Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Highway Star ที่ พฤษภาคม 31, 2016, 13:15:56
-
พศ นี้แล้ว หลายคนทำไมถึงคิดว่ารถเครื่องเล็กไม่แรงครับ ผมนี่เจอมาหลายคนมากเลย
ดูนิวปาเจโรอยู่มอเตอร์โชว์ก็ได้ยิน คนคุยกับเซลล์ว่าเครื่อง2.4วิ่งไหวหรือหรือทั้งๆที่ม้าก็มากกว่ายี่ห้ออื่นที่เครื่องใหญ่อีก
คุยกับเพื่อน เพื่อนก็ถามว่าซีวิคใหม่พันห้าเทอร์โบวิ่งไหวหรือทั้งๆที่ม้ามากกว่า สองพันตัวเก่าอีก
คุยกับคนรู้จัก เค้าก็บอกว่าดีแมค1.9จะบรรทุกไหวหรือทั้งที่จริงๆมันแรงกว่าสองพันห้าตัวเก่า
อีโคคาร์ รุ่น...ไปเขา ดอย...ไหวมั้ย ทั้งๆที่รถสมัยก่อน มิรา แรงน้อยกว่านี้ ก็ไปได้ทั่วไทย
แล้วเพื่อนๆพี่ๆว่าบริษัทรถควรจะสื่อสารยังไงดีว่า รถแรงไม่ได้อยุ่ที่ซีซีเยอะ มันอยู่ที่เทคโนโลยีอย่างอื่นด้วย
-
ก่อนมาร์ชออกมาใหม่ๆ เกือบทุกคนจะบอกว่าเครื่อง 1.2 สามสูบ จะไปมีแรงอะไร เดี๋ยวก็พัง เครื่องร้อน วิ่งทางไกลไม่ได้ รอบจัดบลาๆๆๆๆๆๆ
โดยไม่คิดว่าโลหะวิทยามันก้าวไกลมาก จนคนไม่รู้ เพราะยึดติดกับเครื่องใหญ่ 1.5 - 1.6 ลิตร
แล้วทุกวันนี้เป็นไงละ มาร์ช / มิราจ วิ่งทั่วไทย ไม่เห็นมีใครบอกเครื่องพังระหว่างทางเลย (ถ้าคุณท่านไม่ซัดชนิดจมเรดไลน์นะ) วิ่งขึ้นเขาสบายๆ
ถ้าจะให้เลิกคิดได้ ต้องพัฒนาจิตใจของคนก่อนครับ
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
-
คนเราอ่านหนังสือน้อยลงทุกวันๆ แปลกอะไรที่ยังใช้ประสบการณ์อันน้อยนิดมาวิจารณ์
เทคโนโลยีมันก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ หล่ะครับ คนที่อยู่กับที่ไม่ใช่ว่าอยู่กับที่ เพราะโลกมันเดินหนีไปแล้ว
ปล. มันก็เหมือนเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่ clock สูงกว่าใช่ว่าประสิทธิภาพจะดีกว่า
มันต้องดูที่เทคโนโลยี หรือ สถาปัตยกรรมการออกแบบ ที่ใช้มากกว่าครับ
-
พาไปลองขับเลยครับ จะได้รู้แจ้งสักที :D :D :D จะได้ออกมานอกกะลา เจอโลกภายนอกกันบ้าง
-
เพิ่มให้ BMW I8 1500cc 3สูบ หรือจะ Tesla เลย 0cc
-
ผมก็ไม่ค่อยได้ศึกษา รถเก๋ง 1.5 เทอร์โบ ก็น่าจะแรงอยู่ โบทำงานตั้งแต่รอบต่ำ 2,000 รอบ
ถ้าผมจะซื้อ dmax 1.9 บรรทุกของประมาณ 1-2 ตัน ขึ้นทางชัน ขึ้นเขา บรรทุกไหวใช้มั้ยครับ อยากรู้จากผู้ที่ใช้จริงๆ ผมก็ยังรู้สึกกังวลแกมไม่แน่ใจอยู่เหมือนกัน ^ ^"
ปล.กะว่าต้นปีหน้าจะเปลี่ยนรถส่งของใหม่
-
รถคันเเรกของผมที่เก็บเงินซื้อเองเป็น Nissan Sentra 4 ประตู เครื่อง 1500 cc คาร์บูเรเตอร์ แรงม้ามีไม่ถึงร้อย
