Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: fishfinger ที่ พฤศจิกายน 12, 2010, 21:22:50
-
คือสนใจเจ้า Fiestaมากครับ
แต่ติดที่คนอนุมัติบอกถ้าจะขับรถยุโรปหรืออเมริกันต้อง BMW หรือ Mercedes เท่านั้น เพราะ เวลาเสียเข้าศูนย์ไม่มีปัญหา
ผมใช้รถอยู่ในกรุงเทพครับ อยากเทียบจำนวนศูนย์ของ Ford กับ รถค่ายเหล่านี้หน่อยครับ (ไม่นับเรื่องคุณภาพและการบริการ)
คนอนุมัติบอกว่า ถ้าไม่เอา H หรือ T ก็ BMW หรือ Mercedes เท่านั้น
Fiesta เวลามีปัญหามันจะซ่อมยากซ่อมแพงหรือเปล่าครับ
หรือมันเป็นแค่ความคิดโบราณเรื่อง H T BMW Mercedes หรือเปล่าครับ
ปล. ไม่เอา น่า หรือ อาจ นะครับ อยากรู้จริงๆครับ
-
มีถือว่าเยอะนะถ้าเทียบกับ Benz , BMW ศูนย์ดีดีหาได้ง่ายครับ ลองดูในคลับ ส่วนแพงมั้ยนั่นดูในตารางอะไหร่แล้วถูกกว่าเจ้าตลาดหลายชิ้นครับ ที่แพงกว่าไม่กี่ชิ้น และแพงกว่าหลักสิบด้วย
-
ถ้านับศูนย์จากฟอร์ดเลย เยอะนะครับ ในกรุงเทพ นนทบุรี ปทุม รวม เป็น สิบกว่าที่แล้วครับ
BMWที่ขึ้นกับ BMW Thailand มี แค่ 6 แห่ง (ไม่นับของยนตรกิจ เค้งหงทอง และ อื่น ๆ)
BENZ ก็มีสิบกว่าแห่งเหมือนกัน ของThonburi ไปน่าจะเกินครึ่ง
---
เพิ่มเติม ไม่ทันอ่าน
เจ้าของกระทู้ถามว่า
"Fiesta เวลามีปัญหามันจะซ่อมยากซ่อมแพงหรือเปล่าครับ"
ถ้าเป็นอุปกรณ์พื้น ๆ ในตัวรถเช่น ไดชาร์จ แอร์ พัดลม วาล์วน้ำ ท่อน้ำ สายไฟ รีเลย์ง่าย ๆ ซ่อมคงไม่ยาก
แต่ถ้าพวกกล่อง เครื่องยนต์(วาล์ว สูบ ซีลแครงค์) เกียร์ หรืออะไรที่ซับซ้อนคงต้องเหนื่อยหน่อย ซึ่งผมคิดว่าของพวกนี้ กว่าจะเสียก็คงขายรถไปก่อน (5-6 ปี)
เรื่ืองอะไหล่ไม่ต้องห่วงครับ ในกรุงเทพ หาวรจักร ของเที่ยบบางอย่างยังไม่มี ที่พอหาได้ก็พวกเพลาขับแทน ยังไม่ตรงรุ่น ลูกหมาก ก็ยังต้องเทียบ โช๊ค ก็ต้องเทียบ
เอาของแท้เบิกศูนย์ มีอยู่แล้ว แต่ก็แพงเป็นปรกติครับ
-
Ford ตอนนี้ศูนย์ใหม่เปิดขึ้นมาเพิ่ม ก็มีนะครับ มาเพื่อขาย Fiesta โดยเฉพาะเลย
ถ้าคุณไม่ซวยจริงๆ คงไม่ได้เข้าศูนย์บ่อยๆ
ไม่อยากให้กังวลเรื่องศูนย์มากนัก
จะเข้าศูนย์ก็แค่ เข้าเช็คระยะตามกำหนด ถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด แค่นั้นเอง
ไม่ว่ายี่ห้อไหน ถ้าซวย ถึงจะได้เข้าศูนย์กันบ่อยๆ
หวังว่า จขกท. คงจะไม่ซวย ซื้อรถมาเพื่อเข้าศูนย์บ่อยๆ
เลือกรถที่เราชอบ
ใช้ Ford ต้องไม่แคร์สื่อ...
