Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ กรกฎาคม 17, 2020, 22:32:31
-
จากกระแสรถ Entry B-suv, Mini-MPV ยกสูง และ Crossover C-SUV และ C-Suv PPV ที่ทำให้รถเก๋งทั้ง Mazda 3 Toyota altis และ Nissan Sylphy/Teana ยอดขายค่อนข้างแย่และหดตัวลงมาก
สมมุติว่าในอนาคตมีรถ A-suv เข้ามาทำตลาดในราคา 5-7 แสน ยาวประมาณไม่เกิน 4 เมตร
ทุกท่านคิดว่า จะกระทบกับยอดขายของรถเก๋ง B/Eco car โดยเฉพาะรถ 4 ประตู sedan หรือไม่ครับ
เพราะกระแสรถยกสูง ลุยทางไม่ดีได้กำลังมาแรง หรือคิดว่ายังไง รถเก๋งในเมืองไทยจะไม่ตายครับ
(http://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2020/07/magnite_concept_banner.jpg)
คิดอย่างไรกันครับ
-
ถ้าเมืองไทยน้ำรอระบายบ่อยๆคงยอดหดครับ
เก๋งสมัยใหม่ยิ่งเตี้ยมาจากโรงงาน
-
คิดว่ารถเก๋งยังไงก็ไม่ตาย
แต่ช่วงนี้ c-seq ก็ไม่มีคันไหนเด่น ถ้าไม่กั๊ก option ก็แพ้ภัยตัวเองทั้งนั้น
D-seq ก็ยังไม่ตายสนิท ทุกวันนี้ camry ,accord ใหม่วิ่งกันให้เพียบ ที่ผ่านมามันแค่รอของใหม่ยอดเลยชะลอไปบ้าง
A-suv มาคงไม่ไหวมั้งครับ คนไทยชอบรถคุ้ม ต้องกว้าง แรง ประหยัด เพิ่มตังส์ผ่อนเดือนละพันกว่าบาทแต่ได้รถใหญ่กว่าจะซื้อเล็กๆไปทำไม
-
A-Suv หรือ entry B-Suv ยังแทน eco car ส่วนมากไม่น่าได้ครับ
อย่าง city หรือ almera ผมว่าพื้นที่ภายในและ Leg room กว้างกว่า SUV ที่ราคาเริ่มต้นต่ำกว่าล้านทุกคันนะ
แต่ถ้าเป็นสไตล์แบบ Mazda 2 ก็ไม่แน่ถ้าทำราคาลงมาทาบได้ แต่ออพชั่นต้องมีนะ
ผมว่า พื้นที่ของ CX-3 คือเล็กที่สุดแล้วที่คนไทยจะรับได้ในรถที่มีราคาแพงกว่า eco car
ถ้าจะเอา A หรือ entry-B เข้ามา ราคา ออพชั่นและเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ต้องเท่ากับ eco car เท่านั้นถึงจะขายได้ ถามว่าคุมต้นทุนกันได้ไหมล่ะ?
-
เป็นไปได้ครับ แต่ยังอีกนาน ต้องรอให้วันหนึ่งรถขับเองได้แล้วต้นทุนเทคโนโลยีถูกลงมา ซึ่งถ้าวันนึงรถขับเองได้ คนก็คงไม่จำเป็นต้องกระจุกในรถคันเดียวกันแล้ว มาดมกลิ่นตดกลิ่นเรอคนอื่น คันนึงอาจจะนั่งแค่ 1-2 คน ต่อให้เป็น A-suv ก็อาจจะนั่งสบายกว่า W213 , G30 ก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆคือสบายและสะอาดกว่าการใช้ขนส่งสาธารณะทั้งหลายแน่นอน การจัดรูปแบบห้องโดยสารก็เปลี่ยนไป อาจจะใช้นอนแทนโรงแรมเลยก็ได้(ดีกว่าพวกโรงแรมแคปซูลญี่ปุ่น) และด้วยรูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากเข้า office, ทำงานแบบ platform บางคนอาจใช้เป็นบ้านเลยทีเดียว ซึ่งถ้ามามองว่า5-7แสนได้บ้านด้วยได้รถด้วยก็คุ้มค่าอยู่
-
เคยอ่านพบเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วมีแนวโน้มว่ารถยกสูงจะได้รับความนิยมที่มากกว่าเก่งซีดานครับ
-
ต้องทำราคาและออพชั่นให้ดีเท่ากับเก๋งในช่วงราคาเดียวกันด้วยนะครับ
จากกระแสคิดว่ามาได้ แต่ถ้ามาแบบกะหล่งป๊ง คนไทยก็ไม่เอาเน้อ
-
ไม่น่าถึงกับตายครับ แค่เฉลี่ยนยอดไปให้กับพวก small suv คนหลายคนยังชอบขับรถเล็กๆไปทำงาน ช็อปปิ้ง หรือเพราะอยู่ตัวคนเดียวครับ
-
ดูยอดขาย BR-V และ xpander cross แล้ว ไม่น่าใช่อะ ....
-
ไม่ตายหรอกครับ
D segmentจริงๆก็ยังไม่ตายซะทีเดียวนะ แค่ยอดมันไม่เยอะมากๆแบบ10ปีก่อน++
-
ดูจาก ยอด Yaris Cross กับ HB และ Ativ ก็ได้ครับ ส่วนตัวคิดว่ากระทบบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะรถเตี้ย Performance ยังดีกว่า ยกสูงจะได้เรื่องการลุยน้ำ ทัศนวิสัย กับความโปร่งอีกนิดหน่อยครับ
-
ไม่ตายหรอกครับ
D segmentจริงๆก็ยังไม่ตายซะทีเดียวนะ แค่ยอดมันไม่เยอะมากๆแบบ10ปีก่อน++
มาช่วยตอบ จริงๆ ยอด D segment ที่หด ไม่ได้โดน SUV แย่งเลยอะครับ แต่เกิดจากพวก พรีเมี่ยมเช่น C class , ซีรี่ 3 หรือ X1 พวกนี้มาแย่งตลาดมากกว่าครับ D segment แพงขึ้นเรื่องจนไปชนครับ ส่วนพวกนั้น เมื่อก่อนแพงมาก ก็เริ่มลดมาทีละนิดๆ หรึอตรึงราคาไม่ได้สูงตามค่าเงิน กลับไปดูราคาเจ้าตาถั่ว w203 แล้วเข้าใจครับ ว่าเมื่อก่อนเบนส์แพง
-
Entry B-suv ราคามันก็เทียบเท่า C -Segment หรือ มากกว่าด้วย
ราคา มันจะไม่มาเท่า B-Segment
เทียบก็ผิดกันแล้วครับ
-
ผมว่าก็ยังไปต่อได้ครับ เพราะคนชอบเก๋งไม่ชอบทรงsuvก็มีอยู่เยอะ แม้ราคาจะใกล้กันเค้าก็เลือกรถเก๋งอยู่ดี และในแต่ละsegmentจริงๆ เค้าก็มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มอยู่แล้ว ที่ยอดมันหายๆไป เพราะเดี๋ยวนี้รถมันมีให้เลือกหลากหลายมาก ราคาก็ทับกันไปมา
อย่าง พวกอัลติส ซีวิค มาสด้า3 ตัวท๊อปมันไปเกือบ1.2ล้าน ถ้าใจไม่รักหรือไม่ได้หลงไหลรุ่นนั้นจริงๆ เค้าก็ไม่ซื้ออีก แอคคอร์ด คัมรี่ก็เหมือนกันตัวท๊อปไป1.8ล้าน ยุโรปพรีเมี่ยมตัวเริ่มต้นกวักมือรอเลย มันเลยทำให้ยอดมันหายไปก็ส่วนนึง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
เหตุผลการซื้อรถมันต่างกันหลายๆอย่างครับ บางคนเลือกจากงบประมาณ มีงบเท่านี้ได้รุ่นไหน บางคนเลือกจากภาพลักษณ์ ขับไปไหนคนเกรงใจชอบความหรูหราพรีเมี่ยม บางคนเลือกตามการใช้งานไม่ได้ต้องการภาพลักษณ์
-
ยังมีเยอะครับที่ชอบเก๋ง แม้ตอนนี้ SUV จะมีตลาดที่โต ส่วนตัว ถ้าไม่ใช่ทางไกลๆ ชอบขับเก๋งมากกว่า มันสะดวกกว่าเยอะเลย ยิ่งเล็กๆยิ่งชอบ จอดง่าย ขึ้นลงสะดวก
-
ไม่หายหรอกครับ อาจจะยอดลงลด แย่งยอดกันเอง หลายคนยังชอบรถซีดานครับ ส่วนตัวผมชอบซีดาน SUV จะชอบแค่บางรุ่นเท่านั้น แต่แล้วแต่ Segment ปกติขับรถคนเดียว แล้วก็ไม่ค่อยผ่านที่น้ำท่วมอยู่แล้ว ไม่ขนของเยอะ เลยไม่ค่อยสนจุดเด่นของ SUV เท่าไหร่
ถ้าผมจะซื้อรถผมมีงบ 1.2 ล้าน นาทีนี้คงเลือก Corolla cross เพราะขนาดรถที่ใหญ่ ออฟชั่น ถึงจะมีแอบกั๊ก แต่สำหรับผมคือพอใช้งานแล้ว Altis แอบเล็กไปในรถสมัยนี้ CHR แม่ไม่ชอบ HRV ที่บ้านมีแล้ว ไม่ชอบช่วงล่างมากๆ ส่วน Civic ไม่ชอบการนั่งเลย มันจมแปลกๆ ตัด Mazda เพราะช่วงนี้แอบเห็นปัญหารถเยอะอยู่ งบ1.5 ล้าน คงไป Camry เพราะใช้รุ่นเก่าแล้วขับสบายมาก CRV ผมชอบ แต่ช่วงล่างยังแอบโยนตามสไตล์รถสูง ถึงแม้จะดีขึ้นมากก็ตาม ถ้าจะซื้อ CRV คงเพราะที่บ้านเลย แม่ชอบรุ่นนี้มาก (ที่เคยถามตอนนั้นสรุปไม่ได้ซื้อครับ รอรุ่นใหม่) ถ้างบ 2ล้าน คงไป Camry HV ไม่ก็หายุโรปลดราคาแทน