สมัยนั้นก้อวิ่ง กรุงเทพ-ภูเก็ต อยู่ปีละสองครั้ง
วิ่งขึ้นเหนือ ขึ้นอีสาน ปีนเขาปีนดอย ก้อไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ใช้ประจำในกรุงเทพ วิ่งทางด่วน ซัด 180 ก้อไม่เห็นจะพัง
มาดูรถสมัยนี้ เครื่องเล็กๆอย่างพวกcity car เครื่องพันสอง วิ่งกระฉูดกว่ารถคันที่ผมว่าอีก ทำไมจะวิ่งทั่วไทยไม่ได้
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
-
บางคนแค่เหน็บแนม
บางคนแค่กังวล
จะเปลี่ยนความคิดเค้าได้ คงต้องให้ไปลองด้วยตัวเองครับ
-
แล้วที่เขาพยายามเปรียบเทียบว่าให้ซื้อเครื่องใหญ่ดีกว่าเครื่องเล็กเพราะเวลาวิ่งทางใกลขับสบายกว่า อันนี้จริงมั้ย??
เช่น คนแถวบ้านมักจะบอกว่าเอาวีโก้ 3.0 ดีกว่า 2.5 ขับทางใกล-ขึ้นเขลงห้วย สบายกว่า
-
ทุกคนไม่ได้รู้เหมือนกันหมดนะครับ
ถ้าเรารู้ก็แนะนำกันไป เพราะชอบใช้ cc วัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
เหมือนผมซื้อมือถือ ผมก็ซื้อ iphone ตามกระแส ให้ผมไปเทียบกับยี่ห้ออื่นคง งง เหมือนกัน 55+
-
รถคันเเรกของผมที่เก็บเงินซื้อเองเป็น Nissan Sentra 4 ประตู เครื่อง 1500 cc คาร์บูเรเตอร์ แรงม้ามีไม่ถึงร้อย
สมัยนั้นก้อวิ่ง กรุงเทพ-ภูเก็ต อยู่ปีละสองครั้ง
วิ่งขึ้นเหนือ ขึ้นอีสาน ปีนเขาปีนดอย ก้อไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ใช้ประจำในกรุงเทพ วิ่งทางด่วน ซัด 180 ก้อไม่เห็นจะพัง
มาดูรถสมัยนี้ เครื่องเล็กๆอย่างพวกcity car เครื่องพันสอง วิ่งกระฉูดกว่ารถคันที่ผมว่าอีก ทำไมจะวิ่งทั่วไทยไม่ได้
แรงม้าต่ำกว่าร้อยขึ้นเขาลำบาเหมือนกันนะ เวลาเจอเขาสูงๆ ทางไม่ชันเท่าไร ผมเคยกดได้สุดๆแค่ 70-80 ก็มี
-
XC90 T8 Plug in Hybrid เบนซิน 2.0 (4สูบ) โทษน่ะครับ 400 กว่าตัว เหอะๆ
-
มันขึ้นอยู่กับ segment และค่ายรถด้วยป่าวครับ <<อันนี้ผมเดานะ แต่รถสมัยนี้ชอบลงท้ายด้วยคำว่า turbo เลยบอกไม่ถูก
เพราะถ้าจะให้เทียบ รถที่ผมเอามาแต่ง civic fd 1.8 ปี2010 พอเหยียบเกิน 180 มันก็เริ่มแกว่งๆกับสั่นแล้วละครับ แถมกว่านางจะขึ้นถึงเอาเรื่องอยู่
แต่ถ้าขับ Cls250 เหยียบแล้วอาการสั่นไม่ค่อยมีครับเมื่อใช้ความเร็วสูง ขับนิ่งดี แถมไม่ต้องเข้นเครื่องเหมือน FDเลย
ส่วนมากถ้าจะเอาแรงจัดๆก็ต้องแต่งจูนเพิ่มเอาป่าวครับ แต่เครื่อวมันก็ยิ่งเสื่อมสภาพเหมือน FDที่ผมเอามาแต่ง
-
แนะนำให้ไปลองขับครับ แล้วทุกอย่างจะจบ
-
