Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Atheptecha ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:04:14

หัวข้อ: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Atheptecha ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:04:14
มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ (ตามรูปใบสั่ง) อย่างนี้อยากทราบว่า ไฟรีต (Daytime) ของ Benz C 200 CGI AV จะมีความผิดตามกฎหมายข้อนี้หรือไม่ ถ้าผิดกฎหมาย ผมควรจะทำอย่างไรได้ครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:06:54
ข้อนี้มีจริงครับ ไฟ daylight ปกติเวลาเปิดไฟใหญ่มันจะปิดอัตโนมัติอยู่แล้วนี่หน่า ยกเว้นคุณตั้งค่าให้มันเปิดตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:08:20
ไอ้ที่ว่า "เปิดไฟตัดหมอกฯ" ข้อนี้รู้สึกว่ามีนะครับ เคยได้ยินอยู่ เขาป้องกันการใช้ไฟตัดหมอกพร่ำเพรื่อ เพราะมันอาจแยงตาผู้อื่นได้ โดยเฉพาะสีเหลือง คือคิดง่ายๆ ว่าไฟตัดหมอก ก็เปิดได้แค่เวลาตัดหมอก

แต่ที่ว่าไฟของ C200 เป็นอะไรยังไง รอผู้รู้ดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:08:34
มีครับ และช่วงนี้ ผมเห็นคนเลิกเปิดไฟตัดหมอกกันเยอะมาก จนแทบไม่เห็นใครเปิดแล้ว
แต่ผมก็ยังมีแอบๆ เปิดอยู่บ้าง

ส่วน Day time running light ผมว่า รถที่นำเข้า ที่เค้ากำหนดให้เปิดติดอัตโนมัติ ไม่น่าจะโดน
เพราะไม่งั้น เกรย์จะเอามาขายได้ยังไง
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:12:25
มีครับ และช่วงนี้ ผมเห็นคนเลิกเปิดไฟตัดหมอกกันเยอะมาก จนแทบไม่เห็นใครเปิดแล้ว
แต่ผมก็ยังมีแอบๆ เปิดอยู่บ้าง

ส่วน Day time running light ผมว่า รถที่นำเข้า ที่เค้ากำหนดให้เปิดติดอัตโนมัติ ไม่น่าจะโดน
เพราะไม่งั้น เกรย์จะเอามาขายได้ยังไง

แต่ในความเป็นจริงต้องถามว่า เขาดูยังไงละครับว่าตัดหมอก ไม่ตัดหมอก ถ้าเป็นสีเหลืองๆ แบบรถญี่ปุ่น (นึกถึงตัดหมอกของ A31) อันนี้นี่เต็มๆ แต่ถ้าเป็นไฟเหมือนไฟส่องสว่างแต่อยู่ตรงกันชนละ??

แต่ไอ้ Day time light เนี่ย มันมีข้อหาจับได้ด้วยเหรอ งง?
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 11, 2010, 23:35:14
Daytime Running light มันไม่ใช่ไฟตัดหมอกนะครับ จับไฟตัดหมอกก็จับไปอันนี้สนับสนุน

แต่จะบอกว่า อียู แคนาดา เมกา มีกฎหมายสนับสนุนให้ใช้นะครับ แคนาดานี่บังคับเลย
แต่ละประเทศเจริญแล้วทั้งนั้น ถ้าไทยจับก็ไม่รู้จะว่ายังไงครับ แต่คนใช้ต้องรู้จุดประสงค์มันด้วย

