Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 31, 2016, 09:42:16
-
:) :) :) ถ้าเป็นลูกวัยรุ่นของท่านนะครับ อยากทราบว่าท่านมีแนวคิดเกี่ยวกับการเริ่มต้นขับรถยนต์ ของลูกๆที่เริ่มเป็นวัยรุ่นมัธยม กำลังเข้ามหาลัย อย่างไรดีครับ ตัวผมตั้งใจจะให้ลูกชาย เอา Swift Eco คันเล็กที่บ้านไปลองหัดขับหัดใช้เสียก่อน ตอนปี2-3 ที่มหาลัย ( ต่างจังหวัด )คิดว่าเป็นรถเล็กๆน่าจะเหมาะกับการเริ่มต้น ให้พอได้เสียก่อนแล้วพอจบก็ยกให้เขาดูแลมันต่อเอง ท่านสมาชิกมีแนวทางเรื่องนี้อย่างไรครับ
-
หัดขับใหม่ๆ Eco car ก็ดีครับขับง่าย แต่พอเค้าเริ่มขับเป็นแล้ว คล่องแล้ว สำหรับเด็กผู้ชายอาจจะเริ่มอยากหาอะไรใหม่ๆ ที่แรงกว่าครับ เช่น Mazda 2
-
ถ้าลูกผู้ชาย
ให้มือสองที่ไม่เก่าเกินไปนัก เกียร์ MT
จะได้เรียนรู้เกียร์ MT และรถเก่าจะได้พอจะแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ถ้าลูกผู้หญิง
eco car เกียร์ auto รถใหม่เท่านั้น (แต่หัด MT ไว้ให้ด้วย)
-
หากเป็น teenage ให้เอารุ่นเล็ก หรือคันเก่า ไปใช้ครับ
เพราะเขายังไม่รู้จักรักษาของ หรือเพื่อนๆ เยอะไป ของพัง สกปรกได้ง่าย จะได้ไม่ต้องดูแลรักษาเยอะ
-
ถ้าลูกผู้ชาย
ให้มือสองที่ไม่เก่าเกินไปนัก เกียร์ MT
จะได้เรียนรู้เกียร์ MT และรถเก่าจะได้พอจะแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ถ้าลูกผู้หญิง
eco car เกียร์ auto รถใหม่เท่านั้น (แต่หัด MT ไว้ให้ด้วย)
+1 หัดขับMTด้วยเผื่อฉุกเฉินเจอรถอะไรก็ขับได้ครับ
-
เด็ดขาดเรื่องค่าขนม+ค่าน้ำมันด้วยครับ อยู่ไกลหูไกลตาเราอาจจะเอาไปขับเที่ยวเล่น (ไม่ว่าจะเอาไปเอง หรือโดนเพื่อนๆชวนไปเพราะมีรถ) น้ำมันหมด ไม่มีตังค์เติมน้ำมันขับกลับบ้าน ถ้าลูกเป็นเด็กเรียบร้อยก็สบายใจหายห่วง ;D
-
สำหรับผม ถ้ามีรถที่บ้านเหลืออยู่แล้ว ให้เค้าเอารถที่บ้านไปใช้ก่อนครับ
พอเรียนจบ ค่อยออกป้ายแดง ECO Car หรือ B segment
แต่ถ้าไม่มีรถแต่แรก ออก Eco Car ก็ไม่เลวครับ แต่ต้องดูรุ่นที่มีออฟชั่นความปลอดภัยดีๆ และที่สำคัญเน้นประหยัดครับ
อย่าเพิ่งไปออกรุ่นแรงๆ
-
เด็กใช้ ระวัง เรื่อง อุบัติเหตุ การ เอาไปแต่ง ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง (ใช้รถเยอะ)
-
1. ไม่แพง
2. ไม่แรง
3. ระบบความปลอดภัยครบ
-
มีรถอยู่แล้วก็เอาคันนั้นแหละครับแต่ถ้าต้องได้ซื้อใหม่อยู่ดีแนะนำกระบะแคปมือสองครับ ขวัญใจเพื่อนๆกันเลยทีเดียว
-
ซื้อประกันชั้น 1 หรือชั้น 2 ให้ด้วยนะครับ
เดี๋ยวจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกับ นศ. มหาวิทยาลัยชื่อดัง ขับรถราคาแพงไปเที่ยวลำปางกัน
-
City jazz mazda2 เหมาะครับ
-
ลูกเป็นคนชอบรถไหมครับ ถ้าใช่ ให้เค้าลองเสนอขึ้นมาครับว่าาอยากขับอะไร แล้วเราค่อยมากรองอีกที
ปล. สมัยผมเรียน ม. Isuzu Dmax เป็นอะไรที่แซ๊บมาก
-
ถ้าขับปรกติรถอะไรก็ใช้ได้ครับ แต่ถ้าลูกใจร้อน นิสัยขับรถเร็ว ... ถ้าที่บ้านมี benz ก็ให้ใช้ benz ไปเลยครับ เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง อย่างเพื่อนผมตอนสมัยมหาลัย ก็เมา ขับรถข้ามเกาะกลางถนน มาชน taxi ที่สวนมา ถ้าไม่ใช่ benz คงไปยมโลกแล้ว
-
ถ้าเป็นผมจะยังไม่ซื้อให้จนกว่าจะเรียนจบครับ และถ้าเรียนจบแล้วก็ซื้อให้เพียงแค่ดาวน์แล้วให้ไปส่งเองครับ
เพราะผมอยากสอนให้เขารู้จักอดทนและเรียนรู้คุณค่าของสิ่งที่หามาได้ครับ ส่วนเรื่องความยากลำบากในการเดินทางต่างจังหวัดนั้นสมัยนี้ไม่ยากหรอกครับ สามารถไปได้เพียงแต่จะไม่สะดวกสบายก็แค่นั้นเอง
-
เป็นผมถ้าพึ่งเริ่มหัดขับผมไม่มีทางปล่อยให้เอารถไปใช้หรอกครับ อย่างน้อยก่อนให้ไปใช้ไกลตาเราก็ต้องหัดให้เขาพอให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่ไปสร้างภาระบนท้องถนนให้คนอื่นเขา อย่าพึ่งรีบร้อนครับ ผมตอนเป็นรถใหม่ๆๆก็อ้อนพ่อประจำอยากเอารถไปใช้ตอนเรียน พ่อผมก็ไม่อนุณาตแต่เวลาไปไหนมาไหนท่านจะให้ผมขับพาไปตลอด ไปตลาด ไปเที่ยว ไปห้าง เดินทางไกล พ่อผมเขาบอกว่าอยากดูว่าเราขับรถเป็นอย่างไร สติ การตัดสินใจ กฏจราจร การกะระยะรถเวลาจอดข้างทาง ถอยเข้าถอยออก พอเขามั่นใจผมก็ได้รถมาใช้ครับ
