Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: iKrit ที่ มิถุนายน 06, 2013, 19:43:24
-
ผมว่าช่วงหน้าฝนนี้หลายคนคงมีปัญหากับน้องหนูที่ชอบหนีจากท่อน้ำที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝนทำให้ต้องเข้ามาหลบอาศัยตามจุดซ่อนเล้นต่างๆ ของรถ โดยเฉพาะห้องเครื่องที่นอกจากจะอุ่นแล้ว ยังมีสายไฟและสายยางต่างๆ นาๆ ให้ได้แทะเล่นกันอีกเยอะแยะจนปวดหัว ซึ่งผมก็คนนึงล่ะที่ต้องเปลี่ยนชุดสายไฟเกียร์ใหม่เพราะน้องหนูกัดกระจุย หมดไปเกือบห้าพัน และสายเบรครถป๋าที่โดนแทะจนรั่ว (หนูฟันเหล็กหรือไงเนี่ย - -") แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มศึกษาและหาวิธีป้องกันไปเรื่อยๆ จนคิดว่าใช้ได้ระดับหนึ่งแล้วล่ะ ซึ่งวิธีนี้คือ......
1. เปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้ทุกครั้งที่จอดรถในบ้าน
2. เอาสารสกัดจากตะไคร้หอมมาผสมน้ำใส่ขวดสเปย์พ่นให้ทั่วห้องเครื่องวันเว้นวัน (ใช้ DDT แทนก็ได้ แต่ไม่แนะนำ)
3. เอาที่ดักหนูหรือยาเบื่อไปหยอดไว้ตามทางผ่านของน้องหนูโดยที่แน่ใจได้ว่าน้องหมาหรือน้องแมวไม่ผ่านแถวนั้น
ข้อพิเศษป้องกันนกพิราบเกาะฝากระโปรงรถที่เปิดอยู่
4. เอาผ้าผืนที่ยาวพอดีกับฝากระโปรงรถคลุมไว้ ใช้ที่หนีบผ้าหนีบไว้กันหลุดกันปลิว (ห้ามใช้ที่หนีบกระดาษเด็ดขาด ไม่งั้นเป็นรอย) ตอนเวลานกอึใส่จะได้ไม่เรี่ยราดบนฝากระโปรง (คาอยู่ที่ผ้านั่นล่ะ) ว่างๆ ก็เอาไปซักแล้วเอากลับมาใช้ใหม่ได้ตามปกติ
ผลคือป้องกันได้ระดับนึงเลย แต่ถ้าลืมพ่นสเปย์นานหน่อย ได้เจอน้องหนูมาเยือนบ้างทันใด - -"
ท่านอื่นใช้วิธีไหนกันบ้างครับ มาแชร์ความรู้กันดีกว่า :D
สุดท้าย...ผมขอถามเพิ่มเติมหน่อยครับว่าพอจะมีท่านไหนทราบไหมครับว่าผมจะหาแผ่นสติ้กเกอร์ติดรถราคาถูกๆ ติดฝากระโปรงรถชั่วคราวประมาณ 2-3 วันแบบไม่ทิ้งคราบกาวสำหรับป้องกันรอยเล็บหมาข่วนได้ที่ใดบ้างครับ?
-
ผงกันหนู......โรยบริเวณโรงรถ....ok เลยครับผม....
-
ผมลองมาหมดแทบจะทุกว่าทีละ สุดท้ายมันได้ผลแปปเดียว พอหนูมันรู้มันก็กลับมา
แต่ตอนนี่ผมมีวิธีที่ได้ผลแล้ว โดยที่หนูไม่กล้ากลับมา
ผมเลี้ยงแมวครับ จากบ้านที่เคยหนูเต้มไปหมด กลายเป้นไม่มีหนูเลย เหมือนหนูมันได้กลิ่นแมว ตอนหลังหนูมันอยู่ในบ้านไม่ได้ มันขึ้นไปอยู่บนฝ้า ผมเอาแมวไปปล่อยวิ่งบนฝ้า2วัน ไม่มีเสียงหนูอีกเลย
ที่ร้านผมมีอุปกรณ์เครื่องตัดสติกเกอร์ หนูมันเข้าไปกัดสายไขาด เสียค่าซ่อมไปหลายพัน ตอนหลังผมเอาเสื้อให้แมวใส่ซัก3วันแล้วเอาเสื้อนั้นไปวางที่เครื่องตัดสติกเกอร์หนูไม่กล้าเขามาอีกเลย
กรณีรถเหมือนกัน ให้หากลิ่นแมว เช่นเสื้อที่แมวเราใส่ หรือกลิ่นฉี่แมว มาวางที่ตัวรถ หรือในกระโปรงรถ หนูไม่กล้าเข้าไปในรถแน่นอน
ได้ผลดีนักแล....
