Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Yeahyeahs ที่ มกราคม 04, 2019, 16:46:39
-
ติดตามวงการรถมาเรื่อยๆ เมื่อก่อนใครเอารถญี่ปุ่นไปเทียบกับเบนซ์นี่ โดนหัวเราะเยาะใส่แบบเหยียดหยามเลย
แต่ปัจจุบัน นอกจากภาพลักษณ์ และดีไซน์ที่ดูหวือหวา ตอนนี้ดูเหมือน MB กลายเป็นรถจุกจิก บริการแย่ ดีเฟ็กต์เยอะ ระบบไฟฟ้าห่วย ฯลฯ
วัดเรื่องการขับขี่ก็โดนแบรนด์ญี่ปุ่นตามทัน จนบางรุ่นโดนแซงไปแล้วด้วยซ้ำ
หลังๆมาแบรนด์ยุโรปรองๆด้วยกันก็เริ่มทำตลาดน่าสนใจขึ้นทั้งดีไซน์และสมรรถนะ แต่คนยังกลัวเรื่องศูนย์บริการอยู่
แต่ไปๆมาๆ เบนซ์เหมือนพยายามลดมาตรฐานตัวเองลงมาให้เท่าๆ(หรือแย่กว่า)เพื่อนซะงั้น
คิดเห็นยังไงกันบ้างครับ
-
ผมว่ายังได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วทำราคา+Option ได้ดีมาก
ยอดขายตอน Motor Expo ก็เลยเยอะมาก
ปัจจัยที่ว่ามาแทบไม่สะทบสะท้านเลย พูดง่ายๆคือมีข่าวในแง่ลบเยอะยังไง ก็ยังขายได้เยอะอยู่ดี
-
มันก็น่าใช้อยู่ดีอะครับชื่อเสียงแบรนด์ที่สั่งสมมานานในไทยมันไม่ธรรมดาครับ
แล้วคนที่มีกำลังซื้อจริงๆก็ยังชอบเบ็นซ์กันอยู่ลองถามคนที่อายุ 50+ ดูครับ
ยังไงคนกลุ่มนี้ใจยังอยู่ที่เบ็นซ์ซะส่วนใหญ่ครับ
-
ผมว่าไม่ว่าจะอย่างไร เบนซ์ก้ยังคงมีภาพลักษณ์ที่ดูดี ดูพรีเมียมอยู่เหมือนเดิมวันยั่งค่ำนั่นแหละคับ เพราะชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และอื่นๆมัน established ในไทยมานานมากแล้วคับ แม้แต่เทียบกับแบรนด์คู่แข่งชาติเดียวกันอย่าง bmw ผมก้ยังว่าเบนซยังเหนือกว่าอยู่ดี และคนไทยส่วนใหญ่ก้ยังคงให้ความชอบกับเบนซมากกว่า เพราะมันหมายถึงภาพลักษณ การบ่งบอกถึงสถานะทางสังคม บลาๆ ของคนขับ ไม่ว่าจะมีปัญหายังไงแต่สิ่งเหล่านี้ก้ไม่ทำให้ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานของมันลดถอยลงไปได้นะคับ คหสต. :)
-
ยอดขายอันดับ 1 ของรถหรูบ้านเรา ไม่รู้กี่ปีติดต่อกัน
มันก็น่าใช้แหละครับ แต่ถ้ากังวลเรื่องปัญหาต่างๆ ก้อย่าเพิ่งเลย
-
ยิ่งขายดีตอนคุณภาพห่วยลง คนเจ็บใจในความห่วยของมันก็เยอะตาม คนที่จะไม่ซื้อมันอีกเลยก็เยอะไปด้วย
-
แล้วแต่คน แต่ดวงจริงๆครับ
บ้านเพื่อนใช้ทั้งตัว W213 ทั้งสองคน E220d และ E350 Hybrid ก็ไม่เห็นจะเจอปัญหาอะไร
กลับกลายเป็นว่าชอบกว่า BMW ที่บ้านทั้ง F10 และ F30 จนขายออกทิ้งหมด
-
ผมแปลกใจหากรถแบรนด์ๆนึงจะ ลดมาตรฐานตัวเอง
ผมว่ามีแต่ทำให้ดีขึ้น
อย่าราคา. มาปนกับคำว่ามาตราฐาน
-
ดูจากยอดขาย ก็ยังไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ :-\
-
ไม่น่าใช้เฉพาะบางรุ่นเช่นพวกรหัส e ปัญหาเยอะมากแต่ถามเป็นรหัส d หรือเบนซินเพรียวๆ อันนี้น่าใช้กว่าเยอะ 10ปี ยังไม่จุกจิก
-
มันก็ยังน่าใช้ถ้าเทียบว่ามันคือ Benz นะครับ คือขายความเป็น Benz น่ะแหละ ขายความหรูหรา ส่วนการขับขี่หลังๆมา D-segment ญี่ปุ่นก็ขับดีพอๆกันแล้วนะครับ(ถ้าเทียบแบบไม่อคตินะ)
ส่วนเรื่องจุกจิกผมว่าจุกจิกกว่าแต่ก่อนเยอะครับ
ส่วนBMW นี่หลังๆมาทนนะครับไม่ต่อยจุกจิกเท่าไหร่เลย ตั้งแต่ F10 F30 ขึ้นมา
ปล....ถ้าเล่นยุโรปเงินไม่ถึงจริงๆก็น่าปวดหัวครับ
-
ลองดูยอดขายซิครับ ถ้าไม่น่าใช้ ยอดทำไมเป็นแบบนั้น ปัญหาคงมีเฉพาะกลุ่มไฮบริดมากกว่ามั้งครับ
-
ตราดาวมันเย้ายวนเสมอครับ แต่ถ้ามีปัญหามากๆจะกลายเป็นคนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ
-
C200 W205 คนรู้จักเห็นโดนกล่องควบคุมไฟหน้า ลูกละแสนกว่า ศูนย์ไม่เคลมให้บอกว่ารถขับลุยน้ำมา เพราะเห็นคราบน้ำ เจ้าของบอกไม่เคยลุยน้ำเลย ต้องไฟท์ถึงจะได้เคลม แล้วก็มีไฟหน้าติดข้างเดียวอีกรอบ แล้วก็ไม่มีไรแล้วครับ ปัญหาคงมีพวกระบบไฟฟ้านี่แหละ
ถ้าอาการพวกนี้เกิดกับรถญี่ปุ่น ส่วนตัวผมรับได้นะ ถ้าซ่อมแล้วจบ เคลมให้ง่ายๆ แต่ถ้าราคาแสนกว่าแล้วไม่ให้เคลมก็ขอลาล่ะครับ
-
ลองดูยอดขายซิครับ ถ้าไม่น่าใช้ ยอดทำไมเป็นแบบนั้น ปัญหาคงมีเฉพาะกลุ่มไฮบริดมากกว่ามั้งครับ
ใช่ครับ ดูจากยอดจองในงาน Motor Expro สิครับ ถ้าคิดเป็นจำนวนเงินแล้วผมว่าสูงที่สุดเลยนะครับ น่าจะชนะ Toyota ด้วย
-
รถเบนซ์ของผมใช้มา 15 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา ยังขับไปไหนๆได้ทั่วทั้งประเทศไทย อะไหล่ก็ยังหาได้ทุกชิ้น ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นคงหมดสภาพไปแล้ว
-
ไปเห็นกระทู้เทียบ Forester กับ GLC มาหรือเปล่าครับถึงมาตั้งกระทู้ประมาณนี้
ผมมองว่ามันก็ยังเป็นรถเกรด Premium อยู่ดี ในรุ่นล่างๆอาจจะขับแล้วสูสีหรือโดนรถญี่ปุ่นบางรุ่นแซงไปบ้าง
แต่รุ่นบนๆหรือรุ่น Performance ก็ยังถือว่าเป็นหัวแถวของรถในระดับเดียวกันอยู่
ส่วนเรื่องบริการหลังการขายของศูนยฯผมไม่แน่ใจว่าดีหรือแย่
แต่เห็นอู่นอกแถวลาดพร้าวทั้ง Benz และ BMW ก็มีคนเอารถมารอเข้า service แน่นตลอด อันนี้สังเกตุจากที่ขับผ่านเกือบทุกวันนะครับ
แสดงว่ามีคนที่เลือกจะเข้าอู่นอกเยอะเหมือนกัน
-
ที่มีปัญหาหลักๆคือPHEVครับ
รวมๆระดับพรีเมี่ยมผมว่าเบ้นนี่คือดีเลยนะ ภายในภายนอก ราคา ออฟชั่น
-
ยังไงก็ขายดีตลอดกาล เหมือนซื้อนาฬิกา ROLEX นั่นแหละ ...
