ทำไมฮอนด้าไม่ทำเครื่องยนต์เทอร์โบในรถ Production

[Chariot]

แนวโน้มเครื่องยนต์ในอนาคต จะเป็นระบบอัดอากาศ ฟังธงจากรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม แต่ละปีเป็นของเครื่องที่ใช้ระบบอัดอากาศทั้งนั้น

แทบทุกยี่ห้อก็ใช้เครื่องเทอร์โบในรถสายการผลิตหลายรุ่น ขนาดแบรนด์ห่วยๆ จากจีนก็ยังมีบ้างแล้วนะ

ในเมื่อเทอร์โบมีข้อดีด้านการเรียกกำลังได้ดี แล้วทำไมฮอนด้าถึงมุ่งแต่ทำเครื่อง N/A รอบจัดๆ ล่ะครับ ไม่ลองมาเน้นแรงบิดรอบต่ำๆ ดูบ้าง

ถามแบบคนไม่มีความรู้เลย ถูก-ผิดก็ช่วยชี้แนะครับ ขอบคุณ 

[birm@productive]

หลายๆอย่าง อาจจะเป็น.... "เสน่ห์" ของรถยี่ห้อเหล่านั้นกระมังครับ

ฮอนด้า พูดถึงเครื่องยนต์ ก็คือสี่สูบรอบจัด เสียงหวานๆ ตระกูล B, K ทั้งหลาย
ซูบารุ คือ บอกเซอร์สี่สูบเทอร์โบ บรอนๆ
มาสด้า คือ โรตารี่ ที่จิบน้่ำมันแบบปล้นชีคซาอุ

ประมาณนั้นครับ
จบความเห็นแบบไม่ประสีประสาครับ

[2k]

ฮ่าๆๆๆๆปล้นชีคซาอุ 

ผมก็ว่ามันคือจุดขายของเค้านั่นแหละนานเนิ่นนานมาแล้วฮอนด้าเน้นขายกลุ่มคนที่ชอบลากรูบสูงๆเอาความเร็วปลายการเปลี่ยนไปใช้เทอร์โบก็เหมือนไปเริ่มต้นใหม่แล้วมันก็จะไม่โดดเด่นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ด้วย 

แต่ก็น่าสงสัยเมหือนกันว่าฮอนด้าจะทำยังไงกับซีวิค Type R ในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้? ในเมื่อมันไม่ผ่านกฏหมายมลพิษของทางยุโรปและไม่มีการประกอบขายแล้ว ไหนจะในอนาคตที่กฏหมายมลพิษที่จะเข้มข้นขึ้นอีก ฮอนด้าจะทำอย่างไรในเมื่อจุดเด่นของตนอยู่ที่การลากรอบสูงๆเพื่อเรียกแรงม้าแต่มันขัดกับข้อกำหนดด้านมลพิษ? เคยมีคนลองขับในพันทางมาแล้วพบว่าการใช้งานtype rในรอบต่ำไม่มีความันส์เอาเสียเลย ค่ายอื่นๆของยุโรปเค้าก็หันมาทิศทางที่ลดขนาดเครื่องแล้วใส่เทอร์โบลงไปแทนซึ่งผลที่ได้ก็ลดมลพิษ ใช้น้ำมันน้อยลง แต่กลับแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีกต่างหาก คู่แข่งทางยุโรปเค้าแข็งแกร่งมีไม้เด็กมาคอยรุกขึ้นเรื่อยๆ เครื่องไร้ระบบอัดอากาศและแรงในรอบสูงของฮอนด้าจะทำยังไง?

[Nut_K]

เคยอ่านในนิตยสารเห็นประธาน Honda บอกว่าตอนนี้กำลังพัฒนาเครื่อง turbo อยู่นิครับ

[Diavolo]

