้าก็ให้คำตอบมาว่าเป็น สีเทา ปี 2003 ราคาประมาณ 730,000
วิ่งมา 100,000 กิโล ไม่มีชน เชคศูนย์ตามระยะ เปลี่ยนอะไหล่ที่ศูนย์ตลอด (เท่าที่ศุนย์บอกให้เปลี่ยน)
แล้วก็ใส่ชุดแต่ง M3 มา
เป็นพวกพี่ๆจะเอาไงดีครับ ><
(http://upic.me/i/5u/cpiccasnfteo.jpg)
(http://upic.me/i/jt/2555555.jpg)
-
City ดีกว่าครับ อย่าเสี่ยงเลย ;)
-
ถ้าเช็คประวัติรถได้ชัวร์จริงๆ
แล้วมีเงินพอจะเลี้ยงมันก็น่าสนใจครับ
แต่ก็ต้องเข้าใจว่ารถอายุเยอะแล้วครับ ชิ้นส่วนก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา
ให้ประวัติดียังไง ก็ต้องมีซ่อมกันบ้าง
ค่าซ่อมรถยุโรปนี่มันราคาไม่เบาเลยนะครับ
-
++
ถ้าช้อยส์นึงเป็นรถในฝัน..ผมคงเอาตามนั้นครับ..
++
-
city ครับ
-
มีเงินจะซ่อมมันก็น่าสนนะครับ
-
น่าจะถามตัวคุณเองก่อนนะครับ ว่า ที่บ้านมีรถกี่คัน รถปี 2003 ยังไงก็ต้องมีซ่อมบ้างครับ
ระหว่างที่ เอา บีเอมไปซ่อม มีรถคันอื่นใช้ไหม รับได้กับการนั่งแท็กซี่ไปธุระ ระหว่างที่ บีเอมอยูอู่ไหม
รับได้กับการ นั่งแท็กซี่ไปๆมาๆรับน้องบีเอม ในอู่ บ้างไหม น้อง E46 คันนี้ ก็จุกจิกพอควร
แล้วรับได้กับค่าดูแล ปีละ ซัก 4-5 หมื่นไหม
และต้องสืบเสาะหาอู่ซ่อมดีๆหน่อย ขืนเข้าศูนย์ ก็จะโดนฟันหัวแบะเอา
ความพยายามนั้นก็จะแลกมาด้วย ตราใบพัด ฟ้าขาว สมรรถนะ เสียง และการเก็บเสียง แฮนลิ่ง อัตราการกินนํ้ามันที่สูงกว่า
(ในกระทู้ไม่ได้ระบุขนาดเครื่องยนต์ ว่าบล็อกไหน ส่วนตัวผมชอบ วีหก ขึ้นไป)
ถ้ารับได้กับที่กล่าวมา ก็ สอยเลย
แต่ถ้า คุณต้องการแค่รถที่ มั่นใจว่าจะสตาร์ทติดทุกเช้า พาคุณจากจุดเอไปจุดบีได้ ศูนย์เยอะ ซ่อมถูก อู่ในอู่นอกซ่อมเป็นหมด
ก็ถอย ซิตี้
แต่ถ้าเป็นผม ผมจะถอยบีเอ็มครับ ผมมีรถตราดวงดาว อายุ 16 ปีอยู่ คันนึง และผมรับได้กับการดูแลมันครับ แต่คุณละครับ???