-
รถของผมไม่เคยมีหนูเข้าเลยนะ จะมีก็แต่แมวอ่าคับ กรณีผมนะ คือ ผมจอดรถไว้นอกบ้านแล้วพวกแมวก็ชอบมาปีนป่ายบนรถผม(รถผมสีเทาเงินจึงเป็นรอยแล้วมองไม่ค่อยเห็น) แล้วมีอยู่วันหนึงผมก็เดินไปที่รถเพื่อจะไปมหาลัยตามปกติ ก็เสียบกุญแจแล้วสตาร์ตเครื่อง ปรากฏว่ามีเสียงกึกๆแก๊กๆดังอยู่ตรงฝากระโปรงในห้องเครื่อง ผมก็นึกว่าเครื่องยนต์เป็นอะไรจึงดับเครื่องก่อน แล้วเดินไปเปิดกระโปรงรถเพื่อดู พอเปิดกระโปรงรถก็มีแมววิ่งสวนออกมาใต้ท้องรถผ่านขาของผมไป และห้องเครื่องยนต์นั้นเต็มไปด้วยเลือดครับ ผมจึงเดาว่าคงเป็นเลือดแมวตัวนั้นแระ จึงหาผ้ามาเช็ดคราบเลือดออก(ไม่รู้ว่าทำความสะอาดถูกวิธีไหม) หลังจากนั้นเวลาผมจะสตาร์ตรถ ก็ต้องดูและเคาะตัวถังรถเพื่อให้เกิดเสียงทำให้แมวหรือสัตว์อื่นๆ(ถ้ามี)หนีไปก่อนทุกครั้งเลย
ปล. ผมก็ไม่อยากจอดนอกบ้านหรอกครับ แต่ที่บ้านจอดรถได้2คัน แล้วรถมี3คัน ต้องแย่งกันว่าใครมาก่อน-หลัง แล้วส่วนใหญ่ผมจะเป็นผู้พ่ายแพ้ :'(
-
ผมลองมาหมดแทบจะทุกว่าทีละ สุดท้ายมันได้ผลแปปเดียว พอหนูมันรู้มันก็กลับมา
แต่ตอนนี่ผมมีวิธีที่ได้ผลแล้ว โดยที่หนูไม่กล้ากลับมา
ผมเลี้ยงแมวครับ จากบ้านที่เคยหนูเต้มไปหมด กลายเป้นไม่มีหนูเลย เหมือนหนูมันได้กลิ่นแมว ตอนหลังหนูมันอยู่ในบ้านไม่ได้ มันขึ้นไปอยู่บนฝ้า ผมเอาแมวไปปล่อยวิ่งบนฝ้า2วัน ไม่มีเสียงหนูอีกเลย
ที่ร้านผมมีอุปกรณ์เครื่องตัดสติกเกอร์ หนูมันเข้าไปกัดสายไขาด เสียค่าซ่อมไปหลายพัน ตอนหลังผมเอาเสื้อให้แมวใส่ซัก3วันแล้วเอาเสื้อนั้นไปวางที่เครื่องตัดสติกเกอร์หนูไม่กล้าเขามาอีกเลย
กรณีรถเหมือนกัน ให้หากลิ่นแมว เช่นเสื้อที่แมวเราใส่ หรือกลิ่นฉี่แมว มาวางที่ตัวรถ หรือในกระโปรงรถ หนูไม่กล้าเข้าไปในรถแน่นอน
ได้ผลดีนักแล....