มีครับ K23A เทอร์โบในรถ Acura RDX ส่วนรุ่นใหม่ๆจะทำหรือเปล่า ยังไม่รู้ครับ
เคยอ่านเจอในหนังสือรถหัวนอก
ลัมเบอร์กินี่บอกว่า เทอร์โบเป็นตัวแก้ปัญหา ใช้เวลาที่ค่ายรถไม่สามารถพัฒนาเครื่อง NA ที่แรงขึ้นและมลพิษสะอาดกว่าเดิมได้
แล้วลัมเบอร์กินี่ว่า เค้ายังสามารถทำ NA เจ๋งๆได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เทอร์โบแก้ปัญหา
ผลจึงออกมาเป็น Avantador ใช้เครื่อง NA เหมือนเดิม เครื่องบล็อกใหม่ที่ไม่มีอะไรแชร์กับ VW แถมเกียร์ก็ไม่ใช่ Dual Clutch ที่ไร้อารมณ์ตามสมัยนิยมของ VW
ประมาณนี้ครับ

ถ้าฮอนด้าทำได้เหมือน Lambo ที่ไม่ยอมใช้เทอร์โบแก้ปัญหา
ต่อไปก็อาจยังได้เห็นรถ NA รอบจัด ม้าเยอะ ผ่านไอเสีย Euro

[Alice]

(อยู่ญี่ปุ่่น) มีเพื่อนที่ทำงานขับ honda เครื่อง turbo  ด้วยล่ะ
แต่เป็น honda life turbo นะ

[Iwata Kana Σ4]

ตอนนี้มีเฉพาะ K-Car only

[youngbear]

  ...............Honda  มีเครื่องยนต์เทอร์โบเกือบทุกรุ่นครับ  แต่ไม่มาบ้านเรา

                                                                                                    yogibear

[Tan Int]

เพราะว่า เขาพัฒนาเครื่อง na รอบจัดตั้งแต่แรก และเป็นเอกลักษณ์ของเขาด้วย
และคาดว่า แค่ i-VTEC ก็พอดีแล้ว จึงไม่นำเทอร์โบมาวางในรถทั่วไป(แต่รถสปอร์ตคงมีลุ้น)

[U9WS]

กำลังปรับตัวครับ
ถึงตลาดญี่ปุ่ญเฉยๆ แต่ตลาดโลกกำลังมาในทิศทางนี้

แม้นจะปรับตัวช้า แต่ก็กำลังดำเนินงาน
(เนื่องจากมาตราฐาน CO2 มาเร็วกว่าที่คิด และต้องเข้าใจเรื่องเงินทุนของ Honda ในวันนี้ด้วย)

Mazda ก็เหนื่อยไม่แพ้ Honda ว่าไม่เล่นๆ แต่ก็เร่งพัฒนาแล้ว

ซึ่งแม้นแต่ Toyota ที่เรามองกันว่ายังไงก็ไป hybrid แล้ว แต่เค้าก็กำลังเพิ่มทุนงานวิจัย เครื่องเทอร์โบสำหรับรถตลาดเช่นเดียวกัน


การเอาแต่ใจของตลาดและมาตราฐานมลพิษญี่ปุ่น กำลังเป็นตัวทำร้ายและสร้างความอ่อนแอให้กับแบรน์ญี่ปุ่นเอง
เพราะตลาดโลก มุ่งไปที่การลด CO2

โดยเฉพาะยุโรป รวมไปถึงตลาดอเมกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถญี่ปุ่นเอง ก็หันมาเล่นมาตราฐาน CO2 กันอย่างเร่งด่วน

แม้นแต่อินเดีย ตลาดใหม่ที่กำลังเติบใหญ่ก็เน้นมาตราฐาน CO2 ที่เข้มงวดชนิดที่บ้านเรายังอาย
อีกทั้งจีนก็เร่งมาติดๆ ซึ่งรวมกันแล้วเป็นตลาดใหญ่กว่า 3ใน4ของโลก ที่กำลังเล่นกับมาตราฐาน CO2

และในส่วนของบ้านเราก็กำลังจะไปในทิศทางนั้นเช่นกัน


ซึ่งการลด CO2 ในยุคนี้ มันก็มุ่งไปสู่ เบนซินฉีดตรงเทอร์โบ ดีเซล และ  hybrid
แต่ประเทศที่ไม่มี(ภาษีเอาใจพิเศษ) แบบประเทศไทย hybrid ยังมีราคาที่สูงกว่า เบนซินฉีดตรงเทอร์โบ และ ดีเซล อยู่มากชนิดว่าจับต้องยาก และไม่ค่อยคุ้ม