-
รถไม่มี BSI แล้ว ดังนั้น
1. มีเงินซ่อมตามอายุ และความแพงของรถยุโรป ผมว่าอย่างน้อยๆ ก็ปีละ 50000 ขึ้นไป (เดาจาก Benz W124 ของพ่อผม)
2. ค่าน้ำมัน เพราะรถเก่ายังไงก็กินน้ำมันกว่ารถใหม่แน่ๆ
เล่นรถยุโรป ควรจะมีเงินเหลือๆ ครับ ยกเว้น Benz รุ่นเก่าที่ค่าอะไหล่ไม่แพงมาก (แต่บางชิ้นก็นะ......) ไม่งั้น อาจจะเหมือนซื้อตัวรถไม่แพง แต่ค่าอะไหล่อาจจะจุกได้
เอางี้ดีกว่า ถ้าคุณมีเงินเหลือๆ ผมว่าน่าเล่น เพราะ E46 มันสวยดูไม่ตกรุ่นอีกนาน แต่ถ้าคุณยังเป็นคนหาเช้ากินค่ำ อย่าไปยุ่งครับ เดี๋ยวจะช้ำใน
-
น่าจะถามตัวคุณเองก่อนนะครับ ว่า ที่บ้านมีรถกี่คัน รถปี 2003 ยังไงก็ต้องมีซ่อมบ้างครับ
ระหว่างที่ เอา บีเอมไปซ่อม มีรถคันอื่นใช้ไหม รับได้กับการนั่งแท็กซี่ไปธุระ ระหว่างที่ บีเอมอยูอู่ไหม
รับได้กับการ นั่งแท็กซี่ไปๆมาๆรับน้องบีเอม ในอู่ บ้างไหม น้อง E46 คันนี้ ก็จุกจิกพอควร
แล้วรับได้กับค่าดูแล ปีละ ซัก 3-5 หมื่นไหม
และต้องสืบเสาะหาอู่ซ่อมดีๆหน่อย ขืนเข้าศูนย์ ก็จะโดนฟันหัวแบะเอา
ความพยายามนั้นก็จะแลกมาด้วย ตราใบพัด ฟ้าขาว สมรรถนะ เสียง และการเก็บเสียง และอัตราการกินนํ้ามันที่สูงกว่า
(ในกระทู้ไม่ได้ระบุขนาดเครื่องยนต์ ว่าบล็อกไหน)
ถ้าได้ ก็ สอยเลย
แต่ถ้า คุณต้องการแค่รถที่ มั่นใจว่าจะสตาร์ทติดทุกเช้า พาคุณจากจุดเอไปจุดบีได้ ศูนย์เยอะ ซ่อมถูก อู่ในอู่นอกซ่อมเป็นหมด
ก็ถอย ซิตี้
แต่ถ้าเป็นผม ผมจะถอยบีเอ็มครับ ผมมีรถตราดวงดาว อายุ 16 ปีอยู่ คันนึง และผมรับได้กับการดูแลมันครับ แต่คุณละครับ???
ไม่ใช่คันแรกของครอบครัวครับ....แต่เป็นคันแรกของผม
บ้านผมอยู่โคราชครับ แต่ตัวผมอยู่ กทม
ผมอยากจะดูแลมันมากๆครับ....
แต่มันจุกจิกมากๆจริงๆเลยหรอครับ....ผมก็กลัวว่าจะเอามาแล้วได้แต่ซ่อมนี่แหละครับ
ผมก็ไม่ได้เงินเหลือกินเหลือใช้อะไรอ่ะครับ เพิ่งจะเรียนจบเองครับ
ถ้าซ่อมปีๆนึง 30000 ทุกปีก็จุกอยุ่นะครับ (มันขนาดนั้นเลยหรอ T T)
เลยคิดหนักมากๆเลยเนี่ยฮะ ><
-
อยู่กับเงินในกระเป๋าล้วนๆ ครับ กรณีนี้
รถ 8 จะขึ้น 9 ปีแล้ว ค่าซ่อมทำใจไว้เลยครับ
-
คำว่าจุกจิกมาก หรือน้อย นี่เอาอะไรมาวัดล่ะครับ ต้องเข้าอู่ กี่ครั้งต่อ ปี ถึงจะเรียกว่ามากหรือน้อย ผมว่ามันก็พูดลำบากครับ
มันก็ต้องมีบ้างที่ ต้องแวะเข้าไปหาอู่ก่อนกำหนดเช็คระยะ ส่วน บ่อยแค่ไหนอันนี้แล้วแต่ว่า ดวงอะไรจะเสีย แล้วเจออู่ที่ซ่อมจบไหม
รถดวงดาวผม อีกคันนึง อายุเพิ่ง 6 ปี วิ่งไป แค่ 6 หมื่น แล้วสมองเกียร์ไฟฟ้าดันเจ๊ง เข้าออกทั้งศูนย์ ทั้งอู่ อู่ประมาณ เกือบ สองเดือน