อย่าไปตั้งไฟสว่าง ฟุ้ง จ้า แยงตาคนอื่นเกินไป อันนี้ก็ไม่สมควรครับ

แก้ไข:
ไฟรีต
แต่ ไฟรีต นี่คืออะไรอ่ะครับ

มีครับ และช่วงนี้ ผมเห็นคนเลิกเปิดไฟตัดหมอกกันเยอะมาก จนแทบไม่เห็นใครเปิดแล้ว
แต่ผมก็ยังมีแอบๆ เปิดอยู่บ้าง
แม้จะแอบ เลิกไปเยอะก็ยังดีครับ ใช้ไฟให้ถูกต้อง ไม่รบกวนผู้อื่น ปิดไปก็สวยได้
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: neuro ที่ ธันวาคม 12, 2010, 05:26:55
เปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีเหตุอันควร โดนจับแน่ครับยืนยัน
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: raulowen ที่ ธันวาคม 12, 2010, 06:19:03
ผมว่าควรปรับให้หนักไปเลย สะดวกตัวเอง แต่ รบกวนคนอย่างมาก
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Boonchoo8 ที่ ธันวาคม 12, 2010, 08:16:13
ผมไม่เคยเปิดไฟตัดหมอกของรถผมเลยครับ มีสองเหตุผล

1 เปิดแล้วไม่เห็นรู้สึกว่ามันช่วยอะไรเลย เพราะไม่มีหมอก ไฟหน้าก็สว่างดีอยู่แล้ว

2 ไม่อยากเพิ่มความรบกวนสายตาให้เพื่อนๆคนอื่นครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: totu ที่ ธันวาคม 12, 2010, 09:16:12
ในกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงไม่ทราบน่ะครับ ว่าเป็นไฟ Daylight เลยเข้าใจว่าเป็นไฟตัดหมอก
ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าของรถ ทำไมไม่ชี้แจงเจ้าจุดประสงค์ของไฟนี้ เอาคู่มือรถมายืนยันก็ได้  :D
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: maair ที่ ธันวาคม 12, 2010, 10:45:13
ในกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงไม่ทราบน่ะครับ ว่าเป็นไฟ Daylight เลยเข้าใจว่าเป็นไฟตัดหมอก
ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าของรถ ทำไมไม่ชี้แจงเจ้าจุดประสงค์ของไฟนี้ เอาคู่มือรถมายืนยันก็ได้  :D


ที่โดนใบสั่งไม่ใช่ Benz นี่ครับ แต่เป็น Honda

ผมว่าถ้าไม่อคติเกินไป เราสามารถแบ่งไฟ day time กับ ไฟตัดหมอก และไฟหรี่ ออกจากกันได้อย่างชัดเจนนะครับ  :)

ส่วนปัญหาเรื่องไฟตัดหมอกนั้น ตอนนี้มีเยอะมากจริง ๆ ครับ ผมนั่งรถจาก พิษณุโลก เข้า กรุงเทพ พบว่ารถที่สวนมาเกือบทุกคัน เปิดไฟตัดหมอก

มันกลายเป็น ความเท่ ไปแล้วนะครับ นอกเหนือจากจุดประสงค์ที่ผู้ผลิต ผลิตมา


ป.ล. รถผมก็มีไฟตัดหมอกครับ แต่ไม่เคยเปิดครับ  :D  นึกถึงเวลาเรากล่าวสรรเสริญรถที่เปิดไฟตัดหมอก เราก็คงไม่อยากโดนสรรเสริญบ้างนะครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 12, 2010, 11:06:10
ในกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงไม่ทราบน่ะครับ ว่าเป็นไฟ Daylight เลยเข้าใจว่าเป็นไฟตัดหมอก
ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าของรถ ทำไมไม่ชี้แจงเจ้าจุดประสงค์ของไฟนี้ เอาคู่มือรถมายืนยันก็ได้  :D

นี่ล่ะครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงต้องได้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เอาเวลาไปทำอะไรก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ ธันวาคม 12, 2010, 11:41:27
ในกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงไม่ทราบน่ะครับ ว่าเป็นไฟ Daylight เลยเข้าใจว่าเป็นไฟตัดหมอก
ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าของรถ ทำไมไม่ชี้แจงเจ้าจุดประสงค์ของไฟนี้ เอาคู่มือรถมายืนยันก็ได้  :D

