ผู้เขียน หัวข้อ: รถมือสอง งบ 6 แสน Focus MK3 2.0 / Focus TDCI ตัวไหนดี ถ้าศูนย์ไม่ใช่ปัญหา  (อ่าน 7731 ครั้ง)

ออฟไลน์ equinox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
จขกท. กำลังหารถมือสองอยู่ครับ โดยมีงบประมาณประมาณ 6 แสนบาทซึ่งที่ดูมาทั้ง 2 ตัว

อยู่ในงบที่มีพอดี โดยได้ศึกษาข้อดีและข้อด้อยของทั้ง 2 ตัวมาพอสมควร แต่ก็ยังลังเลเลือกไม่ถูกระหว่าง

1.Focus MK3 2.0 S+ ราคาประมาณ 570,000 - 600,000 รถปี 2012-2013
ข้อดีอัตราเร่งดีเป็นลำดับต้นๆ ประหยัดพอใช้ถ้าเทียบกับ C Segment ด้วยกัน
ข้อเสียเกียร์เทพ อาจจะพังเอาวันไหนก็ได้ แต่ล่าสุดก็พึ่งเห็นฟอร์ดออกมาขยายระยะเวลารับประกันก็อุ่นในไปนิดนึงครับ
2.Focus TDCI 2.0 ราคาประมาณ 450,000-500,000 รถปี 2010-2011
ข้อดี แรงและประหยัดกว่าตัวเบนซิน เครื่องยนต์ดีเซลที่ทนทานมากกว่าเบนซิน
ข้อเสีย ไม่แน่ใจเกียร์ Powershift ในตัว TDCI มีปัญหาด้วยรึป่าว / ปัญหาแอร์ดับตอนวิ่งไปแสนกว่าๆ

เรื่องศูนย์บริการไม่ใช่ปัญหาครับ จังหวัดที่ผมอยู่ศูนย์บริการฟอร์ดบริการค่อนข้างดีซ่อมแล้วจบ (ถามจากเพื่อนที่ใช้ฟอร์ดอยู่)

ยังไงรบกวนขอความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆชาว HLM ด้วยนะครับ

ออฟไลน์ carpenter

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 296
    • อีเมล์
MK3 2.0 S+ ครับ ออปชั่นล้นๆ เอารถใหม่ดีกว่า

ปล. 6 แสนซื้อได้แล้วหรอครับ

ผมใช้อยู่เห็นราคาช๊อคเลย

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
mk3 อีกเสียง
สวยกว่าเครื่งแรงกว่า
ต่อได้ไกล เทคโนล้ำกว่า

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
TDCi ในคลับปัญหาน้อยครับ เสื่อมตามกาลเวลาปกติของมัน  แต่ปัญหาคืออะไหล่นานมากเพราะมันเป็นรุ่นที่ผลิตต่างประเทศ สต็อคอะไหล่เลยนานหน่อย

ส่วน MK3 หลังๆก็ปัญหาน้อยแล้ว ถ้าเลือกผมเลือกตัวใหม่ครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,973
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
MK3  ครับ 

อะไหล่ตัวดีเซล    รอนานมากเลยครับ

เห็นอยู๋ที่อู่คันนึง  อะไหล่หาไม่ได้มา 8 เดือนแล้วครับ  เป็นปัญหาเกี่ยวเครื่องยนต์       

คือผมเห็นยังขยาดเลย   ขนาดแฟนฟอร์ดนะเนี่ย  ;D
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ equinox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
MK3 2.0 S+ ครับ ออปชั่นล้นๆ เอารถใหม่ดีกว่า

ปล. 6 แสนซื้อได้แล้วหรอครับ

ผมใช้อยู่เห็นราคาช๊อคเลย

เริ่มตั้งแต่ 550000 - 620000 โดยประมาณครับ ส่วนมากที่ขายออกจะราคาไม่เกิน 580000 ครับ ถ้าเกินกว่านี้ส่วนมากจะขายไม่ออกครับ(เห็นค้างมานานแล้ว)