-
.
.
ผมว่าความเห็นของ จขกท สวนทางความชาวโลกมากนะครับ
ช่วงที่ผ่านมา MB ยอดขายดีขึ้นไม่เฉพาะในไทย แต่คือทั้งโลก
แล้วมันจะไม่น่าใช้ยังไงครับ
ผมว่าที่คนบ่นกันเยอะก็เพราะช่วงหลัง MB ทำราคาลงมาเยอะ
ทำให้มีคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้และคาดหวังไว้สูงมากๆมาซื้อ
พอไม่เป็นไปตามที่คิดก็โวยวายกัน
คล้ายๆกรณีนาฬิกา PP คนที่เล่นอยู่แล้วไม่บ่น
แต่คนที่เพิ่งมาซื้อส่วนใหญ่จะบ่นกัน
โดยส่วนตัวผมว่า MB ยังน่าใช้อยู่มากๆครับ
-
.
.
ผมว่าความเห็นของ จขกท สวนทางความชาวโลกมากนะครับ
ช่วงที่ผ่านมา MB ยอดขายดีขึ้นไม่เฉพาะในไทย แต่คือทั้งโลก
แล้วมันจะไม่น่าใช้ยังไงครับ
ผมว่าที่คนบ่นกันเยอะก็เพราะช่วงหลัง MB ทำราคาลงมาเยอะ
ทำให้มีคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้และคาดหวังไว้สูงมากๆมาซื้อ
พอไม่เป็นไปตามที่คิดก็โวยวายกัน
คล้ายๆกรณีนาฬิกา PP คนที่เล่นอยู่แล้วไม่บ่น
แต่คนที่เพิ่งมาซื้อส่วนใหญ่จะบ่นกัน
โดยส่วนตัวผมว่า MB ยังน่าใช้อยู่มากๆครับ
แปลกแฮะ ส่วนใหญ่บ่นที่ผมเจอคือคนที่ใช้เบนซ์มาหลายคันแล้วมากกว่า ที่เจอบ่อยๆเลยก็คือไม่ทนเหมือนเดิมนั่นแหละครับ
กลับกันคนที่เพิ่งมีโอกาสได้ใช้นี่จะไม่ค่อยติอะไรเท่าไหร่เลย ยิ่งถ้ายกรถญี่ปุ่นไปเทียบบางคนไม่ฟังเหตุผลอะไรเลยก็มี คิดว่ายังไงยุโรป(ที่อุตส่าห์ซื้อมา)ก็ต้องดีกว่า
-
.
.
ผมว่าความเห็นของ จขกท สวนทางความชาวโลกมากนะครับ
ช่วงที่ผ่านมา MB ยอดขายดีขึ้นไม่เฉพาะในไทย แต่คือทั้งโลก
แล้วมันจะไม่น่าใช้ยังไงครับ
ผมว่าที่คนบ่นกันเยอะก็เพราะช่วงหลัง MB ทำราคาลงมาเยอะ
ทำให้มีคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้และคาดหวังไว้สูงมากๆมาซื้อ
พอไม่เป็นไปตามที่คิดก็โวยวายกัน
คล้ายๆกรณีนาฬิกา PP คนที่เล่นอยู่แล้วไม่บ่น
แต่คนที่เพิ่งมาซื้อส่วนใหญ่จะบ่นกัน
โดยส่วนตัวผมว่า MB ยังน่าใช้อยู่มากๆครับ
แปลกแฮะ ส่วนใหญ่บ่นที่ผมเจอคือคนที่ใช้เบนซ์มาหลายคันแล้วมากกว่า ที่เจอบ่อยๆเลยก็คือไม่ทนเหมือนเดิมนั่นแหละครับ
กลับกันคนที่เพิ่งมีโอกาสได้ใช้นี่จะไม่ค่อยติอะไรเท่าไหร่เลย ยิ่งถ้ายกรถญี่ปุ่นไปเทียบบางคนไม่ฟังเหตุผลอะไรเลยก็มี คิดว่ายังไงยุโรป(ที่อุตส่าห์ซื้อมา)ก็ต้องดีกว่า
เบนซ์รุ่นเก่าๆไม่ค่อยมีอุปกรณ์ลูกเล่นอะไร เพิ่งเริ่มมามีของเล่นเยอะช่วงหลังปี 2000 นี้เอง ถ้ามองแค่อุปกรณ์พื้นฐานแบบที่รถก่อนปี 2000 มี เช่นเครื่องยนต์ เกียร์ เพลาขับ ช่วงล่าง เบาะ ตัวถัง ของพวกนี้ยังทนเหมือนเดิมครับ
-
โดยส่วนตัวไม่นิยมเบนซ์ และไม่คิดจะใช้เบนซ์ และไม่เคยมองว่าถ้าใช้เบนซ์แล้วจะช่วยเสริม image ให้ตัวเอง ก็คงมองว่าเบนซ์ไม่น่าใช้ (สำหรับตัวเอง) อยู่วันยังค่ำ ของแบบนี้แล้วแต่คนจะมองมากกว่าครับ
-
รถเบนซ์ของผมใช้มา 15 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา ยังขับไปไหนๆได้ทั่วทั้งประเทศไทย อะไหล่ก็ยังหาได้ทุกชิ้น ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นคงหมดสภาพไปแล้ว
ของผมสลับกัน W211 E60 ผมขายทิ้งหมดแล้ว หมดสภาพภายใน และซ่อมบ่อยมากๆ ผิดกับรถญี่ปุ่น Jazz กับ Fortuner ตัวแรกสุด ที่ปลดจากที่บ้านผมใช้เองไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เอาไปให้เซลล์ใช้ต่อยังใช้ได้สบายแทบไม่ซ่อมเลยมาอีก 5 ปี ซึ่งไมล์รวมๆก็ปาเข้าไปจะ 6แสนโลแล้ว ยังไปได้ทั่วไทยไว้ใจได้มากกว่ายุโรปเก่าๆที่ผมขายทิ้งไปอีกครับ
-
ถ้าเงินถึง ผมยังมองว่าเบนซ์น่าใช้นะ
ส่วนเรื่องญี่ปุ่นจะแซงยุโรป คำพูดนี้มันมีมานานแล้ว แต่ก็ไม่แซงสักที
สิ่งที่ญี่ปุ่นได้เปรียบคือความคุ้มค่า ออกแบบง่ายๆเลยไม่ค่อยจะเสียกัน
-
คนใช้ Benz ก็รัก Benz ต่อไปเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าโชคดี