ถ้า Day Light ผ่านได้
ผมว่าเดี๋ยวไอพวกติดไฟติดหมอก ก็ไปเปลี่ยนเป็นแบบ Led ส่องขึ้นฟ้า แยงตาเหมือนเดิม
พอตำรวจมาก็อ้างว่าเป็น Day light
อยากให้ดูที่ เจตนาการติด ความสูง ความฟุ้งของแสงไฟมากกว่า
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ ธันวาคม 12, 2010, 12:59:37
ไฟ Day light คืออะไรเหรอครับ แหะๆ >_<
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ ธันวาคม 12, 2010, 18:30:48
ผมเข้าใจว่า จขกท โดนจับจากการเปิดไฟตัดหมอก เลยเอาไปเปรียบเทียบกับไฟแบบอืื่น (ถ้าเข้าใจผิดขออภัย) ส่วนตัวเคยโดนเรื่องไฟตัดหมอกเหมือนกัน ที่เปิดเพราะรู้สึกว่ามันทำให้มองเห็นทางชัดขึ้นจริงๆ และรถผมก็น่าจะเตี้ยพอที่ไฟมันจะไม่แยงตาใครแล้ว (MX5) ตอนที่โดนก็งงๆ ว่ามีข้อหานี้ด้วยเหรอ แต่ก็ต้องยอมรับผิดไปโดยดี มองในแง่นึง กฎหมายคงเอาไว้จับพวกปรับแต่งรถให้ไฟมันรบกวนคนอื่น  ;D อ้อ หวังว่าข้อหานี้จะใช้ได้กับพวกที่ชอบเปิดไฟตัดหมอกหลังด้วยนะครับ เจอแทบทุกวัน  เวลาขับตามนี่แทบแย่

ปัจจุบันนี้ผมไม่ใช้ไฟตัดหมอกแล้วยกเว้นทางจะมืดจริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GeneralAK ที่ ธันวาคม 12, 2010, 18:52:30
ตอนผมไปสอบใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ก็บอกชัดเจนครับ ว่าเปิดได้เฉพาะกรณี

ปกติแล้ว ไฟทุกชนิดมันก็แยงตาหมดล่ะครับ แต่ไฟหน้านี่อนุญาตให้เปิดได้เพราะเป็นเรื่องของความจำเป็น แต่ไฟอื่นๆ เปิดตามสถานการณ์ครับ เปิดมั่วๆ ก็รบกวนสายตาเพื่อนร่วมถนนครับ

ส่วนเรื่อง daylight นี่ กลางวันมันติด ก็ไม่แสบตาเท่าไร เพราะแสงแดดมันแรงกว่าอยู่แล้ว แต่พอเปิดไฟหน้าแล้วมันจะดับ กลางคืนเลยไม่แสบตาเพราะไฟชนิดนี้ครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 12, 2010, 20:17:03
ไฟ Day light คืออะไรเหรอครับ แหะๆ >_<
ไฟ Daylight ก็คือไฟที่แสงเหมือนแสงอาทิตย์ตอนกลางวันครับ
แต่กระทู้นี้กล่าวถึง D.R.L. Daytime running light ครับ

ชื่อก็บอกว่าเป็นไฟที่ไว้เปิดขณะรถวิ่งเวลากลางวัน จุดประสงค์คล้ายแมงกะไซเปิดไฟแหละครับ
คือให้เราเป็นที่สังเกตุได้ง่าย ถูกมองเห็นได้ดีขึ้นกว่าไม่เปิดไฟ ซึ่งเป็นปัจจัยลดอุบัติเหตุลงได้ครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: wildstocks ที่ ธันวาคม 12, 2010, 22:47:44
คนที่ถามคำถามนี้ ถ้าไม่สอบใบขับขี่มาเกินสิบปี ไม่ก็ต้องสอบแบบไม่ได้อ่านกฎหมายจราจรเวลาทำข้อเขีียนแน่ๆ

ใครจะบอกว่ามันเดย์ไลท์ อะไรก็แล้วแต่ตราบใดที่กฎหมายในราชอาณาจักร ยังไม่ไ้ด้บัญญัติและออกบังคับใช้ จะมาอ้างหลักสากลอะไรก็แล้วแต่ไม่ได้ เพราะ อยู่ในไทยก็ต้องใช้กฎหมายไทย เมื่อยังไม่มีการตีความว่าเดย์ไลท์กับไฟตัดหมอกเป็นคนละประเภทกัน ตราบนั้นไฟเดย์ไลท์ก็เป็นได้แค่ไฟตัดหมอกที่ทำมาจากไฟแอลอีดี