ถ้าซ่อมศูนย์ก็จะหมดไป แสนกว่า แต่ผมไปหาอู่นอก ถึง สองที่กว่าจะซ่อมจบ ด้วยราคา 4 หมื่น แต่ผมก็รับได้กับการทำแบบนี้ แล้วก็แฮ้บปี้กับมัน
ถ้าคุณรับได้กับ สมมุติติฐานที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ กรณี worst case แล้วยังแฮปปี้กับมัน มีชีวิตอยู่ไม่ลำบาก ก็ซื้อเลย
ส่วนถ้ามันไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ดีไป
เอาเป็นว่า จุกจิกกว่ารถยี่ปุ่นชัวร์ป้าด ครับ ยิ่งเทียบกับรถ ญี่ปุ่นมือหนึ่งด้วย
ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมใน บีเอ็มคลับสิครับ เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจ ไหนๆก็จะเสียเงิน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
อ้อ แล้วที่บอกว่าใส่ชุดแต่งเอ็มสามนี่หมายถึงเฉพาะ พวกแอโร่พาร์ทกับ ล้อใช่ไหมครับ ถ้าใช่ก็ อาจจะโอเค แต่ถ้าลามไปถึงเปลี่ยนสปรง โช้ค โมโน่นนี่มา
ผมจะรีบบ๊ายบายทันที
ปล รถเก่าๆ มันจะสอนอะไรเรา อย่างที่รถใหม่ๆ สอนไม่ได้นะครับ
-
รถเก่าอายุเกิน 7-8 ปี ก็ซ่อมทั้งนั้นละครับ ถึงแม้จะรถญี่ปุ่น ค่าซ่อมปีนึงก็คงจะหลายพันเหมือนกันนั่นแหละครับ
Lancer CK2 น้องผม รถอายุ 12 ปี ยังเฉลี่ยซ่อมปีนึง 7000-8000 เลย
-
ไม่ทราบว่าซื้อสดหรือผ่อนครับ ถ้าซื้อเงินสดก็ราคาต่างกันไม่มาก แต่ถ้าซื้อผ่อนอัตราดอกเบี้ยรถเก้าปีราคาน่าจะ ประมาณร้อยละห้า ขึ้นไปแถมต้องเสียภาษีอีกเจ็ดเปอร์เซ็นต่อการผ่อนต่องวดอีกนะครับ มองโดยรวมแล้วยังไม่ต้องรวมค่าซ่อม ก็น่าจะประมาณ ราคาต่างแสนหนึ่งได้ครับถ้าเกิดดาวน์ประมาณสองแสนนะครับ
เรื่องซ่อมบำรุง ซื้อมาแล้วผมว่ารถเก่าหลายๆๆคนมองข้ามพวก ระบบสายไฟที่เป็นยางหรือพลาสติกที่มีอายุการใช้ และพวก อุะปกรณืภายในที่น่าจะเสื่อมตามอายุการใช้งานครับ
-
เรื่องจุกจิก อย่างนึงคือมันอยู่ที่ตัวคนใช้ด้วยนะครับ บางปัญหาเล็กๆน้อยๆ ถ้ามองๆข้ามมันไป ก็ไม่ต้องเสียตังซ่อม ผมว่าถ้า จขกท.ชอบมันมาก และคิดจะซ์้อ ควรจะหาอู่ที่ไว้ใจได้ไว้ด้วย แล้วก็ที่สำคัญที่สุดคือ คนขายเขาพูดจริงรึเปล่าหว่า วิ่งแค่แสนโล ไม่เคยชนอีก ถ้ามันจริงเป็นผมคงกระโดดคว้าเช่นกันนะครับ >_<
-
เวลาชั่งใจเพื่อเลือก อย่าลืมนึกถึงว่า e46 มันเก่าแล้ว 7.3 แสนมันต้องบวกค่าซ่อมบำรุง และเปลี่ยนอะใหล่ในอนาคต
แต่ถ้า City อะไรๆก็ดูจะดีกว่าในเรื่องค่าใช้จ่าย
ยังไงแล้วสุดแต่ใจเจ้าของจะเลือกแหละครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะครับ :D