ส่วนผม ติ่ง Honda แต่เจอ เกียร์ G9 ไป 4 ลูก
ผมเข็ด
ปัญหาถ้าไม่เจอกับตัว ก็ไม่รู้ครับ
-
เข็ดกับปัญหาจุกจิกแสนแพง และระบบแอร์ปัญญาอ่อน เอาอากาศภายนอกเข้ารถ ของ benz จริงๆ
ขยาด
-
ในตลาดบ้านเรา BENZ ค่อนข้างแข็งแกร่งมาก
ต่อให้รถจะแย่ หรือบริการไม่ดี ขนาดไหนก็ตาม
ผมว่ายังมีคนที่จงรักภักดีและอยากจะลอง พร้อมที่ใช้อยู่ตลอด
-
....เบนซ์ ได้เรื่องสวยหรูดูดี ในขณะที่รถญี่ปุ่นเองก็พัฒนาเทคโนโลยีไล่ตามขึ้นมาจนความรู้สึกในการขับบางรุ่นใกล้เคียงกัน ต่างกันที่หน้าตาเวลาขับเท่านั้นแหล่ะ ขับเบนซ์ไปจอดที่ไหนก็ดูดี ตามค่านิยมเก่าๆ รถดีๆอย่าง Audi Lexus คนไทยยังไม่รู้จักมาก ถามว่าเบนซ์ยอดขายเพิ่มเพราะรถมันสวยจริง หรู แต่น่าใช้มั้ยก้แล้วแต่คนชอบ มือใหม่ใช้เบนซ์ก็เยอะ เดี๋ยวหลังหมดประกันก็จะได้สัมผัสเอง ว่ามันคุ้มค่าซ่อมมั้ย
-
ตลาดไทยไทย
Benz เถอะครับ
1. รถเอาเข้ามาขาย เยอะรุ่นมาก
2. โชวรูมเยอะกว่า รถยุโรปเจ้าอื่นๆ
3. ราคาขายต่อสำหรับรถยุโรปก็ไม่เลว
ถ้าในรถยุโรป
ส่วนตัวตอนนี้เริ่มคิดว่าจะเสียตังซื้อ D-Segment ราคา 1.4-2ล้าน หรือจะโยกไป Benz/BM ราคา 2.5-3ล้าน เริ่มไม่ลังเลที่จะกลับมา D-Segment Hybrid แล้วครับ
ดูความสบายของคนใช้ นี่สวนทางกับภาพลักษณ์ไปแล้ว เหอะๆ
-
ตอบกันตรงๆแบบไม่อวย ก็อาจจะใช่ครับ
บ้านผมใช้ตราดาวมาตลอดตั้งแต่คุณปู่ใช้ทับ8 มันจุกจิกเปราะบางและซ่อมแพงขึ้นมากตั้งแต่ยุคปี2000ขึ้นมา
มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเยอะและมันไม่เสถียรเท่าฝั่งญี่ปุ่น เหมือนพอพัฒนาอะไรได้มาใหม่ก็รีบๆยัดใส่แล้วรีบเอามาขายอ่ะครับ
W211คุณพ่อผมตอนนั้นเจอปัญหาหนักมากๆ เป็นอีคลาสรุ่นแรกที่ใช้เบรคไฟฟ้า ขับมาดีๆอยู่ๆไม่ทำงานซะงั้น หลังคาซันรูปเปิดแล้วปิดไม่ได้ และอย่างอื่นอีกเยอะ
แต่ตัวผมก็ยังใช้CLAอยู่นะ เป็นเบนซ์คันแรกใช้มาปีกว่ายังไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่รู้จะเจอแจ็คพอตเข้าวันไหน :(
ในคลับเบนซ์เห็นคนอื่นเจอปัญหากันหลายรุ่นและศูนย์แก้ไม่จบ จนตอนนี้ก็เริ่มระแวงเหมือนกันครับ
สุดท้ายถ้าคันนี้เจอปัญหาหนักๆใน5ปีแรก คันหน้าผมก็คงไปฝั่งญี่ปุ่นครับ
-
เข้ามาร่วมตอบในฐานะใช้ MB มาแล้วสองรุ่น w212 และw213 ตัว E350e
บอกได้ว่าชอบและประทับใจมาก w212 ใช้ 5 ปี ก็ไม่มีะไรจุกจิก เข้าศูนย์ตามระยะ
ช่วงปีหลังก็เริ่มเข้าอู่นอกตอนเช็คระยะ มีเปลี่ยนยางแท่นเครื่องไป ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ค่าใช้จ่ายก็แพงตามมาตรฐานรถยุโรป ซึ่งก็ย่อมต้องแพงกว่ารถญี่ปุ่น
ภาพรวมก็พอใจมาก ศูนย์บริการก็ดี
ตัวปัจจุบันE350e ก็ไม่มีปัญหาอะไร ประทับใจกับความสวยงาม
ภายใน ความนุ่มเงียบ และความประหยัด ไม่เข้าใจว่าทำไมคนกลัว plug in hybrid กันจัง
อนาคตก็ E class ออกใหม่ก็คงใช้อีก เพราะเปลี่ยนรถประมาณ 5-6 ปี
-
ใช้ e มา 3 รุ่นละครับ ซื้อมือ 1 ตลอด บอกตรงๆว่าถ้าเอาความสบายและนุ่มนวล และเอาความชอบตัวเองในความเป็นเจ้าของนี่ไม่มีเลยครับ อยากให้ mbth มันโดนฟ้องไปเร็วๆด้วยครับ เอาเปรียบผู้บริโภคมากครับ
-
เบนซ์มันจะน่าใช้ถ้าเงินเหลือเยอะ ไม่น่าใช้ถ้าเงินเหลือน้อยครับ อันนี้ไม่ได้กวน แต่พูดตามความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมา เจ้าของเบนซ์หลายคันที่ผมสนิทด้วยจริง เจอปัญหาที่ไม่น่าเจอ S-Class เครื่องพัง, GLC กล่องพัง, E220d วิ่งแซงแล้วดับ หรือตัดคันเร่งแล้วไปคาเกียร์ 3-4 ดับเครื่องแล้วสตาร์ทไม่ติด ส่วนพวก Bluetec Hybrid, Plug-in Hybrid ไม่ต้องห่วง แม้ว่าไม่ใช่ว่าจะพังทุกคัน แต่ภาพรวมขึ้นยานแม่เยอะกว่า 530e, 330e (ซึ่งสองรุ่นนี้ก็มีพัง มี failure แต่นับดีๆไม่เยอะเท่า)