จริงอยู่เดย์ไลท์มีประโยชน์ แต่ถามกันลึกๆเปิดเพื่อ เท่ แปลกกว่าคนอื่น หรือ อวดว่ารถข้าแพง หรือไม่นั้น ก็รู้กันแก่ใจ ส่วนกรณีที่ไปติดเพิ่มจริงๆ ควรโดนเปลี่ยนแปลงสภาพรถอีกข้อด้วย

ปล. เกลียดพวกเจาะกันชนท้ายเพื่อติดไฟตัดหมอกเพิ่มอีกอัน โดยเฉพาะพวกรถไทป์อาร์จำลอง
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 12, 2010, 22:53:28
ผมก็ติดอยู่นะ ประเภทเอาโคมจีนมาติดเอง (พ่อติด) แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เห็นเพิ่มขึ้น แถมมันยังส่ิงเป็นเส้นตรงๆ แบบกะจะยิงตาคนอื่นให้ตาบอดอีกต่างหาก แถมเขตที่อยู่นอกแสงกลับยิ่งมองไม่เห็น สรุปแล้วไม่เปิดดีฝ่า ทิ้งมันไว้ให้สนิมกินเล่นดีแล้ว

ตืดเท่ห์ๆ น่ะติดได้ครับ ไม่ว่ากัน แต่เปิดเฉพาะที่จำเป็นเถอะ (รวมถึงพวกที่มีตัดหมอกจากโรงงานด้วย) เข้าใจอยู่บางทีเราก็เห็นรถ Spec เมืองหนาวใส่แล้วเท่ห์ เราก็อยากใส่บ้าง แต่อย่าให้คนอื่นเดือดร้อนครับ เช่นเดีวกับพวกที่เอาไฟสีเหลืองไปใส่ไฟหน้า ไอ้พวกนี้น่าเตะยิ่งกว่าอีกครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 12, 2010, 23:09:57
คนที่ถามคำถามนี้ ถ้าไม่สอบใบขับขี่มาเกินสิบปี ไม่ก็ต้องสอบแบบไม่ได้อ่านกฎหมายจราจรเวลาทำข้อเขีียนแน่ๆ

ใครจะบอกว่ามันเดย์ไลท์ อะไรก็แล้วแต่ตราบใดที่กฎหมายในราชอาณาจักร ยังไม่ไ้ด้บัญญัติและออกบังคับใช้ จะมาอ้างหลักสากลอะไรก็แล้วแต่ไม่ได้ เพราะ อยู่ในไทยก็ต้องใช้กฎหมายไทย เมื่อยังไม่มีการตีความว่าเดย์ไลท์กับไฟตัดหมอกเป็นคนละประเภทกัน ตราบนั้นไฟเดย์ไลท์ก็เป็นได้แค่ไฟตัดหมอกที่ทำมาจากไฟแอลอีดี

จริงอยู่เดย์ไลท์มีประโยชน์ แต่ถามกันลึกๆเปิดเพื่อ เท่ แปลกกว่าคนอื่น หรือ อวดว่ารถข้าแพง หรือไม่นั้น ก็รู้กันแก่ใจ ส่วนกรณีที่ไปติดเพิ่มจริงๆ ควรโดนเปลี่ยนแปลงสภาพรถอีกข้อด้วย

ปล. เกลียดพวกเจาะกันชนท้ายเพื่อติดไฟตัดหมอกเพิ่มอีกอัน โดยเฉพาะพวกรถไทป์อาร์จำลอง

ไม่ได้บัญญัติ ไม่ได้แปลว่ามันใช่ไฟตัดหมอกครับ
ที่เปิดเพื่ออวดเท่ คิดว่าสวย คนมอง มันไม่ถูกอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ใช่จะทำให้ของดีกลายเป็นของผิดได้ครับ

ต้องลองดู The Last Samurai รู้สึกตอนนี้ฉายอยู่

จะอ้างแต่ความโบราณบ้านเราก็ไม่ได้หรอกครับหากอะไรที่เมืองที่เจริญแล้วทำแล้วมันมีผลดี