-
เป็นผมคงจะให้เค้าขับทางไกลหน่อยเเล้วให้เรานั่งไปด้วย ดูว่าเค้าขับคล่องเเล้วหรือยัง ถึงจะค่อยหารถให้เค้าเป็นเกียร์ธรรมดายิ่งดี จะได้ขับได้หมด
-
ไม่ต้องแรงไม่ต้องคันใหญ่แต่ความปลอดภัยต้องมาเต็ม
-
เป็นผมถ้าพึ่งเริ่มหัดขับผมไม่มีทางปล่อยให้เอารถไปใช้หรอกครับ อย่างน้อยก่อนให้ไปใช้ไกลตาเราก็ต้องหัดให้เขาพอให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่ไปสร้างภาระบนท้องถนนให้คนอื่นเขา อย่าพึ่งรีบร้อนครับ ผมตอนเป็นรถใหม่ๆๆก็อ้อนพ่อประจำอยากเอารถไปใช้ตอนเรียน พ่อผมก็ไม่อนุณาตแต่เวลาไปไหนมาไหนท่านจะให้ผมขับพาไปตลอด ไปตลาด ไปเที่ยว ไปห้าง เดินทางไกล พ่อผมเขาบอกว่าอยากดูว่าเราขับรถเป็นอย่างไร สติ การตัดสินใจ กฏจราจร การกะระยะรถเวลาจอดข้างทาง ถอยเข้าถอยออก พอเขามั่นใจผมก็ได้รถมาใช้ครับ
+1 ดีมากเลยครับ
-
ถ้าขับปรกติรถอะไรก็ใช้ได้ครับ แต่ถ้าลูกใจร้อน นิสัยขับรถเร็ว ... ถ้าที่บ้านมี benz ก็ให้ใช้ benz ไปเลยครับ เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง อย่างเพื่อนผมตอนสมัยมหาลัย ก็เมา ขับรถข้ามเกาะกลางถนน มาชน taxi ที่สวนมา ถ้าไม่ใช่ benz คงไปยมโลกแล้ว
ถ้าแบบนี้ก็ไม่ควรให้ขับแม้แต่รถอะไรเลยครับ เมา ขับข้ามเกาะกลาง ชนคันอื่นที่เขาไม่รู้เรื่อง น่าจะชนต้นไม้ที่เกาะกลางซะมากกว่า
-
ผมจัด MT กะบะ มือสองให้หัดขับแข็งๆไปเลย
พอเค้า ขับกะบะ จนชิน และ รู้ว่ามันไปได้ทุกหนแห่ง บนถนน เกือบทุกสภาพ
-
ถ้าขับปรกติรถอะไรก็ใช้ได้ครับ แต่ถ้าลูกใจร้อน นิสัยขับรถเร็ว ... ถ้าที่บ้านมี benz ก็ให้ใช้ benz ไปเลยครับ เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง อย่างเพื่อนผมตอนสมัยมหาลัย ก็เมา ขับรถข้ามเกาะกลางถนน มาชน taxi ที่สวนมา ถ้าไม่ใช่ benz คงไปยมโลกแล้ว
ถ้าแบบนี้ก็ไม่ควรให้ขับแม้แต่รถอะไรเลยครับ เมา ขับข้ามเกาะกลาง ชนคันอื่นที่เขาไม่รู้เรื่อง น่าจะชนต้นไม้ที่เกาะกลางซะมากกว่า
อืม ถ้า ลูกนิสัย แบบนั้น ผมไม่ให้ขับรถละ
-
กระบะ 4 ประตูเลยครับ เผื่อขนของตอนเรียนจบ ใช้ยาวๆทำงานได้ด้วย
-
คันเก่าของพ่อ นี่แหละ
ไม่เฉี่ยวชน ครบปีค่อยคุยเรื่องรถใหม่
-
ไม่ซื้อให้ใหม่ครับ ผมอยากให้ใช้รถสองแถวหรือรถเมย์ดีกว่าครับ แต่ถ้าจำเป็นก็ใช้คันเก่าที่บ้านไปเลย ถ้าที่บ้านไม่มีรถเหลือก็หาซื้อคันเก่าๆมือสองให้ ไม่ให้คันใหม่แน่ ไม่ใช่เพราะอะไรนะครับ เพราะผมก็ได้ใช้คันเก่าของที่บ้านจนเรียนจบมีงานทำครับ อีกอย่างเด็กวัยนี้มีเท่าไหรเหยียบเท่านั้นครับ เค้าไม่เสียดายชีวิตหรอกครับ
-
swif ก็ดีแล้วครับ แต่ก่อนไปสอนเขาเรื่องมารยาทการขับรถ แล้วไปสอบเอาใบขับขี่ให้เรียบร้อย กำชับให้เขารักษากฏ กติกามารยาทในการขับรถ และมีน้ำใจด้วย รวมถึงการดูแลรักษารถเพราะมันเป็นของเขาแล้ว รถถ้าเรารักมัน มันก็จะรักเราครับไม่พาเราไปกินข้าวลิงง่ายๆ ผมเข้าใจเพราะลูกคุณไปเรียนต่างจังหวัดยังไงก็ดีกว่าเนื้อหุ้มเหล็กแน่ ตอนเรียนกลุ่มผมเล่น บิ๊กไบท์ ตอนนั้นฮิตพวก nc ตายไปแล้วก็มี มีรถยนต์ก็เอารถยนต์ให้เขาขับดีกว่าจะได้ไม่ต้องห่วงเขาเยอะ
-
3doorB16+B20
jazz vios set turbo
brio L15
cef A31 bmw E36 1JZ GTE
vigo dmax piggy back turbo3000
-
เอารถเล็กๆไปใช้ก่อนครับ มือสองปีใหม่ๆก็ได้ถ้าซื้อสด สภาพดีๆเยอะครับ
แต่ส่วนตัวผมไม่เคยขับรถเล็กเลย ขอรถใหญ่ๆพ่อตลอด ชอบครับ
-
ของผมหัดโตโยต้ารุ่นม้าดำกระโดดเกียร์ธรรมดา พวงมาลัยพาวเย้อ
-
จะดูความเหมาะสมเป็นหลัก ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้นก็อยากให้ใช้รถสาธารณะ สถานีรถไฟก็ห่างจากบ้านไป10นาทีเดินยังได้
