Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: -Anonymous- ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 13:42:19
-
มันต่างกันคนละโลกเลยมั้ยครับ เช่นเข้าโค้งแรงๆ เอาอยู่เลยมั้ยครับ หรือขับตรงๆด้วยความเร็วสูง หรือการมุดไวๆ กระชากรถ การเอารถให้อยู่ในสถานะการณ์ต่างๆ ต่างกันมากแค่ไหนหรอครับ
หรือว่าจริงๆก็ต่างกันไม่มากกับรถขับ2
ปล.พวกรถแรงๆ สปอร์ตๆเลยนะครับ
ขอบคุณครับ
-
ผมก็แยกไม่ค่อยออกนะครับ เอาเข้าจริงๆ
นี่หมายถึงขับ4 แบบ Realtime ของ CRV ใช่ไหม
อย่างวิ่งทางตรงๆเนี่ย ผมยอมรับว่าแยกไม่ออกจริงๆครับ
แต่เวลาขึ้นดอย ผมรู้สึกว่าขับ4มันขึ้นง่ายกว่า อันนี้ก็ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองรึป่าว
ถ้าให้ผมซื้อ CRV ผมก็จะเลือกขับ4ขับ ไหนๆจะเอารถ SUV ก็คิดว่าควรจะมีฟังชั่นตรงนี้ด้วย
ถ้าซื้อ suv ขับ2ได้อย่างเดียว มันเหมือนซื้อรถเก๋งที่ยกสูงและขนของได้เยอะขึ้นแค่นั้น มันไม่ได้อารมณ์ของการเป็นเจ้าของรถ suv ที่มันควรจะลุยๆได้ มีฟังชั่นขับ4
ความคิดส่วนตัวล้วนๆนะครับ
-
ผมก็แยกไม่ค่อยออกนะครับ เอาเข้าจริงๆ
นี่หมายถึงขับ4 แบบ Realtime ของ CRV ใช่ไหม
อย่างวิ่งทางตรงๆเนี่ย ผมยอมรับว่าแยกไม่ออกจริงๆครับ
แต่เวลาขึ้นดอย ผมรู้สึกว่าขับ4มันขึ้นง่ายกว่า อันนี้ก็ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองรึป่าว
ถ้าให้ผมซื้อ CRV ผมก็จะเลือกขับ4ขับ ไหนๆจะเอารถ SUV ก็คิดว่าควรจะมีฟังชั่นตรงนี้ด้วย
ถ้าซื้อ suv ขับ2ได้อย่างเดียว มันเหมือนซื้อรถเก๋งที่ยกสูงและขนของได้เยอะขึ้นแค่นั้น มันไม่ได้อารมณ์ของการเป็นเจ้าของรถ suv ที่มันควรจะลุยๆได้ มีฟังชั่นขับ4
ความคิดส่วนตัวล้วนๆนะครับ
อ๋อผมหมายถึงพวกแรงๆพวกสปอร์ตเลยครับ บางรุ่นก็มีให้เลือกขับ2หรือขับ4 ผมอยากรู้ฟิลลิ่งในความจริง :)
-
ถ้าขับ 4 แบบ full time แบบ Audi,Mitsubishi EVO, Skyline หรือ Subaru อันนี้ ดีกว่าแน่นอนครับ ลดอาการ over และ under steer แต่ก็ กินน้ำมันมากกว่าเช่นกัน
ส่วนพวก Real time ขับในสภาวะปรกติ ไม่ต่างกัน ยกเว้นลุยลื่น ติดหล่ม พื้น 2 ด้านลื่นไม่เท่ากัน อันนี้ 4WD real time ทำงาน
ส่วน Real time 4WD จะมีของ Nissan X-trail กับ Hyundai Tucson ที่สามารถ Lock 50:50 ในกรณีที่ต้องการกำลังถ่าย 4 ล้อเท่าๆกัน ได้ครับ
-
นึกยากแฮะถ้าเป็นรถสปอร์ต ..อย่าง Lambo 550-2 กับ 560-4 นี่ยังไม่มีวาสนาได้ลองเลย
ถ้าเคยเทียบกันแบบชัดๆสุดก็คงเป็น Lancer E-Car 2 คัน วาง 4G63 ทั้งคู่ คันนึงทำขับหน้า
คันนึงทำขับสี่อีโว3 ผมชอบตัวขับสี่มากกว่าเยอะ ใส่ยางสปอร์ตธรรมดา กดตรงไหนมันก็ไป
ไอ้คันขับหน้าขนาดจับใส่ยาง AD08 หนึบๆ กว่าจะกดเต็มได้แบบมั่นใจต้องเกียร์ 3
กดเกียร์ 2 หน้าสะบัด ต้องเลี้ยงพวงมาลัยเยอะ แล้วนี่คือรถขับสอง ม้าราว 300
ส่วนไอ้ขับสี่ก็ 330เห็นจะได้
รถขับสองที่ไม่มีระบบไฟฟ้าช่วย ทุกอย่างอยู่กับความเจ๋งของเท้าครับ ผมเท้าหนัก
แต่กะน้ำหนักกับจังหวะไม่เป็น ออกตัวขับหน้าเทอร์โบไม่เคยทำได้ดีเท่าเพื่อนๆ
ต่อให้จับจังหวะดี มันก็ต้องกรอคันเร่งรอจังหวะที่ได้แรงจับของยาง ป่านนั้นตัวขับสี่ไม่รู้ไปไหนแล้ว
จังหวะเข้าโค้งมันก็ดูจะเหมือนกัน มันต่างกันแค่ตอนออก สมมติเข้ามา 100 แล้วเหยียบออกโค้ง