ดังนั้นยอดขายในรถตลาดเลยกำลังไปกองที่ เบนซินฉีดตรงเทอร์โบ และ ดีเซล


พูดถึงดีเซล
Honda ก็กำลังเร่งพัฒนาเครื่องดีเซลขนาดเล็กอยู่เช่นกัน เนื่องจากต้องมาตอบสนองตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย ที่เล่นภาษี CO2 จนทำให้ยอดขายเก๋งเล็กดีเซล พุ่งเป็นประวัติกาลอย่างเร่งด่วน ซึ่ง Honda ไม่มีเครื่องดีเซลมาตอบสนองในตลาดนี้ (เดิมปัจุบัน Honda มีเพียงดีเซล 2.2 เท่านั้น มันไม่สามารถใช้กับรถเล็กๆได้) และกำลังเสียโอกาศส่วนแบ่งการตลาดที่เคยครองไป

[YenChar]

ยังไงๆ ผมก็ชอบฮอนด้าที่ความเป็น NA รอบจัดๆ อยู่ดี


แต่ยังไงก็ตาม NA รอบจัดๆ นอกจากเล่นกับวาลว์แปรผัน มันก็ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้ว
คิดว่าอย่าง i-vtec ก็คงเรียกว่าสุดๆแล้วล่ะ เพราะมันไปต่อไม่ได้อีกแล้ว

อย่างแลมโบเอง ถึงจะใช้ NA ปั่นม้าได้สูงๆ มลพิษต่ำ
แต่ผมมองว่า กว่าจะปั่นม้า ปั่นแรงบิดได้ขนาดนั้น มันต้องใช้เครื่องบล๊อคใหญ่ๆ
ถึงจะสร้างแรงบิดได้ขนาดนั้น
ซึ่งมันสวนทางกับตลาดของฮอนด้าที่เน้นลูกค้าทั่วๆไป
อย่างมากสุดๆ ในตัว Civic ใหม่ ที่ว่าจะเอาตัวแรงสุดมาวางเครื่อง 2.4 แทน2.0รอบจัด
ผลของมันคือได้แรงบิด โดยที่ไม่ต้องเค้นเครื่องมาก มลพิษก็ต่ำ
แต่ความมันส์อาจจะไม่เหลือแล้วก็ได้

ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าฮอนด้าเล่นกับเทอร์โบจริง ความเป็นฮอนด้าคงหายไป
แล้วถ้าฟัดกันในตลาดแล้ว ตัวเลือกอื่นๆที่มีเทอร์โบด้วยกัน มีเจ้าอื่นๆที่น่าสนกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่รู้ว่าจะสู้เค้าได้หรือเปล่า เพราะเจ้าอื่นเค้าไปกันไกลแล้ว...

มองในแง่นึง ถ้าจะแก้เกมด้านความแรง โดยยึดเครื่อง NA เป็นหลัก
คงต้องหวังพึ่งความจุเพื่อเรียกแรงบิด บวกกับระบบ vtec ที่พัฒนาใหม่
แต่อาจจะได้อารมณ์เครื่อง FE ของโตโยต้ามากกว่าอารมณ์เครื่องซิ่งรอบจัดแบบฮอนด้า
คือแรงบิดรอบต่ำดี แรงดี แต่รอบปลายเหี่ยว
ผมคิดว่า อีกหน่อยตัวแรงของฮอนด้าคงเป็นประมาณนั้น
ไม่แน่อาจจะเป็นข้อดีที่ว่า ขับสบายขึ้น ใช้ในชีิวิตประจำวันได้ดี
แต่คงไม่โดนใจแฟนๆฮอนด้าเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว...