+1 บ้านผมเองตั้งแต่เลี้ยงแมว หนูหายไปหมดเลยครับ อาจเพราะมีทั้งกลิ่นแมวและฉี่แมวด้วย
-
บ้านผมหนูชุมๆทีไรงูเหลือมเข้าบ้านตลอด แล้วหนูก็หายไปซักพัก วันก่อนงูก็เพิ่งมา แต่ไม่ได้ไล่มันอยู่แค่ในครัวปล่อยๆมันไปเช้าแล้วมันกลับไปเอง
-
+1 เลี้ยงแมวอีกเสียงครับ. ได้ผลแน่นอน
-
ลองวิธีของผมบ้างไหมครับ..เผื่อว่าจะได้ผลกับหลายๆท่าน
บอกไว้ก่อนนะครับ...วิธีนี้ผมก็ไปได้มาจากคนอื่นอีกทีนึง จำไมได้แล้วเหมือนกันว่าเวปไหน
เริ่มจากอุปกรณ์ก่อนเลยละกัน
1. พริกป่นเป็นซองๆ(ส่วนมากจะแถมให้เวลาเราซื้อก๋วยเตี๋ยวกลับมากินที่บ้าน)
2. กระบอกฉีดน้ำฝอยๆ (สปุ๊กกี้)
3. น้ำเปล่า
วิธีทำก็แสนง่ายครับ
เริ่มจากเอาน้ำใส่กระบอกฉีดน้ำ แล้วฉีกซองพริกป่นลงไป
เขย่าให้เข้ากัน....หลังจากนั้นก็ไปเปิดฝากระโปรงรถ
แล้วเริ่มฉีดให้ทั่วๆทั้งห้องเครื่อง...แล้วก็ฉีดเยอะๆหน่อยตรงบริเวณที่หนูชอบขึ้นไปอยู่
เท่านี้แหละครับ...ไม่กี่วันหนูก็จะหนีหายไม่กล้าขึ้นมาอีกเลย
เหตุผลง่ายๆคือ พอหนูไปเข้ามาบริเวณที่เราฉีดไว้มันจะแสบร้อนทั้งตัวที่โดนสำผัส
แล้วยิ่งถ้ามันไปแทะโดนสายไฟหรือท่อยางที่เราฉีดพริกไว้ด้วยแล้วละก็มันจะทุรนทุรายเลยละครับ
หลังจากนั้นมันจะไม่กล้ากลับขึ้นมาอีก....
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายๆไม่ต้องลงทุนและที่สำคัญปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีแน่นอนครับ
-
ลองวิธีของผมบ้างไหมครับ..เผื่อว่าจะได้ผลกับหลายๆท่าน
บอกไว้ก่อนนะครับ...วิธีนี้ผมก็ไปได้มาจากคนอื่นอีกทีนึง จำไมได้แล้วเหมือนกันว่าเวปไหน
เริ่มจากอุปกรณ์ก่อนเลยละกัน
1. พริกป่นเป็นซองๆ(ส่วนมากจะแถมให้เวลาเราซื้อก๋วยเตี๋ยวกลับมากินที่บ้าน)
2. กระบอกฉีดน้ำฝอยๆ (สปุ๊กกี้)
3. น้ำเปล่า
วิธีทำก็แสนง่ายครับ
เริ่มจากเอาน้ำใส่กระบอกฉีดน้ำ แล้วฉีกซองพริกป่นลงไป
เขย่าให้เข้ากัน....หลังจากนั้นก็ไปเปิดฝากระโปรงรถ
แล้วเริ่มฉีดให้ทั่วๆทั้งห้องเครื่อง...แล้วก็ฉีดเยอะๆหน่อยตรงบริเวณที่หนูชอบขึ้นไปอยู่
เท่านี้แหละครับ...ไม่กี่วันหนูก็จะหนีหายไม่กล้าขึ้นมาอีกเลย
เหตุผลง่ายๆคือ พอหนูไปเข้ามาบริเวณที่เราฉีดไว้มันจะแสบร้อนทั้งตัวที่โดนสำผัส
แล้วยิ่งถ้ามันไปแทะโดนสายไฟหรือท่อยางที่เราฉีดพริกไว้ด้วยแล้วละก็มันจะทุรนทุรายเลยละครับ
หลังจากนั้นมันจะไม่กล้ากลับขึ้นมาอีก....
