Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2016, 18:56:38
-
มาแล้วครับ Full Review ทดลองขับ Mazda CX-3 by J!MMY
ทั้งรุ่น เบนซิน 2.0 SP และ ดีเซล 1.5 XDL
เชิญแสดงความคิดเห็นกันได้ตามอัธยาศัยครับ
http://www.headlightmag.com/2015-mazda-cx-3-full-review/
(http://upic.me/i/d3/banner_webboard_edit.jpg) (http://upic.me/show/57951938)
-
โอ้ววววววววววววว มาเร็วมากครับ
-
ขอบคุณครับ กำลังรออยู่เลย :-*
-
สวย ดุดัน เห็นแต่ละคันบนถนน จัดเต็มทั้งนัเน
-
รอติดตาม TheClip เลยครับ
-
ราคาก็okครับเดียวได้ลองเองเดียวบอกอีกที่อะ
-
ขอบคุณทีมงาน HLM ครับ
-
ขอบคุณครับผม 8)
สรุป เป็นรถที่ขับดีในดวงใจ แต่ แพงไป เล็กไป ไม่เอนกประสงค์พอ บริการหลังการขาย ศูนย์ ช่าง ควรปรับปรุง
-
ขอบคุณครับ
-
ช่วงล่างของ CX3 นี่ยกมาจาก มาสด้า2 หรือ มาสด้า3 ครับ
-
ขอบคุณครับ :)
-
ผมว่ามาสด้าทำรถเลือกเอาใจแต่กลุ่มคนที่ใช้รถไม่เกิน 2คน เพราะทุกอย่างจะดีแค่เบาะคู่หน้า ไปเบาะคู่หลังเมื่อไรนี่ฟ้ากับเหวเลย แคบมากผมไปลองนั่งของเพื่อนมาแล้วครับ เพื่อนผมสูง 175นั่งขับผมลองนั่งเบาะหลังคนขับมีช่องให้วางขานิดเดียวขยับลุกเข้าออกก็เข่าชนเบาะหน้า ประตูหลังก็เข้าออกลำบาก
-
รถดี ที่มี"แต่" เสมอ
สำหรับรุ่นนี้ ผมว่ามันเล็กเกินไปจริงๆในราคานี้
ขอแค่อีกนิดนึงเท่านั้น
-
รถรุ่นนี้ขับสนุกมากๆครับ แต่มันติดที่ราคากับแคบแค่นั้นเอง
ในเรื่องราคาอีกนิดได้ civic ใหม่ ส่วนแคบแพ้ทาง hrv
-
เท่าที่ไปลอง
ข้อดีคือ
1.หน้าตาสวย
2.รถแรงดี คล่องตัว
ข้อเสีย
1. แคบมาก เมื่อเทียบกับราคา
2. ไม่มีที่พักแขนซ้าย ขับยาวๆคงเมื่อย ซูซูกิCiaz ห้าแสนกว่า ยังมี
-
ผมว่ารถมันน่าใช้มากนะครับ
ผมชอบตัว CX-3 ตัว 2.0C ราคากำลังดี option ไม่มากเกินไป ;)
-
ขอบคุณครับ
ตอนเปิดตัว ผมก็ว่า 2.0 S เป็นรุ่นที่น่าสนใจมากที่สุด
ปล. เพิ่งทราบว่า สีแปลกๆนี่ เรียกว่า Ceramic White ::) ::) ::)
-
คิดเหมือนผมเลยครับ ที่ว่า "รุ่น 2.0 S คือรุ่นที่ คุ้มค่าที่สุดในตระกูล CX-3"
-
มันเตี้ยกว่า HRV เยอะไหมครับ
-
เห็นราคาทั้งไลน์แล้ว แอบช๊อกนิดๆ
แต่เห็นราคาตัวดีเซลล์แล้ว "ช๊อกยิ่งกว่า!!!" ตอนแรกคิดว่าจะถูกหรือพอๆกะเบนซิน แต่ไม่คิดว่าจะแพงกว่าเป็นแสน... :'(
-
อ่านรีวิวแล้วยิ่งตอบย้ำเลยว่าถ้าผมจะซื้อรุ่นนี้คงต้องเบนซินละครับ :P
-
เป็นรถที่ต้องให้คนชอบขับรถมาขับแล้วจะรักมันครับ
ส่วนตัวผมในงบไม่เกิน 1 ล้านบาท ผมชอบที่สุดแล้ว
แม้มีบางคนบอกมาสด้า 3 ช่วงล่างดีกว่า แต่ผมชอบการเซ็ตเครื่องยนต์กับเกียร์ที่จี๊ดจ้าดของ cx3 มากกว่า และทัศนวิศัยรถดีกว่า มาสด้า 3
-
มันเตี้ยกว่า HRV เยอะไหมครับ
จากสเปค เตี้ยกว่า 5.5 ซม.