หรือว่าจะเป็นสปอร์ต+ไฮบริต??
ผมว่า CRZ ก็มาถูกทางแล้วนะ ชูโรงที่ความประหยัด ลดมลพิษ ไฮเทค
แต่ขอพลังมากกว่านี้หน่อย น่าจะดีกว่านี้

[Ruksadindan]

ยังไงๆ ผมก็ชอบฮอนด้าที่ความเป็น NA รอบจัดๆ อยู่ดี


แต่ยังไงก็ตาม NA รอบจัดๆ นอกจากเล่นกับวาลว์แปรผัน มันก็ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้ว
คิดว่าอย่าง i-vtec ก็คงเรียกว่าสุดๆแล้วล่ะ เพราะมันไปต่อไม่ได้อีกแล้ว

อย่างแลมโบเอง ถึงจะใช้ NA ปั่นม้าได้สูงๆ มลพิษต่ำ
แต่ผมมองว่า กว่าจะปั่นม้า ปั่นแรงบิดได้ขนาดนั้น มันต้องใช้เครื่องบล๊อคใหญ่ๆ
ถึงจะสร้างแรงบิดได้ขนาดนั้น
ซึ่งมันสวนทางกับตลาดของฮอนด้าที่เน้นลูกค้าทั่วๆไป
อย่างมากสุดๆ ในตัว Civic ใหม่ ที่ว่าจะเอาตัวแรงสุดมาวางเครื่อง 2.4 แทน2.0รอบจัด
ผลของมันคือได้แรงบิด โดยที่ไม่ต้องเค้นเครื่องมาก มลพิษก็ต่ำ
แต่ความมันส์อาจจะไม่เหลือแล้วก็ได้

ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าฮอนด้าเล่นกับเทอร์โบจริง ความเป็นฮอนด้าคงหายไป
แล้วถ้าฟัดกันในตลาดแล้ว ตัวเลือกอื่นๆที่มีเทอร์โบด้วยกัน มีเจ้าอื่นๆที่น่าสนกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่รู้ว่าจะสู้เค้าได้หรือเปล่า เพราะเจ้าอื่นเค้าไปกันไกลแล้ว...

มองในแง่นึง ถ้าจะแก้เกมด้านความแรง โดยยึดเครื่อง NA เป็นหลัก
คงต้องหวังพึ่งความจุเพื่อเรียกแรงบิด บวกกับระบบ vtec ที่พัฒนาใหม่
แต่อาจจะได้อารมณ์เครื่อง FE ของโตโยต้ามากกว่าอารมณ์เครื่องซิ่งรอบจัดแบบฮอนด้า
คือแรงบิดรอบต่ำดี แรงดี แต่รอบปลายเหี่ยว
ผมคิดว่า อีกหน่อยตัวแรงของฮอนด้าคงเป็นประมาณนั้น
ไม่แน่อาจจะเป็นข้อดีที่ว่า ขับสบายขึ้น ใช้ในชีิวิตประจำวันได้ดี
แต่คงไม่โดนใจแฟนๆฮอนด้าเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว...

หรือว่าจะเป็นสปอร์ต+ไฮบริต??
ผมว่า CRZ ก็มาถูกทางแล้วนะ ชูโรงที่ความประหยัด ลดมลพิษ ไฮเทค
แต่ขอพลังมากกว่านี้หน่อย น่าจะดีกว่านี้

ถึงควรพัฒนา i-VTEC ต่อไป ให้มีความประหยัดยิ่งขึ้นด้วยไงครับ

[redsun]

ผมขอเดาว่า

- เรื่องการบำรุงรักษา N/A ทำได้ง่ายกว่าและไม่จุกจิกเหมือน TURBO
  ผู้ใช้รถสามารถซ่อมแซมและบำรุงรักษาสะดวกกว่า TURBO
  (คนกลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่า บริษัทฯมีโอกาสได้รายได้มากกว่า)

- ลักษณะการใช้งานของ TURBO
   เช่น -บางช่วงที่ต้องการให้ TURBO ทำงานแต่เครื่องยนต์กลับไม่ตอบสนองในทันที
         -บางช่วงไม่อยากให้ทำงาน TURBO กลับทำงานเช่น SHIFT DOWNลงเขา หรือหยุดรถ
         -การเดินทางไกล โดยให้เทอร์โบทำงานตลอดเวลา ทำให้เกิดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์
         มากกว่า N/A มาก ซึ่งส่งผลระยะยาวด้านความคงทนของระบบเครื่องยนต์อันสำคัญ
         ทำให้ N/A บรรลุเป้าหมายของ product car ได้ง่ายกว่าคือ สมรรถนะดี,
         เสถียรและมีข้อจำกัดในการใช้งานน้อย (นั่นหมายถึงรายได้ที่มากกว่าจากความพอใจของ
         คนส่วนใหญ่ที่มากกว่า)
          -รถTURBOต้องเพิ่มต้นทุนสำหรับการจัดการระบบเบรค,ช่วงล่างและความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

