เครื่อง เทอรโบ เค้าใช้กันเยอะแยะคับ มันไม่พังง่ายๆหรอกคับ
ถ้าชอบแบบเดิมๆ ก็พอกันคับ แล้วแต่ความชอบ
แต่ถ้า อยากเอามาต่อยอด เครื่อง เทอร์โบ ได้เปรียบ เครื่องnaมากคับ
นั่นก็จริงครับ แต่เครื่องเล็กที่เค้นแรงมากๆ กับเครื่องใหญ่ที่ไม่ได้เค้นมาก ผมก็ยังให้ภาษีเครื่องใหญ่สบายใจกว่าอยู่ดี
เรื่อง Turbo หรือ NA มันต้องดูหลายๆ อย่างครับ
ที่บอกเค้น ผมได้ยินค้ำนี้มาบ่อยมาก หมายถึงอะไรครับ
ถ้าหมายถึงเครื่องเล็ก ซีซีน้อย+เทอร์โบ แล้วทำให้ output เท่าเครื่องยนต์ NA ซีซีเยอะกว่า = "เค้น" คันนี้ผมว่าไม่ใช่ครับ
เพราะคำว่า "เค้น" เท่าที่ผม(โดยส่วนตัว) รู้จักมากับการแต่งรถ ทำรถ โมติฟายรถ คือ การที่เอาเครื่องยนต์เดิมๆ สักตัว ไปทำโน่น นี่ นั้น เพิ่ม เพื่อให้ output (แรงม้า/แรงบิด) เพิ่ม จนเลยจุดปลอดภัย(safety factor) ของที่เครื่องยนต์นั้นออกมาและพัฒนามา นั้นคือความหมายของ "เค้น" = "เสี่ยงพัง" ครับ อันนีในความหมายของผมนะ ในช่วงปี 2000 นักแต่งรถทำเทอร์โบกันเยอะ พังกันเยอะ เพราะที่เรียกว่า "เค้น" นี่ละ
ส่วนเครื่องยนต์ downsize ที่เห็นในปัจจุบัน เขาไม่ได้ "เค้น" อะไรจากความหมายด้านบน "เลย..." ที่เครื่องยนต์ซีซีน้อยๆ แต่ทำ output ได้พอๆ กับเครื่องยนต์ซีซีเยอะได้ พร้อมมีเทอร์โบ เขาออกแบบและพัฒนามารองรับแล้วครับ
เรื่องความสนุกในการขับขี่ การตอบสนอง ผมว่าตามเนื้อผ้าครับ เครื่องซีซีเล็ก+โบ หรือ เครื่องซีซีเยอะ ความสนุก การตอบสนอง ไม่ต่างกัน คนไหนเร็วกว่า คันอัตราเร่งดีกว่า ก็คันนั้นละ จะเครื่องเล็กมีโบ หรือ เครื่องใหญ่ก็ว่ากันไป เอาความรู้สึกวัดไม่ได้หรอก(เพราะมันจะกลายเป็นความชอบส่วนตัว) เพราะเรื่องแบบนี้เวลามันฟ้องอยู่แล้ว มันไม่ใช่รถเทอร์โบสมัยก่อนแล้ว ที่จะต้องมานั่งปั่นรอบรอติด boots แล้ว เพราะเทอร์โบสมัยนี้ boots มาเร็วตั้งแต่รอบต้นเลย
ส่วนเรื่องการบำรุงรักษา ตอนใช้งานผมก็บำรุงรักษาเหมือนกันเลย ไม่มีความต่าง เข้าศูนย์ตามระยะ แต่จะจริงที่ Turbo ต้องดูแลเพิ่มกว่า NA ตอนที่มันพัง
ปล. ผมแชร์ ในส่วนของผมนะครับ ตอนนี้ผมใช้รถทั้งซีซีเยอะหน่อย NA และ Turbo (2 ลูก) การใช้งานทั่วไม่มีความต่าง หรือ จะขับแบบเน้นสนุก ผมว่ารถเทอร์โบขับสนุกกว่าด้วยซ้ำ กดเป็นมา กดเป็นวิ่ง รอบกวาดไว ตั้งแต่รอบต่ำ และที่ต่างกันอีกอย่างคือ "เสียง" ครับ