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายๆไม่ต้องลงทุนและที่สำคัญปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีแน่นอนครับ
ไอเดียดีมากครับ พวกผงหรือยากำจัดหนูกลัวมันลากไปๆมาๆมาอยู่แถวที่ดูดอากาศเข้ารถ หรือตู้แอร์ เราจะซวยไปด้วย
-
ลองวิธีของผมบ้างไหมครับ..เผื่อว่าจะได้ผลกับหลายๆท่าน
บอกไว้ก่อนนะครับ...วิธีนี้ผมก็ไปได้มาจากคนอื่นอีกทีนึง จำไมได้แล้วเหมือนกันว่าเวปไหน
เริ่มจากอุปกรณ์ก่อนเลยละกัน
1. พริกป่นเป็นซองๆ(ส่วนมากจะแถมให้เวลาเราซื้อก๋วยเตี๋ยวกลับมากินที่บ้าน)
2. กระบอกฉีดน้ำฝอยๆ (สปุ๊กกี้)
3. น้ำเปล่า
วิธีทำก็แสนง่ายครับ
เริ่มจากเอาน้ำใส่กระบอกฉีดน้ำ แล้วฉีกซองพริกป่นลงไป
เขย่าให้เข้ากัน....หลังจากนั้นก็ไปเปิดฝากระโปรงรถ
แล้วเริ่มฉีดให้ทั่วๆทั้งห้องเครื่อง...แล้วก็ฉีดเยอะๆหน่อยตรงบริเวณที่หนูชอบขึ้นไปอยู่
เท่านี้แหละครับ...ไม่กี่วันหนูก็จะหนีหายไม่กล้าขึ้นมาอีกเลย
เหตุผลง่ายๆคือ พอหนูไปเข้ามาบริเวณที่เราฉีดไว้มันจะแสบร้อนทั้งตัวที่โดนสำผัส
แล้วยิ่งถ้ามันไปแทะโดนสายไฟหรือท่อยางที่เราฉีดพริกไว้ด้วยแล้วละก็มันจะทุรนทุรายเลยละครับ
หลังจากนั้นมันจะไม่กล้ากลับขึ้นมาอีก....
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายๆไม่ต้องลงทุนและที่สำคัญปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีแน่นอนครับ
แจ่มครับ ไว้ว่างๆจะลองทำดู
-
ลองวิธีของผมบ้างไหมครับ..เผื่อว่าจะได้ผลกับหลายๆท่าน
บอกไว้ก่อนนะครับ...วิธีนี้ผมก็ไปได้มาจากคนอื่นอีกทีนึง จำไมได้แล้วเหมือนกันว่าเวปไหน
เริ่มจากอุปกรณ์ก่อนเลยละกัน
1. พริกป่นเป็นซองๆ(ส่วนมากจะแถมให้เวลาเราซื้อก๋วยเตี๋ยวกลับมากินที่บ้าน)
2. กระบอกฉีดน้ำฝอยๆ (สปุ๊กกี้)
3. น้ำเปล่า
วิธีทำก็แสนง่ายครับ
เริ่มจากเอาน้ำใส่กระบอกฉีดน้ำ แล้วฉีกซองพริกป่นลงไป
เขย่าให้เข้ากัน....หลังจากนั้นก็ไปเปิดฝากระโปรงรถ
แล้วเริ่มฉีดให้ทั่วๆทั้งห้องเครื่อง...แล้วก็ฉีดเยอะๆหน่อยตรงบริเวณที่หนูชอบขึ้นไปอยู่
เท่านี้แหละครับ...ไม่กี่วันหนูก็จะหนีหายไม่กล้าขึ้นมาอีกเลย
เหตุผลง่ายๆคือ พอหนูไปเข้ามาบริเวณที่เราฉีดไว้มันจะแสบร้อนทั้งตัวที่โดนสำผัส
แล้วยิ่งถ้ามันไปแทะโดนสายไฟหรือท่อยางที่เราฉีดพริกไว้ด้วยแล้วละก็มันจะทุรนทุรายเลยละครับ
หลังจากนั้นมันจะไม่กล้ากลับขึ้นมาอีก....