- HONDA เลือกจะพัฒนาระบบVTEC
  HONDAใช้ความได้เปรียบของจากแรงบิดที่น้อยกว่าของN/Aแต่ได้การควบคุมที่ราบรื่น
  และใช้งานได้ในช่วงกว้างตั้งแต่รอบต้น จนถึงรอบปลายโดยผสานกับระบบส่งกำลังที่เหมาะสม
  ทำให้ตอบสนองคนส่วนใหญ่ได้มากกว่า (ทำให้รายได้มากกว่า)


- HONDA คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเพิ่มต้นทุนจำนวนมากสำหรับการผลิตเครื่องTURBO
  ซึ่งต้องลงทุนสูงกว่าและมีความเสี่ยงที่สูงกว่าคู่แข่งที่ชำนาญรายอื่น ในสถานการณ์ที่ยัง
  สามารถขายPRODUCT N/A ได้อยู่

[Valkilrey]

เคยอ่านข่าวผ่านๆว่ามี Advanced Vtec ด้วยนี่ครับ มันดีกว่า i-Vtec ไหม

[Larry]

รอดูกันต่อไปครับ ว่าฮอนด้าจะเอายังไงกับตลาดเทอร์โบ

ปกติถ้าพูดถึงเครื่อง N/A ก็ต้องนึกถึงฮอนด้าเป็นแบรนด์แรกอยู่แล้ว

ในพิกัดเดียวกัน เครื่อง N/A เหมือนกัน ฮอนด้ารู้สึกจะได้เปรียบอยู่เยอะเลยครับ

[Chariot]

ผมขอเดาว่า

- เรื่องการบำรุงรักษา N/A ทำได้ง่ายกว่าและไม่จุกจิกเหมือน TURBO
  ผู้ใช้รถสามารถซ่อมแซมและบำรุงรักษาสะดวกกว่า TURBO
  (คนกลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่า บริษัทฯมีโอกาสได้รายได้มากกว่า)

จากประสบการที่เห็นคนใช้แอคคอร์ด วีเทค เขาต้องตั้งวาล์วบ่อยมากเลย เดิมๆ จากโรงงาน ขับแบบวีเทคเปิดบ่อยๆ

ลองคิดดูว่าถ้าหากเอาไปติดแก๊สแล้วจูนไฟเพี้ยนไปนิดหน่อย คงยิ่งต้องตั้งวาล์วบ่อยโคตรๆ

เคยถามแท๊กซี่ฮอนด้าที่เคยนั่ง เขาต้องตั้งทุกๆ 2,000-3,000 กิโล ซึ่งเทียบกับอัลติสแล้ว ตั้งที่ 5,000 กิโล

การตั้งวาล์วบ่อย คงเป็นสาเหตุนึงที่ฮอนด้าไม่ถูกไปใช้ติดแก๊สเป็นรถรับจ้าง..

[redsun]

ตอนนี้ผมใช้เครื่อง H22A M/T อยู่ครับ
ผมเคยตั้งวาวล์เพียงครั้งเดียวคือตอนเปลี่ยนเครื่องใหม่ๆเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
จนปัจจุบันก็ใช้รอบเครื่อง 7500+ RPM เป็นประจำ เครื่องก็ปรกติดีอยู่ครับ

ล่าสุดกำลังวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100 KM/H รถดับวูบรอบเครื่องที่หน้าปัดเหลือ 0 ความเร็วหน้าปัดเหลือ 0
อ้าวรถเป็นอะไรไปเนี่ย!! จ้างรถลากไปอู่ อู่บอกว่า"สายพานไทม์มิ่งขาด" (ทั้งที่สภาพเนื้อยางภายนอกยังดีอยู่มาก
แต่ด้านในเมื่อเอาส่วนที่ขาดมาลองหักงอดูปรากฎมันเป็นลายงาเยอะทีเดียว เพราะเชื่อในสภาพภายนอกและ
ไม่ได้เปลี่ยนตามเวลาหรือระยะทาง)

ก็เลยถามช่างต่อไปว่าเครื่องจะเป็นอะไรมากมั้ย ตอนนั้นหน้าซีดไปนิดหนึง เพราะคิดว่า
ถ้าไม่เปลี่ยนวาวล์ 16 ตัว ก็ต้องได้เปลี่ยนเครื่องใหม่แน่ๆ คิดว่าต้องจ่ายหลักหมื่นปลายๆเป็นอย่างต่ำ
(เสียดายตังค์ ราคาเครื่องเก่า+เครื่องใหม่รวมกันเพิ่มอีกนิดหน่อยลง H22A ฝาแดง เกียร์เต็ดเทพๆ ได้เลยนะเนี่ย)

แต่เมื่ออู่ได้ลองเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง+สายพานบาลานซ์เส้นใหม่ให้เครื่องก็กลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม
เสียไปประมาณ 3000 บาท เฮ่อรอดไป!!! ผมก็ไ่ม่รู้เหมือนกันว่าถ้าใช้เครื่องอื่นจะต้องจ่ายมากสักเท่าไร ?

แต่ผมก็เห็นเช่นเดียวกันกับที่คุณ Chariot ว่าไว้ครับคือ
รถHONDA ไม่ถูกกับแก๊ส (เมื่อเทียบกับเครื่องพี่โตโยต้า)
รถHONDA ชอบไปตั้งวาวล์กันเยอะมากๆจริงๆ
 
แต่ลองถามอู่ดูเขาบอกว่าเครื่องรถบ้านรุ่นใหม่ๆของ HONDA เปราะกว่า H22A มาก
ผมก็ไม่เคยมีเคยใช้รถรุ่นใหม่ๆ ก็เลยไม่ทราบความจริงเป็นเช่นไร เหมือนกันครับ
แต่ถ้าเป็น H22A ผมว่ามันทนมากครับ

[civicferio]

เครื่องฮอนด้า  ส่วนใหญ่ จุกจิกเรื่องวาวล์จริงๆ เพราะ ส่วนนี้ฮอนด้าเขาเอาเป็นตัวรีดประสิทธิภาพ  มากว่าส่วนอื่นของเครื่อง และแน่นอนว่า ส่วนใหญ่ที่เห็น ถ้าไม่ใ่ชรถ ขนาด K car ก็ไม่มีเทอร์โบอยุ่แล้ว  เพราะเขามัน่ใจว่า เครื่องของเขาไม่มีหอยก็สอยได้ค่ะ

ส่วนไอ้เรื่องติดแก๊ส ริงโกะว่า ถ้าเครื่องสมัยใหม่ (ที่ไม่ได้ผลิดไว้เผื่อดมแก๊ส)  ไม่เวิร์คค่ะ สำหรับดมแก๊ส   เพาะขนาดเครื่อง 4A-FE อู่แทคซี่ แอบไปใส่ อัลติส กันให้รึ่ม

[Chariot]

ใครว่าเครื่องโบไม่ทน ต้องเครื่อง JZ เลยครับ เคยมีคนขับรถฝาโก่งแตกแล้วน้ำเข้าลูกสูบ

ปรากฎว่า แค่ไปขัดพอร์ต เปลี่ยนแหวน เปลี่ยนของเหลว ก็ซิ่งต่อได้เลย

[redsun]

โดยภาพรวมแล้วเครื่อง TURBO ย่อมมีอุปกรณ์ที่มากกว่า
นั่นหมายถึงต้องมีจุดที่ดูแลมากกว่าและอีกทั้งการที่ระบบเทอร์โบทำงาน
ย่อมทำให้อุปกรณ์มีการสึกหรอมากกว่าเดิม สุดท้ายแล้วหากเทียบเรื่อง
การซ่อมบำรุงโดยช่างทั่วๆไป ย่อมมีช่างที่ชำนาญน้อยกว่า
ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาที่จุกจิกและความคงทนได้มากกว่าในความหมายของผม

[YIM]