หลายคนซื้อเบนซ์เพราะปู่หรือพ่อบอกว่าเป็นรถที่ทนทาน ไม่จุกจิก ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป วิธีการทำรถก็เปลี่ยนไปมาก พอเจอเบนซ์จุกจิกบางคนก็รับไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่าย และเข้าใจว่า "การที่รถแพงกว่า ไม่ได้แปลว่ามันต้องทนกว่า หรือปลอดปัญหามากกว่า" แบบนั้นคุณอาจจะมีความสุขกับเบนซ์
และถ้าวัดกันจริงๆ เบนซ์ Defect เยอะ แต่พอเก็บจบแล้วอายุ 5-7 ปี เทียบกับ Audi ที่ Defect น้อย แต่พออายุ 7 ปีเท่ากัน ผมว่า Audi มีงานให้เก็บเยอะกว่า คนอื่นคิดแบบผมไม่เป็นไรนะ แต่ผมพูดตามที่เจอมา คุณไม่ควรใช้ยุโรปเป็นรถคันเดียวของบ้าน แต่ถ้าคุณมีรถสำรองใช้อีกคัน ก็อย่าไปคิดมาก
ผมว่าความแพงของเบนซ์ มันก็ตอบแทนเราด้วยวัสดุและดีไซน์บางจุดที่ทำให้รู้สึกว่าได้ใช้ของดี และในระยะหลังมานี้ ผมพบว่าเบนซ์รุ่นใหม่ขับได้สนุกขึ้น พวงมาลัยตอบสนองไวขึ้น ล่าสุดขับ C220d Avantgarde ผมรู้สึกว่ารถแบบนี้น่าจะขายไปนานๆ ออพชั่นมันขาดไปบ้าง จัดมางงๆ แบบว่า มีฝาท้ายไฟฟ้า แต่ไม่มี Smart Entry และเบาะไม่มี Memory แต่พอลืมๆเรื่องพวงนี้ไปแล้วโฟกัสที่การขับ..สนุกมาก ช่วงล่างสเป็ค Standard แต่ทรงตัวดีกว่า E220d เมื่อก่อนอีก โยนโค้งแม้จะไม่แน่นแบบ 330e M Sport แต่ดีกว่า 320d F30 ล็อตแรกๆปีต้นๆแน่นอน อัตราเร่งไว เกียร์กับคันเร่งไม่โง่ ใส่โหมด C ก็ขับรีบๆแล้วไม่หงุดหงิด ผมว่าเรื่องการขับขี่ เขากำลังพยายามจะทำให้ดีนะ และมันดีขึ้น
หรืออย่าง C43 AMG ผมก็ยอมรับว่าจัดสเป็คมาได้ดี และมีความพยายามในการทำราคามาได้ดี
แต่ในเรื่องบริการ เรื่องความทนทาน ผมมองไปในอนาคตแล้วรู้สึกว่ายังไงมันก็ไม่มีวันเหมือนเดิมครับ มองเบนซ์ให้เหมือนแฟนรวยๆคนนึง คนรวยก็จะมีส่วนที่ต้องการอะไรพิเศษกว่าคนทั่วไป แต่ก็มีสิ่งที่พิเศษได้มาตอบแทนกัน ผมถึงเขียนแต่แรกว่า ถ้าคุณเงินถึง และไม่ซวยไปเจอศูนย์หรือเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี คุณจะรักมัน แต่ถ้าคุณเก็บเงินมาทั้งชีวิต จะลองซื้อรถหรูใช้เป็นคันแรกในชีวิต ระวังจะอกหักครับ ผมเจอคนร้องไห้ต่อหน้าเพราะดาวมาเยอะแล้ว
-
จะให้"น่าใช้" แบบไหนครับ
ถ้าจะเอาทนทานไม่จุกจิกใช้งานหนักๆกะจะแค่ล้างกับเปลื่ยน นมค ซื้อโตโยต้าครับ เอารุ่นที่optionน้อยๆ
แต่ถ้าจะ"ใช้"เสริมภาพลักษณ์ตราดาวกินขาด ขับขี่จริงๆแบบคนทั่วๆไปไม่เร็วไม่บู้ต่างกันนิดๆแทบไม่รู้สึก
พ่อผมใช้แต่รถยุโรปมาทั้งชีวิตยังเปลื่ยนเป็นcamryตอนแก่ จอดทิ้งตากแดดตากฝนนานๆล้างที(สองสามเดือนล้างหน) ไม่เห็นเคยมีอะไรพังไม่เคยนอนอู่ไม่เคยขึ้นยานแม่ ตอนเด็กๆรถยุโรปจุกจิกทุกยี่ห้อ รถนอนอู่ประจำ
-
กระทู้นี้ ร้อนแรงจริงๆ ถ้าเปลี่ยนยี่ห้อเป็น BMW จะมีคนตอบเยอะแบบนี้ไหม
-
เบนซ์มันจะน่าใช้ถ้าเงินเหลือเยอะ ไม่น่าใช้ถ้าเงินเหลือน้อยครับ อันนี้ไม่ได้กวน แต่พูดตามความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมา เจ้าของเบนซ์หลายคันที่ผมสนิทด้วยจริง เจอปัญหาที่ไม่น่าเจอ S-Class เครื่องพัง, GLC กล่องพัง, E220d วิ่งแซงแล้วดับ หรือตัดคันเร่งแล้วไปคาเกียร์ 3-4 ดับเครื่องแล้วสตาร์ทไม่ติด ส่วนพวก Bluetec Hybrid, Plug-in Hybrid ไม่ต้องห่วง แม้ว่าไม่ใช่ว่าจะพังทุกคัน แต่ภาพรวมขึ้นยานแม่เยอะกว่า 530e, 330e (ซึ่งสองรุ่นนี้ก็มีพัง มี failure แต่นับดีๆไม่เยอะเท่า)
หลายคนซื้อเบนซ์เพราะปู่หรือพ่อบอกว่าเป็นรถที่ทนทาน ไม่จุกจิก ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป วิธีการทำรถก็เปลี่ยนไปมาก พอเจอเบนซ์จุกจิกบางคนก็รับไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่าย และเข้าใจว่า "การที่รถแพงกว่า ไม่ได้แปลว่ามันต้องทนกว่า หรือปลอดปัญหามากกว่า" แบบนั้นคุณอาจจะมีความสุขกับเบนซ์