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 12, 2010, 23:14:45
คนที่ถามคำถามนี้ ถ้าไม่สอบใบขับขี่มาเกินสิบปี ไม่ก็ต้องสอบแบบไม่ได้อ่านกฎหมายจราจรเวลาทำข้อเขีียนแน่ๆ

ใครจะบอกว่ามันเดย์ไลท์ อะไรก็แล้วแต่ตราบใดที่กฎหมายในราชอาณาจักร ยังไม่ไ้ด้บัญญัติและออกบังคับใช้ จะมาอ้างหลักสากลอะไรก็แล้วแต่ไม่ได้ เพราะ อยู่ในไทยก็ต้องใช้กฎหมายไทย เมื่อยังไม่มีการตีความว่าเดย์ไลท์กับไฟตัดหมอกเป็นคนละประเภทกัน ตราบนั้นไฟเดย์ไลท์ก็เป็นได้แค่ไฟตัดหมอกที่ทำมาจากไฟแอลอีดี

จริงอยู่เดย์ไลท์มีประโยชน์ แต่ถามกันลึกๆเปิดเพื่อ เท่ แปลกกว่าคนอื่น หรือ อวดว่ารถข้าแพง หรือไม่นั้น ก็รู้กันแก่ใจ ส่วนกรณีที่ไปติดเพิ่มจริงๆ ควรโดนเปลี่ยนแปลงสภาพรถอีกข้อด้วย

ปล. เกลียดพวกเจาะกันชนท้ายเพื่อติดไฟตัดหมอกเพิ่มอีกอัน โดยเฉพาะพวกรถไทป์อาร์จำลอง


ไม่ได้บัญญัติ ไม่ได้แปลว่ามันใช่ไฟตัดหมอกครับ
ที่เปิดเพื่ออวดเท่ คิดว่าสวย คนมอง มันไม่ถูกอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ใช่จะทำให้ของดีกลายเป็นของผิดได้ครับ

ต้องลองดู The Last Samurai รู้สึกตอนนี้ฉายอยู่

จะอ้างแต่ความโบราณบ้านเราก็ไม่ได้หรอกครับหากอะไรที่เมืองที่เจริญแล้วทำแล้วมันมีผลดี

ขอบคุณครับ

นอกเรื่องหน่อยนะครับ

คุณดู The Last Samurai แล้วได้มุมมองที่ตรงข้ามกับมุมมองส่วนมาก แหวกแนวดีจังครับ

คือเรื่องนี้ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการล่มสลายของระบบ Shogun อื่นๆ อย่างเรื่องกบฎ Shinsengumi มักจะมาแนว "เราต้องรักษาคุณค่าของบรรพบุรุษไว้ ไม่หวั่นไหวแม้วันมามาก เอ้ย!!! แม้วันที่มีสิ่งที่ใหม่กว่าเข้ามา เราต้องไม่ลืมคุณค่าของเรา" ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 12, 2010, 23:55:19
คนที่ถามคำถามนี้ ถ้าไม่สอบใบขับขี่มาเกินสิบปี ไม่ก็ต้องสอบแบบไม่ได้อ่านกฎหมายจราจรเวลาทำข้อเขีียนแน่ๆ

ใครจะบอกว่ามันเดย์ไลท์ อะไรก็แล้วแต่ตราบใดที่กฎหมายในราชอาณาจักร ยังไม่ไ้ด้บัญญัติและออกบังคับใช้ จะมาอ้างหลักสากลอะไรก็แล้วแต่ไม่ได้ เพราะ อยู่ในไทยก็ต้องใช้กฎหมายไทย เมื่อยังไม่มีการตีความว่าเดย์ไลท์กับไฟตัดหมอกเป็นคนละประเภทกัน ตราบนั้นไฟเดย์ไลท์ก็เป็นได้แค่ไฟตัดหมอกที่ทำมาจากไฟแอลอีดี

จริงอยู่เดย์ไลท์มีประโยชน์ แต่ถามกันลึกๆเปิดเพื่อ เท่ แปลกกว่าคนอื่น หรือ อวดว่ารถข้าแพง หรือไม่นั้น ก็รู้กันแก่ใจ ส่วนกรณีที่ไปติดเพิ่มจริงๆ ควรโดนเปลี่ยนแปลงสภาพรถอีกข้อด้วย

