Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: notyo555 ที่ มกราคม 08, 2018, 15:55:34
-
สวัสดีครับพี่ ๆ ชาว HLM ทุกท่าน ผมจะรบกวนสอบถามในการเลือกซื้อรถมือสองของ mazda cx-5 2.5G ครับ ซึ่งเป็นรถที่คุณพ่อของผมสนใจและอยากจะมีไว้ครอบครองครับ โดยมีหัวข้อที่จะสอบถามดังนี้ครับ ^^
1.รถมือสองของรุ่นนี้ มีปัญหาจุกจิกอะไรที่น่ากลัวมั้ยครับ
2.ความสบายในการขับขี่/ฟิลลิ่งในการขับขี่ ช่วงล่างต่าง ๆ ในกรณีใช้ความเร็ว 140 ขึ้นไป
3.การเก็บเสียงในห้องโดยสาร
-
2.5 ไม่จุกจิกครับ แต่ในอนาคตน่ากังวลเรื่องงอะไหล่เหมือนกันนะครับ เพราะมีรุ่นเดียวที่ใช้ 2.5 ต้องดูพวกอะไหล่เครื่องยนต์จะใช้ร่วมกับ 2.0 ได้ไหม อัตราเร่งดูจากรีวิวในเว็บได้เลยครับ แรงสะใจแน่นอน เกียร์ฉลาด ช่วงล่างก็นิ่งและมั่นใจในความเร็วสูงครับ ช่วงล่างมันจะค่อนข้างแข็งแต่ไม่ได้แข็งเหมือนพวกรถซิ่งที่กระแทกปั้กๆ นะครับ จะมีติดนุ่มกระชับนิดนึงตอนขึ้นลูกระนาด จะต่างมากถ้าเทียบกับ Civic EL อันนั้นนุ่มมากนั่งหลังเพลิน หักหลบก็ยังมั่นใจเหมือนเก๋ง แต่พวกช่วงล่างต้องดูเวลาขึ้นลูกระนาดว่ามันมีเสียงเหล็กกระแทกไหม ถ้ามีไปศูนย์เสริมยางรองสปริงครับ เบาะหน้าก็พอใช้ได้ แต่เบาะหลังที่รองก้นสั้นไปและก็พนักพิงหลังชันไป เสียงรบกวนค่อนข้างดังมาจากพื้นถนนเยอะครับ เสียงลมจะเข้าประมาณ 120+ ถ้า 140 จะได้ยินชัดเลย น่ารำคาญเหมือนกัน ผมตัว MC ยังมีเสียงก๊อกแก๊กตรงคอนโซลเวลาขาไปดันคอนโซลกลาง แล้วก็ราคาอะไหล่บางตัวค่อนข้างโหด ลองศึกษารีวิวจากเว็บและเข้าคลับ Thai Mazda CX-5 ลองไปถามสมาชิกที่ใช้จริงดูครับจะได้คำตอบหลากหลาย
ผมมาจาก Altis มาคันนี้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกเป็นรถครอบครัวเลยครับ มันกลับขับสนุกและมั่นใจกว่า Altis มาก อารมณ์เหมือนขับเก๋งมากกว่า SUV
ศูนย์บริการเหมือนมีไว้เช็คระยะ แก้ปัญหาไม่ค่อยได้ ต้องหาศูนย์ดีๆ เพื่อที่จะแก้ปัญหา
ดีตรงการขับขี่ ด้อยตรงความสุนทรียภาพ เช่น เบาะนั่งไม่สบาย เสียงรบกวนดัง ถ้าจำไม่ผิด 2.5 ได้เครื่องเสียง Bose ด้วยนะครับ ::)
พูดถึงตัวรถจากประสบการณ์ของตัวเองนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นกองอวยซะก่อน 555 :P
-
Cx5 2.5 นี่ Rare Item เลยนะครับ ปกติหาคนปล่อยยากมากๆ ผมเองยังงงๆว่ามาสด้าคิดยังไงเอาตัวนี้ออก แล้วใส่ 2.2D แทน ทั้งๆที่ตัว 2.5 นี่ดีแทบจะทุกด้านเลย ทั้งไม่จุกจิก ทั้งแรงมากๆ เสียดายน่าจะเอากลับมาทำตลาดใหม่
-
ใช้ 2.5 มาครบ 4 ปีแล้วครับ เกือบๆจะ 6 หมื่นกม.
1. ไม่มีปัญหาอะไรน่ากลัวเลยครับ ของผมมีกินน้ำมันเครื่องเล็กน้อย สเป็กศูนย์น้ำมันเบอร์ 20 ต้องกรอก 0.5 ลิตร/5000 กม.