ป.ล. ดูจากคะแนนเสียงแล้ว สงสัย MK3 จะเข้าวิน อิอิ

ออฟไลน์ john

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 718
ทำไม MK3 ถึงเรียกเกียร์เทพละครับ ผมยังไม่เห็นมันพังสักคัน(ดูจากคนรู้จักที่ใช้กันนะ) ในเว็บบอร์ดก็ไม่เห็นคนบ่นว่าพังเหมือนกัน

ออฟไลน์ equinox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
ทำไม MK3 ถึงเรียกเกียร์เทพละครับ ผมยังไม่เห็นมันพังสักคัน(ดูจากคนรู้จักที่ใช้กันนะ) ในเว็บบอร์ดก็ไม่เห็นคนบ่นว่าพังเหมือนกัน

อันนี้จากในคลับนะครับ

http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php?topic=18648.0

http://newfocusclub.com/forum.php?mod=viewthread&tid=4118

http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,29143.0

จริงๆมีอีกพอสมควรครับ

ออฟไลน์ Sagittarius Toshi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 456
สรุปคือเกียร์ยังไม่น่าไว้ใจใช่มั้ยครับ

ออฟไลน์ SZG

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 118
    • อีเมล์
รถคือปัญหาละครับ ไม่ใช่ศูนย์ทั้งหมด
เพื่อนที่ทำงาน เป็นผู้จัดการ ขาย mk3 2.0 ไปหลังจากใช้มาไม่ถึงปีเพราะเกียร์พัง เคลมออกมาก็ยังกระตุก สุดท้ายก็ขายแล้วมาซื้อ Swift แทน (รถในฝันเมีย)
มันบอกหมดงบ ขายขาดทุนไปเยอะ T_T

ถ้ามีตัวเลือกแค่นี้ TDCi ครับ เพราะ mk3 ผมเจอปัญหากับคนใกล้ตัว

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ถ้าจะให้ดี TDCI MT ครับ

แต่หารถโคตรจะยากเลย

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,355
    • อีเมล์
Mk 2 TDCi + PS คลัชเปียก ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ครับ แต่ถ่ายน้ำมันเกียร์ทีนึงปาดเหงื่อมากหน่อย เข้าศูนย์ก็มี หมื่นนึง

แอร์เย็นๆ ร้อนๆ น่าจะมาจากหน้าคลัชคอมแอร์ ร้านข้างนอกทำก็ได้ จบสบายๆ

อะไหล่ สั่งของศูนย์ หรือ ร้านไหนก็ตามที่ผ่านฟอร์ดประเทศไทย ตีขิมรอไปได้เลย นานอิ๋บอ๋าย ครับถ้าเป็นอะไหล่แปลก ที่ไม่ค่อยเสียกัน ลองหาจากเวปที่เค้าขายในอังกฤษยังจะดีกว่า


Mk3 GDi + PS คลัชแห้ง ก็อย่างที่รู้ๆกัน เรื่องเกียร์ เป็นเรื่องเดียวที่ปวดกะบาลมากที่สุด (ถ้าตัดเรื่องศูนย์ออกไป) ไม่รู้มีอะไหล่ทดแทนที่มันดีกว่าของเดิมหรือยัง จะให้เข้าไปเปลี่ยนอะไหล่พวกนี้ทุกๆรอบเช็คระยะก็ไม่ไหวนะครับ ท่านที่ไม่กระตุกนี่โชคดีมากๆครับ


เรื่องแรง พอๆกันทั้ง 2 ตัว ครับ ไม่ต่างกันมากมาย กดก่อน ออกก่อนครับ ถ้าเอาไปแต่งเล็กๆน้อยๆ ดีเซลรุ่งกว่า แต่ถ้าอยากทำไกลๆ 3-5 ร้อยม้า ไปเบนซิน ;D