และถ้าวัดกันจริงๆ เบนซ์ Defect เยอะ แต่พอเก็บจบแล้วอายุ 5-7 ปี เทียบกับ Audi ที่ Defect น้อย แต่พออายุ 7 ปีเท่ากัน ผมว่า Audi มีงานให้เก็บเยอะกว่า คนอื่นคิดแบบผมไม่เป็นไรนะ แต่ผมพูดตามที่เจอมา คุณไม่ควรใช้ยุโรปเป็นรถคันเดียวของบ้าน แต่ถ้าคุณมีรถสำรองใช้อีกคัน ก็อย่าไปคิดมาก
ผมว่าความแพงของเบนซ์ มันก็ตอบแทนเราด้วยวัสดุและดีไซน์บางจุดที่ทำให้รู้สึกว่าได้ใช้ของดี และในระยะหลังมานี้ ผมพบว่าเบนซ์รุ่นใหม่ขับได้สนุกขึ้น พวงมาลัยตอบสนองไวขึ้น ล่าสุดขับ C220d Avantgarde ผมรู้สึกว่ารถแบบนี้น่าจะขายไปนานๆ ออพชั่นมันขาดไปบ้าง จัดมางงๆ แบบว่า มีฝาท้ายไฟฟ้า แต่ไม่มี Smart Entry และเบาะไม่มี Memory แต่พอลืมๆเรื่องพวงนี้ไปแล้วโฟกัสที่การขับ..สนุกมาก ช่วงล่างสเป็ค Standard แต่ทรงตัวดีกว่า E220d เมื่อก่อนอีก โยนโค้งแม้จะไม่แน่นแบบ 330e M Sport แต่ดีกว่า 320d F30 ล็อตแรกๆปีต้นๆแน่นอน อัตราเร่งไว เกียร์กับคันเร่งไม่โง่ ใส่โหมด C ก็ขับรีบๆแล้วไม่หงุดหงิด ผมว่าเรื่องการขับขี่ เขากำลังพยายามจะทำให้ดีนะ และมันดีขึ้น
หรืออย่าง C43 AMG ผมก็ยอมรับว่าจัดสเป็คมาได้ดี และมีความพยายามในการทำราคามาได้ดี
แต่ในเรื่องบริการ เรื่องความทนทาน ผมมองไปในอนาคตแล้วรู้สึกว่ายังไงมันก็ไม่มีวันเหมือนเดิมครับ มองเบนซ์ให้เหมือนแฟนรวยๆคนนึง คนรวยก็จะมีส่วนที่ต้องการอะไรพิเศษกว่าคนทั่วไป แต่ก็มีสิ่งที่พิเศษได้มาตอบแทนกัน ผมถึงเขียนแต่แรกว่า ถ้าคุณเงินถึง และไม่ซวยไปเจอศูนย์หรือเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี คุณจะรักมัน แต่ถ้าคุณเก็บเงินมาทั้งชีวิต จะลองซื้อรถหรูใช้เป็นคันแรกในชีวิต ระวังจะอกหักครับ ผมเจอคนร้องไห้ต่อหน้าเพราะดาวมาเยอะแล้ว
คอมเม้นที่ทรงคุณค่าตั้งแต่ต้นปี อ่านแล้วเคลียร์เลยครับผม ::)
-
ส่วนตัวผมคิดว่ายังน่าใช้อยู่นะครับ ทุกวันนี้คุณพ่อของผมท่านยังบ่นว่าอยากได้ W213 อยู่เลยครับ
ตอนนี้ผมก็กำลังเชียร์ให้ท่านหาซื้อตัวรหัส E220d มือสองอยู่ครับ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้อเมื่อไหร่
ในปัจจุบันเราสามารถเจอ Benz ได้บ่อยมากขึ้นบนท้องถนน ก็อาจจะทำให้ความน่าใช้ลดลงไปบ้าง
แต่ส่วนตัวแล้วผมก็ยังไว้ใจในคุณภาพของรถ Benz อยู่นะครับ ขอแค่มี Warranty 5 ปี ผมก็หายห่วงแล้วครับ
-
ตัวผมเองเคยใช้ BMW E60 ตัวเครื่อง M54 525iSe มาสองคัน คันแรกปี 2004 คันที่สองปี 2006
ทั้งสองคันขายไปตอนรถอายุ 8 ปี วิ่งได้ 200,000 กิโลเมตรทั้งคู่ โดนค่าซ่อมไปคันละ 700,000 บาทครับ
ตอนหลังเปลี่ยนใจใช้เบนซ์ เพราะคิดว่ามันจะทนนี่ละครับ
คันแรกที่มีโอกาสได้ซื้อคือ C200 CGI w204 ปี 2013
ปัญหาก็มีตั้งแต่ ช่วงล่างดึงซ้ายมาก (เกิน 1,000 กิโลเมตร ศูนย์ไม่เคลมให้)
แอร์ไม่ค่อยเย็น (ศูนย์บอกปกติ ทั้งที่ปรับแอร์จน 20 องศา พัดลมแรงสุด)
หลังๆ มีบางครั้งคุณแม่ขับข้ามทางรถไฟ แล้วเร่งไม่ออก ต้องดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ถึงออกตัวได้
สุดท้ายสมองเกียร์พังกลางทาง ยังเคราะห์ดีไม่โดนรถชน หรือไม่ค้างสนิทตอนข้ามทางรถไฟ
จนตอนหลังใช้ครบ 5 ปี 90,000 กิโลเมตร ก่อนขายเครื่องก็มีเสียงดัง (อันที่จริง ดังตั้งแต่ 30,000 กิโลเมตร แต่ศูนย์บอกว่าปกติเช่นกัน)
วันที่ขายรถ ผู้ซื้อยังทักเลยว่าทำไมเครื่องมันดังแบบนี้ แสดงว่าผมและคุณแม่ไม่ได้คิดกันไปเอง
ตอนหลังมาใช้ C180 Coupe c204 ก็มีปัญหาอีกหลายประการ จอดทิ้งศูนย์ทีสองอาทิตย์ นอกจากแก้ปัญหาไม่ได้ ยังได้ปัญหาใหม่อีก จนหมดประกัน (แถม SA ไม่เข้าใจในฟังก์ชั่นของรถเลย บอกรถปกติตลอด ไฟหน้าออโต้มันติดค้าง เปิดปิดไม่ได้ ไฟสูงค้าง มันปกติตรงไหนครับ ?)