ก็สมัยก่อนวิทยาการทางความคิดยังไม่บรรเจิดเหมือนสมัยนี้ ดังเช่นรถกระบะสมัยก่อนมีแต่จะเพิ่มซีซีขึ้น เช่น 2500 -2800- 3000- 3200 เกทับกันว่าเครื่องใหญ่กว่าแรงกว่า ผู้บริโภคเลยติดว่าเครื่องซีซีมากจะแรงกว่าและภาครัฐยังไม่มีการเข้มงวดด้านมลพิษมากนัก พอมาปัจจุบันใครจะทำเครื่องเล็กมาแข่งต้องโฆษณาให้หนักเพื่อล้างความเชื่อเดิมๆที่ค่ายรถฝังหัวให้ผู้บริโภค เพราะโดนภาษีและค่ามลพิษบังคับให้ต้องทำเครื่องเล็กลง ทีรถอีแต๋นเครื่องหกร้อยซีซีสิบกว่าแรงงม้ายังแบกน้ำหนักสองสามตันสบายเนอะ
-
ถ้าคนรู้กันหมดก็ไม่เรียกว่าเทคโนโลยีใหม่ยังไงละครับ อย่างทรัม์ไดฟผมไม่รู้หรอกว่ายี่ห้อไหนดีต้องดูยังไงผมเอาที่ความจุเยอะๆราคาถูกๆแค่นั้นเอง แล้วก็น่าจะเป็นหน้าที่หลักของผู้ผลิตที่ต้องมาทำความเข้าใจกับลูกค้านะแต่ตัวแทนที่เข้าถึงโดยตรงกับลูกค้าอย่างเซลล์หลายๆคนก็ยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับของที่จะขายซักเท่าไหร่เลยจะคาดหวังให้คนทั่วๆไปเข้าใจกันเองคงจะเป็นเฉพาะกลุ่ม
-
ถ้าว่ากันที่พื้นฐานของเครื่อง จริงครับ ซีซีน้อยกว่า ก็แรงสู้ซีซีมากกว่าไม่ได้อยู่แล้ว อันนี้พูดถึงภายใต้พื้นฐานเดียวกันนะครับ
เครื่อง 2.4 ของมิตซู ถ้าอยู่ในรถนั่ง แน่นอนมันวิ่งดี เพราะเทอร์โบบูสต์มาเต็ม แต่กว่าจะได้มาก็ต้องรอรอบกันพอสมควร
ดีแมก 1.9 บรรทุกหนักๆ ขึ้นเขา ยังไงก็สู้ 2.5เดิมไม่ได้ครับ แต่ถ้าวิ่งตัวเปล่า 1.9ก็ไม่ต่างกับ2.5ครับ
แต่ในชีวิตจริง อัตราเร่ง มันไม่ได้อยู่ที่เครื่องอย่างเดียว มันต้องดูอัตราทดเกียร์ การจูนเครื่อง อะไรอีกหลายๆอย่างครับ
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า
ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว 2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ ไม่รวมไมล์โม้นะครับ
แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า
ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว 2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ ไม่รวมไมล์โม้นะครับ
แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
ผมลืมเรื่องไปเพี้ยนไปซะสนิท ^^ แต่ก็อย่างที่พี่บอกเลยครับ 1.8+CVT ตัวนี้ไม่ธรรมดาเหมือนกันห่างกันราวๆ 200 CC ถือว่าเยอะเหมือนกันยิ่งถ้ากางสเปค M3 210Nm 165hp กับ Altis 177Nm 141hp ได้อัตราเร่งออกมากลับสูสีใกล้เคียงกันเลยทีเดียว
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า
ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว 2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ ไม่รวมไมล์โม้นะครับ
แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