แต่ถ้าได้ไปอยู่มหาลัยไกลๆก็คงจะออกให้ แต่อยากให้ใช้รถใหญ่ๆไว้ก่อนครับ เวลาชนยังไงก้เหล็กหุ้มเนื้ออาจจะเข้าไม่ถึงตัวคนขับ เน้นปลอดภัย
บางคนอาจจะถามผมว่าเอาความเชื่อนี้มาจากไหน มันคือความสบายใจล้วนๆครับ ที่เห็นลูกใช้รถที่ดูแล้วปลอดภัย หายห่วง
แต่คันแรกก็ยังจะไม่ซื้อพวกแรงม้าสูงๆให้ วัยรุ่นมันใจร้อน เอาคันใหญ่พอประมาณ ช่วงล่างไว้ใจได้ และสองสามเดือนแรก
ผมจะนั่งไปด้วย ให้ขับพาไปกินข้าวบ้าง ไปเที่ยวบ้าง และก็สอนเค้าไปในรถเรื่องกฏกติกามารยาทบนถนน สอนให้ใจเย็น อย่าทำตัวเป็นพวกใจร้อน ถ้าดูแล้วมันอยู่ในโอวาท ค่อยหาคันใหม่ที่ลูกชอบให้
-
เอารถที่มีความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะจ่ายได้ให้ลูกครับ.....อย่ามองแต่ว่าวัยรุ่นจะต้องคะนองขับเร็ว เด็กจะทำตัวก่อปัญหาให้สังคมไหมก็มาจากการสั่งสอนของพ่อแม่ ถ้าสั่งสอนมาดีให้ใช้รถอย่างถูกต้อง อย่าเห็นรถยนต์เป็นของเล่นใช้แข่งความเร็วกับคนอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไร ห่วงลูกให้มากที่สุดกว่าห่วงเงินดีกว่าครับ เงินจะหาเพิ่มเมื่อไหร่ก็ได้แต่ลูกคนนึงคนเป้นพ่อแม่น่าจะเข้าใจว่ามีค่ามากมายแค่ไหน....ที่สำคัญอุบัติเหตุมันไม่ได้เกิดมาจากเราไปชนเค้าอย่างเดียว คนอื่นมาชนก็เกิดขึ้นเยอะแยะไป.....
-
ผมจะส่งไปเรียนที่โรงเรียน Toyotaracingschool ครับหรือไม่ก็โรงเรียน Sing racingschool
เขาจะเรียนรู้การขับรถ การดูแลรถด้วยตัวเอง เราไว้ใจได้ว่าลูกจะไม่เอารถออกไปซิ่งที่ไหน แล้วเขาจะรู้ตัวเองว่ารถคันไหนมันเหมาะกัีบจริตของเขาเอง ทุกวันนี้เราแต่มโนไปว่าลูกจะชอบรถคันนั้นคันนี้ที่เราซื้อมา
ลองให้โรงงเรียนเหล่านี้ไปดึงเอาวิญญาณนักขับสัญชาติญาณการขับออกมาแล้วจะรู้จริตที่แท้จริง
-
3doorB16+B20
jazz vios set turbo
brio L15
cef A31 bmw E36 1JZ GTE
vigo dmax piggy back turbo3000
ในเม้นนี่ซิ่งๆทั้งนั้นเลยนะครับ 555
-
eco car ครับ หรือไม่ก็ b segment ที่ลดราคา
ถ้างบไม่ใช้ปัญหา
แนะนำมือ 1 ครับ 8)
-
เเนะนํา D-Seg 2.0 ยี่ห้อใดก็ได้ครับ
ตอนนี้ผมพึ่งอยู่ธรรมศาสตร์ รังสิต มันไกลจากบ้านมาก พ่อออก Camry 2.0 ACV40 ให้
บอกว่าพึ่งหัดขับ เริ่มคันใหญ่เลย ถ้าคันใหญ่คล่อง ก็ไม่ต้องห่วงอะไรเเล้วเเละพ่อห่วงเรี่องความปลอดภัย เอาคันใหญ่ไว้ก่อน
เเต่ก็อย่างที่พ่อพูดอะเเหละ ผมเข้าเกียร์ R อยู่เเล้วผมลืมตัว กดคันเร่งจะออกตัว ชนกับเสากั้นที่ปั๊ม LPG (เอาไปเติมเเก๊ส) เปรียงงง กันชนหลังเเตก
ดีนะที่มีเสากั้น ถ้าไม่มีคงไฟลุกไปเเล้ว
-
ขอตอบในฐานนะ นักศึกษามหาลัยต่างจังหวัดนะครับ
จริงๆการมีรถใช้ในมหาลัยมันก็มีทั้งความจำเป็นและไม่จำเป็นนะครับ แล้วแต่สถานที่และสถานการณ์
อย่างผมเรียนอยู่ศิลปากร เพชรบุรี เพิ่อนได้รถมาใช้ตอนปี 3 แต่ผมเป็นคนขับ มีความจำเป็นมีอยู่บ่อยครั้ง
เพราะหากไม่มีรถ ถ้าเข้าไปซื้อของหรือทำธุระที่หัวหินทีนึงต้องเหมารถไป 600 บาท แล้วกลางคืนหลัง 5 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า มหาลัยปิดประตู เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการอะไรเร่งด้วย ต้องขับไป เซเว่นที่ปั้ม ไปกลับ 10 โลได้ ทั้งๆที่ในมหาลัย เซเว่นเปิด 24 ชั่งโมง แต่นักศึกษาเข้าไปในมหาลัยไม่ได้ ส่วนหอในก็ปิดประตูลงมาไม่ได้เช่นกัน
ที่สำคัญสุด หลัง 3 ทุ่ม ถึง 8 โมงเช้า หากเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล หรือมีหมอนัดตอนเช้าหรือกลาง ต้องขับรถไปกันเอง เพราะมหาลัยมีรถไปโรงพยาบาลแค่ 5 โมงเย็นรอบเดียว แล้วก็กลางคืนไม่มีห้องพยาบาล มีแต่กล่องพยาบาลและยาสามัญตามหอในเท่านั้น ส่วนนศ.ที่อยูหอนอก ต้องช่วยเหลือตัวเอง โรงพยาบาลที่ใกล้สุดก็เกือบ 30 โลครับ
ผมเองเคยเจอประสบการณ์ที่ รุ่นน้องป่วยไข้ 40 ต้องหามส่งโรงพยาบาล คิดในใจถ้าไม่มีรถ จะทำไงเนี่ย
นอกจากนี้ การมีรถยังสอนให้ผมรู้จัดบริหารเงินให้พอใช้ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ต้องบริหารกันเอาเอง ไปใกล้ๆก็เดินเอา ประหยัดน้ำมัน ไกลหน่อยก็ขับรถ แต่พวกผมตั้งกฎเหล็กว่า