ที่เกียร์ 3 ไอ้ตัวขับหน้าจะอันเดอร์และยางปั่นทิ้ง ส่วนตัวขับสี่อันเดอร์น้อยกว่า..แถมพุ่งออกไปเลย
อันนี้เราพูดกันแบบรถเทคโนโลยีปีเท่ากัน รถบอดี้เดียวกัน เครื่องเดียวกัน ต่างกันที่ระบบขับเคลื่อน
แต่กับรถยุคใหม่บางคัน เอาเทคโนโลยีมาช่วยจนทำสปีดตอนออกโค้งได้น้อยกว่ารถขับสี่นิดเดียว
-
อยากรู้ในกรณีของ scirocco r กับ golf r ด้วยครับ
-
Top Gear เคยเทียบไว้ว่า Corvett เทียบกับ Audi R8
Corvett แรงกว่าแบบชัดเจน แรงม้ามากกว่า แรงบิดมากกว่า
แต่ถ้าให้ซื้อมาขับจริงๆ R8 น่าใช้กว่ามากกกก
ยิ่งแรง ทอร์คเยอะ ยิ่งขับยาก
Corvett ออกตัวทีเลื้อยเป็นงู ล้อฟรี ยางไม่จับถนน เพราะแรงมันเยอะเกิน
ในขณะที่ GT-R หรือ R8 พุ่งออกไปทันที ต้นเกม นำโด่ง เล่นโค้งสบาย
คนขับรถธรรมดาๆ เปรี้ยวบ้างนิดหน่อย ไม่ถึงกับมุดเอาเป็นเอาตาย ขับหลังก็โอเค
แต่ถ้ากดให้ถึงลิมิต เล่นกันหนักๆ ขับ 4 ปลอดภัยกว่า
รถระดับนั้น แล่นในโค้งได้สบายๆ แต่การกดคันเร่งในโค้ง เป็นอีกเรื่องนึง
-
ขับ4ดีกว่าชัดเจนมากครับ ออกตัวดีกว่า ขับดีกว่า ขับง่ายกว่า ทุกอย่างดีกว่า แต่คนที่ขับเก่งมากๆจะไม่ชอบเพราะมันดีเกินไปขับหลังมันส์กว่าเข้าโค้งแรงๆรถเหมือนจะหลุดแก้กันมันส์
แต่คนทั่วๆไปมันคืออุบัติเหตุทำให้ชนข้างทางได้
ถ้าจะซื้อรถแรงๆแนะนำขับสี่ซื้อมาขับได้เลยไม่ต้องหัดมากพวกsuper carที่ลงข่าวกันบ่อยๆคือมีตังแต่ฝีมือไม่ถึงเอารถไม่อยู่เลยชนกันไป รถยิ่งแรงยิ่งขับยากลองคิดดู 3วิ 4วิ 100แล้ว
-
เคยนั่งอย่างเดียวครับใน audi ขับ 4 รู้สึกทางตรงเกาะกว่ารู้สึกได้ แต่เห็นผลจริงๆคือเลี้ยวแรงๆ คือ ตกใจคิดว่าคว่ำแน่อ่ะ แต่เอาอยู่ชิวๆเลยครับ
-
อยากให้ไปลองขับ Subaru XV ครับ มีรถทดลอง ทุกศูนย์ อาจจะได้ความรู้สึกขับ4 ไม่มาก ก็ไม่น้อยแน่นอนครับ
-
ที่รู้สึกได้กับรถขับ4คือตอนออกตัวครับ มันจับกำลังลงล้อได้ครบถ้วนมากกว่าครับ แต่ในกรณีที่เครื่องมันมี
กำลังมากกว่าที่ขับเคลื่อนสองล้อจะเก็บลงหมดครับขับสี่จะชัดเจนมากคือคือโดดออกไปไวครับ อีกเคสนึงที่รู้
สึกได้คือเวลาที่เราเปลี่ยนกระทันหันแรงๆ ท้ายรถกับตัวรถยังคงอาการดีกว่า ดึงออกแล้วดึงเข้าเชื่องมือมากกว่า
แต่ในสถานการณ์ปกติผมไม่รู้สึกถึงความต่างมากนัก เนื่องจากถนนบ้านเราไม่รองร้บให้เราขับได้เร็วมากด้วยน่า
จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งเพราะขับสัก60ก็ต้องเบรคเพราะหลุม บ่อ แผ่นเหล็กสารพัดครับ สำหรับผมเองผมไม่เห็น
ความจำเป็นมากนัก สำหรับบ้านเราครับ ให้ขับเร็วๆบนถนนหลวงมันก็มีเหตุให้เราไม่สามารถได้ใช้ถึงประโยชน์ได้
บ่อยนักครับ
-
ขอบคุณพี่ๆทุกคนครับ เห็นภาพขึ้นเยอะ
-
ลองดูคลิปนี้ครับ เป็น 2 ตัว ที่สมรรถนะใกล้เคียงกัน
ตัวนึงขับหน้า ตัวนึงขับสี่ ให้สังเกตอาการรถเวลาเข้าโค้ง ขับสี่จะเกาะโค้งวิ่งเข้าไปกับโค้งเลย
แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ มันช่วยให้ขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็ใกล้เคียงกับ 4 ล้อมากขึ้น
แต่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ยังได้เปรียบในหลายๆสถานการณ์ ถนนเปียก ถนนลื่น
Fifth Gear: Mitsubish Evo X vs Ford Focus Rs (http://www.youtube.com/watch?v=QS8wT6nCOyo#)