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,639
อย่าเอาความทนทานของเครื่องดีเซลมาเปรียบเทียบกับเบนซินเลย  เพราะคุณคงไม่ใช้รถฟอร์ดคันนี้ไป 1 ล้านกิโลเมตรหรอกจริงไหม   

  ฟอร์ด TDCI  ดีเซลปัญหาน้อย แต่ถ้ารถชนกันทีหรืออะไหล่เสียหาย    แทบจะซื้อรถใหม่มาใช้แทนไปเลย อีกคันนึงเพื่อรอซ่อม    อีกทั้งถ้าต้องเปลี่ยนอะไหล่หนัก  ๆ ในชุดดีเซลผมว่ากำเงินเดือนไว้หลายเดือนแน่นอน  คือโดนเยอะมาก    รถดีครับอัตราเร่งสนุก และประหยัด     แต่ถึงไม่กลัวศูนย์ก็ต้องกลัวอะไหล่อยู่ดีเพราะมีเงินก็ซื้ออะไหล่ไม่ได้        ถ้ามีรถหลัก ๆ ไว้ใช้อีกคันนึงจะซื้อคันนี้เพิ่มไม่ใช่ปัญหา

อีกตัวนึงไม่มีความเห้นเพราะไม่ทราบครับ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
โฟกัสเครื่องเบนซินอัตราเร่งตอนต้นพอๆกันดีเซลแต่พอหลัง100ไปแล้วที่ดีเซลรอบหมดแรงม้าหมดแต่เบนซินกำลังคึกได้ที่แรงม้ากำลังมาจนกว่าจะถึงรอบแรงม้าสูงสุดนะ  :P
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ l3ank

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 87
มาให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ
ที่บ้านมี mk2 tdci ปลายปี 2012 ช่วงโปร 999000 คุ้มมากครับ ล๊อตสุดท้ายก่อนเปลี่ยนมาเป็น mk3
อัตราเร่งตอนต้นไปจนถึง 140 ดีครับ กดเป็นมา
ประหยัดสุดๆเคยขับได้ 19 โล/ลิตร

ใช้มาจนถึงตอนนี้ 68xxx กม ยังไม่เจอปัญหาเรื่องเกียร์หรืออะไรร้ายแรงครับ
ส่วนปัญหาเล็กๆก็มีขอบกระจกมันดังเวลาขึ้นลงเนินชันๆครับ เสียงออดๆแอดๆ แต่ไม่ดังมากครับ แต่ถ้าตั้งใจฟังก็ได้ยินครับ

เรื่องแอร์ที่บอกว่า ร้อนมั่งเย็นมั่ง ที่ผมเจอจะเป็นในช่วงหน้าหนาวครับ ถ้าอากาศภายนอกเย็นจัด มันจะเป็นลมร้อนออกมาเหมือน Heater เลยครับ
รอซักประมาณ 5-10 นาที อากาศก็จะกลับมาเหมือนเดิมครับ
และอีกกรณีนึงคือ ก่อนดับเครื่องยนต์ต้องปิดแอร์ให้เป็น off ทั้งหมดครับ ถ้าไม่ปิดระบบอุณหภูมิเหมือนมันจะทำงานช้า จะต้องรอซักพักถึงจะเย็น
แต่ถ้าปิดก่อนดับเครื่อง แล้วตอนใช้รถ ค่อยมาเปิดใหม่ คราวนี้เย็นฉ่ำเลยครับ

เรื่องการรออะไหล่ ผมไม่เคยเจอเคสใหญ่เลยตอบไม่ได้ครับ แต่ถ้าอะไหล่ที่จำเป็นตอนเช็คระยะ ก็ไม่มีปัญหาครับ มีเปลี่ยนทันที
ศูนย์ที่ผมเข้าประจำจะเป็นศูนย์เช้ง นครปฐมครับ ช่างเก่งและบริการดีมาก
ซื้อรถฟอร์ดถ้าเจอศูนย์ดีก็หายห่วงได้เลยครับ