"ถ้าเหล้าเข้าปาก ห้ามขับรับเด็ดขาด หรือถ้าไปไกลๆ จะต้องมี 1 คนที่ไม่แตะเหล้าแล้วเป็นคนขับ แล้วก็ถ้าดึกมากหรือไม่มีความจำเป็นจะต้องไปไหน ก็จะไม่ไปไหนกัน" ซึ่งตลอด 3 ปี เจออุบัติเหตุเบาๆ 2 ครั้ง
ส่วนรถนั้นแม้ถนนหน้าม.จะเป็นบายพาสลงใต้ แต่ B segment ก็ยังเยอะสุด โดยเฉพาะ City เยอะมากๆ แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีนศ. Celerio Brio ยัน C300h AMG หรือแม้กระทั่ง Odysssey ใหม่ ก็มีนะ
ดั้งนั้นถ้ารถที่จะออกให้ ผมว่าต้องดูสิ่งแวดล้อมคู่กับงบประมาณ อย่างมหาลัยผม รถควรจะใหญ่นิดนึง แบบC seg หรือ B ที่ช่วงล่างดีๆหน่อยและแต่หน่อย เพราะ Vios เพื่อนผมขับแล้วยังสั่นๆหวิวๆเลย
-
เดียวนี้มีแต่มาขอเงินซื้อ bigbike >:( >:( >:( >:(
-
รถใหญ่มือสองครับ
-
ควรเริ่มจากรถเก่าก่อนครับ และอบรมให้เขารู้จักรักษารถ รักษาของ เช่นหัดให้ล้างรถเองรักษาความสะอาดเอง
หรือพวกค่าน้ำมันก็ไห้แบบเหมาจ่าย ฝึกให้เขาคุมค่าใช้จ่ายเอง
อย่างผม ตอนเด็กๆพ่อจะเรียกไห้มาช่วยล้างรถเป็นประจำ แล้วก็ค่อยเริ่มสอนให้หัดขับรถ
สอนเช็กรถนู่น นี่ นั่น มันก็ค่อยๆซึมซับมาเรื่อยๆ
พอโตมา พ่อก็ยกรถกระบะ tiger มาไห้ใช้ต่อ ผมก็ดูแลอย่างดี ล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอ
แต่น้องสาวผม พ่อตามใจ ซื้อรถมาสด้าสองป้ายแดงไห้ แต่น้องก็ใช้ไม่รักษา รถนานๆล้างที
ใช้ก็ไม่รักษาของ สภาพรถโทรมมาก เพราะไม่ได้ถูกอบรมปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ
แล้วก็อีกเรื่องนึง ถ้าลูกชายของ จขกท ได้รถไปใช้ แน่นอนว่าน้องเขาต้องโดนเพื่อนขอติดรถไปนู่นมานี่ด้วยแน่ๆ
และปัญหาที่จะเจอคือน้องต้องจ่ายค่าน้ำมันเดียว และสภาพรถก็จะโทรมเพราะเพื่อนต้องอัดกันไปในรถบ่อยๆ
ยังไงก็กำชับน้องเขาด้วยนะครับ
-
สำหรับเพิ่งสอบเข้ามหาลัยได้
หากเงินเหลือ
SLK
Z4
ไม่ก็
พวก focus boot turbo, c coupe
อย่าเน้นรถที่นั่งเยอะหรือนั่งสบาย รับสาวจะได้ไม่มีก้างนะ
ปล. อาจจะมาจากปมด้อย. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
-
รถ C SEGMENT มือสอง ขับขี่ดี ระบบความปลอดภัยเยอะหน่อยครับ
อารมณ์ประมาณ MAZDA 3 BK 2.0 ครับ
-
เป็นผมถ้าพึ่งเริ่มหัดขับผมไม่มีทางปล่อยให้เอารถไปใช้หรอกครับ อย่างน้อยก่อนให้ไปใช้ไกลตาเราก็ต้องหัดให้เขาพอให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่ไปสร้างภาระบนท้องถนนให้คนอื่นเขา อย่าพึ่งรีบร้อนครับ ผมตอนเป็นรถใหม่ๆๆก็อ้อนพ่อประจำอยากเอารถไปใช้ตอนเรียน พ่อผมก็ไม่อนุณาตแต่เวลาไปไหนมาไหนท่านจะให้ผมขับพาไปตลอด ไปตลาด ไปเที่ยว ไปห้าง เดินทางไกล พ่อผมเขาบอกว่าอยากดูว่าเราขับรถเป็นอย่างไร สติ การตัดสินใจ กฏจราจร การกะระยะรถเวลาจอดข้างทาง ถอยเข้าถอยออก พอเขามั่นใจผมก็ได้รถมาใช้ครับ
+1 ดีมากเลยครับ
*1 ครับ ที่สำคัญสุดคือการกำชับถึงเรื่องวินัยในการขับ และเรื่องความปลอดภัย
ส่วนรถก็ตามงบของทางบ้านเลยครับ
-
ขอตอบในฐานนะ นักศึกษามหาลัยต่างจังหวัดนะครับ
จริงๆการมีรถใช้ในมหาลัยมันก็มีทั้งความจำเป็นและไม่จำเป็นนะครับ แล้วแต่สถานที่และสถานการณ์
อย่างผมเรียนอยู่ศิลปากร เพชรบุรี เพิ่อนได้รถมาใช้ตอนปี 3 แต่ผมเป็นคนขับ มีความจำเป็นมีอยู่บ่อยครั้ง
เพราะหากไม่มีรถ ถ้าเข้าไปซื้อของหรือทำธุระที่หัวหินทีนึงต้องเหมารถไป 600 บาท แล้วกลางคืนหลัง 5 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า มหาลัยปิดประตู เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการอะไรเร่งด้วย ต้องขับไป เซเว่นที่ปั้ม ไปกลับ 10 โลได้ ทั้งๆที่ในมหาลัย เซเว่นเปิด 24 ชั่งโมง แต่นักศึกษาเข้าไปในมหาลัยไม่ได้ ส่วนหอในก็ปิดประตูลงมาไม่ได้เช่นกัน
