ผมว่าการมาคุยกันว่ารถไฟฟ้าควรมา-ไม่ควรมา ควรใช้-ไม่ควรใช้ มันเป็น topic ที่ตกยุคมากเกินไปแล้วนะครับ
ประเทศฝั่งตะวันตกเปลี่ยนหมดแล้ว ญี่ปุ่นก็เปลี่ยนแน่นอนแล้ว แล้วเรายังจะมานั่งถกกันอยู่เลย
ที่สำคัญคือทำยังไงให้เราพร้อมเร็วกว่านี้จะดีกว่าครับ มองอนาคต ไม่ใช่กลัวมัน
ผมเถียงกับคนในนี้หลายครั้งจนแอบนึกว่า ที่มาสนับสนุนรถน้ำมันกันเยอะๆเนี่ยคือโตโยตาส่งมาใช่ไหมเนี่ย เพราะปัญหาของเราตอนนี้คือเราจะตามเค้าไม่ทัน ไม่ใช่เรื่องควรตามหรือไม่ควรตาม
ถ้าไม่ขยับ ก็ตกยุคอยู่ที่เดียวแหละครับ ส่งออกรถน้ำมันจะไปได้อีกกี่ปี
ก่อนที่คุณจะมาถามว่า ส่งออกรถน้ำมันจะไปได้อีกกี่ปี
คุณรู้หรือยังว่าโรงงานรถยนต์ในประเทศไทยส่งออกรถยนต์ไปขายยังภูมิภาคไหนบ้างประเทศไหนบ้าง และประเทศเหล่านั้นตื่นตัวแค่ไหนกับการเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าคุณยังไม่รู้เรื่องพื้นฐานแค่นี้ แล้วคุณจะรู้มั้ยว่าสิ่งที่คุณคิดมันถูกต้องหรือเปล่า
กลับกันบริษัทรถยนต์ทั้งหลายเค้ามีข้อมูลครับว่าโรงงานในไทยผลิตส่งออกไปประเทศไหนบ้าง และประเทศเหล่านั้นพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแค่ไหน บริษัทรถยนต์ไม่ได้ทำงานโดยอาศัยข้อมูลจากพวกเว็บหรือเพจเด็กเนิร์ดในเน็ตอย่างแน่นอน
ประเทศไทย รัฐบาลไทย รวมทั้งบริษัทรถยนต์ในไทยไม่เคยกลัวการเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าครับ โดยเฉพาะพวก Mega Supplier ที่นับวันรอให้เปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเร็วๆเพื่อจะได้ชิงความได้เปรียบจากการความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากในปัจจุบันที่โดนตีตลาดด้วยชิ้นส่วนราคาถูก ประเทศไทยที่ถูกจัดเป็น Mature Market ใน ASEAN ไปแล้วเพราะตลาดไม่โตขึ้นอีกจะกลับมาขายดิบขายดีก็ต่อเมื่อเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้านั่นแหละ เหมือนยุโรปที่เคยถูกมองว่าเป็นตลาด Mature Market ที่แทบจะไม่เติบโตอีกต่อไปตอนนี้เริ่มกลับมาคึกคักเพราะการเปลี่ยนสู่รถยนต์ไฟฟ้ามันเหมือนกับการได้ตลาดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เมืองไทยมันไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วคือมันไม่มีความพร้อมของตลาด ดูจากยอดขาย MG ก็ได้ทำไมทำได้ปีละแค่พันคันสำหรับ BEV เมื่อมองไปถึงตลาดที่โรงงานรถยนต์ในไทยผลิตเพื่อส่งออกไปขายยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ละประเทศส่วนใหญ่ความพร้อมต่ำกว่าประเทศไทยอีก ขนาดออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยังถือว่าช้ามากสำหรับประเทศพัฒนาแล้ว
ในเมื่อผลิตรถยนต์ ICE, HEV แล้วมันยังขายดีอยู่และจากแผนงานของลูกค้าแต่ละประเทศแล้วมันยังอีกนานกว่าจะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แล้วมีเหตุผลอะไรที่บริษัทรถยนต์มันจะต้องรีบลงทุนมหาศาลเปลี่ยนโรงงานในไทยไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ Demand ต่ำกว่ามากมายครับ สู้เอาเงินลงทุนนั้นไปลงทุนกับโรงงานในประเทศที่ลูกค้ามีความพร้อมไม่ดีกว่าเรอะ
สำหรับเรื่อง Recycle Battery หากต้องการให้มันยั่งยืน ประเทศไทยควรกำหนดให้โรงงานรถยนต์ที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต้องลงทุนสร้างโรงงาน Recycle Battery ด้วยจึงจะเหมาะสม