สั้นกว่า 1.9 ซม.
แคบกว่า 0.7 ซม.
ระยะฐานล้อ สั้นกว่า 4 ซม.
-
สงสัยรีวิวนิดนึงครับ
ตรงตัวดีเซล ไหงระบุว่าต้องการ นมค. API SM (จริงๆ น่าจะเป็น CH CI... หรืออะไรแนวๆ นั้น)
ตรงอื่นๆ อ่านสนุกดีครับ โดยเฉพาะ MV คุณแพรว
-
กลายเป็น เบนซิน น่าใช้กว่า
ยังว่า เค้าไม่เน้นดีเซล เท่า เจ้า 2
-
ตั้งราคามาแพงเกินไป ลองลด 1-1.5 แสนบาทจะกวาดออเดอร์ได้มากกว่านี้
และอยากให้ใส่เบาะคู่หน้าไฟฟ้า cruise control มาด้วยครับ
ปล. มีคำผิดในบทความช่วงท้าย ... ที่คุณจิมมี่ฝากถึงผู้บริหารชาวไทย แต่ในบทความพิมพ์เป็นชาวแทบอยู่ครับ
-
ตอนไปลองขับผมชอบมากกว่า3 cx5 อีกครับขับดีแรงพวงมาลัยคม ชอบสีไวด์เซรามิค
ที่ไม่ชอบ
สีแดงที่เลือกจาก100 นั้นแหละผมว่ามันตุ่นๆแปลก
เบาะหน้าด้านข้างรับร่างกายไม่ดีเลย
ด้านหลังแคบแคบกว่า116i อีกครับ
และก็ราคาถ้าซื้อคงจบที่ ตัวsp
แต่แต่พอซีวิคมาผมไปซื้อcivic 1.5 bo ดีกว่ามันตอบโจทย์ผมทั้งแรง กว้าง หรู เตี้ยแบน
ข้างในใหญ่กว่าcx5 อีกนะทั้งด้านหน้าและเบาะหลังเผลอท้ายกว้างกว่าด้วยถ้าไม่นับความสูงนะ
จบคุ้มกว่าเยอะ ขนาดกำลังดีเหมาะสมกับคนทุกชนชั้นมากกกกก
-
หลังจากที่ไปลองมาจุดติของ CX-3 สำหรับผมมีแค่ 2 อย่าง ( แต่ทุกคนคงลงความเห็นเหมือนผม ) คือ ที่วางแขนเบาะคู่หน้า และ space เบาะหลัง ผมว่าที่วางแขนเบาะคู่หน้าผมว่าจำเป็นนะ เวลาขับหรือรถติดนานๆก็อยากวางแขนบ้าง แต่นี่มาแบบโล้นๆเลย
-
ขอบคุณครับ
ต้องหาโอกาสไปลอง
-
สวยมากครับ มีตังจะจัดซักคัน
-
ไม่เปิด Cruise Control เพราะ ไม่มี Cruise Control ให้เปิด!