มาสด้า3 เดิมๆ ระยะ2-3กิโล ตามอัลติสไม่ทันหรอกครับ
วัดกันปลายเอา และอาจจะไม่ทันนะ
รอผู้ที่เคยลองมาแชร์อีกเสียง
-
มันก็ถูกครับ...แรง สำหรับมัน
ดังนั้นเขาจึงเปรียบเทียบความแรง/น้ำหนักรถด้วย สมมติม้า แค่ร้อยเดียว รถหนักพันโล ก็ 1 ม้า/10 โล แค่ลดน้ำหนักไปให้เหลือ 1 ม้า/9 โล มันก็ขับได้แรงกว่าอยู่แล้วครับ
-
ซีซีน้อย ไม่แรงจะไหวเหรอ
ผมมองว่า ซีซีน้อย ให้แรงดี ต้องเค้นเยอะ ความร้อนก็สูงตาม แต่อย่างว่าสมัยนี้เทคโนโลยีช่วยได้มาก ระยะยาวจะเป็นยังไง บ้านเรายิ่งเมืองร้อน
ญี่ปุ่นใช้รถ 5x.xxx โลก็ว่าเยอะแล้ว พี่ไทยใช้เฉลี่ย 4 เท่า ต้องรอดูคับ
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า
ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว 2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ ไม่รวมไมล์โม้นะครับ
แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
มาสด้า3 เดิมๆ ระยะ2-3กิโล ตามอัลติสไม่ทันหรอกครับ
วัดกันปลายเอา และอาจจะไม่ทันนะ
รอผู้ที่เคยลองมาแชร์อีกเสียง
ครับผม ผมก็แชร์ในมุมที่ผมเคยลองขับ และดูในคลิปคุณจิมมี่ครับ
ท่านอื่นๆอาจมีประสบการณ์ต่างกัน ก็ลองแชร์กันดูครับ
-
ผมก็ไม่รู้ว่าเราต้องไปสนใจความคิดคนอื่นทำไม
เราไม่ได้มีหน้าที่อะไร ต้องไปเปลี่ยนแปลงความคิดคนอื่น
-
ผมก็ว่ามันไม่แรงนะ แต่พอใช้งานตามสภาพรถ
เอามาร์ชไปขึ้นเขา เหนื่อยเหมือนกัน คิดว่าครั้งเดียวพอ แต่พอต้องไปด้วยมาร์ชอีก เรีบนรู้จักหวะ ทำใจกับมัน เออ ไม่แรง แต่ไปได้นะเริ่มชินก็ไม่เหนื่อย
แต่พอโดดกลับมาขับคันอื่นที่เครื่องโตกว่า เออ มาร์ชอืดเนอะ ...
-
เอาแค่ccน้อยอย่างเดียวไม่แรง ถูกต้องแล้วครับ แรงกว่าซิประหลาด
ถ้าบวกตัวแปรอื่น อันนี้อีกเรื่อง
-
ถ้าอิงตามหลักพื้นฐาน ... ซีซีน้อยไม่แรงเท่าซีซีใหญ่ ที่เทคโนโลยีเท่ากันครับ
แต่เทคโนโลยีมันพัฒนาขึ้น จน CC เล็ก แรงเท่า CC ใหญ่(สมัยก่อน) ส่วน CC ใหญ่ๆ (3000 Turbo นี่แรงม้าป้วนเปี้ยน 400) กลายเป็นโครตแรงไป
========
แต่เท่าที่คนไทยเข้าใจผิด ๆ คือคิดว่า ซีซีน้อย เทคโนโลยีใหม่ๆ มันแรงไม่เท่า CC เยอะสมัยก่อนนั่นละที่ผมว่าคิดผิดๆน่ะ
แต่สงสัยว่ารถเทอร์โบนี่ ถ้าวิ่งขึ้นเขาจริงๆ โอเค แรงมันอาจจะพอ แต่ถ้าขับขึ้นยาวๆต่อเนื่องนานๆจะมีปัญหาเรื่องความร้อนที่สูงกว่ารถเครื่อง NA หรือเปล่า อันนี้ผมไม่แน่ใจ (พวกรถกระบะ ไม่นับ เพราะพวกนี้มันดีเซล ความร้อนเครื่องยนต์ กำลังอัดมันต่ำกว่าพวกเบนซินที่เค้นกันหนักๆ) ขนาด NA ยังร้อนพอสมควรเลย รวมถึงระยะยาว ที่อุณหภูมิในห้องเครื่องสูงกว่า วัสดุต่างๆ จะทนทานเหมือน NA หรือไม่