-
ของที่เก่าแล้วขับไปก็สู้ของใหม่ไม่ได้ มันสดกว่า เช่น BM รุ่นนี้ เทียบกับ รุ่นปัจจุบัน ใครจะสวยสดกว่า
ขับรถมือสองยังไงก็เซ็ง ในใจเราจะรู้ดี ต่อให้ราคาร้อยล้าน แต่ซื้อมือสอง ยังไงก็มือสองวันยังค่ำ
สู้ขับมือหนึ่งแบบที่เราซื้อได้ภูมิใจกว่าเยอะ ฉันซื้อมือหนึ่งนะ รุ่นล่าสุด ดีกว่ามือสองตกรุ่น
งบที่ท่านตั้งผมว่าซื้อ altis หรือ civic ได้เลยน่ะนั่น เอารถขนาดกลางไปเลย ขนาดเล็กมันกระเทือนและไม่เกาะถนน
-
city แน่นอนกว่าครับ ถ้าซื้อมือสองรถไม่ควรเกิน 3-4 ปีนะ เพราะมันจะซ่อมหลาย BMW โปรดระวังค่าซ่อมเฉียดแสนหากอุปกรณ์สำคัญเช่น เกียร์พัง
-
City ดีกว่าครับ ได้รถใหม่ :)
-
ขอบคุณทุกๆท่านมากๆนะครับ....ผมจะเอาความคิดของทุกๆท่านไปประกอบการตัดสินใจนะครับ
ใครมีอะไรอีก เชิญเลยนะคับ....ยังอยากจะได้ข้อมูล และ ความเห็นอีกมากๆเลยครับ
-
ผมก็เคยเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ ตอนนี้ก็เลยยังกล้าๆกลัว อาจจะขอเวลาศึกษาเจ้าe46 สักระยะ
กระทู้นี้ครับ: http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,14556.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,14556.0.html)
-
BMW ครับ รักษาดีๆ ไม่งองแง ครับ
-
อยากเท่ต้อง BMW ครับแต่ระวังจุกจิกเสียรมณ์ ถ้าเน้นใช้งานระยะยาวต้องรถใหม่ครับ
-
เป็นผมๆเลือกcityคับ
1.ไหนจะค่าน้ำมัน รถเก่ากินจุกว่ารถใหม่เป็นธรรมดา
2. รถยุโรปอะไหร่แพงกว่ารถญี่ปุ่น
3. เอารถเก่ามาแล้วต้องเปลี่ยนนูนเปลี่ยนนี้ ส่วนรถใหม่ไม่ต้องเปลี่ยน
...
แต่ถ้าชอบมันจริงๆก็สอยมาได้เลยคับ ขับแล้วมีความสุขก็จัดเลย :D :D :D
-
เคยเห็นรถยุโรป 8-9ปีจอดเสียข้างทางประจำ เลยกลัวไปเสียต่างจังหวัดหรือดีกๆเพื่อนเคยโทรมาตี3ให้ไปลากรถ หารถลากเข้าอู่รอซ้อมอีกต้องรีบกลับมาทำงานอีก
-
อยู่โคราช ไม่แนะนำให้ใช้ BW ครับ
เพราะอู่ดีๆ อยู่ กทม. แล้วคุณจะเอารถมาทิ้งที่อู่ ได้ไกลขนาดนั้นเลยเหรอ
คิดให้ดีครับ มันลำบากใม่ใช่เล่นเลยนะครับ
ขนาดผมอยู่อยุธยาที่ห่างจากกรุงเทพ 1 ชม. ยังไม่คิดจะเอารถไปซ่อมที่กรุงเทพเลยครับ
ใหนจะการเดินทาง เสียทั้งค่านำ้มัน ทั้งเวลา แล้วก็เที่ยวไปดูความคืบหน้าในการซ่อมก็ไม่ได้
แต่ก้ขึ้นอยู่กับคุณครับว่ารับได้ไหมกับสิ่งข้างบน
ตัวผมก็เคยจะซื้อรถพวกนี้ แต่พอคิดไปคิดมา...ก็รับกับสิ่งที่จะต้องเผชิญไม่ได้
กลับมาเล่นรถคลาดมือ1 อย่างที่พี่ๆเค้าเชียร์แหละครับ ;D
ผมเห็นมานักต่อนักแล้ว รถดับกลางทางบ้าง ลงมาเข็นกันข้าง เสียตรงตืนสะพานบ้าง...