ที่ 5 หมื่นโล เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นเบอร์ 30 หลังเปลี่ยนวิ่งมา 9 พันโล ไม่พร่องเลยสักนิด
ขับโหด คิกดาวน์บ่อย เหยียบมิดบ่อย เครื่องยังแรงดี เกียร์ยังไม่กระตุก จับ 0-100 ยัง 8.5 วิเท่าเดิม
2. ช่วงล่างแข็งครับ ถนนไม่ดีจะดิ้นๆๆ พอรำคาญ แต่ขับแล้วมั่นใจทั้งทางตรงทางโค้ง
พวงมาลัยแม่นยำและไว ถามว่าขับสบายมั้ยก็ไม่สบายเท่า d segment แต่ขับสนุกนี่แน่นอน
3. การเก็บเสียงไม่ดีครับ ยางดัง เสียงก็ลมดังแต่น้อยกว่ายาง เปิดเพลงกลบเอาครับ
เกิน 140 ไม่ต้องพูดถึงอื้ออึงทั้งคัน มาสด้าคงรู้เลยอุตส่าห์ใส่เครื่องเสียง Bose มาให้ เปิด volume 30+ ไปเลย
โดยรวมประทับใจครับ เดาว่ามอง 2.5 คงไม่ได้ซื้อมาขับเรื่อยๆ อยู่แล้ว ถ้าหา SUV ขับสนุกตอบโจทย์แน่นอน
น้ำมันก็ไม่กินมาก ตอนอยู่กรุงเทพเฉลี่ย 10 โล/ลิตร ตอนนี้ออกมาทำงานตจว.อัตราสิ้นเปลืองก็ตามลายเซ็นเลยครับ เติม E20 ตลอด
-
Cx5 2.5 นี่ Rare Item เลยนะครับ ปกติหาคนปล่อยยากมากๆ ผมเองยังงงๆว่ามาสด้าคิดยังไงเอาตัวนี้ออก แล้วใส่ 2.2D แทน ทั้งๆที่ตัว 2.5 นี่ดีแทบจะทุกด้านเลย ทั้งไม่จุกจิก ทั้งแรงมากๆ เสียดายน่าจะเอากลับมาทำตลาดใหม่
ิเห็นด้วยเลยครับ
-
ปัจจุบันใช้คันไหนครับ เพราะว่าข้อ 2 กับ 3 เชื่อว่ายังไงก็ต้องเทียบกับคันเดิมแน่ๆอยู่แล้วว่าจะเปลี่ยนไปเยอะแค่ไหนกับความเคยชิน
-
ปัจจุบันใช้คันไหนครับ เพราะว่าข้อ 2 กับ 3 เชื่อว่ายังไงก็ต้องเทียบกับคันเดิมแน่ๆอยู่แล้วว่าจะเปลี่ยนไปเยอะแค่ไหนกับความเคยชิน
ปัจจุบันคุณพ่อใช้กระบะ mitsubishi strada คันเก่าครับ ประมาณ 10 ปีได้แล้วครับ , ส่วนตัวผมใช้ Civic fb ครับ
-
ความสบายก็ระดับนึง แต่รถออกแข็งหน่อยขับมั่นใจดี การเก็บเสียงค่อนข้างแย่
2.5นี่ซื้อมากครับ ถ้าขับเร็วไม่ซีน้ำมัน เล่นได้เลย
-
ปัญหาที่เจอ ใช้มา3ปีกว่าแล้วครับ 6โลหมื่น
มีแค่กระจกมองข้าง เฟืองเสียครับ เป็นแทบทุกคันนะครับ ใน cx-5
ขับมันมากครับ ของผมที่ทำไป มี
1. remap
2.สตรัท rsr best-i
3.ล้อforce Rays 18*8
จากการรีแมฟมา แถบไม่ต้องเชนเกียร์เลยครับ ผมไม่เคยเชนเกียร์เลย เวลาคลิกดาวน์ ใช้คันเร่งประมาน 30-40% รู้สึกรถให้กำลังที่เพียงพอ เซงได้สบายเลยครับ
จากการเปลี่ยนใส่สตรัท ทำให้รถรู้สึกเกาะในถนนกว่าเดิมเยอะขึน เหมือนดูดถนนเลยครับ แข็งขึ้นมานิด แต่แถบไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ขับมั่นใจกว่าเดิมเยอะ
แล้วพอใส่ล้อ force ทำให้รถวิ่งดีขึ้น ผมเคยจับความเร็ว 0-100 7.2-7.5วิประมานนี้ คิดง่ายๆ บางที่กดออกตัวเต็มที่ ล้อฟรีตลอดเลยครับ
4.ปัญหาคือเสียงลมเข้ารถ อันนี้ก็คือเปิดเพลง กลบ ก็ธรรมดาไปเลยครับ
5.คุ้มกับราคาที่ซื้อมาแน่นอน ในราคารถ suv ในระดับนี้
6.ท็อปสปีดเคยทำครั้งเดียว ได้ 230 เพราะ Remap ครับ แต่ไม่แนะนำนะครับ แต่จริงความเร็วใช้140-160 ความแรงที่เหลือเอาไว้แค่แซงครับ ปลอดภัยดีที่สุดครับ