ผมลั่น
;D ;D ;D
-
ส่วนตัวผมชอบหน้าตามากๆ โคตรสวยเลยครับ
ไปลองมาปลายปีที่แล้ว ผมว่ามันรู้สึกอึดอัดเกินไปถึงแม้จะเป็นคนขับ และข้างหลังแคบมากจริงๆ ขอผ่านไปก่อนครับ
-
สวยครับ
ราคา ต้องลดลงรุ่นละ 1 แสน จะน่าซื้อมากๆครับ
-
ราคาแพงมากจริงๆ
มาสด้า 2 ยกสูง ภายในอัพให้ดีเท่า 3
ผมว่า ก็น่าจะแพงกว่า มาสด้า2 ซัก 1-1.5 แสน
ถูกกว่า มาสด้า 3 ซัก 1 แสน ถึงจะถูกต้องนะ
(ควรจะลดลงรุ่นละ 1 แสน แบบความเห็น ข้างบน นั่นล่ะครับ)
-
จะให้ลดอีกแสนหรอครับ ลืมไปรึเปล่าว่าตอนนี้ก้อเปนรถ 2.0 ที่ถูกสุดในตลาดแล้วกับราคาเริ่มที่ 830k ขณะที่ HR-V เครื่อง 1.8 เริ่มที่ 9xxk BR-V เครื่องพันห้าเริ่มที่ 750k
ยิ่งได้อ่านรีวิว เห็นตัวเลข ยิ่งรู้สึกว่าราคาที่เปนอยู่ไม่ได้แพงอย่างที่ใครๆว่าเลย
-
อยู่มาตั้งนานกันละ น่าจะเข้าใจสโลแกนของมาสด้าได้แล้วมั้ง
มาสด้าไม่ได้เน้นขายรถเชิงเอาใจคนนั่งหลังหรือครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรละ
สังเกตุรถที่ชูจุดขายเป็นครอบครัว เน้นคนนั่งหลังแบบ บีทีโปรสิ เห็นยอดขายไหม ::)
แล้วรถที่โปรโมทนั่งขับพาแฟนไปช็อป แล้วแอบไปซิ่งกับ CX5 ยอดขายดีไหม
เค้าเน้นเรื่องเอาใจคนขับขี่ คนนั่งหน้า แค่นั่นเองละมั้ง ประมาณว่า ใครอยากได้ครบไปเอายี่ห้ออื่น :P
-
เรื่องราคาผมว่าตัวเบนซินนี่โอเคอยู่ แต่ดีเซลแพงเกิ๊น ยิ่งเทียบกับ 2 แล้วนะครับตัวดีเซลของ 2 แพงกว่าตัวเบนซินประมาณแสนนึงแต่แรงกว่าประหยัดกว่าเครื่องใหญ่กว่า แต่พอเป็น CX3 อัตราเร่งด้อยกว่า เรื่องเล็กกว่า ดีกว่าแค่ประหยัดมันเลยทำให้ดูแพงไปมากกับแสนที่เพิ่มมาเมื่อเทียบกับ 2
-
จะให้ลดอีกแสนหรอครับ ลืมไปรึเปล่าว่าตอนนี้ก้อเปนรถ 2.0 ที่ถูกสุดในตลาดแล้วกับราคาเริ่มที่ 830k ขณะที่ HR-V เครื่อง 1.8 เริ่มที่ 9xxk BR-V เครื่องพันห้าเริ่มที่ 750k
ยิ่งได้อ่านรีวิว เห็นตัวเลข ยิ่งรู้สึกว่าราคาที่เปนอยู่ไม่ได้แพงอย่างที่ใครๆว่าเลย
+1 ครับ
ผมก็งง ว่านี่รถเครื่อง 2.0 อัตราเร่ง 0-100 เลขตัวเดียว ประหยัดกลางๆ ได้ล้อ 18 ไฟ LED + DRL ภายในตกแต่งดีๆ มีจอ Navi
อยากได้ราคาเท่าไหร่กัน 8 แสนเหรอ 9 แสนเหรอ มีใครขายราคานี้กันบ้างครับ
คนไทยเอาใจยากจริงๆ
-
อ่านไปเจอเบาะคู่หน้าใช้มือปรับ หมดกำลังใจอ่านต่อเลย