(แน่นอนว่าออกแบบให้ดี ให้ทนทานได้ แต่ค่ายรถมันทำหรือเปล่า หรือแอบลดต้นทุนส่วนนี้)
-
อยู่ที่เวลาครับ เด๋วก็เปลี่ยนเองแหละ ค่ายรถแต่ละค่ายก็จะค่อยๆดันเทคโนโลยี downsizing เข้ามา แต่ละค่ายก็ต้องอธิบายให้ลูกค้ารู้ว่าเพราะอะไรจนคนทั่วไปเข้าใจแพร่หลายเองนั่นแหละ ไม่เห็นต้องไปคิดแทนเลยครับ เรารู้เราก็บอกเขา
-
จนกว่าเขาจะเข้าใจเรื่อง แรงม้า กับแรงบิด ครับ
ไม่งั้นก็ไม่มีทางเปลี่ยนความเชื่อได้
จะอย่างไรก็ช่างเขาเถอะครับ เราใช้เอง แรงประหยัด ปล่อยให้เขาใช้เครื่องใหญ่กินน้ำมันกันไปเถอะครับ
เราเข้าใจ เราก็เลือกรถอย่างฉลาด ในราคาที่เหมาะสมกับเรา ไม่ต้องไปแข่งขนาดเครื่องกันครับ
-
คนไม่รู้ก็คือไม่รู้ครับ เขาไม่ได้มาสนใจรถยนต์แบบพวกเรา ก็ต้องเข้าใจว่าเค้าไม่ได้มารู้ว่า CC ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ความแรงตัวเดียว แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า CC ก็ยังเป็นตัวที่บ่งบอกสมรรถนะได้ดีเป็นอันดับต้นๆเช่นกัน เพราะตัวเลขมากกว่า น้อยกว่า มันดูง่ายกว่าบอกว่ารถจูนดี จูนไม่ดี มีโบ ไม่มีโบ กี่แรงม้า แรงบิดกี่นิวตันเมตร อะไรแบบนี้ครับ
ผมว่าคงเปลี่ยนความคิดคนไม่ได้ครับ แนะนำได้ แนะนำไหวก็ทำไป หรือไม่ก็เฉยๆไปเวลาได้ยินครับถ้าไปเดินเจอในงานโชว์
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า
ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว 2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ ไม่รวมไมล์โม้นะครับ
แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
ผมใช้อัลติส วิ่ง 100 gps 93 วิ่ง 160 gps 153 วิ่ง 200 gps 193 ไม่น่าจะเรียกว่าโม้ 7% ต้องเรียกว่าโม้ -7 ถึงจะถูก ในทำนองเดียวกัน มาสด้าสาม ก็โม้ -3 เท่ากับห่างกันแค่ -4 เทียบแล้ว ให้ใช้ความเร็ว gps จับจริงๆ 0-100 ยังไงอัลติส 1.8 ก็เร็วกว่า มาสด้า 2.0 แต่ความเร็วปลาย มาสด้ามากกว่า เพราะอัลติสล๊อคที่ 200 ตามไมล์ ที่อธิบายซะยาวเพราะเห็นบ่อยกับประโยคที่ชอบพูดกันว่า โม้ 7% ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกที่สุดครับ
-
ก็คงจะยากนะครับ
-
แต่ผมเห็น อีซูซุ1.9 ก็ ขายดีกว่า Revo นะครับ
ทัศนคติ ผู้บริโภค ผมว่ากำลังเปลี่ยนไปนะครับ
-
ผมเชื่อว่า...ถ้าเทคโนโลยีเท่าๆกัน ซีซี.มากกว่า ย่อมแรงกว่า... และในทางตรงข้ามก็ย่อมมีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่า...
