ด้านเจ้าตลาดอีโคคาร์อย่างนิสสัน นายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอีโคคาร์ในปีนี้จะเติบโตขึ้น โดยคาดว่าตัวเลขรวมอาจจะถึง 100,000 คัน ขณะที่การแข่งขันของแต่ละค่ายก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ในส่วนของลูกค้าเองก็จะมีทั้งลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ,กลุ่มลูกค้าใหม่ที่กำลังซื้อรถคันแรกและยังไม่มีแบรนด์อยู่ในใจ และกลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะเลือกแบรนด์ใดก็ได้ที่ถูกใจ
โดยในส่วนของนิสสันที่มี มาร์ช และ อัลเมร่า ได้เตรียมกลยุทธ์ทางการตลาด อาทิ การสื่อสารการตลาด,กิจกรรมทางการตลาดที่เคยทำก็จะทำอย่างต่อเนื่อง หรืออาจจะเห็นแคมเปญกระตุ้นการขาย ซึ่งก็ต้องดูแนวโน้มตลาดในช่วงนั้นว่าจะต้องดำเนินกลยุทธ์ใดออกไป
ปัจจุบันมาร์ช มีแบ็กออร์เดอร์ ประมาณ 6,000 คัน โดยลูกค้ารอรถเฉลี่ย 2 เดือน ขณะที่อัลเมร่า ลูกค้าต้องรอรถประมาณ 3 เดือน เนื่องจากมีแบ็กออร์เดอร์ประมาณ 10,000 คัน ขณะที่กำลังการผลิตต่อเดือนของมาร์ชจะอยู่ประมาณ 2,000 -3,000 คัน ส่วนอัลเมร่า มีกำลังการผลิตประมาณ 3,000 คันต่อเดือน
"จริงๆตามแผนงานเราต้องกลับมาผลิตได้เต็ม 100% ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม แต่เนื่องจากยังติดขัดปัญหาเรื่องผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ยังไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตามเราจะพยายามให้กลับมา 100% และผลิตได้โดยเร็วที่สุดเพื่อป้อนความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ"