ด้วยความเคารพนะครับท่าน
แต่จากการสังเกตุและพบเจอ พวกมอไซต์ย้อนศรที่มักจะก่ออันตรายต่อตนเองและต่อผู้ที่มาถูกต้องตามกฎจราจร มักจะไม่ได้อยู่ในเคสแบบที่ท่านบอก ส่วนใหญ่จะอยู่แค่ถนน 4 เลน (มีเกาะกลาง ฝั่งละสองเลน) ครับ สำหรับเคสแบบนี้ เท่าที่ผมพบเจอ มันมาจากความมักง่าย และความเห็นแก่ตัวส่วนบุคคล ไม่ได้มาจากสาเหตุห่วงชีวิต ถนนใหญ่ๆแบบที่ท่านยกมาครับ
แบบที่ท่านยกมา ถนนใหญ่ๆ ผมมองว่าเป็นการหาข้อแก้ตัวสำหรับพวกที่มักง่ายเท่านั้นเองครับท่าน ใครจะคิดยังไงก็พิจารณากันเองเลย แต่สำหรับผม ถ้ากฎหมายตั้งมา แล้วปฏิบัติตามไม่ได้ ไม่อยากปฏิบัติตามด้วยเหตุอันใด ผมว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างที่ยกมามากกว่าครับ ถ้าห่วงชีวิตจริง ก็ปฏิบัติตามกฎให้ถูกต้อง และ "รอ" จนกว่าถนน 8 เลน จะว่าง พอให้ตัดข้ามไป 4 เลนได้ แค่นี้ก็ไม่เดือนร้อนใครแล้วครับ และปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินทุกฝ่ายด้วย
สำหรับตัวผมเอง อยากจะให้แก้กฎหมาย ว่าใครจะย้อนศร อยากทำ ก็ทำได้เลย แต่ผิดกฎหมาย ถ้าโดนรถชนบาดเจ็บหรือตายขึ้นมา ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆ แม้แต่นิดเดียว ถึงแม้มันอาจจะดูโหดร้าย ใบสั่งฆ่า ความผิดแค่นี้ไม่สมควรตายหรอก... แต่ผมคิดว่า คนเราเมื่อเลือกที่จะมักง่าย เลือกอะไรแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองได้เลือก ที่ผิดกฎหมาย และยังทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีก เพราะผมเห็นข่าวพวกสันดานเสียย้อนศร อยากจะออกก็ออกปาดหน้า แล้วทำให้คนที่ทำถูกตามกฎจราจรต้องหักหลบ เกิดอุบัติเหตุจนตาย แต่คนทำผิดลอยหน้าลอยตา หนีหายเข้ากลีบเมฆ แล้วรับไม่ได้จริงๆ
ทำแบบนี้แล้วเชือสิ ผ่านไปสักพัก จำนวนคนย้อนศรลดลงอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน
รอให้รถว่าง,,, แล้วค่อยข้าม, ท่านก็พูดถูก ตามทฤษฏี ตามกฏหมายคับ
....ถึงแม้,,, จะต้องรอกันเป็นชั่วโมง มันก็ต้องรอ เพื่อรักษากฏหมาย, ผมเข้าใจดี
แต่ในชีวิตจริง,,, ค่อยๆ ย้อนศรไป คงใช้เวลาแค่ 5-10 นาที
....แต่ไป U-turn ,,, ชั่วโมงนึง จะถึงที่หมายหรือป่าว ก็ไม่รู้
มักง่าย,,, และเห็นแก่ตัว มันก็ถูกคับ
....แต่บางครั้ง,,, มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง, ไม่ใช่ทั้งหมด
ส่วนกฏหมาย,,, ตามกฏหมายจริงๆ มันก็คล้ายที่ท่านบอกมาอยู่แล้ว
....เพียงแต่,,, พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ มันไม่ได้เป็นไปตามกฏหมายทั้งหมด
แถวบ้านผม,,, มีโค้งนึง ชื่อ "โค้งใจดี"
....มีมอไซค์,,, ของครอบครัวร้านใจดี, แหกโค้งไปชนรถเมล์, เสียชีวิตทั้งผัว ทั้งเมีย
....ร้านใจดี,,, เหลือแต่ลูกสาว, ก็ต้องขายร้านค้า เพื่อมาชดใช้ให้กับรถเมล์
กฏหมายบ้านเรา,,, ผมว่า จริงๆ มันก็คล้ายๆ กับประเทศอื่นนั่นแหละ
....เพียงแต่ว่า,,, เวลาบังคับใช้จริงๆ , เค้าเน้นไกล่เกลี่ย ไม่ได้เน้นชี้ถูกชี้ผิดอะไรมากมาย
ปัญหาจริงๆ ,,, น่าจะอยู่ที่การบังคับใช้มากกว่า
....ยกตัวอย่าง,,, เคสที่โดนจับความเร็ว ที่ 121, 122, 123 กันนั่นแหละคับ
....ไม่มีใครหรอก,,, ที่ก้มหน้า รับผิดแต่โดยดี, ว่าตัวเองขับรถเร็วเกินกำหนด
....จะมีก็แต่,,, บ่นว่า เกินไปหน่อยเดียว, ส่วนจะโวยมาก โวยน้อย ก็แล้วแต่สำนึก
....ทั้งๆ ที่,,, กฏหมายเค้าก็อะลุ่ อะหล่อย มาจากความเร็วที่ 80-90 ให้แล้ว
เราพิมพ์คุยกัน,,, มันพิมพ์ง่ายคับ จะพิมพ์อะไรก็ได้
....แต่ถ้าลอง,,, พวกท่านๆ ได้ขับมอไซค์ แบบชาวบ้านพวกนี้บ้าง
....จะเค้าใจ,,, ถึงความลำบาก และความเสี่ยงชีวิตที่แท้จริงครับ