ยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ :- ปัจจุบัน ประเทศไทย มีโรงกลั่นน้ำมันรวมทั้งหมด 6 โรง กำลังการกลั่นสูงสุดรวม 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ซึ่งที่ทำอยู่จริงๆ จะเป็นน้ำมันดิบที่ได้จากการขุดเจาะในประเทศ 15% นำเข้าจากต่างประเทศ 85% โดยจะกลั่นได้
เบนซิน ราว 20% , JetOil 15% , ดีเซล 50% รวม 3 ตัวนี้ ได้ 85% ที่เหลือจะเป็น น้ำมันเตาและ LPG รวมกันได้อีกไม่เกิน 20%
นั่นหมายความว่า จากน้ำมันดิบ 100% กลั่นแล้ว จะได้ product ที่ราคาแพงกว่าน้ำมันดิบ แค่ 85% อีก 20% จะได้ของราคาถูกกว่าน้ำมันดิบ
เพียงแต่ปริมาตรที่กลั่นได้ มันจะเพิ่มขึ้นกว่าตอนเป็นน้ำมันดิบมาอีกหน่อยนึง ราวๆ 4-6%
และจากตัวเลขที่ผมตามเก็บข้อมูลมาตลอดหลายปี การใช้น้ำมันของคนไทย
>> เบนซิน 30 ล้านลิตร/วัน , ดีเซล 65 ล้านลิตร/วัน (ตัวเลขนี้ ตอนกลางปีที่แล้ว ก่อนเศรษฐกิจเริ่มซบเซาและก่อนวิกฤต Covid-19 นะครับ)
นั่นหมายความว่า ในภาพรวม ทุกโรงกลั่นจะขายในประเทศได้แค่ราวๆ 80% แล้วต้องส่งออก 20% เพื่อเดินเครื่องให้เต็มกำลังการกลั่นสูงสุด
(ต้นทุนต่อหน่วยผลิตภัณฑ์จะได้ต่ำสุด)
ถ้าอยากจะรู้ว่า ข้อมูลที่ผมเล่ามาทั้งหมดตามข้อความข้างบนนี้ จริงหรือไม่จริง เชิญไปเปิด link ข้างล้างนี้
" การจัดหาและจำหน่าย " ของ กรมธุรกิจพลังงาน ... หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบโดยตรงกับ กิจการโรงกลั่นน้ำมันในไทย (ถ้ายังไม่เชื่อหน่วยงานนี้ แต่จะไปเชื่อคนอื่น ก็เรื่องของคุณแล้วครับ)
https://www.doeb.go.th/2017/#/article/statistic ... >> ต้องเอาเม้าส์ชี้ไปที่ " การจัดหาและจัดจำหน่าย "
แล้วก็จิ้มไปที่ " สรุปการผลิต นำเข้า จำหน่าย และส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง " แล้วก็เลือกดาวน์โหลดไฟล์ เดือนธันวาคมของทุกปีมาดูเลยครับ
(เพราะมันจะมีสรุปข้อมูลทั้งปีของปีนั้นๆ มาให้ดูด้วย)
3. ทุกคนที่ได้อ่านข้อความนี้ .. พอได้อ่านแล้ว ยังมีตรงไหนสงสัย อยากรู้ อยากถามอะไรเพิ่มเติมอีก ... ก็มาถามละกันครับ
ถ้าผมรู้คำตอบ ผมจะตอบให้เลย / ถ้าผมไม่รู้คำตอบ ผมอาจจะพอแนะนำได้ว่า จะไปหาคำตอบที่ถูกต้องนั้น จากที่ไหน ?
OK นะครับ