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
-
จะให้ลดอีกแสนหรอครับ ลืมไปรึเปล่าว่าตอนนี้ก้อเปนรถ 2.0 ที่ถูกสุดในตลาดแล้วกับราคาเริ่มที่ 830k ขณะที่ HR-V เครื่อง 1.8 เริ่มที่ 9xxk BR-V เครื่องพันห้าเริ่มที่ 750k
ยิ่งได้อ่านรีวิว เห็นตัวเลข ยิ่งรู้สึกว่าราคาที่เปนอยู่ไม่ได้แพงอย่างที่ใครๆว่าเลย
+1 ครับ
ผมก็งง ว่านี่รถเครื่อง 2.0 อัตราเร่ง 0-100 เลขตัวเดียว ประหยัดกลางๆ ได้ล้อ 18 ไฟ LED + DRL ภายในตกแต่งดีๆ มีจอ Navi
อยากได้ราคาเท่าไหร่กัน 8 แสนเหรอ 9 แสนเหรอ มีใครขายราคานี้กันบ้างครับ
คนไทยเอาใจยากจริงๆ
ใจคงอยากจะได้ฟรีเลยครับ 5555
-
อ่านไปเจอเบาะคู่หน้าใช้มือปรับ หมดกำลังใจอ่านต่อเลย
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
HRV คู่หน้าปรับไฟฟ้า แต่ไม่มีเมมโมรี่แล้วไงครับ ปรับมือเร็วกว่า ทันใจกว่า อีกนะ
ข้อดีของการปรับไฟฟ้า คือ จะต้องสามารถบันทึกได้เวลาเปลี่ยนคนขับ จะได้ไม่ต้องมานั่งปรับใหม่ครับ
-
ตรงประเด็นมากครับ ออก HRV มาแล้ว เครื่องยนตร์โอเค แต่ช่วงล่างนี่ไม่ไหวๆ โยนไปมา ไม่นิ่งเลย
การขับขี่ สู้ เจ้า CX3 ที่ไปลองขับมาก่อนไม่ได้เลย
ช่วงล่างทำทีหลังได้ แต่ห้องโดยสารเพิ่มทีหลังไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คเจ้า HRV ซะแล้ว รบกวนใครชำนาญ แนะนำด้วยนะครับ
-
ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คเจ้า HRV ซะแล้ว รบกวนใครชำนาญ แนะนำด้วยนะครับ
ใครที่เซ็ตช่วงล่าง โดยการเปลี่ยนแค่ โช๊ค เชื่อไหม เกือบทุกรายจะไม่จบต้องมีสเตปต่อๆ ไป
และทำไปทำมาบานปลายก็มี
ช่วงล่างจะให้ดีต้องดีตั้งแต่ออกแบบ ที่ทำๆ กันภายหลัง มักจะไม่จบง่ายๆ ครับ
-
อ่านรีวิวมาก็หลาย รีวิวแล้ว มีริวิวนี้ที่พี่ จิม สรุปความคุ้มค่าให้ดูด้วย ละเอียดมากครับ
-
จะให้ลดอีกแสนหรอครับ ลืมไปรึเปล่าว่าตอนนี้ก้อเปนรถ 2.0 ที่ถูกสุดในตลาดแล้วกับราคาเริ่มที่ 830k ขณะที่ HR-V เครื่อง 1.8 เริ่มที่ 9xxk BR-V เครื่องพันห้าเริ่มที่ 750k
ยิ่งได้อ่านรีวิว เห็นตัวเลข ยิ่งรู้สึกว่าราคาที่เปนอยู่ไม่ได้แพงอย่างที่ใครๆว่าเลย
เห็นด้วยครับความเห็นนี้
ลองถ้าเป็นเจ้าตลาด เปิดราคานี้จะบอกว่าถูกทันที
-
ไม่แน่ใจว่า บทความส่วนนี้ ปีมันสลับกันรึเปล่าครับ?