Honda เครื่อง NA ที่รีดกำลังที่รอบสูงๆ มันเป็นเอกลักษณ์มานานแสนนานแล้ว ตั้งแต่สมัย S600 ที่รอบตัดที่ 9000 นั่นแหละ (40 ปีได้ละมั้ง) เพราะฉะนั้น ผมว่า Honda คงต้องแยกชัดเจนระหว่างเครื่องรถบ้าน ที่เน้นกำลังในรอบต่ำๆ (อาจเป็นเบนซิน หรือดีเซลเทอร์โบ) แล้วรถรุ่นที่เน้นแรง อย่างพวก Type-R, S-Series, NSX (ถ้าจะยังมีออกมา) ก็ไปพัฒนาตามแนวทางเครื่องรอบสูงเหมือนเดิม

จะว่าไปก็อาจจะเหมือน Toyota เมื่อก่อน ที่ block เดียวกัน มีตัว G กับ F

F เป็น DOHC องศาแคบ เน้นแรงบิดที่รอบต่ำ ส่วน G เป็น DOHC องศากว้าง เน้นกำลังในรอบสูง

[redsun]

ตอนนี้ผมใช้เครื่อง H22A M/T อยู่ครับ
ผมเคยตั้งวาวล์เพียงครั้งเดียวคือตอนเปลี่ยนเครื่องใหม่ๆเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
จนปัจจุบันก็ใช้รอบเครื่อง 7500+ RPM เป็นประจำ เครื่องก็ปรกติดีอยู่ครับ

ล่าสุดกำลังวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100 KM/H รถดับวูบรอบเครื่องที่หน้าปัดเหลือ 0 ความเร็วหน้าปัดเหลือ 0
อ้าวรถเป็นอะไรไปเนี่ย!! จ้างรถลากไปอู่ อู่บอกว่า"สายพานไทม์มิ่งขาด" (ทั้งที่สภาพเนื้อยางภายนอกยังดีอยู่มาก
แต่ด้านในเมื่อเอาส่วนที่ขาดมาลองหักงอดูปรากฎมันเป็นลายงาเยอะทีเดียว เพราะเชื่อในสภาพภายนอกและ
ไม่ได้เปลี่ยนตามเวลาหรือระยะทาง)

ก็เลยถามช่างต่อไปว่าเครื่องจะเป็นอะไรมากมั้ย ตอนนั้นหน้าซีดไปนิดหนึง เพราะคิดว่า
ถ้าไม่เปลี่ยนวาวล์ 16 ตัว ก็ต้องได้เปลี่ยนเครื่องใหม่แน่ๆ คิดว่าต้องจ่ายหลักหมื่นปลายๆเป็นอย่างต่ำ
(เสียดายตังค์ ราคาเครื่องเก่า+เครื่องใหม่รวมกันเพิ่มอีกนิดหน่อยลง H22A ฝาแดง เกียร์เต็ดเทพๆ ได้เลยนะเนี่ย)

แต่เมื่ออู่ได้ลองเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง+สายพานบาลานซ์เส้นใหม่ให้เครื่องก็กลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม
เสียไปประมาณ 3000 บาท เฮ่อรอดไป!!! ผมก็ไ่ม่รู้เหมือนกันว่าถ้าใช้เครื่องอื่นจะต้องจ่ายมากสักเท่าไร ?

แต่ผมก็เห็นเช่นเดียวกันกับที่คุณ Chariot ว่าไว้ครับคือ
รถHONDA ไม่ถูกกับแก๊ส (เมื่อเทียบกับเครื่องพี่โตโยต้า)
รถHONDA ชอบไปตั้งวาวล์กันเยอะมากๆจริงๆ
 
แต่ลองถามอู่ดูเขาบอกว่าเครื่องรถบ้านรุ่นใหม่ๆของ HONDA เปราะกว่า H22A มาก
ผมก็ไม่เคยมีเคยใช้รถรุ่นใหม่ๆ ก็เลยไม่ทราบความจริงเป็นเช่นไร เหมือนกันครับ
แต่ถ้าเป็น H22A ผมว่ามันทนมากครับ

        อันนี้อยากแชร์ประสบการณ์เฉยๆครับ ว่าเครื่อง H22A มันมีข้อดีประมาณนี้ครับ
ซึ่งผมว่ามันเพียงพอกับการขับขี่และการดูแลแบบธรรมดาๆของผมเอง
        มิได้มีเจตนาบอกว่ามันทนกว่าTURBO ครับ หากเข้าใจกันผิดผมก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