-
ห้ามไม่ได้ครับ ความคิดของคนรุ่นเก่า
เครื่อง 1500 cc สมัยเค้ากับสมัยนี้มันต่างกันนะ
-
เมื่อเขาได้ลองขับเองครับ อ้าวจริงๆนะครับไม่ได้กวน อาผมมาจากกทม. แกใช้รถใหญ่ๆอย่างแอคคอร์ท 3.0 ไรงี้ครับ ละบ้านผมมีแต่อีโคคาร์ ต้องเอาขึ้นเขาด้วย แกว่าจะไหวหรือ พอได้เอาไปขับจริงๆ ตอนกลับมาถามแก แกว่าเอ่อ มันแรงกว่าที่คิด จริงๆนะครับ ต้องลองเองเท่านั้นแหละครับถึงจะลบทรรศนคติเดิมๆออกไปได้ "สิบปากว่าไม่เอาตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคำไม่เท่าลองเองครบ" ผมเชื่อแบบนั้น
-
ถ้าเครื่องเทคโนโลยีเดียวกัน มันก้อยุ่แล้วนะผมว่า
ไม่งั้น รีโวคงไม่ทำ 2.8 ออกมาสำหรับขัวขับ4 แน่
แต่ถ้าคนละเทคโนโลยีลองย้อนไปง่ายๆ
เครื่อง TFR Dragon Eye ตัว 2.8 มีโบ กากกว่า ของ D-Max 1.9 อีก
-
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว
แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ
1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ
แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์
ล้อ 16 และไล์เพี้ยน 7 % ผมว่าไม่ได้ไวกว่าครับ เอาล้อเท่ากันมาวัดได้เลย
ปล. ถ้าเป็น -7 ก็ตาม คห. บนเลย ถ้าล้อเท่ากัน Altis ไม่ได้กิน วัดกันตาม GPS นะ ไม่ใช่ไมล์รถ
-
เทคโนโลยีเดียวกัน CC มากย่อมแรงกว่า มันคือความเป็นจริง
แต่เอารถปัจจุบันมาเทียบกับรถ 10 ปีที่แล้วด้วย CC เครื่องอย่างเดียวเนี่ย คงต้องเคลียร์กันก่อนล่ะนะ
-
แต่รถที่ขายกันอยู่นี้เทคโนโลยีมันไม่เท่ากันนะสิครับ
-
ผมไม่อธิบายนะ คนที่อยากรู้จริงๆ แล้วเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังได้จิงๆ ต้องหมั่นหาข้อมูลเองครับ เดี๋ยวนี้
Internet มีทุกอย่าง หาอ่านที่เป็น เรื่องราวจริงๆ ไม่ใช่คอมเม้น คอมเม้นมันเชื่อได้ 50-50 อย่างหลายๆ
คำของคนไทยหรือความเชื่อต่างๆที่ จขกท ยกตัวอย่างมานั้น เป็นสิ่งที่คนพูดกันมาฟังกันมา ถามว่าจริงๆมีกี่
คนครับที่หาข้อมูลจริง ทุกที่แหละครับสายโม้เยอะ รุ่นนั่นอืดบ้างล่ะ แรงบ้างล่ะ ผมยังสงสัยเลยพวกที่เป็นห่วง
รถรุ่นนุ้นนี้จะขับขึ้นเขาไม่ไหว ดอยนู้นนี้ ตอนขับขึ้นเป็นนักแข่งหรอครับหรือยังไง ต้องขับให้เร็วๆมาก หวังว่า
จะได้ใช้ความแรงที่หวังไว้นะครับ ไม่ใช่ซื้อรถมาแล้วเอาแต่พูด ผมเห็นอยู่บ่อยๆ
-
ผมยอมรับว่าผมก็คนนึงที่หัวโบราณมากทั้งที่ยังไม่แก่ ยังชื่นชอบกับเครื่องยนต์ที่่ความจุเยอะสูบแยะทั้งที่เทคโนโลยีทุกวันนี้ไปไกลมากแล้ว