ที่สำคัญสุด หลัง 3 ทุ่ม ถึง 8 โมงเช้า หากเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล หรือมีหมอนัดตอนเช้าหรือกลาง ต้องขับรถไปกันเอง เพราะมหาลัยมีรถไปโรงพยาบาลแค่ 5 โมงเย็นรอบเดียว แล้วก็กลางคืนไม่มีห้องพยาบาล มีแต่กล่องพยาบาลและยาสามัญตามหอในเท่านั้น ส่วนนศ.ที่อยูหอนอก ต้องช่วยเหลือตัวเอง โรงพยาบาลที่ใกล้สุดก็เกือบ 30 โลครับ
ผมเองเคยเจอประสบการณ์ที่ รุ่นน้องป่วยไข้ 40 ต้องหามส่งโรงพยาบาล คิดในใจถ้าไม่มีรถ จะทำไงเนี่ย
นอกจากนี้ การมีรถยังสอนให้ผมรู้จัดบริหารเงินให้พอใช้ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ต้องบริหารกันเอาเอง ไปใกล้ๆก็เดินเอา ประหยัดน้ำมัน ไกลหน่อยก็ขับรถ แต่พวกผมตั้งกฎเหล็กว่า
"ถ้าเหล้าเข้าปาก ห้ามขับรับเด็ดขาด หรือถ้าไปไกลๆ จะต้องมี 1 คนที่ไม่แตะเหล้าแล้วเป็นคนขับ แล้วก็ถ้าดึกมากหรือไม่มีความจำเป็นจะต้องไปไหน ก็จะไม่ไปไหนกัน" ซึ่งตลอด 3 ปี เจออุบัติเหตุเบาๆ 2 ครั้ง
ส่วนรถนั้นแม้ถนนหน้าม.จะเป็นบายพาสลงใต้ แต่ B segment ก็ยังเยอะสุด โดยเฉพาะ City เยอะมากๆ แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีนศ. Celerio Brio ยัน C300h AMG หรือแม้กระทั่ง Odysssey ใหม่ ก็มีนะ
ดั้งนั้นถ้ารถที่จะออกให้ ผมว่าต้องดูสิ่งแวดล้อมคู่กับงบประมาณ อย่างมหาลัยผม รถควรจะใหญ่นิดนึง แบบC seg หรือ B ที่ช่วงล่างดีๆหน่อยและแต่หน่อย เพราะ Vios เพื่อนผมขับแล้วยังสั่นๆหวิวๆเลย
นี่ล่ะครับตัวอย่างของเด็กผู้ชายที่คิดได้เองจากการอบรมสั่งสอนที่ดี เยี่ยม!!!! :)
-
ถามว่าลูกชายว่าชอบรถแแบไหนก่อน และค่อยตัดสินใจเลือกครับ
Mazda 2 Diesel
Jazz
City
Vios
กลุ่ม Eco Car
-
ถ้าเป็นผม คงให้ลูกขับ Eco Car ที่คันใหญ่ๆ หน่อย อย่าง Ciaz จะได้ไม่ต้องตีนผีเท่าไรนัก :)
-
ควรเริ่มจากรถเก่าก่อนครับ และอบรมให้เขารู้จักรักษารถ รักษาของ เช่นหัดให้ล้างรถเองรักษาความสะอาดเอง
หรือพวกค่าน้ำมันก็ไห้แบบเหมาจ่าย ฝึกให้เขาคุมค่าใช้จ่ายเอง
อย่างผม ตอนเด็กๆพ่อจะเรียกไห้มาช่วยล้างรถเป็นประจำ แล้วก็ค่อยเริ่มสอนให้หัดขับรถ
สอนเช็กรถนู่น นี่ นั่น มันก็ค่อยๆซึมซับมาเรื่อยๆ
พอโตมา พ่อก็ยกรถกระบะ tiger มาไห้ใช้ต่อ ผมก็ดูแลอย่างดี ล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอ
แต่น้องสาวผม พ่อตามใจ ซื้อรถมาสด้าสองป้ายแดงไห้ แต่น้องก็ใช้ไม่รักษา รถนานๆล้างที
ใช้ก็ไม่รักษาของ สภาพรถโทรมมาก เพราะไม่ได้ถูกอบรมปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ
แล้วก็อีกเรื่องนึง ถ้าลูกชายของ จขกท ได้รถไปใช้ แน่นอนว่าน้องเขาต้องโดนเพื่อนขอติดรถไปนู่นมานี่ด้วยแน่ๆ
และปัญหาที่จะเจอคือน้องต้องจ่ายค่าน้ำมันเดียว และสภาพรถก็จะโทรมเพราะเพื่อนต้องอัดกันไปในรถบ่อยๆ
ยังไงก็กำชับน้องเขาด้วยนะครับ
;D ขอบคุณครับ ผมเองก็ห่วงตามนั้นเหมือนกัน เรื่องเพื่อนก็อย่างที่รู้ไม่รู้จะห้ามอย่างไร ลำบากเหมือนกันครับ
-
ถ้าต่างจังหวัดเอากระบะหรือรถคันใหญ่ๆครับ ถ้าใช้ในเมืองรถติด จอดยาก เอารถเก๋งครับ
ผมฝึกขับรถตอนอายุ18ปี(ฝึกกระบะเกียร์ธรรมดากับเก๋งออโต้) ทำใบขับขี่(เอาเก๋งออโต้ไปสอบ)เรียบร้อยก็ซื้อรถเลยครับ
เรื่องความเร็วก็ขับตามสถานการณ์ครับ แต่ก็เคยโดนชนท้ายอย่างแรงครั้งนึงบนมอเตอร์เวย์(แบบในคลิปซิตตี้แต่โดนชนกลับมาแล้วตั้งลำตรงเหมือนเดิม) คู่กรณีหนีด้วยครับ
เส้นทางที่ผมใช้ก็มีรถโดยสารครับแต่ผมไม่กล้านั่ง เป็นจังหวัดที่รถตู้เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ
เรื่องการบำรุงรักษาผมดูแลเองทุกอย่างทุกคันในบ้านครับ อาจจะเป็นเพราะชอบรถด้วยครับ
-
ขอตอบในฐานนะ นักศึกษามหาลัยต่างจังหวัดนะครับ
จริงๆการมีรถใช้ในมหาลัยมันก็มีทั้งความจำเป็นและไม่จำเป็นนะครับ แล้วแต่สถานที่และสถานการณ์
อย่างผมเรียนอยู่ศิลปากร เพชรบุรี เพิ่อนได้รถมาใช้ตอนปี 3 แต่ผมเป็นคนขับ มีความจำเป็นมีอยู่บ่อยครั้ง