ส่วน mk3 ไม่เคยลองครับ ตาม คห ท่านอื่นๆเลยครับ

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
ผมใช้รุ่น MK3 GDi 2.0 Titanium +

สองคันนี้ขับขี่ดีทั้งคู่ ช่วงล่างแบบเดียวกันแต่ไม่อาจทดแทนกันได้หลายอย่าง เพราะ MK3 ออกแบบมาใหม่

แรงพอๆกัน แต่จากตัวเลขที่เคยเห็นของMK3เบนซิน กลับดีกว่าเล็กน้อย ส่วนแรงปลาย MK3 ไหลไปมากกว่า

การประหยัดน้ำมัน MK2 TDCI ดีเซลประหยัดกว่า  แต่ด้วยที่ MK3เบนซินDirect injection+ เกียร์ Power shift แบบแห้งที่ประหยัดน้ำมันกว่า และยังมี Active grill shutter ที่ทำให้การประหยัดน้ำมันอยู่ในกลุ่มหัวแถวของรถ C-segment ของผมใช้งานแถวๆนครปฐม ใช้งานทั่วไปประจำวันได้ 14.9 กม/ลิตร เติมE20(วันนี้ 24.58บาท/ลิตร) ตกกิโลละ 1.65 บาท เลยตอนนี้ไม่ค่อยจะได้ลากรถอีกคันที่ติดแก๊ซมาใช้งานเลย

ความสุนทรีย์สบายในการขับขี่ MK3 มีห้องโดยสารเก็บเสียงได้เงียบดีกว่า วิทยุเครื่องเสียงติดรถเสียงดี มีอ็อบชั่นอำนวยความสะดวกที่ใช้งานได้ประโยชน์จริงๆมากกว่า- Keyless entry ,ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ไฟหน้าอัตโนมัติ,ไฟหน้า Bi-xenon และ มีsunroof ไว้ลดความรู้สึกอึดอัดของบางคนได้บ้าง

ความปลอดภัย MK3 จัดเต็ม แอร์แบ็คร่วมม่านถุงลม 6 ลูก, ป้องกันไหลชน City stop, กันไหลออกตัวบนเนิน HLA

ส่วนเรื่องที่บ่นกันทั่วเมือง นั่นคือเรื่องเกียร์PS ที่จริงเกียร์จะพังจริงๆแบบเกียร์อัตโนมัติรุ่นเก่าๆนั้น ไม่ใช่แบบนั้น เพราะเฟืองเกียร์PSจะแข็งแรง/รูปร่างเหมือนของเกียร์manual
แต่ที่เป็นปัญหาไปทุกตลาด ทั้ง Focus และ Fiesta คือซีลเกียร์(ซึลชุดคลัทช์)ใช้สักพัก จะรั่วซึมน้ำมันเกียร์ไปเปื้อนชุดคลัทช์ จนเกียร์ลื่น/เกียร์กระตุกมากกว่าปกติ ได้มีการผลิตอะไหล่ใหม่มาทดแทนและขยายเวลาประกันซิล/ชุดคลัทช์   ส่วนสมองเกียร์ TCM เสีย ปัญหานี้ไม่ค่อยเจอในFocus MK3 แต่เจอหลายคันในFiestaดังที่เป็นข่าว

เกียร์ PS ของรุ่น MK2 TDCI นั้นจะเป็นแบบเปียก รองรับแรงบิดได้มากกว่า (น่าจะทนทานกว่า?)