ยิ่งถ้าเกิดเสียตอน 4 ทุ่มคุณจะเข้าอู่ไหน??? (ซึ่งผมก็เคยเห็นมาแล้วอีกนั่นแหละ)
ของพวกนี้ตอนมันจะเสียมันไม่ได้มาบอกคุณนะว่ามันจะเสียแล้ววว ให้รีบเปลี่ยนฉันเถอะ.....
สำหรับตัวผมเอารถที่ขับแล้วสบายใจดีกว่าครับ
-
ผ่อนเดือนละ 10000 เท่ากันทุกเดือน (สมมติื)
แต่คันนึง ขับสบายใจกับภาระ 10,000 บาท ทุกเดือน
อีกคัน ขับแบบหวาดระแวงกับภาระ 10,000 บาท และค่า ซ่อม 20,000 - 50,000 บาท ที่ไม่รู้จะมาเดือนไหนเหมือนถูกหวย
แถมยังไม่รวม ค่าลากรถ ค่านั่งแทกซี่ ค่าเสียงานการอีก
แต่ถ้ายอมรับได้ ก็ใช้ได้ครับ หรูกว่า "เยอะ"
-
สงสัยผมคงต้อง city แล้วแหละครับ
คงต้องรอให้ตัวเองฐานะโอเคกว่านี้ และ พร้อมที่จะไม่กลัวกับสิ่งที่ไม่แน่นอน
วันนั้นซักวันจะกลับมารับเลี้ยง BMW 318i e46 แน่นอน....รถในฝันผมมม ><
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ^ ^
-
City ครับ BMW ตัวนี้ น้าผมขนาดพอมีตังค์ ยังขายทิ้งเพราะซ่อมทีมันแพงเกินเหตุ
-
E46 ถ้าเป็นตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์ คันเร่งอาจแข็งได้ ก็ต้องแก้ไขกันไป
แต่ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ บางคัน ก็อาจจะมีปัญหานี้ได้เหมือนกัน ทั้งที่เป็นคันเร่งไฟฟ้า งงอยู่เหมือนกัน
สำหรับ BMW แล้ว ถ้าคิดว่า ชอบรถมากพอ งบไม่ถึง แต่ คิดอยากเรียนรู้ หรือสนุกกับการเรียนรู้ผ่านการซ่อมรถ
ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพียงแต่ว่า ถ้าคุณยัง New to Car ขอแนะนำว่า เลือกหาจากโจทย์ที่สบายใจไปสัก 2-3 ปี
น่าจะดีกว่าครับ
-
E46 ถ้าเป็นตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์ คันเร่งอาจแข็งได้ ก็ต้องแก้ไขกันไป
แต่ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ บางคัน ก็อาจจะมีปัญหานี้ได้เหมือนกัน ทั้งที่เป็นคันเร่งไฟฟ้า งงอยู่เหมือนกัน
สำหรับ BMW แล้ว ถ้าคิดว่า ชอบรถมากพอ งบไม่ถึง แต่ คิดอยากเรียนรู้ หรือสนุกกับการเรียนรู้ผ่านการซ่อมรถ
ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพียงแต่ว่า ถ้าคุณยัง New to Car ขอแนะนำว่า เลือกหาจากโจทย์ที่สบายใจไปสัก 2-3 ปี
น่าจะดีกว่าครับ
ขอบคุณมากครับพี่จิมมี่....ถึงผมจะจบวิศวกรรมเครื่องกล แต่ก็ไม่ได้มีความมั่นใจในด้านรถซักเท่าไรเลยครับ