ส่วนเก๋ง B/Eco ไม่หายหรอกครับ ด้วยเหตุผลเดียวกันคนชอบรถเก๋งยังเยอะอยู่ ถ้าไม่จำเป็นต้องหนีน้ำท่วม อีกอย่างเหตุผลการซื้อรถแต่ละคนไม่เหมือนกันด้วยครับ บางคนซื้อเพราะดีไซน์รถล้วนๆ ไม่สนว่า Sedan SUV PPV เช่นเพื่อนผม ดูดีไซน์กับราคาเท่านั้น ไม่สนยี่ห้อบริการหลังการขายใดๆเลย เอางบตั้งดูว่าได้รุ่นไหนบ้าง ชอบดีไซน์รุ่นไหน ซื้อรุ่นนั้นเลย บางคนซื้อเพราะงบจำกัด บางคนซื้อเพราะที่บ้านชอบ และอื่นๆ
-
พูดเถอะนะครับ อยากให้ตลาดรถซีดานหายไปจริงๆ อยากให้มี SUV กับ wagon มากกว่าเพราะว่าใช้ประโยชน์อะไรได้คุ้มกว่า รถซีดาน
-
ดู mg zs เป็นตัวอย่างก็พอแล้วครับ
ไม่ต้องลงลึกไปถึง a-suv เลย
คันใหญ่ ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 7 แสน ขายกระจายเลย
ขายจนตัวเองยังไม่กล้าเอา sedan มาขายเลย
และส่วนตัวก็มองว่าถ้าค่ายญี่ปุ่นทำ a-suv ราคาก็กดไม่ค่อยลงน่ะครับ
-
รถเก๋งไม่หายไปแน่นอน มีคนไม่ชอบรถท้ายตัดเยอะนะครับ
-
ผมว่าถ้าจะยกรุ่นมาแบบนี้ ควรเอา Civia ที่ยอดขายเป็นพันมาเทียบด้วยนะเพราะมันก็รถเก๋งซีดาน
ผมว่าการที่ยอดมันลดลงน่าจะเกิดจากตัวรถที่คนไม่ชอบหรือมีปัญหาแก้ไม่จบมากกว่า ถ้ารถเก๋งในกลุ่มนี้มีความน่าสนใจนอดขายอาจจะไม่แย่เท่านี้ก็ได้ครับ ลองดูแต่ละคันสิกาหัวได้เลยว่ามีจุดอ่อนในแง่การตัดสินใจซื้อมากกว่า Mini-MPV, B/C-SUV เยอะมาก
จากกระแสรถ Entry B-suv, Mini-MPV ยกสูง และ Crossover C-SUV และ C-Suv PPV ที่ทำให้รถเก๋งทั้ง Mazda 3 Toyota altis และ Nissan Sylphy/Teana ยอดขายค่อนข้างแย่และหดตัวลงมาก
คิดอย่างไรกันครับ
-
มีพี่ในบริษัทที่ผมทำงาน เคยใช้ CR-V เจน 4 กับ Pajero Sport ตัวที่แล้ว ล่าสุดรถที่แกใช้คันล่าสุด คือ New Camry 2.5 G โดยที่แกบอกว่าขับเก๋งเหนื่อยน้อยกว่ารถยกสุงมาก แถมขึ้นลง สะดวกกว่าเยอะมาก โดยเหตุผลเรื่องทัศนวิศัย กับ น้ำท่วม ไม่ใช่เหตุผลหลัก มันจึงไม่ใช่กระแสรถ SUV ไรขนาดนั้น
-
ขอตอบคำถามแบบที่บรรทัดสุดท้าย แต่ตั้งต้นต่างกันนะครับ-
อนาคต3-5ปีนี้ คงมีรถไฟฟ้าแท้เป็นหลัก (ชิ้นส่วนรถที่ใช้น้อยลงมากกกกก) น้องhybrid จะตายก่อน ตามด้วยน้ำมันล้วน (hybridจะแพงขึ้น รัฐไปลดภาษีตัวไฟฟ้าแท้ คนในเมืองซื้อไฟฟ้า คนนอกเมืองใช้น้ำมันและจะยืดนามมาก เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาอีกแยะที่ไฟฟ้าไม่พร้อม )
พวก A/B segment มีขนาดเล็ก การยกสูงจะทำให้มีพื้นที่แยะขึ้น โดยเฉพาะแบต ที่ต้องทำให้วิ่งไกลขึ้นไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยี่หรือขนาด
.
คิดว่ามาครับ A/B ยกสูง ด้วยความนิยม fashion รวมทั้งtrend การพัมนารถไฟฟ้าในอนาคต แต่ส่วนตัวผ่านมาครับทุกตัว พบว่าตัวเองชอบรถแบนและตัวนั่งอยู่ใกล้ถนนมากกว่าครับ
-
หากจะเทียบ B/Eco car ควรตั้งกระทู้ เป็น B-Cross Over มากกว่า SUV นะ
MG ZS เป็น B-Segment Corssover ปรากฏการ ที่ทำให้คนไทยตาสว่าง และ ค่าย รถอื่นเริ่มทระส่ำ เพราะ เราโดน ญี่ปุ่นกำหนดราคาต้นทุนและ รัฐบาลอัดภาษีทำให้รถแพง มานาน
จริง MG ZS ต้นทุนในการผลิต ค่ายเดียวกัน มันก็คือเก๋ง 5 ประตู ยกสูง หรือ จริงมันคือ Cross Over ราคาก็สูงมาจากเก๋ง 5 ประตูเล็กน้อย
SUV ควร เรียกกับ รถที่ เอกประสงค์จริง คือ ลุยได้ ลุยได้่คือ ต้อง ยกสูงและ ขับ 4
เช่น CR-V ขึ้นไป คือ C-segment Corssover ซึ่ง มันเทอะทะกว่า B-Segment แน่นอน
ส่วน ข้อด้อย ของ B-Segment Cross over เทียบกับเก๋งไม่ค่อยมี เพราะ รถมันสูงกว่ากัน และยาวกว่ากันนิดเดียว แต่ชัดเจนน่าจะเป็น ความคล่องตัว
คือ มันหนักและอืดกว่า
สรุป สำหรับผม
B-Cross Over หากผลิตในค่ายเดียวกัน ราคาจะสูงกว่า B Segmetn พอสมควร และเป็นคนละตลาดกัน
แต่มันไป เบียด C-Segment และ C cross over ค่ายเดียวกันแน่นอน
-
ผมว่ายุคนี้ คนเน้นรถเอนกประสงค์ คุ้มค่า มากกว่าขับสนุก
d segment อาจอยู่ได้เฉพาะจ้าวตลาด
แต่ c sedan ก็คู่แข่งเยอะเลย ยอดลดลงก็ไม่แปลก
อย่าง mazda3 ตัวใหม่ เห็นบนถนนน้อยลงมากครับ 8)
-
ทำราคาได้ก็แย่ง แต่จะทำได้จริงเหรอ ไม่แน่ใจว่าต้นทุนทีั่แพงกว่าคืออะไร ถ้าเทคโนโลยีอย่างเดียวมันลดได้
แต่หากเป็นวัสดุ เลิกคิดเลยว่าจะสามารถทำราคาเท่ากันได้ เพราะต้นทุนไม่เท่ากันละ
-
คงเพราะถนนบ้านเราด้วยแหละครับ ทำให้คนหันไปหารถที่ยกสูงมากขึ้น ส่วน บ.รถ จะทำรถยกสูงในราคาย่อมเยาว? ก็คงทำไม่ได้ ทำออกมาก็คงไม่มีคนซื้อ