เมื่อการเตรียมงานเสร็จสิ้นสมบูรณ์ Mazda ก็นำ CX-3 ไปเปิดตัว
ไกลถึงงาน Los Angeles Auto Show ที่มลรัฐ California ในวันที่
19 ตุลาคม 2016 และเริ่มขึ้นสายการผลิต ช่วงต้นปี 2015 จากนั้น
จึงจัดงานเปิดตัวสู่ตลาดแดนอาทิตย์อุทัย เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2015
-
:-* :-* :-*
ขอบคุณครับ
-
ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คเจ้า HRV ซะแล้ว รบกวนใครชำนาญ แนะนำด้วยนะครับ
ใครที่เซ็ตช่วงล่าง โดยการเปลี่ยนแค่ โช๊ค เชื่อไหม เกือบทุกรายจะไม่จบต้องมีสเตปต่อๆ ไป
และทำไปทำมาบานปลายก็มี
ช่วงล่างจะให้ดีต้องดีตั้งแต่ออกแบบ ที่ทำๆ กันภายหลัง มักจะไม่จบง่ายๆ ครับ
ตามนั้นครับ การเปลี่ยนโช๊คและสปริงเป็นการดัดแปลงแบบปลายทางที่สุดแล้ว และเป็นการดัดแปลงแบบฝืนธรรมชาติของรถด้วยเพราะเราไปดึงให้รถเตี้ยลงไปทำให้โช๊คมันยุบตัวได้น้อยลง ไปทำให้ตัวถังให้ตัวได้น้อยลงผิดไปจากการออกแบบของวิศวกรดั้งเดิมเลย ถ้าจะให้ดีขึ้นแบบชัดเจนจริงๆมันต้องทำมากกว่าแค่สองส่วนนี้และไม่ว่าจะทำอะไรไปก็ตามจะจบด้วยคำว่า"นั่งไม่สบาย"เป็นข้อลงเอยสุดท้ายเสมอ :'( มันเป็นการทรมานให้ชิ้นส่วนมันเสื่อมสภาพไวขึ้นจะช้าจะเร็วก็แล้วแต่ความโหดร้ายของเจ้าของรถ ผมเอาไปใส่สตรัทปรับความหนืดระดับกลาง ไม่เตี้ยกว่ารถเดิมๆมาก ขับไม่ลุยไม่กระแทกกระทั้นขึ้นลงเนินค่อยๆหยอดช้าๆแต่ผ่านไปสองปีลูกหมากคู่หลังฉีกกระจุยกระจายชัดเจนเลย :'(
-
ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คเจ้า HRV ซะแล้ว รบกวนใครชำนาญ แนะนำด้วยนะครับ
ใครที่เซ็ตช่วงล่าง โดยการเปลี่ยนแค่ โช๊ค เชื่อไหม เกือบทุกรายจะไม่จบต้องมีสเตปต่อๆ ไป
และทำไปทำมาบานปลายก็มี
ช่วงล่างจะให้ดีต้องดีตั้งแต่ออกแบบ ที่ทำๆ กันภายหลัง มักจะไม่จบง่ายๆ ครับ
ตามนั้นครับ การเปลี่ยนโช๊คและสปริงเป็นการดัดแปลงแบบปลายทางที่สุดแล้ว และเป็นการดัดแปลงแบบฝืนธรรมชาติของรถด้วยเพราะเราไปดึงให้รถเตี้ยลงไปทำให้โช๊คมันยุบตัวได้น้อยลง ไปทำให้ตัวถังให้ตัวได้น้อยลงผิดไปจากการออกแบบของวิศวกรดั้งเดิมเลย ถ้าจะให้ดีขึ้นแบบชัดเจนจริงๆมันต้องทำมากกว่าแค่สองส่วนนี้และไม่ว่าจะทำอะไรไปก็ตามจะจบด้วยคำว่า"นั่งไม่สบาย"เป็นข้อลงเอยสุดท้ายเสมอ :'( มันเป็นการทรมานให้ชิ้นส่วนมันเสื่อมสภาพไวขึ้นจะช้าจะเร็วก็แล้วแต่ความโหดร้ายของเจ้าของรถ ผมเอาไปใส่สตรัทปรับความหนืดระดับกลาง ไม่เตี้ยกว่ารถเดิมๆมาก ขับไม่ลุยไม่กระแทกกระทั้นขึ้นลงเนินค่อยๆหยอดช้าๆแต่ผ่านไปสองปีลูกหมากคู่หลังฉีกกระจุยกระจายชัดเจนเลย :'(
เห็นด้วยครับ รถจะมีช่วงล่างดี มันไม่ได้มีแค่โช๊ค สปริง แต่มันต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวถัง จุดยึดต่างๆ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ เบาะนั่ง ให้ออกมาสมดุลที่สุด
