Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2017, 22:53:56

หัวข้อ: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2017, 22:53:56
https://www.youtube.com/watch?v=XptXPrfj0uQ (https://www.youtube.com/watch?v=XptXPrfj0uQ)https://www.youtube.com/watch?v=ugpc65T7Hc8 (https://www.youtube.com/watch?v=ugpc65T7Hc8)

แนวโน้มรถยนต์ในอนาคตต้องประหยัดน้ำมัน

ทั้ง 2 เทคโนโลยี คือ แนวทางใหม่ของโลกอนาคต

ท่านคิดว่า ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2017, 08:38:51
ฉีดตรง  ไร้หัวเทียน  หากทำให้ไม่เกิดการน็อคได้  และหัวฉีดไม่กลับบ้านเร็วแบบดีเซล  นั่นแหละเจ๋ง

หัวฉีดคู่  ก็เป็นแค่ ฉีดน้ำมันป้อนเข้าท่อร่วม แบบแบ่งกันฉีด แค่นั้น..
หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2017, 09:30:28
ประสพการณ์ตรง

หัวฉีดตรง มันอาศัยปั๊มแรงดันสูง

พอเก่าๆมันไม่น่าใช้เพราะตัวปั๊มมักมีปัญหา ราคาไม่ถูกด้วยสิครับ แล้วปั๊มพวกนี้มันชอบไปต่อกับ Camshaft sprocket ร้อนจะตาย ไม่กี่ปีก็รั่วก็ซึมบางตัวก็เสียไปเลย ผมเห็นตัวเลขออเดอร์ปั๊มแรงดันสูงของMINI, MB CGI , แล้ว คงต้องพัฒนากันอีกมากครับกว่าจะทนทานหลายแสนโล เพราะพวกที่เริ่มมีปัญหาก็แสนสองแสนโลเอง
หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2017, 12:53:55
ฉีดตรง  ไร้หัวเทียน  หากทำให้ไม่เกิดการน็อคได้  และหัวฉีดไม่กลับบ้านเร็วแบบดีเซล  นั่นแหละเจ๋ง

หัวฉีดคู่  ก็เป็นแค่ ฉีดน้ำมันป้อนเข้าท่อร่วม แบบแบ่งกันฉีด แค่นั้น..

สำหรับเบนซิน ฉีดตรง ก็ต้องมีหัวเทียนครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2017, 19:50:26
เป้าหมายวัตถุประสงค์สุดท้ายของทั้งคู่คือการประหยัดเชื้อเพลิง
โดยไปเพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิดให้สูงสุด

ถ้าพูดถึงแต่กลไกการฉีดเชื้อเพลิง หัวฉีดตรงที่เราเรียกขานกันสั้น(direct injection)
น่าจะประสิทธิภาพสูงกว่า เพราะเป็นการฉีดเข้ากระบอกสูบโดยตรง
ไม่มีการสูญเสียเชื้อเพลิง

ส่วนการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเดิมๆหรือแบบหัวฉีดคู่
เป็นการฉีดเชื้อเพลิงให้ผสมกับอากาศ(ไอดี)ก่อนปล่อยเข้ากระบอกสูบ
เพื่อจุดระเบิดเผาไหม้ ดังนั้นจะมีการสูญเสียเชื้อเพลิงบางส่วน
ที่แอบติดไปอยู่กับผิวท่อร่วมไอดี ไม่ได้ส่งเข้าไปเผาไหม้แบบหมดจด

อย่างไรก็ตามในระบบฉีดตรง ต้องอาศัยการฉีดให้เชื้อเพลิงเป็นฝอยละเอียด
เพื่อที่จะจุดระเบิด แบบไม่ได้ผสมกับไอดีล่วงหน้ามาก่อน
จึงจำเป็นต้องใช้ปั้มแรงดันสูงมาช่วย
แต่แรงดันปั้มของเครื่องฉีดตรงเบนซินนี้
ก็ไม่ได้เป็นปั้มแรงดันสูงเท่ากับเครื่องดีเซลที่ไร้หัวเทียน

เบ็ดเสร็จต้นทุนของเครื่องฉีดตรงก็น่าจะแพงกว่าแบบหัวฉีดคู่
แต่ด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่า แนวโน้มน่าจะไปทางฉีดตรงมากกว่า

หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2017, 20:01:41
ฉีดตรง  ไร้หัวเทียน  หากทำให้ไม่เกิดการน็อคได้  และหัวฉีดไม่กลับบ้านเร็วแบบดีเซล  นั่นแหละเจ๋ง

หัวฉีดคู่  ก็เป็นแค่ ฉีดน้ำมันป้อนเข้าท่อร่วม แบบแบ่งกันฉีด แค่นั้น..

+10 ครับ

สงสัยรอกันอีกนาน ระหว่างนี้ก็ใช้ดีเซลไปพลางๆ ก่อน  ;D
หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2017, 23:01:46
ฉีดตรง  ไร้หัวเทียน  หากทำให้ไม่เกิดการน็อคได้  และหัวฉีดไม่กลับบ้านเร็วแบบดีเซล  นั่นแหละเจ๋ง

หัวฉีดคู่  ก็เป็นแค่ ฉีดน้ำมันป้อนเข้าท่อร่วม แบบแบ่งกันฉีด แค่นั้น..

สำหรับเบนซิน ฉีดตรง ก็ต้องมีหัวเทียนครับ

HCCI มาสด้าครับ ไม่มีหัวเทียน
หัวข้อ: Re: ระหว่างเครื่องหัวฉีดคู่กับหัวฉีดตรง เครื่องตัวไหนน่าสนใจและมีอนาคตมากกว่ากันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2017, 17:56:40
ประสพการณ์ตรง

หัวฉีดตรง มันอาศัยปั๊มแรงดันสูง

พอเก่าๆมันไม่น่าใช้เพราะตัวปั๊มมักมีปัญหา ราคาไม่ถูกด้วยสิครับ แล้วปั๊มพวกนี้มันชอบไปต่อกับ Camshaft sprocket ร้อนจะตาย ไม่กี่ปีก็รั่วก็ซึมบางตัวก็เสียไปเลย ผมเห็นตัวเลขออเดอร์ปั๊มแรงดันสูงของMINI, MB CGI , แล้ว คงต้องพัฒนากันอีกมากครับกว่าจะทนทานหลายแสนโล เพราะพวกที่เริ่มมีปัญหาก็แสนสองแสนโลเอง

โลกยุคนี้ คงเน้นให้พังง่ายๆ จะได้ขายของใหม่ได้  ::)

จากแทนที่จะช่วยโลกลดมลภาวะ กลับกลายเป็น ต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น 8)

รีไซเคิลก็ต้องใช้พลังงาน สร้างมลภาวะอีก  ::)