ที่มา :
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000055950' มาร์ช ' ขายร่วมหมื่นจนยอดค้างส่งยาวปีหน้า
ข่าวในประเทศ - อีโคคาร์ “มาร์ช” เปิดตัว 1 เดือนฟันยอดจองกว่า 9,000 คัน ทยอยส่งมอบแล้ว 1,500 คัน ขณะที่ดีลเลอร์ออกอาการเซ็ง แม้มีความต้องการเพียบแต่ไม่มีรถให้ลูกค้า เผยถ้าวาง เงินจองวันนี้มีโอกาสรับรถมีนาคมปีหน้า ด้านผู้บริหารนิสสัน ยอมรับกำลังการผลิตจำกัด ขณะเดียวกันต้องแบ่งตลาดส่งออก ยันเตรียมพิจารณาเพิ่มปริมาณผลิตในอนาคต
นายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลัง การเปิดตัวนิสสัน มาร์ช ใหม่ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมียอดจองจากลูกค้าทั่วประเทศเกิน 9,000 คัน สูงกว่าที่คาดหมายไว้ในตอนแรกพอสมคร โดยบริษัทได้ทยอยส่งมอบรุ่นเกียร์ธรรมดาไปแล้ว 1,500 คัน ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
“ นิสสัน มาร์ช เป็นรถในโครงการอีโคคาร์ที่รัฐบาลสนับสนุน มีกระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก โดยรุ่นย่อยที่ได้รับความนิยมสูงคือ ตัวท็อปของเกียร์ธรรมดา ( E M/Tราคา 4.25 แสนบาท) และรุ่นล่างของเกียร์อัตโนมัติ (E CVT 4.59 แสนบาท) ซึ่งทั้งสองรุ่นมีสัดส่วนการขายรวมกันเกือบ 60% และคาดว่าถึงสิ้นปีงบประมาณ 2553 (มีนาคม 2554) จะทำได้ตามเป้าหมาย 20,000 คัน ”
ทั้งนี้แหล่งข่าวจากผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสันรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ด้วยระดับราคาเริ่มต้น 3.75 แสนบาท ทำให้ลูกค้าสนใจเดินเข้าโชว์รูมพร้อมสอบถามรายละเอียดและลองขับเป็นจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าถ้าลูกค้าตัดสินใจจองรุ่นเกียร์ธรรมดาวันนี้รถพร้อมส่งมอบ ปลายปี ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติอาจต้องรอนานถึงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ปีหน้า
ในประเด็นนี้นายประพัฒน์ กล่าวว่า กำลังการ ผลิตของโรงงานนิสสันบางนา กม.21 ทำได้ 200,000 คันต่อปี เป็นของมาร์ช 90,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องแบ่งให้ตลาดส่งออก 70,000 คัน โดยจะเริ่มส่งออกตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ดังนั้นด้วยกำลังการผลิตที่จำกัด จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตลาดในประเทศจะมียอดค้างส่งมอบจำนวนมาก
“ ถ้าเริ่มจองมาร์ชวันนี้ ในบางรุ่นบางสีลูกค้าจะได้รับรถอย่างเร็วช่วงปลายปี ซึ่งเราเข้าใจในปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี และกำลังพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตอยู่ ที่สำคัญต้องไม่ให้กระทบกับการผลิตรถยนต์รุ่นอื่นๆ เพราะตอนนี้ปิกอัพ ฟรอนเทียร์ นาวารา ก็มียอดค้างส่งมอบหลายพันคันเช่นกัน ”
ส่วนฟรอนเทียร์ นาวารา ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง อย่างปีที่แล้วทำยอดขายเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2551 ถือว่าสวนทางกับตลาดปิกอัพรวม ส่วนปีนี้สามารถทำยอดขายเฉลี่ย 1,700 – 2,000 คันต่อเดือน และยังค้างการส่งมอบให้ลูกค้า 1-2 เดือน ซึ่งกำลังการผลิตที่จำกัดอาจส่งผลให้ตัวเลขยอดขายไม่ขยายตัวมากนัก
นายประพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายรถ ยนต์รวมทุกรุ่นในปีงบประมาณ 2553 (เมษายน2553 - มีนาคม2554) ไว้ 48,000 คัน เป็นมาร์ช 20,000 คัน ฟรอนเทียร์ นาวารา 17,500 คัน ทีด้า 5,000 คัน เทียน่า 4,500 คัน ที่เหลือ 1,000 คันเป็นของ เอ็กซ์-เทรล เอสยูวีที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ซึ่งรถรุ่นนี้บริษัทตั้งใจจะทำการตลาดให้เข้มข้นขึ้น
สำหรับนิสสัน เอ็กซ์-เทรล ใหม่ เพิ่งเริ่มขายในไทยเพียง 3 เดือน มีความต้องการจากลูกค้าระดับหนึ่ง และจากนี้ไปบริษัทจะเน้นการทำตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ การจัดกิจกรรมเข้าถึงตัวลูกค้าโดยตรง รวมถึงอาจจะใช้แคมเปญบ้างตามสมควร และคาดว่าจากยอดขายต่อเดือนเฉลี่ย 50 คัน จะเพิ่มเป็น 100 คัน
ปล. คู่แข่งในที่นี้หมายถึงการที่ต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าลูกค้าจะรับรถครับ