-
ศูนย์น้อยไม่กลัวครับ
ขอศูนย์ที่มีช่างเก่งๆสักที่เดียวก็พอละ
ส่วนเรื่องอะไหล่ตอนนี้คงไม่มีใครตอบได้เพราะรถก็เพิ่งออกมาไม่เท่าไหร่ (แต่focus อาจจะมีรอนานบางอย่างเพราะมาจากฟิลิปปินส์ แต่ fiesta ผลิตในประเทศแล้วน่าจะสบายใจได้ระดับนึง)
-
ผมว่ารถอะไรก็ตามที่เกิดรวนขึ้นมา ซ่อมยากหมดแหละครับ
ถึงแม้ว่าจะเป็นรถตลาดๆ ก็ตาม จับจุดไม่ถูกถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องศูนย์ ถ้าเป็นคนที่ขับรถเยอะ ก็ควรจะดูๆ เรื่องศูนย์ไว้หน่อย
แต่ถ้าปีนึงขับกัน 2 หมื่นโล ก็คงไม่ต้องดูหรอกครับ
เพราะปีนึงเข้าแค่ 2 ครั้งเอง
ส่วนเรื่องความคิดที่ จขกท. ว่ามา ถ้าเป็น BENZ หรือ BMW รุ่นเก่าไม่เถียง แต่ถ้ารุ่นใหม่ เล่นเอาขนหัวลุกได้เลยทีเดียว
แต่ถ้ามองในมุมกลับกันก็ไม่แปลก เพราะทั้ง 2 แบรนด์ ยัดทะนานอุปกรณ์มาซะเยอะขนาดนั้น ได้ใช้มั่งไม่ได้ใช้มั่ง
ส่วน H กับ T ก็เหมือนกัน พวกอุปกรณ์สิ้นเปลืองไม่เท่าไหร่หรอก แต่ Accident Part บางชิ้นแพงเอาเรื่อง ยกตัวอย่าง ไฟหน้า HID
และ H กับ T รุ่นใหม่ๆ อุปกรณ์ อิเลกทรอนิกส์ เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ นานๆ ไปก็มีรวนเหมือนกัน
ส่วน Fiesta อันนี้ไม่สามารถตอบได้ครับ เพราะผมยังไม่เคยใช้ Ford เลย
ตอนนี้ใช้ Honda อยู่ ก็ไม่ได้ประทับใจเรื่องศูนย์สักเท่าไหร่นะ รถเยอะ รอนาน งานเร่ง
-
รถใหม่ มีประกัน 3 ปี/100,000 ก.ม. ผมว่าปัญหางานซ่อมไม่มีแน่ใน 3-5 ปี จะมีเพียงเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด ถ้าเรารู้จักรถ-บำรุงรักษาตามคู่มือกำหนด-อ่านคู่มือเยอะๆ รับรองว่า รักกันนาน แน่นอน โชคดีครับ.... ::)
-
ขอตอบเป็นข้อ ๆ นะครับ
1.จำนวนศูนย์บริการในกรุงเทพฯและปริมณทลปัจจุบันมี 18 แห่ง และกำลังจะเปิดใหม่อีก 1 แห่ง ที่มีรัศมีของศูนย์ไม่ไกลกันมาก
2.เรื่องราคาชิ้นส่วนราคาใกล้เคียงกับยี่ห้อที่กล่าวมา กรณีเบิกศูนย์ ปัจจุบันรถเพิ่งจำหน่ายสำหรับ Fiesta แต่หากรถออกมาในตลาดมากเรื่องอะไหล่ไม่น่ากังวัลเรื่อง Supply
3.หากกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา แนะนำให้เลือกซื้อ โปรแกรมฟรี่ค่าบำรุงรักษา ตลอด 100,500 กม หากไม่คิดมากว่าจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าในการซื้อเเพ็คเก็จประมาณ 17000 บาท ก่อนหักส่วนลด
4.กังวลหลังมหดประกันจะมีค่าใช้จ่ายเเพงเนื่องจากเคลมไม่ได้ แนะนำซื้อ โปรแกรมขยายเวลาของการรับประกันได้ถึง 5 ปี หรือ 140,000 กม. ราคาไม่เกิน 20,000 บาท
5.เรื่องความล่าช้าของอะไหล่ ฟอร์ดได้ออกเเคมเปญ จัดส่งอะไหล่ภายใน 24 ชั่วโมงสำหรับงานซ่อมบำรุงรักษา หากไม่มีอะไหล่ไม่คิดเงินค่าอะไหล่ชิ้นนั้น (สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ที่ใช้บริการ)
5.สุดท้ายที่ยังเหลือความกังวลก็เหลือเพียงตัวแปรอยู่ทีคุณภาพการบริการและคุณภาพงานซ่อมแล้วหล่ะครับ