Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: supernc ที่ มกราคม 22, 2013, 20:15:30
-
สวัสดีครับ ถามพี่ๆ ที่ใช้ c coupe ครับ ว่ามีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง ผมยังไม่เคยใช้mb และรถยุโรปเลยครับ ถ้าใช้กันยาวๆ มีตรงไหนที่ต้องซ่อมโหดๆ บ้าง
และค่าซ่อมบำรุงตามระยะเป็นยังไงบ้างครับ หลังจากตัวนี้ไปแล้ว โฉมใหม่จะมาเมื่อไหร่ครับ ผมวางแผนว่าจะซื้อภายในปีนี้
ขอบคุณครับ ;D
-
C ไหนครับ
C180 mbth ก็นุ่มๆ หนึบนิดหน่อย สไตล์ เบนซ์ เค้าละ ความแรง ก็ เคยนั่ง Civic มั๊ย ไกล้เคียงเลยครับ แรงบิด อาจดีกว่านิดนึง
C250 Mbth ก็แรงกว่านั้น อ่ะล่ะครับ
ส่วน ดูแลรักษาตามระยะทาง ก็ประมาณ แพงกว่า D เซกเมนท์ ญี่ปุ่น กว่าพอประมาณล่ะครับ ตามเค้าเล่าๆมานะ
ซ่อม หนักๆ เคยเห็น เพื่อน เปลี่ยน ไฟหน้า C coupe คู่นึง 120k อ่ะครับ เพื่อนเล่ามานะ
เปลี่ยนโฉม ตอนไหน mercedes C-class น่าจะไกล้ เต็มทีแล้วละ แต่เห็นๆหลายๆท่าน บอกว่า
CLA จะมาแทนที่ C-class แล้ว C-class โฉม หน้าจะสปอต์ วัยรุ่นขึ้นอีกครับ เดาๆ น่าจะปี 2014-2015 มั๊งครับ
รอ ท่านอื่นมาตอบ ล่ะกันครับ ผมเห็น ไม่มีคนตอบ เลยมาแชร์ประสบการ์ณให้ฟัง เด้อ
-
เรปบนแน่นมากคับ...เยี่ยมม ;)
-
รถยุโรปจะนุ่มแน่น บอกไม่ค่อยถูก แต่ไม่เหมือนรถญี่ปุ่นครับ ดีกว่าเยอะครับ
ตัวเล็กสุด C180 ไม่อืดครับ ( ถามจากคนที่ใช้ ไม่เคยขับรุ่นนี้ครับ ) ส่วนตัวรถผมลองนั่งมาแล้ว เบาะเตี้ย ขับคนเดียวได้ แต่ถ้ามีครอบครัวเข้าออกลำบากหน่อย
เท่ห์สำหรับคนที่ชอบ coupe ครับ
ค่าบำรุงรักษา แพงกว่ารถญี่ปุ่นเยอะครับ ( ตามระยะทาง ) นี่ไม่นับค่าซ่อมเวลาหมด warranty นะครับ ใช้ไม่น่าเกิน 10 ปีนะ ไม่งั้นค่าซ่อมบาน
ถ้าไม่รีบ รอตัว C ใหม่มา อาจมีโปรดีๆครับ
ถ้าจะเล่น C COUPE ผมว่าซื้อ E COUPE ดีกว่านะ เพิ่มเงินอีกซักหน่อย
-
ราคาใบปัดน้ำฝนทำผมหมดใจ รับไม่ไหว ถ้ามีตังค์ยังไงมันก็ดีกว่ารถญี่ปุ่นครับ เเต่อย่าคิดถึงค่าเสื่อมต่างๆ
-
C coupe ข้อดี ก็คงประมาณขับสนุกกว่า sedan (เป็นข้อดีอันเดียวที่นึกออกค่ะ)
ช่วงล่างมันจะไม่ค่อยนิ่ม (เทียบกับ sedan) แล้วก็หน่วงๆ ช่วงออกตัวใหม่ๆ
ส่วนข้อเสียอื่นๆ ยังไม่เจอค่ะ อาจเพราะพึ่งใช้รถได้ไม่นาน
พึ่งเอาเข้าไป check 10,000 km จ่ายไปประมาณ 3-4 พันเนี่ยแหล่ะค่ะ
คันเก่า (w203) ขับไปชน ปรากฎว่าตัว clip plastic (อะไรซักอย่าง) ของไฟหน้าหัก
ศูนย์บอกว่าต้องเปลี่ยนไฟหน้าทั้งอัน ราคา 2 แสน....แต่โชคดีที่ประกันจ่าย
ค่าดูแลรักษา ถ้าพ้น warranty แล้วคงไม่เข้าศูนย์ค่ะ.....แพงเกิ๊น :-[
-
ขอรบกวนถามว่าเป็นเครื่อง 1.8 หรือ 1.6 ครับ พอดีผมเคยลองขับ 1.8 แล้ว ผมว่าอัตราเร่งใช้ได้นะครับ หรือเป็นคนเท้าหนักหรือเปล่าไม่แน่ใจแต่ตอนนี้รอรถจาก MB Thailand ซึ่งเป็นเครื่อง1.6
-
คุณ Po2213
เป็นเครื่อง 1.8 ค่ะ
เท้าหนักเล็กน้อยค่ะ โดยส่วนตัวขับในกรุงเทพซัก 90% เลยชอบรถที่เป็นพวกม้าตีนต้น
ชอบรุ่นที่ใช้ kompressor มากกว่า ช่วงออกตัวเวลากดคันเร่งมันทันใจกว่า turbo
อัตราเร่งก็โอเคนะคะ (ถ้าออกตัวไปได้ซักแป๊บนึง) แต่ที่ชอบคือความเร็วปลายมันไหลดีค่ะ
-
คุณ Po2213
เป็นเครื่อง 1.8 ค่ะ
เท้าหนักเล็กน้อยค่ะ โดยส่วนตัวขับในกรุงเทพซัก 90% เลยชอบรถที่เป็นพวกม้าตีนต้น
ชอบรุ่นที่ใช้ kompressor มากกว่า ช่วงออกตัวเวลากดคันเร่งมันทันใจกว่า turbo
อัตราเร่งก็โอเคนะคะ (ถ้าออกตัวไปได้ซักแป๊บนึง) แต่ที่ชอบคือความเร็วปลายมันไหลดีค่ะ
kompressor เป็นภาษาเยอรมัน ที่แปลว่า turbo มั้งนะ เหมือนผมเคยอ่านบทความในต่างประเทศ แต่อ่านไว้นานแล้วหลงๆลืมๆต้องให้อากู๋ ช่วยเช็คอีกที
-
งั้นคงเข้าใจผิดค่ะ พึ่งทราบว่า Kompressor แปลว่า Turbo
(คันเก่าเป็น c 230 kom เลยเข้าใจว่ามันเป็น compressor.....ผู้หญิงกับความรู้เร่ืองรถนี่ไม่ค่อยไปด้วยกันเล้ยยย) :P
คือเทียบกับ w203 เวลาออกตัว กดคันเร่งมาทันใจกว่า c coupe จนรู้สึกได้
ขับ coupe ช่วงแรกๆ ยังนึกเสียดายคันเก่า แต่ตอนนี้เริ่มชินกับความหน่วงๆ ของมันแล้วล่ะค่ะ
-
ขอมาเก็บความรู้ครับ
-
kompressor ของ MB คือ supercharger นะครับ ถ้าจำไม่ผิด
-
ขอรบกวนถามว่าเป็นเครื่อง 1.8 หรือ 1.6 ครับ พอดีผมเคยลองขับ 1.8 แล้ว ผมว่าอัตราเร่งใช้ได้นะครับ หรือเป็นคนเท้าหนักหรือเปล่าไม่แน่ใจแต่ตอนนี้รอรถจาก MB Thailand ซึ่งเป็นเครื่อง1.6
ซื้อกับ MBTH ตอนนี้น่าจะเป็น 1.6 หมดแลวนะครับ แรงไม่น้อยกว่า 1.8
-
คุณ Po2213
เป็นเครื่อง 1.8 ค่ะ
เท้าหนักเล็กน้อยค่ะ โดยส่วนตัวขับในกรุงเทพซัก 90% เลยชอบรถที่เป็นพวกม้าตีนต้น
ชอบรุ่นที่ใช้ kompressor มากกว่า ช่วงออกตัวเวลากดคันเร่งมันทันใจกว่า turbo
อัตราเร่งก็โอเคนะคะ (ถ้าออกตัวไปได้ซักแป๊บนึง) แต่ที่ชอบคือความเร็วปลายมันไหลดีค่ะ
kompressor เป็นภาษาเยอรมัน ที่แปลว่า turbo มั้งนะ เหมือนผมเคยอ่านบทความในต่างประเทศ แต่อ่านไว้นานแล้วหลงๆลืมๆต้องให้อากู๋ ช่วยเช็คอีกที
Kompressor คนละอย่างกับ Turbo ครับ
-
คุณ Po2213
เป็นเครื่อง 1.8 ค่ะ
เท้าหนักเล็กน้อยค่ะ โดยส่วนตัวขับในกรุงเทพซัก 90% เลยชอบรถที่เป็นพวกม้าตีนต้น
ชอบรุ่นที่ใช้ kompressor มากกว่า ช่วงออกตัวเวลากดคันเร่งมันทันใจกว่า turbo
อัตราเร่งก็โอเคนะคะ (ถ้าออกตัวไปได้ซักแป๊บนึง) แต่ที่ชอบคือความเร็วปลายมันไหลดีค่ะ
kompressor เป็นภาษาเยอรมัน ที่แปลว่า turbo มั้งนะ เหมือนผมเคยอ่านบทความในต่างประเทศ แต่อ่านไว้นานแล้วหลงๆลืมๆต้องให้อากู๋ ช่วยเช็คอีกที
Kompressor คนละอย่างกับ Turbo ครับ
ทั้งคู่เป็นการอัดอากาศ แต่ต่างตรงหลักการครับ
-
เดิมๆ ก็แรงอยู่แล้วครับ
แรงกว่า civic แน่ๆ เยอะด้วย
แต่ถ้าไม่พอใจ จ่ายเพิ่ม 3หมื่น พ่วงกล่องเข้าไป
จะกลายเป็นโคตรแรง ตามนี้ทันที
We just finished power enhancement by plug in chip tuning box for the latest Mercedes Benz 1.6 Turbo engine which is build in A-Class A180 and A200 as well as C-Class C180.
