คัดมาบางตอน
จากร่างแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.รถยนต์ดังกล่าว... จึงเสมือนเป็นการปลดล็อคปิกอัพไทย ซึ่งถูกคุมน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม มาตั้งแต่ปี 2522 หรือยาวนานถึง 35 ปี และเป็นประเด็นที่ค่ายรถผลักดันให้มีการแก้ไขมาตลอด เพราะปัจจุบันปิกอัพที่ผลิตในไทยมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ยิ่งแข่งขันกันใส่เข้ามาให้มาก เพื่อเป็นจุดเด่นในการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า แต่ที่สุดจะติดตรงข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักรถ
ตามกฎหมายการที่รถจะขาย หรือจดทะเบียนได้ ต้องมีการรับรอง 2 ขั้นตอน อันดับแรกผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานมาตฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) และการทำแบบวิศวกรรมกับกรมการขนส่งทางบก ในเรื่องการตรวจสอบขนาด และเครื่องยนต์ของรถ โดยส่วนใหญ่จะมาตกม้าตายตรงในส่วนของน้ำหนักรถ
จะว่าไปปิกอัพในไทยปัจจุบัน แทบจะไม่ผ่านพ.ร.บ.รถยนต์ ว่าด้วยเรื่องน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล เหตุนี้จึงได้มีการงัดสารพัดวิธีเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย มีตั้งแต่ถอดอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่างออก รวมถึงยางอะไหล่ ใส่น้ำมันเพียงนิดหน่อย ถอดเบาะ และอื่นๆ อีกมากมาย หรือไม่ถึงกับทำสเปกพิเศษ เพื่อมาชั่งน้ำหนักโดยเฉพาะ
เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมการขนส่งทางบก เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีพอสมควร บวกกับการมีนอกมีในระหว่างเจ้าหน้าที่และบริษัทรถ จึงไม่เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดมากนัก และนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการพยายามผลักดันปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้หากห่างร่างพ.ร.บ.รถยนต์นี้ผ่าน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนในอุตสาหกรรมการผลิตปิกอัพอย่างมาก เนื่องจากปิกอัพจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากขึ้นได้ และสามารถจดทะเบียนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลได้ปกติ ทำให้เสียภาษีป้ายประจำปีสูงสุดประมาณ 1,000 บาท/ปี ขณะที่หากเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (เก๋ง) ต้องเสียภาษีอัตราก้าวหน้าตามขนาดความจุกระบอกสูบ (ซีซี) ทำให้ต้องจ่ายค่าภาษีป้ายทะเบียนหลายพันบาทต่อปี จึงไม่เป็นที่นิยมของผู้ซื้อปิกอัพ หรือหากจดทะเบียนเป็นรถบรรทุก จะติดเรื่องของเวลาการวิ่งในเมืองอีก
ที่แน่ๆ ปิกอัพที่มีขนาดใหญ่ในปัจจุบัน อย่าง มาสด้า บีที-50 และ ฟอร์ด เรนเจอร์ จะสามารถปลดล็อคในส่วนของปิกอัพรุ่นมีแค็บ ให้วางจำหน่ายรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อได้ ซึ่งปัจจุบันไม่มีรถรุ่นย่อยนี้ทำตลาด เพราะติดข้อจำกัดน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ปิกอัพรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงมีขายเฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแค็บ หรือปิกอัพ 4 ประตู ที่ตามกฎหมายต้องจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือเก๋งเท่านั้น
นอกจากนี้ในส่วนของปิกอัพรุ่นใหม่ๆ ที่จะออกมา อย่าง โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ โฉมใหม่ ตามข่าวจะมีตัวถังขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก หากร่างพ.ร.บ.รถยนต์ดังกล่าวผ่าน จะทำให้สามารถออกมาโดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องน้ำหนัก รวมถึงอาจจะได้เห็นการกลับมาของปิกอัพ เกีย เค2900 ที่หายไปจากตลาด เพราะไม่ผ่านเรื่องน้ำหนักรถ ต้องจดทะเบียนเป็นรถใช้งานบรรทุก ทำให้ติดปัญหาเรื่องเวลาของการวิ่งรถในเมือง เหมือนกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ จึงไม่เป็นนิยมเหมือนในรุ่นเค2700 ที่ผ่านน้ำหนักมาตรฐาน 1,600 กิโลกรัม จึงสามารถใช้งานในเมืองได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดขายของปิกอัพรุ่นนี้ในอดีต เช่นเดียวกับกลุ่มรถบรรทุกเล็กอย่าง อีซูซุ เอลฟ์ ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต
สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการพลิกโฉม และทำให้เกิดความก้าวหน้าทางนวัตกรรม รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมปิกอัพในไทย แต่มองในมุมกลับการปลดล็อครถที่มีขนาดใหญ่ ให้สามารถวิ่งได้ในเมืองใหญ่ ภาครัฐจะรับมือกับปัญหาการจราจรอย่างไร? ตรงนี้จะต้องเตรียมแก้ไขไว้ด้วยเช่นกัน!!