ปล. เกลียดพวกเจาะกันชนท้ายเพื่อติดไฟตัดหมอกเพิ่มอีกอัน โดยเฉพาะพวกรถไทป์อาร์จำลอง


ไม่ได้บัญญัติ ไม่ได้แปลว่ามันใช่ไฟตัดหมอกครับ
ที่เปิดเพื่ออวดเท่ คิดว่าสวย คนมอง มันไม่ถูกอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ใช่จะทำให้ของดีกลายเป็นของผิดได้ครับ

ต้องลองดู The Last Samurai รู้สึกตอนนี้ฉายอยู่

จะอ้างแต่ความโบราณบ้านเราก็ไม่ได้หรอกครับหากอะไรที่เมืองที่เจริญแล้วทำแล้วมันมีผลดี

ขอบคุณครับ

นอกเรื่องหน่อยนะครับ

คุณดู The Last Samurai แล้วได้มุมมองที่ตรงข้ามกับมุมมองส่วนมาก แหวกแนวดีจังครับ

คือเรื่องนี้ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการล่มสลายของระบบ Shogun อื่นๆ อย่างเรื่องกบฎ Shinsengumi มักจะมาแนว "เราต้องรักษาคุณค่าของบรรพบุรุษไว้ ไม่หวั่นไหวแม้วันมามาก เอ้ย!!! แม้วันที่มีสิ่งที่ใหม่กว่าเข้ามา เราต้องไม่ลืมคุณค่าของเรา" ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวครับ
มุมมองส่วนมากนี่คืออะไรหรือครับ

ผมชอบดาบพระเอกที่ถูกสลักไว้น่ะครับ ว่าข้าเป็นของผู้ที่นำวิถีเก่าและใหม่มาบรรจบ
แล้วก็เราต้องไม่ลืมว่าเราเป็นใคร หรือมาจากไหน ครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 13, 2010, 00:01:28
มุมมองส่วนมากก็

เราต้องไม่ลืมว่าเราเป็นใคร หรือมาจากไหน

ส่วนที่ว่าเราต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเนี่ย ถ้าไม่ดูแล้วสังเกต ก็อาจจะไม่ได้จับประเด็นนี้ เพราะหนังมันไม่ได้สื่อชัดเจน (ในมุมมองผม) หรือแม้แต่ประวัติบุคคลสำคัญอย่าง Saigo Takanori ซามูไรคนสุดท้าย หรือเรื่องของกบฎชินเซ็น ที่จงรักภักดีต่อระบอบโชกุน (อันนี้ผมไม่ได้อ่าน แต่ผมลองเปิดดูบนเว็บหลายๆ เว็บ หรือพวกการ์ตูนอีกที) ก็จะเน้นถึงคุณธรรมในการไม่ลืมรากเหง้าเป็นส่วนมาก (จากความรู้สึกของผมนะ ส่วนท่านอื่นอาจจะคิดต่างจากผมก็ได้)

แต่ชอบคำนี้จัง "ข้าเป็นของผู้ที่นำวิถีเก่าและใหม่มาบรรจบ" มันเหมือนจะเป็นวิธีการก้าวไปสู่อนาคตเลยครับ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 13, 2010, 00:13:49
โห ผมก็คงไม่ได้ทราบเรื่องของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากขนาดนั้นน่ะครับ (แหม แค่ม.ปลายเรียนสายศิลป์-ญี่ปุ่น)
แล้วก็ที่ผมจะสื่อนั่นแหละครับ ว่าเราควรก้าวไปในอนาคต แต่ก็ต้องมองว่ามันจะสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมได้
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 13, 2010, 00:18:17
โห ผมก็คงไม่ได้ทราบเรื่องของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากขนาดนั้นน่ะครับ (แหม แค่ม.ปลายเรียนสายศิลป์-ญี่ปุ่น)
แล้วก็ที่ผมจะสื่อนั่นแหละครับ ว่าเราควรก้าวไปในอนาคต แต่ก็ต้องมองว่ามันจะสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมได้