Great results:
A180 from 122bhp up to 148bhp and up to 255nm
A200 from 156bhp up to 193bhp and up to 308nm
C180 from 156bhp up to 193bhp and up to 308nm
-
กล่องพวกนี้เชื่อไม่ค่อยได้หรอกครับ พวก piggy bag นี่แค่ปรับน้ำมันปรับไฟเท่านั้นเอง ไม่มีทางแรงได้ขนาดนั้นหรอกครับ บางกล่องใส่ไปแรงขึ้นแค่ 3 -5 ม้าเท่านั้นเองครับ ถ้ามันแรงได้ขนาด 193 ม้าจริงๆ c250 เจ้งแน่ๆครับ จะจ่ายแพงกว่าหลายแสนทำไมครับ
-
มันมีกราฟ ตอนขึ้น dyno ด้วยครับ
แต่ติดยี่ห้อกล่อง ผมเลยไม่เอามาลง
แถมตัวแทนในไทย ยังกล้านัดใส่ที่ dyno ด้วย
ถ้าไม่ได้จริง คงไม่ลง spec ซะขนาดน้นมั้งครับ
ถ้านัดไปใส่ที่ dyno ได้ 3 ม้า นี่คงฮากลิ้ง
-
.
.
.
kompressor มันคือ supercharg ครับ ไม่ใช่ turbo
หลักการคล้ายกันแต่ไม่เหมือนนะครับ ผลที่ได้ก็ต่างกัน
kompressor ต้นมันจะดีกว่า turbo (ส่วนใหญ่)
แต่หลังๆมา turbo ของ MB ก็ต้นมาดีมาก
-
ขับแล้วไม่อืดนะคับเปลี่ยนเป็น s หรือ m ก็ขับสนุกขึ้นไปอีกแต่ผมขับแค่ e มันก็แรงแล้วนะ รถก็หนึบพอประมาณ ขับเร็วๆ 200 ก็ยังนิ่งอยู่เกินกว่านั้นไม่เคยลองคับ แต่กระด้างนิดๆนะคับเพราะล้อ 18 ยางหลัง 35 ผมเติมลม 36 เช็คระยะ น้ำมันเครื่องปกติก็ 5-7 พันแล้วแต่ 0 แต่อะไหล่สิ้นเปลืองอื่นๆก็ราคาสูงกว่ารถ jap พอควรแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ ถ้าไม่โชคร้ายจิงๆที่โดนอะไหล่ตัวที่แพงๆเสีย โดยรวมแล้วถ้าคุณชื้อได้ก็ไม่น่าจะต้องกลัวเรื่อง บำรุงรักษานะคับถ้าใช้รถไม้โหดเกินไป
-
.
.
.
kompressor มันคือ supercharg ครับ ไม่ใช่ turbo
หลักการคล้ายกันแต่ไม่เหมือนนะครับ ผลที่ได้ก็ต่างกัน
kompressor ต้นมันจะดีกว่า turbo (ส่วนใหญ่)
แต่หลังๆมา turbo ของ MB ก็ต้นมาดีมาก
ถูกต้องนะครับ อัดอากาศเหมือนกันแต่ คนละระบบ จำไม่ได้ว่าต่างกันตรงไหน แต่ Spec 1.6 แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องต่ำเพียง 1,250 รอบ / อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม 8.5 วินาที ซึ่งผมว่า Turbo ตัวนี้น่าจะมารอบต่ำมาก และน่าจะเน้นใช้งานในเมืองมากขึ้นครับ เลยเลือก ตอนแรกก็ลังเล จะเอา 86 แต่ว่าคนในบ้านเลือกเป็นเสียงเดียวกัน เลย C Coupe ก็ได้ แต่ผมใส่ AMG sport plus เพิ่ม
แต่เห็นมีข้างบนบอกว่ากระด้างนิดๆนะคับเพราะล้อ 18 ยางหลัง 35 ผมเติมลม 36
ผมเลยสงสัยว่าล้อ size 18 นี้ ยาง ต้องเติมลมยางประมาณนี้เหรอครับ เคยอ่านเจอ ว่าเพื่อป้องกัน ล้อดุ้ง แล้วเติมลมกันแบบนี้เหรอครับ