เพราะหากไม่มีรถ ถ้าเข้าไปซื้อของหรือทำธุระที่หัวหินทีนึงต้องเหมารถไป 600 บาท แล้วกลางคืนหลัง 5 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า มหาลัยปิดประตู เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการอะไรเร่งด้วย ต้องขับไป เซเว่นที่ปั้ม ไปกลับ 10 โลได้ ทั้งๆที่ในมหาลัย เซเว่นเปิด 24 ชั่งโมง แต่นักศึกษาเข้าไปในมหาลัยไม่ได้ ส่วนหอในก็ปิดประตูลงมาไม่ได้เช่นกัน
ที่สำคัญสุด หลัง 3 ทุ่ม ถึง 8 โมงเช้า หากเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล หรือมีหมอนัดตอนเช้าหรือกลาง ต้องขับรถไปกันเอง เพราะมหาลัยมีรถไปโรงพยาบาลแค่ 5 โมงเย็นรอบเดียว แล้วก็กลางคืนไม่มีห้องพยาบาล มีแต่กล่องพยาบาลและยาสามัญตามหอในเท่านั้น ส่วนนศ.ที่อยูหอนอก ต้องช่วยเหลือตัวเอง โรงพยาบาลที่ใกล้สุดก็เกือบ 30 โลครับ
ผมเองเคยเจอประสบการณ์ที่ รุ่นน้องป่วยไข้ 40 ต้องหามส่งโรงพยาบาล คิดในใจถ้าไม่มีรถ จะทำไงเนี่ย
นอกจากนี้ การมีรถยังสอนให้ผมรู้จัดบริหารเงินให้พอใช้ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ต้องบริหารกันเอาเอง ไปใกล้ๆก็เดินเอา ประหยัดน้ำมัน ไกลหน่อยก็ขับรถ แต่พวกผมตั้งกฎเหล็กว่า
"ถ้าเหล้าเข้าปาก ห้ามขับรับเด็ดขาด หรือถ้าไปไกลๆ จะต้องมี 1 คนที่ไม่แตะเหล้าแล้วเป็นคนขับ แล้วก็ถ้าดึกมากหรือไม่มีความจำเป็นจะต้องไปไหน ก็จะไม่ไปไหนกัน" ซึ่งตลอด 3 ปี เจออุบัติเหตุเบาๆ 2 ครั้ง
ส่วนรถนั้นแม้ถนนหน้าม.จะเป็นบายพาสลงใต้ แต่ B segment ก็ยังเยอะสุด โดยเฉพาะ City เยอะมากๆ แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีนศ. Celerio Brio ยัน C300h AMG หรือแม้กระทั่ง Odysssey ใหม่ ก็มีนะ
ดั้งนั้นถ้ารถที่จะออกให้ ผมว่าต้องดูสิ่งแวดล้อมคู่กับงบประมาณ อย่างมหาลัยผม รถควรจะใหญ่นิดนึง แบบC seg หรือ B ที่ช่วงล่างดีๆหน่อยและแต่หน่อย เพราะ Vios เพื่อนผมขับแล้วยังสั่นๆหวิวๆเลย
นี่ล่ะครับตัวอย่างของเด็กผู้ชายที่คิดได้เองจากการอบรมสั่งสอนที่ดี เยี่ยม!!!! :)
:) ทางบ้านอบรมมาได้เยี่ยมจริงๆเลยครับ
-
B-Segment เกียร์ auto กำลังดีครับ
-
D-Seg มือสอง หรือ C-Seg มือสอง เป็นผมๆให้ใหญ่ๆไว้ก่อนเพราะติดกับความรู้สึกที่ไปเจอกับรถคนรู้จัก B-Seg ป้ายแดง
ประสบอุบัติเหตุสภาพไม่เหลือไรเลยแถมมีการสูญเสียด้วย เลยคิดว่าถ้ารถมันใหญ่ๆมันน่าจะดีกว่านี้
-
ผมตอบในฐานะเด็ก วัย 19 คนหนึ่งนะครับ
จากที่อ่านๆมา บ้างท่านก็โอเค บ้างท่านก็ไม่เห็นด้วยให้ลูกขับรถ
เรื่องนี้พ่อแม่ต้องคุยกับลูกเองครับ อย่าห้ามเกินไป อย่าปล่อยเกินไป กำลังดีๆจะดีสุดครับ
ผมใช้รถครั้งแรกตอน 17 พ่อไม่หัดให้ แต่ให้ไปเรียนขับ ก็เรียนจนจบ แล้วก็อยากขับ
เขาก็ไม่ค่อยให้ขับ จำได้หลังเรียนขับจบ กว่าจะได้ขับจริงๆก็ใกล้ๆ 18 (8เดือน ให้หลัง)
ก่อนหน้าก็มีให้ผมขับ พาไป สุพรรณ พาไปอยุธยาบ้าง ผมจะโดนบ่นตลอดทางว่า ขับรถช้าก็อย่าแช่ขวา
จะเว้นทำไม ห่างตั้งเยอะแยะ ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ลังเลอยู่นั้นเดี๋ยวก็โดนชนจนได้ ฯลฯ จนผมอ่อนล้าไม่อยากขับเลย แต่สักพัก พอเขาเห็นผมขับดีขึ้น ก็มีใช้ให้ ไปรับแม่กลับจากร้าน คนเดียว ก็ได้ขับเต็มทีตั้งแต่ตอนนั้นครับ (ร้าน(เมืองทองฯ)กับบ้าน(ซอยวัดกู้) ห่างประมาณ 8โลครับ)
ตอนนี้ ผมได้รถมาคันหนึ่ง ผมถอยให้ใหม่(พ่อใช้ H-1) เพราะตั้งแต่ต้นปี มหาลัย ผมมีเรียน 6วันต่อสัปดาห์ แล้วก็ผมยังลงเรียน ภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีกวันอาทิตย์ ทำให้ ต้องหารถเพิ่ม แยกกัน พ่อไปส่งน้อง ผมมามหาลัย(มธรังสิต)
เขาให้ fortuner ตัวใหม่ครับ อันนี้ผมไม่ได้เลือกเอง เขาเลือกให้ ตอนนี้ก็ใช้มา 3 เดือนแล้วครับ
ตัวผมนอกจากขับไปกลับมหาลัย ก็มีบ้างที่พาเพื่อนไปข้างนอก เช่น ไปห้างฟิวเจอร์ ไปกินข้าวข้างๆมหาลัย(ไกลจากคณะ 3โล) ไปทำงานที่ชุมชน(วิชาบังคับ) ขับไปธุระในเมืองคนเดียว หรือบางวันเลิกเร็วก็ขับกลับมารับน้องแทนพ่อ