ถึงจะชอบรถมากและทำโปรเจคจบเกี่ยวกับรถก็เถอะ...แต่ถ้าให้ซ่อมหรือมองเห็นปัญหาอะไรที่เกิดขึ้น ผมยังไม่ถึงขั้นครับ
และผมก็เป็น New to car จริงๆด้วยครับผม ยังขับรถไม่คล่องด้วยซ้ำ
เพราะงั้น คงเลือกซื้อรถใหม่แล้วล่ะครับ....เพื่อความสบายใจของตัวเองด้วย
แล้วขับไปเรียนรู้ไปจนคิดว่าตัวเองพอรู้เรื่องซักระดับนึง...แล้ววันนึงจะกลับมาหามันใหม่
ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านและพี่จิมมี่มากๆครับผม
^ ^
-
หัวหน้าผม เพิ่งได้ 323i ปี 2002 มาใช้ในราคาที่ถูกมากๆ (ซื้อจากคนรู้จัก)
ล่าสุดเพิ่งเอาเข้าศูนย์ไป เปลี่ยนคอยน์ ไป 1 ตัว + เซนเซอร์อะไรสักอย่าง โดนไป 1.8 หมื่นครับ
ถ้าคุณรับได้กับค่าใช้จ่ายหลักหมื่น(เป็นบางครั้ง) และพอมีเวลาซ่อมรถ มีเวลาหาอู่นอก มีความรู้เรื่องรถบ้าง ก็เล่นได้ครับ
สำหรับ E46 ตัวที่น่าเล่นคือ 6 สูบครับ จะเป็น 323,325,330 น่าสนใจทั้งหมด
เพิ่งจบใหม่ ผมแนะว่าเลือกรถมือ 1 ดีกว่าครับ วิดวะจบใหม่ เวลาที่จะเอารถเข้าอู่ซ่อม ผมว่าคงมีไม่มากหรอก
-
บอกได้เลยว่า ถ้างบดูแลรักษาปีละ 30,000 บาท
หันหน้าหนีไปได้เลยครับ เกินกว่านั้นไปเยอะมากมากแน่
ยิ่งเป็นตัวตาเหยี่ยวด้วยแล้ว ยิ่งหนักครับ
-
E46 ตอนแรกก็เล็งไว้อยู่เหมือนกันในงบราวๆ นี้ ศึกษาข้อมูลในคลับต่างๆมาสักระยะหนึ่ง
ปัญหาต่างๆที่มีก็พอจะรับไว้ สุดท้ายมาเสร็จรถใหม่ จบที่ EX จนได้ ขอสบายไปซัก 5 ปี
หลังจากนั้นค่อยเจอะกัน เจ้าใบพัดฟ้าขาว :o
-
เลือกรถใหม่ดีกว่าครับ
น้องจบวิศวะธรรมศาสตร์รึเปล่าครับ ;)
-
ก็แค่ลองตอบมาว่า คุณกินมาม่าเพื่อรถ หรือคุณอยากมีเงินเหลือไปกินบุฟเฟ่ต์ดีๆ ทุกอาทิตย์ ก็เลือกเอาละครับ ตอบตัวเองให้ได้ครับ
แต่สำหรับผม การกินมาม่าเพื่อค่าซ่อมรถ มันไม่ใช่ครับ!!
-
ก็แค่ลองตอบมาว่า คุณกินมาม่าเพื่อรถ หรือคุณอยากมีเงินเหลือไปกินบุฟเฟ่ต์ดีๆ ทุกอาทิตย์ ก็เลือกเอาละครับ ตอบตัวเองให้ได้ครับ
แต่สำหรับผม การกินมาม่าเพื่อค่าซ่อมรถ มันไม่ใช่ครับ!!
+1
-
เมื่อเวลามาถึง เมื่อคุณมีความพร้อม คุณจะทราบเองว่าคุณสามารถเป็นเจ้าของ BMW ได้...โดยไม่เดือดร้อนตัวเอง
แต่ตอนนี้ผมมองว่า...ยังไม่ถึงเวลานั้นครับ อดเปรี้ยวไว้กินหวานเถอะนะครับ
-
ถ้าอยากก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไม่หวืดหวาก็ป้ายแดงเถอะครับ แต่ถ้าต้องการเรียนรู้ชีวิตแบบทางลัดทำตามที่ฝันแล้วหล่ะก็ จัดไปเลยครับ