บอกได้คำเดียวถึงม้าและแรงบิดจะเท่ากัน ผมก็ยังยอมรับว่าเครื่องใหญ่ๆสามารถตอบสนอง"ฟิลลิ่งแบบดิบๆ"ได้ดีกว่าเครื่อง downsizing อยู่ดี
-
มันคงเป็นเรื่องฝังหัวในคนรุ่นเก่าๆแหละครับ เราอาจจะต้องอธิบายให้เข้าใจว่า Tech ไปไกลแล้ว มีกาคิดค้นพัฒนาไปหลายๆอย่าง
-
ยากครับ
-
เท่าที่ผมเคยลองมาหลายคัน ทั้งเครื่องเล็กเครื่องใหญ่ มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ การทดสอบ 0-100 ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าแรงหรือไม่แรงเสมอไปในชีวิตประจำวัน มีทั้งคันเร่งหน่วงบ้าง เกียร์โง่บ้าง อัตราทดเฟืองท้ายที่เซ็ดมาไม่ค่อยสัมพันธ์บ้าง แต่เขาอิงเกณฑ์นี้เป็นมาตรฐานเพราะควบคุมสภาวะแวดล้อมการทดสอบได้โดยการเหยียบคันเร่งมิดเพื่อเค้นกำลังสูงสุดของรถได้เหมือนกันทุกคัน ครั้นจะไปทดสอบแบบครึ่งคันเร่งก็เดี๋ยวมาประเด็นถกขึ้นมาอีกว่าต้องกดยังไงถึงจะได้ครึ่งนึงพอดี ในคลิปของ HLM พี่แพนก็บอกว่าเนินครึ่งคันเร่งแค่ใช้ทดสอบดูเรื่องความฉลาดของคันเร่งกับเกียร์ดูว่ามันจะฉลาดแค่ไหน หรือถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาก็จะดูว่าเซ็ดอัตราทดเกียร์มาสัมพันธ์กับเครื่องดีหรือป่าว
ส่วนตัวผมยังยอมรับว่าตอนจุ่มคันเร่งเบาๆ หรือจุ่มครึ่งนึง เครื่องซีซีที่มากกว่ามีแรงดึงตัวถังที่ขนาดพอกันได้ดีกว่าเครื่องที่ซีซีน้อยกว่าโดยที่ไม่ต้องใช้รอบเครื่องที่สูงมากนัก ยกตัวอย่าง Vios 1.5 4AT กับ Yaris 1.2 CVT ตอนกดมิด 0-100 มันได้เลขเวลาที่พอกัน แต่เมื่อตอนใช้งานในชีวิตจริง Vios กลับลื่นไหลได้ดีกว่า Yaris ตอนช่วงที่จุ่มคันเร่งเบาๆ ไม่ต้องลากรอบสูง
ดังนั้นจะว่าคนที่คิดว่าเครื่องซีซีน้อยไม่แรงก็ไม่ได้ถูกเสมอไป แต่เราก็ไม่ได้ผิดอะไรที่มองว่าเครื่องซีซีน้อยมันแรงกว่าได้ครับ มันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนที่เคยพบเจอมาด้วย :)
-
แล้วเพื่อนๆพี่ๆว่าบริษัทรถควรจะสื่อสารยังไงดีว่า รถแรงไม่ได้อยุ่ที่ซีซีเยอะ มันอยู่ที่เทคโนโลยีอย่างอื่นด้วย
บางทีคำอธิบายเชิงวิศวกรรมแปลงให้เป็นคำอธิบายที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ยากครับ ประสบการณ์ตรงเท่าที่เจอมาเลย
คนทั่วไปหรือคนเล่นรถบางคนยังมองเรื่องCCเป็นหลักอยู่
ทั้งที่ปัจจัยไม่ได้อยู่ที่เรื่องเครื่องยนต์อย่างเดียว ว่ากันตามจริงเครื่องยนต์ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่มากครับแต่เทคโนโลยีอื่นๆที่สนับสนุนการผลิตหรือการสนับสนุนทำงานของเครื่องยนต์มันพัฒนาไปมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะครับ
-
คนสมัยเก่า ยังคิดว่าเครื่องยนต์ CC. น้อย ยังไงก็สู้เครื่องยนต์ CC. เยอะไม่ได้อยู่ดี เรื่องเดินทางไกล การบรรทุก ขึ้นเขาลงห้วย
ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ เทคโนโลยีทันสมัยขึ้นและไปไกล ต้องพาไปลองขับและสัมผัสด้วยตัวเอง ครับ
-
555 คูณห้า่มพวกเค้าไม่ได้หรอกครับ ความคิดคนมันห้ามกันไม่ได้ แต่การศึกษาหาข้อมูล มันหากันได้ ก็อยู่ที่คนแหละครับ ว่าเค้าเปิดหูเปิดตา หรือปิดหูปิดตา อยู่กับเรื่องเก่าๆ แต่คนไทยบางส่วนเท่าที่ผมรู้จักมา ผมบอกก็รับฟังและเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆเร็ว ผมว่าแล้วแต่คนด้วยครับ
-
เทคโนโลยีมันไปไกลแล้วครับ 555
::)
-
ผมมักจะตอบว่า คนตัวอ้วนใหญ่ ก็ไม่ได้แข็งแรงกว่าคนที่ตัวเล็กกว่านะ
คนตัวเล็ก ก็ไม่เห็นว่าจะต้องอึดน้อยกว่าคนตัวใหญ่
คนตัวพอๆกัน ฟิตพอกัน น้ำหนักน้อยก็อาจจะวิ่งเร็วกว่า แต่ก็ไม่เสมอไป วิวัฒนาการก้าวไปไกลจนเราต้องพัฒนาตามจริงๆครับ
ปล.ผมก็เคยเป็นคนนึงที่คิดแบบนั้น วันนี้ก็เข้าใจได้จากการเปิดใจครับ ดีที่มีเวปดีๆมาเขียนอะไรที่แตกต่างให้ได้อ่าน ได้ศึกษากันครับ
-
คนบางส่วนยังไม่ค่อยเปิดใจครับ คือยังไงมันก็เพียงพอต่อการใช้งานชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ใช่ heavy-duty มากจนเกินไป
ก็เดี๋ยวนี้รถ Formula-1 เครื่องเหลือแค่ 1600cc turbo ทำเวลาต่อรอบเร็วกว่า บลอคN/A เมื่อก่อนด้วยซ้ำ แถมยังมีกฏว่าห้ามเปลี่ยนเครื่องยนต์ระหว่างสนาม (ต้องใช้จนพัง) และควบคุมปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอีก
-
ผมไม่รู้ รู้แต่ว่า 528i โครตแรงเลย ขนาดโดนตอนม้าไป 3-40 ตัว ยังโครตแรง
กดเป็นมา 0-100 ต่ำกว่า 7 วิ แน่ๆ กดมาแล้วแบบไม่เต็มไม่ทันนับก็ขึ้น 100 แล้ว
อีกอย่างอย่าลืมเรื่องเกียร์ รถแรงๆ ตามสเปค เหมือน รถเยอรมันยอดนิยม มีแรง
อยู่ไหน ในเมื่อเกียร์มันไม่ฉลาด กดไปกว่าจะมา 555+ เขาไปไหนกันแล้ว ...
-
ให้ไปลองขับครับ แล้วความคิดจะไปเปลี่ยนไป พวกเครื่อง 1.0 ecoboost แนะนำให้หามาลองขับ
-
รถผม Ford Fiesta เครื่อง 1.0 เคยไล่กระบะแต่งควันดำมาแล้วนะครับ กระบะหนีไม่ออก คือผมจะแซงแต่พี่แกกดตาม เลยจัดให้ เป็นไงล่ะครับ เครื่องเบนซิน 1.0 เทอร์โบเดิมๆ กับเครื่องดีเซล 2.5 เทอร์โบ พ่วงกล่อง ท่อตรง ต้นยกให้เขาแต่ปลายผมขอ