อย่างรถผมเคยเอาไปใส่สตรัทปรับเกลียว ออกมามันก็ขับหนึบจริง แต่นั่งโดยสารไม่ได้เลย แข็งมาก แต่หากเป็นรถที่เช็ตมาดีแต่แรกเช่นพวก Subaru หรือ Mazda ช่วงล่างมันหนึบ แต่ก้ยังคงความสบายในการโดยสารไว้
-
เรื่องปี เดี๋ยวเข้าไปแก้ไขให้ครับ
เรื่องเกรด API ที่ทักท้วงมา คุณผู้อ่านถูกแล้วครับ ขอบพระคุณที่ท้วงติงและขออภัยในความผิดพลาดครับ
ตัดท่อนนั้นออกไปทั้งยวงเลยแล้วกัน เพราะผม ก็เอาข้อมูลมาจากคู่มือผู้ใช้รถของ CX-3 ที่ติดรถมานั่นละครับ
ผมน่าจะเขียนผิดเอง
-
ขับดี สวย แรง แต่ แพง เล็ก และ 2
คุ้มไหม พูดยาก แต่ผมอยากได้นะ ในราคาที่รู้สึกว่าน่าซื้อกว่านี้
สำหรับบางคนอวยว่าจะเอาอะไรมาก ผมก็คิดว่าจะเอาอะไรกัน เขาตั้งราคามาคงคิดมาประมาณนึงล่ะ
ที่เหลือก็ผลงาน ว่า ขาย ได้ หรือ ไม่ 555 ก็แค่นั้น
ชอบกัน ติกัน ผมว่า ดีนะ และเปลี่ยนมุมมอง แต่ปกป้อง อวย นี่ ไม่อ่ะ
ยังไง คน ได้ หรือ ไม่ได้ มันก็บริษัท รถ น่ะแหล่ะ ที่เขียนๆ กันนี่ คงไม่ใช่ผู้ถือหุ้นนะครับ 555
-
ขอบคุณครับ :D
-
ขอบคุณพี่จิมมี่ ละเอียดมากสมบูรณ์ที่สุด สรุป สวยแรง ขับดี แต่ใช้งานได้ระดับเดียวกับมาสด้า 2 ในราคาที่แพงกว่าหลายแสน คนเน้นพื้นที่ภายในและการใช้งานอย่างผม ขอผ่านไปอย่างเร็ว
-
คุณจิมครับ
ขอ Comment เรื่องอัตราทดเฟืองท้ายนิดนึงครับ
Mazda CX5 2.0 เบนซิน อยู่ที่ 4.6XX
Mazda CX5 2.5 เบนซิน อยู่ที่ 4.325
Mazda CX5 2.2 ดีเซล อยู่ที่ 4.090
ดังนั้น Mazda CX3 2.0 เบนซิน อยู่ที่ 4.325 เท่า Mazda CX5 2.5 เบนซินครับ
นึกภาพไม่ออกว่าทำ Mazda CX3 2.0 เบนซินทดเฟืองท้ายมาที่ 4.6XX เหมือน Mazda CX5 2.0 เบนซินจะเป็นอย่างไรบ้าง
-
ขอบคุณครับ รอดู Full Review Honda Br-v ครับ
-
ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คเจ้า HRV ซะแล้ว รบกวนใครชำนาญ แนะนำด้วยนะครับ
ใครที่เซ็ตช่วงล่าง โดยการเปลี่ยนแค่ โช๊ค เชื่อไหม เกือบทุกรายจะไม่จบต้องมีสเตปต่อๆ ไป
และทำไปทำมาบานปลายก็มี
ช่วงล่างจะให้ดีต้องดีตั้งแต่ออกแบบ ที่ทำๆ กันภายหลัง มักจะไม่จบง่ายๆ ครับ
ตามนั้นครับ การเปลี่ยนโช๊คและสปริงเป็นการดัดแปลงแบบปลายทางที่สุดแล้ว และเป็นการดัดแปลงแบบฝืนธรรมชาติของรถด้วยเพราะเราไปดึงให้รถเตี้ยลงไปทำให้โช๊คมันยุบตัวได้น้อยลง ไปทำให้ตัวถังให้ตัวได้น้อยลงผิดไปจากการออกแบบของวิศวกรดั้งเดิมเลย ถ้าจะให้ดีขึ้นแบบชัดเจนจริงๆมันต้องทำมากกว่าแค่สองส่วนนี้และไม่ว่าจะทำอะไรไปก็ตามจะจบด้วยคำว่า"นั่งไม่สบาย"เป็นข้อลงเอยสุดท้ายเสมอ :'( มันเป็นการทรมานให้ชิ้นส่วนมันเสื่อมสภาพไวขึ้นจะช้าจะเร็วก็แล้วแต่ความโหดร้ายของเจ้าของรถ ผมเอาไปใส่สตรัทปรับความหนืดระดับกลาง ไม่เตี้ยกว่ารถเดิมๆมาก ขับไม่ลุยไม่กระแทกกระทั้นขึ้นลงเนินค่อยๆหยอดช้าๆแต่ผ่านไปสองปีลูกหมากคู่หลังฉีกกระจุยกระจายชัดเจนเลย :'(