วันหยุดก็ไปหาย่าที่สุพรรณบางครั้ง แล้วทุกคืนจะขับไปรับแม่ตลอด เป็นหน้าที่ไปแล้ว
ผมว่ามีรถนี้ก็ดีสำหรับผม เพราะพ่อผมก็ได้พักผ่อนเพิ่มขึ้น ไม่ต้องไปมา เพื่อมารับผมทุกวัน
เพราะบางวัน เราก็ทำงานจนเย็น บางวันมาเรียนแค่ 3 ชม ก็ต้องมารับอีกแล้ว ได้มีเวลาทำอย่างอื่น
ส่วนผม ก็ช่วงนี้ ใช้ชเงินรอบคอบขึ้น เพราะ มีรถ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ
ตัวรถ ผมก็ดูแล ทุกวันสองวัน เช็ครอบๆคัน เช็คน้ำมันเครื่อง เช็คน้ำกลั่น ตรวจสอบตลอด
มันก็ฝึกเราไปอีกทางหนึ่งเหมือนกันครับ
เรื่องนี้อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ว่าจะมองยังไงครับ ผมอยากแชร์เรื่องราวของผมบ้าง
เพิ่มเติมครับ ปกติทุกวันนี้ ผมขับประมาณ 70-100 กม/ชม ตามปกติผม จนพ่อบ่นจะขับช้าไปไหน
เวลาเดินทางไกล โดนทุกที ;D (ก็คนเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบอ่ะพ่อ ยังไงมันก็ถึง)
เช้าๆถ้าขับไปด้วยกัน ผมโดนพ่อแซงทุกที จนตามไม่ทัน ขนาดเราออกจากบ้านก่อนเกือบห้านาที
ยังตามทันเลย
ส่วนคำถามนี้ ผมแนะนำ c-seg พอแล้วครับ สำหรับใช้งานทั่วไป พอจบ แล้วตัวรถใหญ่ แต่กำลังพอดีไม่ใหญ่เกิน เหมาะสำหรับเด็กครับ ดูรุ่นที่ความปลอดภัยเยอะพอสมควร อุปกรณ์มีพอสมควร ก็โอเคแล้วครับ
ผมจะส่งไปเรียนที่โรงเรียน Toyotaracingschool ครับหรือไม่ก็โรงเรียน Sing racingschool
เขาจะเรียนรู้การขับรถ การดูแลรถด้วยตัวเอง เราไว้ใจได้ว่าลูกจะไม่เอารถออกไปซิ่งที่ไหน แล้วเขาจะรู้ตัวเองว่ารถคันไหนมันเหมาะกัีบจริตของเขาเอง ทุกวันนี้เราแต่มโนไปว่าลูกจะชอบรถคันนั้นคันนี้ที่เราซื้อมา
ลองให้โรงงเรียนเหล่านี้ไปดึงเอาวิญญาณนักขับสัญชาติญาณการขับออกมาแล้วจะรู้จริตที่แท้จริง
ขอบคุณพี่มากนะครับ ผมอยากไปเหมือนกัน ขนาดขับเป็นพอสมควร ยังอยากไปเรียนเลย ปิดเทอม
ว่างๆน่าไปเรียนเพิ่มเติม แต่ก่อนหน้านี้ นึกชื่อไม่ออก ส่าชื่ออะไรกัน (ลืมไปกับสายลม)
-
ผมตอบในฐานะเด็ก วัย 19 คนหนึ่งนะครับ
จากที่อ่านๆมา บ้างท่านก็โอเค บ้างท่านก็ไม่เห็นด้วยให้ลูกขับรถ
เรื่องนี้พ่อแม่ต้องคุยกับลูกเองครับ อย่าห้ามเกินไป อย่าปล่อยเกินไป กำลังดีๆจะดีสุดครับ
ผมใช้รถครั้งแรกตอน 17 พ่อไม่หัดให้ แต่ให้ไปเรียนขับ ก็เรียนจนจบ แล้วก็อยากขับ
เขาก็ไม่ค่อยให้ขับ จำได้หลังเรียนขับจบ กว่าจะได้ขับจริงๆก็ใกล้ๆ 18 (8เดือน ให้หลัง)
ก่อนหน้าก็มีให้ผมขับ พาไป สุพรรณ พาไปอยุธยาบ้าง ผมจะโดนบ่นตลอดทางว่า ขับรถช้าก็อย่าแช่ขวา
จะเว้นทำไม ห่างตั้งเยอะแยะ ตัดสินใจหใ้เด็ดขาดสิ ลังเลอยู่นั้นเดี๋ยวก็โดนจนได้ ฯลฯ จนผมอ่อนล้าไม่อยากขับเลย แต่สักพัก พอเขาเห็นผมขับดีขึ้น ก็มีใช้ให้ ไปรับแม่กลับจากร้าน คนเดียว ก็ได้ขับเต็มทีตั้งแต่ตอนนั้นครับ (ร้าน(เมืองทองฯ)กับบ้าน(ซอยวัดกู้) ห่างประมาณ 8โลครับ)
ตอนนี้ ผมได้รถมาคันหนึ่ง ผมถอยให้ใหม่(พ่อใช้ H-1) เพราะตั้งแต่ต้นปี มหาลัย ผมมีเรียน 6วันต่อสัปดาห์ แล้วก็ผมยังลงเรียน ภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีกวันอาทิตย์ ทำให้ ต้องหารถเพิ่ม แยกกัน พ่อไปส่งน้อง ผมมามหาลัย(มธรังสิต)
เขาให้ fortuner ตัวใหม่ครับ อันนี้ผมไม่ได้เลือกเอง เขาเลือกให้ ตอนนี้ก็ใช้มา 3 เดือนแล้วครับ
ตัวผมนอกจากขับไปกลับมหาลัย ก็มีบ้างที่พาเพื่อนไปข้างนอก เช่น ไปห้างฟิวเจอร์ ไปกินข้าวข้างๆมหาลัย(ไกลจากคณะ 3โล) ไปทำงานที่ชุมชน(วิชาบังคับ) ขับไปธุระในเมืองคนเดียว หรือบางวันเลิกเร็วก็ขับกลับมารับน้องแทนพ่อ
วันหยุดก็ไปหาย่าที่สุพรรณบางครั้ง แล้วทุกคืนจะขับไปรับแม่ตลอด เป็นหน้าที่ไปแล้ว
ผมว่ามีรถนี้ก็ดีสำหรับผม เพราะพ่อผมก็ได้พักผ่อนเพิ่มขึ้น ไม่ต้องไปมา เพื่อมารับผมทุกวัน
เพราะบางวัน เราก็ทำงานจนเย็น บางวันมาเรียนแค่ 3 ชม ก็ต้องมารับอีกแล้ว ได้มีเวลาทำอย่างอื่น
ส่วนผม ก็ช่วงนี้ ใช้ชเงินรอบคอบขึ้น เพราะ มีรถ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ
ตัวรถ ผมก็ดูแล ทุกวันสองวัน เช็ครอบๆคัน เช็คน้ำมันเครื่อง เช็คน้ำกลั่น ตรวจสอบตลอด
มันก็ฝึกเราไปอีกทางหนึ่งเหมือนกันครับ
เรื่องนี้อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ว่าจะมองยังไงครับ ผมอยากแชร์เรื่องราวของผมบ้าง
เพิ่มเติมครับ ปกติทุกวันนี้ ผมขับประมาณ 70-100 กม/ชม ตามปกติผม จนพ่อบ่นจะขับช้าไปไหน
เวลาเดินทางไกล โดนทุกที ;D (ก็คนเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบอ่ะพ่อ ยังไงมันก็ถึง)
เช้าๆถ้าขับไปด้วยกัน ผมโดนพ่อแซงทุกที จนตามไม่ทัน ขนาดเราออกจากบ้านก่อนเกือบห้านาที
ยังตามทันเลย
ส่วนคำถามนี้ ผมแนะนำ c-seg พอแล้วครับ สำหรับใช้งานทั่วไป พอจบ แล้วตัวรถใหญ่ แต่กำลังพอดีไม่ใหญ่เกิน เหมาะสำหรับเด็กครับ ดูรุ่นที่ความปลอดภัยเยอะพอสมควร อุปกรณ์มีพอสมควร ก็โอเคแล้วครับ
พอดีแวะมาอ่านไม่มีไรทำ นั่งอ่านชีวิตวัยมหาลัยคุณboycatbay น่าสนุกดีนะครับ ดูคุณเป็นเด็กที่ดีพอสมควรเลยนะ มีรถแล้วก็ไม่ลืมครอบครัว ตอนผมมหาลัยทำแต่งาน ไม่มีโอกาสได้ทำไรผ่อนคลายแบบนี้
-
ขึ้นอยู่ที่นิสัยลูกเลยครับ ถ้าเค้ามีวุฒิภาวะเพียงพอ ใจเย็น ขับรถแข็งพอสมควร ก็สมควรออกรถให้ครับ (ต้องดูสถานการณ์ด้วยว่ามีความจำเป็นแค่ไหน) แต่ล่ะคนสอนลูกไม่เหมือนกันครับ การที่เด็กมีรถจะฝึกให้เค้าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง มีความสำคัญกับเพื่อนๆมากขึ้น บลาๆ แต่เด็กบางคนพอได้รถแล้วนิสัยเปลี่ยนก็มี กลับบ้านดึก ใช้เงินแต่งรถบลาๆ เพราะฉะนั้นลองสังเกตุลูกคุณดีๆครับว่าลูกคุณเป็นแบบไหน
-
พอดีแวะมาอ่านไม่มีไรทำ นั่งอ่านชีวิตวัยมหาลัยคุณboycatbay น่าสนุกดีนะครับ ดูคุณเป็นเด็กที่ดีพอสมควรเลยนะ มีรถแล้วก็ไม่ลืมครอบครัว ตอนผมมหาลัยทำแต่งาน ไม่มีโอกาสได้ทำไรผ่อนคลายแบบนี้
ขอบคุณครับ บางทีผมก็อยากขับรถไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ไม่รู้สึกครับ ผมไม่ค่อยชอบไปไหนคนเดียว
ถ้าจะไปก็ต้องอย่างน้อยมีน้องๆที่บ้าน ไปด้วย เพื่อนชวนไปไหนไกลๆผมนี้ไม่ไปเลยครับ
ถ้าไปก็ไปกับครอบครัวถึงจะไป เรารู้สึกปลอดภัยกว่าครับ ผมคิดแบบนี้
-
เห็นด้วยกับความคิดจขกท.นะครับ คันเล็กๆ ก็เหมาะดีครับ ขับง่ายดูชีวิตสะดวกดีครับ
ตอนผมปี 1 ก็เริ่มจาก accord g8 เลย ส่วนตัวชอบซีดานใหญ่ ขับไปสักพักก็คล่องดีครับ
และอีกอย่าง ข้อดีของ g8 เลยคือ เวลาโมเดลงาน บ้านใหญ่ ตึกสูง chart ยาว ยัดใส่ g8 สบาย
ปล.ชื่นชมคุณ boycatbay จริงๆครับ เป็นลูกที่ดีมากๆเลย
-
พอดีแวะมาอ่านไม่มีไรทำ นั่งอ่านชีวิตวัยมหาลัยคุณboycatbay น่าสนุกดีนะครับ ดูคุณเป็นเด็กที่ดีพอสมควรเลยนะ มีรถแล้วก็ไม่ลืมครอบครัว ตอนผมมหาลัยทำแต่งาน ไม่มีโอกาสได้ทำไรผ่อนคลายแบบนี้
ขอบคุณครับ บางทีผมก็อยากขับรถไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ไม่รู้สึกครับ ผมไม่ค่อยชอบไปไหนคนเดียว
ถ้าจะไปก็ต้องอย่างน้อยมีน้องๆที่บ้าน ไปด้วย เพื่อนชวนไปไหนไกลๆผมนี้ไม่ไปเลยครับ
ถ้าไปก็ไปกับครอบครัวถึงจะไป เรารู้สึกปลอดภัยกว่าครับ ผมคิดแบบนี้
ครับ ดีครับ อนาคตดูแล้วคุณน่าจะเป็นพ่อบ้านที่ดีแน่ๆ
-
กระบะ มือสอง MT cab ทำประกัน 2+ ไว้ได้เลย
ผมขับตั่งแต่ อายุ 14 เอาง่ายๆ ขาเหยียบครัชจม คันเร่งได้ เบาะไม่เลื่อนมาหน้าสุด และทุกครั้งที่ขับพ่อนั่งมาด้วยตลอด
หลังจาก ได้ใบขับขี่ก็ยังนั่งอยู่จน อายุ 19 ถึงปล่อยให้ขับเอง 5 ปีไม่เคยประสบ อบ. เลย
หัดให้ลูกขับไว้ก็ดีนะครับ ผมเคยเปลี่ยนพ่อขับตอนอายุ 15 พ่อเป็นความดัน หน้ามืดเกือบหมดสติตอนขับรถ เลยเรียบเปลี่ยนแล้ว ซิ่งสุดใจ พาไปโรงบาลเลย โชคดี ที่รพ. ห่างจาก ที่ขับ 8 กิโล หลังจากพ่อออกจากโรงบาล แกด่าผมซะเละเลย ขับก็ไม่แข็งเสือกจะซิ่งอีก แมร่งถ้าชนคันอื่นมากูคงตายอยู่ในรถ ถ้ามึงขับรถอย่างนี้มึงไม่ได้แก่ตายหรอก
อืม... ก็จริง
-
มิตซูแลนเซอร์EXแต่งเป็นEVO10สิครับ ลูกชายคุณจะได้มีเพื่อนเยอะขึ้น :D :D :D