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายๆไม่ต้องลงทุนและที่สำคัญปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีแน่นอนครับ
ผมลองเปลี่ยนวิธีดูบ้างดีกว่า ขอบคุณครับ :D
-
หนูเป็นสัตว์ที่ฉลาดวีถีเดิมๆใช้กับมันไม่ได้ผลในครั้งที่สอง(ยังกับเซ็นต์เซย่า) :P นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวิธีทึ่บางคนได้ผลบางคนไม่ได้ผล เวลาที่หนูตัวแรกโดนกับเข้าไปมันจะฉี่อออกมาฉี่นี้จะส่งกลิ่นเตือนตัวอื่นๆที่มาทีหลังว่าอันตราย สองปีที่แล้วผมโดนเล่นงานหนักต้องเปลี่ยนสายไฟยกแผงแล้ววิธีต่างๆกันๆด้ไม่เท่าไหร่หนูก็บุกมาอีก ไม้ตายสุดท้ายของผมคือรับหมาหาบ้านมาตัวนึงให้นอนใกล้ๆกับที่รถจอด ทีนี้ไม่มีหนูมาเลยครับเพราะหนูได้กลิ่นหมาแล้วไม่เข้ามาใกล้ ตัวไหนอาจกล้าก็โดนไล่ฟัดกระเจิงหมด เดี๋ยวนี้ผมไม่ต้องวุ่นวายวางกาวดักแล้วครับ ประหยัดเงินและสบายใจจริงๆ :-*
-
(http://www.tvpoolonline.com/Uploads/news/noo2.jpg)
หนู ตาจะ แป๋ว ทุกตัว
หนูเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เหมือนคน
มีหลายอย่างคล้ายคน
รวมถึงความฉลาดในการแก้ปัญหาบางส่วนด้วย (ทำให้มักใช้วิธีเดิมไม่ค่อยได้ผล)
นักวิทยาศาสตร์ จึงนำหนูไปทดลอง ก่อนที่จะมาใช้กับคน จึงเป็นที่มาของคำว่า หนูทดลอง
หนูมักจะชอบหาที่อยู่ ที่ปลอดภัย และอบอุ่น เหมาะกับการคลอดลูกน้อย (โดยเฉพาะในตู้แอร์รถยนต์)
ที่ กัดโน่น กัดนี่ เพราะ หนูหิว
คิดว่าท่อยางต่างๆ ยางหุ้มสายไฟนิ่มๆ มันจะกินได้ไหมน๊า
พอกัดลองกินสักพัก ก็รู้ว่ากินไม่ได้ ก็ไม่กินแระ ทิ้งเลย
เราก็เลยเห็นแต่ซากสายไฟขาดๆ วิ่นๆ ไม่ได้หายไปทั้งหมด นั่นเอง
หนูจะไม่มาอยู่ ในกรณีที่
- เปิดโล่ง ไม่มิดชิด (การเปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้)
- สถานที่เปลี่ยนแปลงบ่อย (ไม่จอดรถ คงที่ไว้หลายวัน)
- ไม่มีอาหาร (ที่จอดรถ ใกล้กับถังขยะ หรือ ในครัว)
- มีศัตรูตามธรรมชาติ (เช่น มีแมว มีงู)
- มีสารพิษ กับดัก
แต่อย่าลืม หนูเป็นสัตว์สังคม อยู่กันหลายตัว มีเพื่อนฝูงมากมาย เมื่อตัวหนึ่งเข็ดหลาบ ก็ไม่ได้แปลว่า หนูตัวอื่นจะรู้เรื่อง หรือเข็ดหลาบด้วย
อาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆได้จากหนูตัวอื่น
อีกวิธี ที่ได้ผล พอสมควร คือ นั่งสมาธิ โปรดสัตว์ บอกหนูว่ามาทำลายอะไรในรถยนต์ให้เสียหาย
ถ้าเขารับได้ก็ สามารถช่วยได้ระดับหนึ่งไม่ต่างจากข้างบน