อะไหล่รองรับในอนาคต MK2 TDCI ออกมาก่อน น่าจะหาอะไหล่ยากกว่า ส่วนMK3นอกจากมาทีหลัง บ้านเรายังเป็นฐานผลิตส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศมากกว่า มีซัพพลายเออร์ของชิ้นส่วนหลายๆชิ้นในบ้านเราเอง อะไหล่น่าจะหาง่ายกว่า

สรุป เลือก MK3 GDi 2.0 S+ ครับ


ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,355
    • อีเมล์
ถ้าใช้เป็นรถคันเดียว รุ่นใหม่ดีกว่าครับ แต่บางอย่างแอบรอนาน กระจกหน้า ฝากระโปรงหน้า อะไรแปลกๆ แอบนานเหมือนกัน อาจจะเป็นที่ ขั้นตอนการสั่งของด้วยส่วนหนึ่ง แต่ไม่น่าจะสาหัสเท่าตัว MK2 และยิ่งเป็นดีเซลแล้ว อะไหล่หลายตัวไม่เหมือนมาสด้า 3 เบิกห้าง น่าจะทำนาปลูกข้าวได้รอบนึง สั่งเองจากนอกง่ายกว่า

การขับขี่ตัวใหม่ลงตัวกว่า เงียบกว่า นุ่มนวลกว่า มั่นใจพอๆกัน ฟีลลิ่งยามขับเร็วๆ เปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ขึ้นๆลงๆ ตัวใหม่เปลี่ยนเร็วกว่า แต่ตกม้าตายตรง ตุ่ม!!! กดเปลี่ยนเกียร์ ยกเว้นว่าชอบฟิลเเบบกระด้างๆ ตัวเก่าให้มามากกว่า รอยต่อถนนซับแรงไม่ดีเท่าตัวใหม่ ของเล่นตัวใหม่ เพียบบบ ของแต่งก็เพียบ แต่ไม่แพร่หลายเท่ารถยุ่น (จริงๆตัวเก่าก็ไม่ได้หายากมากนัก)

แต่ถ้าเอาคุ้มค่าแบบสุดๆ MK2 เบนซิน 2.0 ล๊อตสุดท้ายครับ อึด ทน ถึก ไม่จุกจิก อะไหล่หาไม่ยาก และราคากำลังดี  ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
กระจกหน้าเป็นแบบมีลวดไล่ฝ้าเส้นเล็กมากๆอยู่ภายในด้วย ไม่น่าจะเป็นเทคโนโลยี่โรงงานในบ้านเรา คงต้องสั่งเมืองนอกอย่างเดียว

ไม่แน่ใจว่าถ้าหมดระยะประกัน จะหากระจกแบบไม่มีลวดไล่ฝ้าจากร้านกระจกรถยนต์ทั่วไปได้หรือไม่ อาจจะมีผู้ผลิต เพราะเคยใช้รถที่ผลิตเมืองนอก ขายได้น้อยกว่าFocusเยอะ แต่ยังมีกระจกบานหน้าที่ผลิตในบ้านเราเลย

ออฟไลน์ ronin

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 68
tdci โลด ถ้าคุณเป็นคนกดหนักและอยากประหยัด ถ้ากดหนัก mk3 ไม่ประหยัดแน่นอนครับ เพราะรอบสูงกว่าจะได้แรง

ออฟไลน์ abnormal

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
แล้วแต่ชอบแหงะ  TDCi  แต่ง rs รับรองสวยแน่   ส่วน mk3 มันสวยอยู่แล้ว เปลี่ยนแค่ล้อก็จบ

ผมเคยเห็นเค้าลองกันเดิมๆทั้งคู่ TDCi กับ mk3 ออกตัวน่าจะเกียร์ 1 2 mk3ไวกว่าแหงะ ไม่รู้เพราะ TDCi ฟรีทิ้งรึป่าว แต่พอหลังจากนั้น tdci ขึ้นเลยครับ แล้วเข้าเส้นไปก่อน  แต่ไม่รู้ว่าเข้าแข่งกันกี่เมตร   แต่ถ้าทางยาวกกว่านี้ยังไง mk3ก็ขึ้นกลับแน่นอน

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,405
เอา mk3 ครับใหม่กว่ากัน สมรรถนะดีมากๆด้วยครับ