สำหรับผม
ส่งเสริมยอดขาย ออกมาเมื่อไหร่ รถ4ล้อเล็กกึ่งใหญ่บรรทุกของนั่นแหละครับจะไม่ติดเวลา
ทุกวันนี้ปิคอัพมันไม่ติดเวลา สร้างความแข็งแกร่งเพื่อให้ต่างชาติกอบโกยเงินไปมากๆมั้ง มองดูดีๆ ฝ่ายมีสินค้าในมือ ดันสุดตัว ทุกวันนี้สีล้อใหญ่หกล้อเล้กมันติดเวลา จะว่าไปแล้วคนที่ทำธุรกิจเวลาจะเอารถมาส่งของแน่นอนว่าต้องให้ตรงกับธุรกิจของตน จะ4 ล้อใหญ่รึหกล้อเล็กมันเปิดข้างได้ขนส่งสะดวก แต่ติดเวลา ก็เลยต้องจำยอมเอากระบะติดหลังคาสูงมาขนของ
แล้วถ้าสี่ล้อใหญ่ไม่ติดเวลาการจราจรจะไม่โกลาหลรึครับ ความคล่องตัวนั้นน้อยกว่ากระบะปิคอัพแน่ๆ วงเลี้ยวนั้นกว้างกว่าปิคอัพอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ต้องรอบครอบ ว่าส่งเสริมอะไร เรื่องล๊อคสเป็คนั้นมีอยู่แล้วครับ มันไม่ผ่านหลายหนมันมีเหตุผลในตัวมันเองอยู่แล้ว ถ้าร่างก็ต้องร่างให้ละเอียดไหนๆจะแก้ทั้งทีแล้ว จะเจาะจงลงไปเป็นรุ่นๆรายๆไปเดี่ยวก็หาว่าเข้าข้างเป็นรายๆไปอีก เรื่องแบบนี้ต้องรอบครอบมากๆ ผู้ผลิตรายอื่นมีค้อนได้ แต่ที่สำคัยเลยรถติดยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ
รถใหญ่ในที่นี้คือรถพ่วง เกษตรกรไม่มีผลกระทบหรอกครับ
เศรฐกิจวิ่ง เพราะมีการซื้อขาย แลกกันไปแลกกันมา ไปเที่ยวก็ต้องซื้อของกลับบ้าน ไม่มีใครที่เสียเปรียบต่างคนต่างได้ผลตอบแทนทั้งนั้น
ในโลกนี้ไม่มีใครไม่เห็นแก่ตัว
ภาคเกษตรกรนั้นเป็นหัวใจหลักของประเทศใครจะไม่รู้
รถบรรทุกผักหรืออื่นๆ โดยมากใช้ หกล้อและสิบล้อส่ง ช่วงเทศกาลนั้น ตลาดปิด
อาจจะออกกฎมาว่า ยกเว้น การบรรทุกสิ่งของแบบใดยกเว้น แต่ก็คงยากมากๆ
บริษัทขนส่งใหญ่ๆนั้น น่าจะหยุดพวกรถพ่วงต่างๆ ผมหมายถึงสิ่งนี้