เห็นด้วยครับ รถจะมีช่วงล่างดี มันไม่ได้มีแค่โช๊ค สปริง แต่มันต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวถัง จุดยึดต่างๆ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ เบาะนั่ง ให้ออกมาสมดุลที่สุด
อย่างรถผมเคยเอาไปใส่สตรัทปรับเกลียว ออกมามันก็ขับหนึบจริง แต่นั่งโดยสารไม่ได้เลย แข็งมาก แต่หากเป็นรถที่เช็ตมาดีแต่แรกเช่นพวก Subaru หรือ Mazda ช่วงล่างมันหนึบ แต่ก้ยังคงความสบายในการโดยสารไว้
ขอบคุณทุกท่านมากครับ งั้นคงต้องใช้ไปก่อน
ต้องขับแบบเรื่อยๆ 100-120 พอได้ครับ แต่เกินกว่านั้น โยกไปโยกมาพอควรเลย
-
ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คเจ้า HRV ซะแล้ว รบกวนใครชำนาญ แนะนำด้วยนะครับ
ใครที่เซ็ตช่วงล่าง โดยการเปลี่ยนแค่ โช๊ค เชื่อไหม เกือบทุกรายจะไม่จบต้องมีสเตปต่อๆ ไป
และทำไปทำมาบานปลายก็มี
ช่วงล่างจะให้ดีต้องดีตั้งแต่ออกแบบ ที่ทำๆ กันภายหลัง มักจะไม่จบง่ายๆ ครับ
ตามนั้นครับ การเปลี่ยนโช๊คและสปริงเป็นการดัดแปลงแบบปลายทางที่สุดแล้ว และเป็นการดัดแปลงแบบฝืนธรรมชาติของรถด้วยเพราะเราไปดึงให้รถเตี้ยลงไปทำให้โช๊คมันยุบตัวได้น้อยลง ไปทำให้ตัวถังให้ตัวได้น้อยลงผิดไปจากการออกแบบของวิศวกรดั้งเดิมเลย ถ้าจะให้ดีขึ้นแบบชัดเจนจริงๆมันต้องทำมากกว่าแค่สองส่วนนี้และไม่ว่าจะทำอะไรไปก็ตามจะจบด้วยคำว่า"นั่งไม่สบาย"เป็นข้อลงเอยสุดท้ายเสมอ :'( มันเป็นการทรมานให้ชิ้นส่วนมันเสื่อมสภาพไวขึ้นจะช้าจะเร็วก็แล้วแต่ความโหดร้ายของเจ้าของรถ ผมเอาไปใส่สตรัทปรับความหนืดระดับกลาง ไม่เตี้ยกว่ารถเดิมๆมาก ขับไม่ลุยไม่กระแทกกระทั้นขึ้นลงเนินค่อยๆหยอดช้าๆแต่ผ่านไปสองปีลูกหมากคู่หลังฉีกกระจุยกระจายชัดเจนเลย :'(
เห็นด้วยครับ รถจะมีช่วงล่างดี มันไม่ได้มีแค่โช๊ค สปริง แต่มันต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวถัง จุดยึดต่างๆ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ เบาะนั่ง ให้ออกมาสมดุลที่สุด
อย่างรถผมเคยเอาไปใส่สตรัทปรับเกลียว ออกมามันก็ขับหนึบจริง แต่นั่งโดยสารไม่ได้เลย แข็งมาก แต่หากเป็นรถที่เช็ตมาดีแต่แรกเช่นพวก Subaru หรือ Mazda ช่วงล่างมันหนึบ แต่ก้ยังคงความสบายในการโดยสารไว้
ขอบคุณทุกท่านมากครับ งั้นคงต้องใช้ไปก่อน
ต้องขับแบบเรื่อยๆ 100-120 พอได้ครับ แต่เกินกว่านั้น โยกไปโยกมาพอควรเลย
ลองเปลี่ยนไปใส่ พวกKayaba new sr ดูก่อนก็ได้ครับ อาจจะไม่หนึบเท่าสตรัท แต่ก็น่าจะดีกว่าของเก่า