ผมก็ไม่ได้รู้มากหรอก เพียงแต่ผมอ่านการ์ตูนกับอ่านพวกเว็บ โดยเฉพาะ Wikipedia เยอะเท่านั้นเอง ซึ่งก็ดีอย่างคือ ไม่ต้องเสียเงินซื้ออ่าน

เออ แต่ศิลป์ญี่ปุ่น เขามีสอนพวกวัฒนธรรม หรือประวัติศาสตร์เพิ่มเติมมั้ยเนี่ย ผมก็ไม่เคยรู้ เพราะผมเรียนวิทย์มา

ชีวิตนี้คงได้แต่ すみません กับ ありがとう 555 ไม่ได้แตะภาษาญี่ปุ่นมา 2 เดือนแล้ว ไม่รู้จะลืมรึเปล่า เฮ้อ
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 13, 2010, 00:28:29
โห ผมก็คงไม่ได้ทราบเรื่องของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากขนาดนั้นน่ะครับ (แหม แค่ม.ปลายเรียนสายศิลป์-ญี่ปุ่น)
แล้วก็ที่ผมจะสื่อนั่นแหละครับ ว่าเราควรก้าวไปในอนาคต แต่ก็ต้องมองว่ามันจะสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมได้

ผมก็ไม่ได้รู้มากหรอก เพียงแต่ผมอ่านการ์ตูนกับอ่านพวกเว็บ โดยเฉพาะ Wikipedia เยอะเท่านั้นเอง ซึ่งก็ดีอย่างคือ ไม่ต้องเสียเงินซื้ออ่าน

เออ แต่ศิลป์ญี่ปุ่น เขามีสอนพวกวัฒนธรรม หรือประวัติศาสตร์เพิ่มเติมมั้ยเนี่ย ผมก็ไม่เคยรู้ เพราะผมเรียนวิทย์มา

ชีวิตนี้คงได้แต่ すみません กับ ありがとう 555 ไม่ได้แตะภาษาญี่ปุ่นมา 2 เดือนแล้ว ไม่รู้จะลืมรึเปล่า เฮ้อ
ผมก็อ่านจากวิกิแหละครับ แต่ก็อ่านไปลืมไป 555 นี่ก็กลับไปอ่านอยู่
ศิลป์ญี่ปุ่นก็จะมีสอนวัฒนธรรมนิดหน่อย ตื้นๆเท่านั้นเองครับ

ไม่ต้องกังวลครับ ผมเรียนมาเองยังลืมหมดเล้ยย  :'(
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Jxxx ที่ ธันวาคม 13, 2010, 01:16:43
ต้องไปหาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงบาคุมัตสึ(Bakumatsu, 幕末) มาอ่านครับ

หรืออ่านประวัติของ Sakamoto Ryoma มาอ่านก็ได้ครับ (เคยมีทำเป็น manga ด้วยครับ)  มีทำเป็นหนังด้วยครับของ NHK (Ryomaden)

ลองอ่านให้ละเอียดนะครับ แล้วย้อนมามองบ้านเราในตอนนี้ครับ

ปล

แล้วจะได้รู้จักคนก่อตั้ง Mitsubishi ด้วยครับ (Iwasaki Yataro)
หัวข้อ: Re: มีกฎหมายแบบนี้ด้วยหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ธันวาคม 13, 2010, 01:41:29
ต้องไปหาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงบาคุมัตสึ(Bakumatsu, 幕末) มาอ่านครับ

หรืออ่านประวัติของ Sakamoto Ryoma มาอ่านก็ได้ครับ (เคยมีทำเป็น manga ด้วยครับ)  มีทำเป็นหนังด้วยครับของ NHK (Ryomaden)

ลองอ่านให้ละเอียดนะครับ แล้วย้อนมามองบ้านเราในตอนนี้ครับ

ปล

แล้วจะได้รู้จักคนก่อตั้ง Mitsubishi ด้วยครับ (Iwasaki Yataro)

ขอบคุณครับ ผมก็ไม่ได้อ่านเยอะด้วยสิ อยากอ่านประวัติของพวกท่าน Saigo หรือ Shinsengumi แล้วก็เรื่องสมัยสงคราม Boshin เหมือนกัน