7.อยากได้รถสวยๆ มือสอง ทักมา pm ครับ เดียวช่วยหาให้ครับ
-
ปัญหาที่เจอ ใช้มา3ปีกว่าแล้วครับ 6โลหมื่น
มีแค่กระจกมองข้าง เฟืองเสียครับ เป็นแทบทุกคันนะครับ ใน cx-5
ขับมันมากครับ ของผมที่ทำไป มี
1. remap
2.สตรัท rsr best-i
3.ล้อforce Rays 18*8
จากการรีแมฟมา แถบไม่ต้องเชนเกียร์เลยครับ ผมไม่เคยเชนเกียร์เลย เวลาคลิกดาวน์ ใช้คันเร่งประมาน 30-40% รู้สึกรถให้กำลังที่เพียงพอ เซงได้สบายเลยครับ
จากการเปลี่ยนใส่สตรัท ทำให้รถรู้สึกเกาะในถนนกว่าเดิมเยอะขึน เหมือนดูดถนนเลยครับ แข็งขึ้นมานิด แต่แถบไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ขับมั่นใจกว่าเดิมเยอะ
แล้วพอใส่ล้อ force ทำให้รถวิ่งดีขึ้น ผมเคยจับความเร็ว 0-100 7.2-7.5วิประมานนี้ คิดง่ายๆ บางที่กดออกตัวเต็มที่ ล้อฟรีตลอดเลยครับ
4.ปัญหาคือเสียงลมเข้ารถ อันนี้ก็คือเปิดเพลง กลบ ก็ธรรมดาไปเลยครับ
5.คุ้มกับราคาที่ซื้อมาแน่นอน ในราคารถ suv ในระดับนี้
6.ท็อปสปีดเคยทำครั้งเดียว ได้ 230 เพราะ Remap ครับ แต่ไม่แนะนำนะครับ แต่จริงความเร็วใช้140-160 ความแรงที่เหลือเอาไว้แค่แซงครับ ปลอดภัยดีที่สุดครับ
7.อยากได้รถสวยๆ มือสอง ทักมา pm ครับ เดียวช่วยหาให้ครับ
ขอบคุณพี่มากนะครับ รบกวนสอบถามอีกข้อนึงครับ ถ้าเทียบกับตัว 2.0G ในเรื่องของสมรรถนะ มีอะไรที่แตกต่างกันมั่งอ่ะครับ
-
ปัญหาที่เจอ ใช้มา3ปีกว่าแล้วครับ 6โลหมื่น
มีแค่กระจกมองข้าง เฟืองเสียครับ เป็นแทบทุกคันนะครับ ใน cx-5
ขับมันมากครับ ของผมที่ทำไป มี
1. remap
2.สตรัท rsr best-i
3.ล้อforce Rays 18*8
จากการรีแมฟมา แถบไม่ต้องเชนเกียร์เลยครับ ผมไม่เคยเชนเกียร์เลย เวลาคลิกดาวน์ ใช้คันเร่งประมาน 30-40% รู้สึกรถให้กำลังที่เพียงพอ เซงได้สบายเลยครับ
จากการเปลี่ยนใส่สตรัท ทำให้รถรู้สึกเกาะในถนนกว่าเดิมเยอะขึน เหมือนดูดถนนเลยครับ แข็งขึ้นมานิด แต่แถบไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ขับมั่นใจกว่าเดิมเยอะ
แล้วพอใส่ล้อ force ทำให้รถวิ่งดีขึ้น ผมเคยจับความเร็ว 0-100 7.2-7.5วิประมานนี้ คิดง่ายๆ บางที่กดออกตัวเต็มที่ ล้อฟรีตลอดเลยครับ
4.ปัญหาคือเสียงลมเข้ารถ อันนี้ก็คือเปิดเพลง กลบ ก็ธรรมดาไปเลยครับ
5.คุ้มกับราคาที่ซื้อมาแน่นอน ในราคารถ suv ในระดับนี้
6.ท็อปสปีดเคยทำครั้งเดียว ได้ 230 เพราะ Remap ครับ แต่ไม่แนะนำนะครับ แต่จริงความเร็วใช้140-160 ความแรงที่เหลือเอาไว้แค่แซงครับ ปลอดภัยดีที่สุดครับ
7.อยากได้รถสวยๆ มือสอง ทักมา pm ครับ เดียวช่วยหาให้ครับ
ขอบคุณพี่มากนะครับ รบกวนสอบถามอีกข้อนึงครับ ถ้าเทียบกับตัว 2.0G ในเรื่องของสมรรถนะ มีอะไรที่แตกต่างกันมั่งอ่ะครับ
อัตราเร่งครับ ถ้าไม่ได้เป็นคนรถเร็วนะครับ 2.0ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าราคามือสองๆมันพอๆกัน 2.5 ไปเลยครับ
อัตรากินน้ำมันไม่ต่างกันมากนะครับ ประมาน1โลลิตรครับ ถ้าขับไกล้ๆ แทบไม่ต่างกันเลยครับ