ยังไม่เข็ด ซื้อ E350e มาใช้อีก มีปัญหาตั้งแต่วันไปรับรถ กำลังจะขับรถออกมา ไฟเครื่องขึ้นเตือน
เซลล์รีบนำรถลัดคิวตรวจเช็คให้ พบว่า ท่ออากาศหลุด
หลังจากนั้นใช้มาเรื่อยๆ เจอปัญหาคือ
1 พวงมาลัยยกขึ้นเองอัตโนมัติเวลาดับเครื่อง พอมันขึ้นสุดมันค้างครับ
เวลามาขึ้นรถครั้งต่อไป ต้องใช้แขนดันแรงๆ แล้วกดปุ่มปรับลง (ศูนย์บอก ปกติเช่นกัน)
2 ขับๆ ไป ไฟเตือนรูปแบตสีแดงขึ้น พี่บางท่านบอกว่าเป็นเพราะไดชาร์จ บางท่านก็แอร์ ถามเซลล์บอกเป็นที่แบตไฮบริด (ส่วนนี้กำลังจะนำรถไปทิ้งไว้วันจันทร์ที่ 7 มกราคมนี้ครับ ไปต่างประเทศพอดี ว่าจะทิ้งให้ช่างชำแหละให้หนำใจสัก 2 อาทิตย์)
3 ม่านหลังปรับขึ้นลงได้บ้างไม่ได้บ้าง
4 ช่วงล่างถุงลมที่ไม่นิ่มเลย กระด้างมากกก ตึงตังๆ แม้จะปรับเป็นโหมด Comfort ส่วนนี้เข้าใจว่าเป็นที่ยาง rft ครับ รอบหน้าว่าจะลองยาง MC PS4 เหมือนคันอื่นดู
5 ประตู เวลาเปิดแล้วชอบหนีบกลับมาตลอด ไม่ได้จะเปิดประตูระดับ 1 2 หรือ 3
ส่วนนี้ศูนย์บอกปกติ เพราะลูกค้าเปิดไม่สุด พื้นเอียง (ขอโทษนะครับ ผมเนี้ยเปิดประตูสุด พื้นราบในห้างหลายๆ ที่ มันยังหนีบตรูดผมเลยครับเวลาขึ้นลงรถ
ถ้าถามว่าใช้เบนซ์แล้วคิดอย่างไร ผมบอกเลยว่า ไม่น่าใช้ ใจจริงอยากได้ Lexus ครับ ติดที่ Es ออกมาช้าไป (เป็นรุ่นแรกมี่คุณแม่บอกว่าสวย คือ สวยเพราะสีเมทัลลิคหน่ะครับ)
อีกประการคือ คุณแม่จ่ายเงินค่ารถให้ ก็ต้องตามใจคนจ่ายครับ ถ้าจ่ายเองไป Lexus แน่นอน
-
เบนซ์มันจะน่าใช้ถ้าเงินเหลือเยอะ ไม่น่าใช้ถ้าเงินเหลือน้อยครับ อันนี้ไม่ได้กวน แต่พูดตามความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมา เจ้าของเบนซ์หลายคันที่ผมสนิทด้วยจริง เจอปัญหาที่ไม่น่าเจอ S-Class เครื่องพัง, GLC กล่องพัง, E220d วิ่งแซงแล้วดับ หรือตัดคันเร่งแล้วไปคาเกียร์ 3-4 ดับเครื่องแล้วสตาร์ทไม่ติด ส่วนพวก Bluetec Hybrid, Plug-in Hybrid ไม่ต้องห่วง แม้ว่าไม่ใช่ว่าจะพังทุกคัน แต่ภาพรวมขึ้นยานแม่เยอะกว่า 530e, 330e (ซึ่งสองรุ่นนี้ก็มีพัง มี failure แต่นับดีๆไม่เยอะเท่า)
หลายคนซื้อเบนซ์เพราะปู่หรือพ่อบอกว่าเป็นรถที่ทนทาน ไม่จุกจิก ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป วิธีการทำรถก็เปลี่ยนไปมาก พอเจอเบนซ์จุกจิกบางคนก็รับไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่าย และเข้าใจว่า "การที่รถแพงกว่า ไม่ได้แปลว่ามันต้องทนกว่า หรือปลอดปัญหามากกว่า" แบบนั้นคุณอาจจะมีความสุขกับเบนซ์
และถ้าวัดกันจริงๆ เบนซ์ Defect เยอะ แต่พอเก็บจบแล้วอายุ 5-7 ปี เทียบกับ Audi ที่ Defect น้อย แต่พออายุ 7 ปีเท่ากัน ผมว่า Audi มีงานให้เก็บเยอะกว่า คนอื่นคิดแบบผมไม่เป็นไรนะ แต่ผมพูดตามที่เจอมา คุณไม่ควรใช้ยุโรปเป็นรถคันเดียวของบ้าน แต่ถ้าคุณมีรถสำรองใช้อีกคัน ก็อย่าไปคิดมาก
ผมว่าความแพงของเบนซ์ มันก็ตอบแทนเราด้วยวัสดุและดีไซน์บางจุดที่ทำให้รู้สึกว่าได้ใช้ของดี และในระยะหลังมานี้ ผมพบว่าเบนซ์รุ่นใหม่ขับได้สนุกขึ้น พวงมาลัยตอบสนองไวขึ้น ล่าสุดขับ C220d Avantgarde ผมรู้สึกว่ารถแบบนี้น่าจะขายไปนานๆ ออพชั่นมันขาดไปบ้าง จัดมางงๆ แบบว่า มีฝาท้ายไฟฟ้า แต่ไม่มี Smart Entry และเบาะไม่มี Memory แต่พอลืมๆเรื่องพวงนี้ไปแล้วโฟกัสที่การขับ..สนุกมาก ช่วงล่างสเป็ค Standard แต่ทรงตัวดีกว่า E220d เมื่อก่อนอีก โยนโค้งแม้จะไม่แน่นแบบ 330e M Sport แต่ดีกว่า 320d F30 ล็อตแรกๆปีต้นๆแน่นอน อัตราเร่งไว เกียร์กับคันเร่งไม่โง่ ใส่โหมด C ก็ขับรีบๆแล้วไม่หงุดหงิด ผมว่าเรื่องการขับขี่ เขากำลังพยายามจะทำให้ดีนะ และมันดีขึ้น
หรืออย่าง C43 AMG ผมก็ยอมรับว่าจัดสเป็คมาได้ดี และมีความพยายามในการทำราคามาได้ดี
แต่ในเรื่องบริการ เรื่องความทนทาน ผมมองไปในอนาคตแล้วรู้สึกว่ายังไงมันก็ไม่มีวันเหมือนเดิมครับ มองเบนซ์ให้เหมือนแฟนรวยๆคนนึง คนรวยก็จะมีส่วนที่ต้องการอะไรพิเศษกว่าคนทั่วไป แต่ก็มีสิ่งที่พิเศษได้มาตอบแทนกัน ผมถึงเขียนแต่แรกว่า ถ้าคุณเงินถึง และไม่ซวยไปเจอศูนย์หรือเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี คุณจะรักมัน แต่ถ้าคุณเก็บเงินมาทั้งชีวิต จะลองซื้อรถหรูใช้เป็นคันแรกในชีวิต ระวังจะอกหักครับ ผมเจอคนร้องไห้ต่อหน้าเพราะดาวมาเยอะแล้ว
คุณ pan เขียนแรงได้นิ่มนวลจริงๆ
ชัดเจนดีครับ โดนใจมากๆ
-
ญี่ปุ่นรุ่นไหนตามทันครับ
และ ตามทันในเรื่องอะไร
-
ยังไงเบนซ์ก็คือเบนซ์ครับ มันเป็นรถยุโรปที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกไปแล้ว ต่อให้รถจะมีปัญหามากน้อยแค่ไหนมันก็ยังขายได้ดีมากอยู่ดี แล้วที่มีปัญหาส่วนใหญ่คือ ระบบไฮบริดซึ่งถ้าเบนซืแก้ปัญหาได้ไว ก็จะจบไว ส่วนรุ่นอื่นก็ไม่ค่อยมีปัญหา อาจจะมีจุกจิกนิดหน่อยเท่านั้น ยังไงเบนซ์ก็คือเบนซ์อยู่วันยังค่ำครับ
แต่ถ้าให้ซื้อรถยุโรปคันแรก คงไปบีเอ็มครับ อันนี้ตรงๆเลย เพราะปัญหาจุกจิกเยอะนี่หละ เทียบกะบีเอ็มที่ออฟชั่นน้อยกว่า ราคาแพงกว่านิดๆแต่มีคุณภาพมากกว่า ผมเลือกที่จะไปบีเอ็มมากกว่า แต่ถ้าคันสองไปเบนซ์เลยครับ
รถญี่ปุ่น ยังห่างชั้นอีกพอสมควรครับ แต่ยอมรับว่าใกล้มากๆแล้ว แต่ก็ยังไม่ทัดเทียม อย่าง camry ใหม่ มีคนบอกว่า ขับดีกว่าตัวเก่ามากก แต่ก้ยังไม่เท่ารถยุโรปอยู่ดี การดีไซน์ การออกแบบภายใน ยังห่างครับ แต่ถ้าเป็นเล็กซัสล่ะก็กล้าพูดเลยว่าบางรุ่นขับดีกว่ารถยุโรปเสียอีก นั่งสบายกว่า แต่การประกอบดีทุกรุ่น แต่ราคาแพง ถ้ามันยอมให้ลดราคาที่พอๆกะรถยุโรปมันจะขายดีมากๆเลยครับ
เบนซ์ยังต้องปรับปรุงเรื่องการให้บริการให้มากกว่านี้ ใส่ใจลูกค้ามากกว่านี้ครับจะดีมากๆ
-
จากรถที่บ้านใช้เอง พวกรถยุโรป เบนซ์ บีเอ็ม วอลโว่ มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ครับ ต้องมีดวงด้วยครับ และควรมีรถคันอื่นในบ้านสำรอง ปกติพอหมดประกัน ผมก็เข้าอู่นอกตลอด ประหยัดไปเยอะ เจ้าของโชว์รูมพูดเองเลยว่า กำไรส่วนใหญ่มาจากค่าซ่อมบำรุงของลูกค้า อะไหล่บางชิ้นราคาก็เกินความเหมาะสมไปเยอะ ทำให้ลูกค้าบางคนถึงกับสะดุ้ง
อย่าคากหวังว่ารถยุคใหม่จะทนเหมือนยุคเก่า ขนาดอัลพาร์ดตัวใหม่ เกียร์ยังพังมาแล้วเลยครับ ทั้งๆที่เพิ่งใช้มา 2 หมื่นกว่าโล เกิดมาใช้รถมานับไม่ถ้วน ไม่เคยใช้รถเกียร์พังแม่แต่คันเดียว ดันมาเจอกับโตโยต้าซะฉิบ
-
ถ้าคนขับหวานเย็น บอกว่าญี่ปุ่นแบบ Camry, Accord เข้าใกล้ Benz, BMW ผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ถ้าให้ขับแบบสุด limit หรือวิ่งความเร็วสูงๆ จะรู้เลยว่ายังห่างชั้นครับ
-
ใน ตปท. สำหรับ MB ไม่รู้ว่าเป็นไง รู้แต่ว่าในไทย "ความรับผิด ((((((((((ชอบ))))))))))" ในตัวสินค้าค่อนข้างต่ำ
ความทนทานเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรง คือ BMW, MB ยังด้อยกว่าเยอะ
ถ้าเทียบ MB กับรถ Jap ความเชื่อใจได้ ยังน้อยกว่าเยอะ
สมมุติต้องเลือก ขับรถนั่งขนาดกลางป้ายแดง จาก กทม.ไป เชียงใหม่ ด้วย MB กับ Jap ที่ความเร็ว 120-140 จะเลือกคันไหน?
หลายเสียงอาจจะตอบว่า MB แน่นอน!!
MB อาจจะนิ่งกว่า แต่มั่นใจได้ไหมว่า "ไม่พัง ด้วยเรื่องไม่ควรพัง!!!???"
และอาจจะเป็นเพราะเส้นทางใน ปท. เลยคิดง่ายว่า พังมาก็ "เอาอยู่"
ลองไกลกว่านั้นเป็น กทม.-สิงคโปร์ "ไปได้-กลับไหว"
ตัวเลือกอาจจะเปลี่ยนไป!!!
แต่ถ้าถามว่า MB จะขายได้เหรอ ถ้าเป็นแบบนี้
- ได้แน่นอน เพราะ Image ที่ดีมันมีในไทยมาช้านาน ใครได้ครอบครองย่อมหมายถึง "คนมีอันจะกิน"
มันสูงสำหรับคนธรรมดาแล้ว คือ BMW ปัจจุบันมันก็ดี แต่มันก็ยังไม่สุดเหมือน MB ทั้งที่ราคาในคลาสเดียวกัน ใกล้เคียงกัน
เหมือนคนใส่ Omega ก็บ่งบอกว่ารวยในระดับหนึ่ง แต่มันก็ยังดูรวยสู้ Rolex ไม่ได้
แต่ Rolex ยังคงไว้ ทั้ง Image, ความทนทาน, ความเที่ยงตรง และความเชื่อใจได้ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ผิดกับ MB ตอนนี้เหลือแค่ Image
ส่วนบางคนไปเปรียบ MB = Patek Phillipe มันไม่ใช่ MB ไม่เลิศขนาดนั้น
Patek Phillipe มันต้อง Roll Royce เท่านั้นถึงจะคู่ควร
-
มองอีกมุมถ้า BMW ออกแบบภายในให้ดูสวยเด่นกว่านี้ สเปคไทยจัดอุปกรณ์ให้ดี ไม่ตั้งราคาแบบขายเดือนเดียวลดเป็นแสนๆ จนคนซื้อแรกซึ่งปกติเขาคือแฟนพันธุ์แท้เสียความรู้สึก
ผมว่า Benz ไม่น่ามาไกลขนาดนี้ ยอดขายคงจี้กันสนุกดีไม่ดี BMW ยอดแซงด้วยกับปัญหารถเสียบปลั๊ก
-
ญี่ปุ่นรุ่นไหนตามทันครับ
และ ตามทันในเรื่องอะไร
ถ้าคนขับหวานเย็น บอกว่าญี่ปุ่นแบบ Camry, Accord เข้าใกล้ Benz, BMW ผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ถ้าให้ขับแบบสุด limit หรือวิ่งความเร็วสูงๆ จะรู้เลยว่ายังห่างชั้นครับ
ลองกดไปในคลิบ https://www.facebook.com/headlightmag/videos/794043927597255/
ประมาณนาทีที่ 21 ครับ
-
ถ้าคนขับหวานเย็น บอกว่าญี่ปุ่นแบบ Camry, Accord เข้าใกล้ Benz, BMW ผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ถ้าให้ขับแบบสุด limit หรือวิ่งความเร็วสูงๆ จะรู้เลยว่ายังห่างชั้นครับ
Camry กับ CH-R ตัวใหม่เลยครับ ผมไปลองช่่่่่วงล่างมันก็พอๆกันกับพวก c-class series3 เลยนะครับ ถ้าเทียบแบบไม่อคตินะครับ ในความเร็วสูงๆ 160-170 สบายๆครับไม่ได้น่ากลัวครับ ไม่ได้ห่างชั้นขนาดนั้นครับ ////เทียบแค่ช่วงล่างการทรงตัวนะครับ ไม่นับพวกการเก็บเสียง///
แต่ถ้าจะเทียบพวกความหรูหราของวัสดุก็คงเทียบไม่ได้ครับ
-
ญี่ปุ่นรุ่นไหนตามทันครับ
และ ตามทันในเรื่องอะไร
ถ้าคนขับหวานเย็น บอกว่าญี่ปุ่นแบบ Camry, Accord เข้าใกล้ Benz, BMW ผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ถ้าให้ขับแบบสุด limit หรือวิ่งความเร็วสูงๆ จะรู้เลยว่ายังห่างชั้นครับ
ลองกดไปในคลิบ https://www.facebook.com/headlightmag/videos/794043927597255/
ประมาณนาทีที่ 21 ครับ
:o :o :o เคลียเลย
-
ส่วนตัวผมว่าการประกอบ ergonomic และรูปลักษณ์การดีไซน์ของมันยังทำให้ผมชอบยุโรปมากกว่าอยู่นิดๆ
น่าใช้รึเปล่าขึ้นอยู่กับคนมั้งครับ คนที่เงินเหลือๆ เค้าก็ไม่ได้ซีกับค่าซ่อมรึเปล่านะ ผมเห็นเพื่อนๆผมที่มีตังเยอะๆหน่อย เค้ามีปัญหาก็เอาไปเปลี่ยน บ่นบ้างว่าเข้าศูนย์อีกละเลยเอาอีกคนมาใช้แทนไรงี้
จะปัญหาเยอะแค่ไหน หลายๆคน ก็ถวิลหาตราดาวอยู่นะ ซื้อมาพราวด้วยใช้ด้วย ไม่ได้ซื้อเพื่อใช้อย่างคุ้มค่าอย่างเดียว สวยด้วยหล่อด้วย บางคนก็ยอมดูแลแหละครับ
แต่สำหรับผมรู้สึกไม่น่าใช้แล้วครับ เพราะอยู่คอนโดหลักๆมันจอดได้คันเดียว เวลามีปัญหานิดหน่อยนิเบื่อมากๆ ยิ่งมีปัญหาตอนสตาทเบื่อมากสุด เพราะต้องพยายามเอารถจากใต้ดินขึ้นมาบนถนนหารถสไลด์
ถ้าคนขับหวานเย็น บอกว่าญี่ปุ่นแบบ Camry, Accord เข้าใกล้ Benz, BMW ผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ถ้าให้ขับแบบสุด limit หรือวิ่งความเร็วสูงๆ จะรู้เลยว่ายังห่างชั้นครับ
สูงนิต้องเท่าไหร่ครับ 130-150 ไม่ได้รู้สึกว่ายุโรปเทพขนาดนั้นครับ ไม่รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่เลย ยิ่งทีแรกเทียบกับ 320d f30 ตัว modern เปิดตัวแรกๆเลย บอกเลยว่าขับเทียบกันแล้วแพ้ accord g9 ตัวไฮบริดครับ ตอนนั้นไม่ได้ลองกับ camry
หลักๆผมใช้ยุโรปนะ แต่บางอย่างมันอวยไม่ลงจริงๆ ยิ่ง glc ที่เพิ่งออกมาละขายไป ปัญหาจุกจิกกวนใจเยอะมากจริงๆ ขับดีแค่ไหนเทียบกับ rx ตัวก่อนปัจจุบัน ผมก็ยกให้ rx ขับดีกว่าอยู่ดี
-
.
.
ผมว่าความเห็นของ จขกท สวนทางความชาวโลกมากนะครับ
ช่วงที่ผ่านมา MB ยอดขายดีขึ้นไม่เฉพาะในไทย แต่คือทั้งโลก
แล้วมันจะไม่น่าใช้ยังไงครับ
ผมว่าที่คนบ่นกันเยอะก็เพราะช่วงหลัง MB ทำราคาลงมาเยอะ
ทำให้มีคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้และคาดหวังไว้สูงมากๆมาซื้อ
พอไม่เป็นไปตามที่คิดก็โวยวายกัน
คล้ายๆกรณีนาฬิกา PP คนที่เล่นอยู่แล้วไม่บ่น
แต่คนที่เพิ่งมาซื้อส่วนใหญ่จะบ่นกัน
โดยส่วนตัวผมว่า MB ยังน่าใช้อยู่มากๆครับ
แปลกแฮะ ส่วนใหญ่บ่นที่ผมเจอคือคนที่ใช้เบนซ์มาหลายคันแล้วมากกว่า ที่เจอบ่อยๆเลยก็คือไม่ทนเหมือนเดิมนั่นแหละครับ
กลับกันคนที่เพิ่งมีโอกาสได้ใช้นี่จะไม่ค่อยติอะไรเท่าไหร่เลย ยิ่งถ้ายกรถญี่ปุ่นไปเทียบบางคนไม่ฟังเหตุผลอะไรเลยก็มี คิดว่ายังไงยุโรป(ที่อุตส่าห์ซื้อมา)ก็ต้องดีกว่า
ผมนี่แหละครับ ใช้มา 4 คันติดต่อกัน
ผมก็ไม่บ่นนะครับ อะไรที่มันควรจะทนมันก็ยังทนอยู่
และคิดว่าคันที่ 5 ก็คงจะใช้ต่อไป
-
ชอบ ก็น่าใช้
ไม่ชอบ ก็ไม่น่าใช้
ชอบอะไรจากเบนซ์คันนึง คนซื้อมีคำตอบรออยู่แล้วนะ
คนไม่ซื้ิอ ก็คงมีคำตอบของตัวเองครับ
ถามเรื่องความนทนทาน ผมสังเกตเพื่อนผม ที่ซื้อพวกนี้ หมดวารันตีก็ขาย มันไม่ได้เดือดร้อนอะไร ใช้ไม่ทันได้ซ่อมอะไรมากมายครับ มันทนมากพอที่จะหมดวารันตีกับคนส่วนมาก บางคน5ปี ใช้ไปไม่ถึงสามหมื่นโลเลยครับ ขายทิ้งแล้ว
มีตัวเลขคร่าวๆว่า5%ของรถป้ายแดงในปีแรกจากศูนย์ จะต้องเจอSlide on ถ้ายอดขาย10,000คัน คนแค่ 500คนจะเจอปัญหา น้อยมากเทียบรถที่เจ้าของเหล่านั้นจะเสียเวลาไปบ่น
ที่แน่ๆ จาก็กขับรถสไลด์ธรรมดากลายไปเป็นเสี่ยรถสไลด์พื้นแบนเพราะเบนซ์ก็มีครับ ได้ทั้งงานส่งป้ายแดงไปบ้านลูกค้า และงานส่งรถเข้าศูนย์
-
ผมว่ายิ่งรุ่นแพง ยิ่งไม่คุ้ม ตระกูลA GLA CLA ผมว่า okนะครับ พอเป็นC serviceก็อีกราคานึง พอเป็นE (E class และ GLE/)หรือ S ก็อีกราคานึง
ปล. ช่วยเปิดใจรับ Lexus ดูก็ไม่เสียหายครับ
ตอนนี้ผมกะจะใช้มันจนครบ10ปีละกัน
-
ตัวผมเองเคยใช้ BMW E60 ตัวเครื่อง M54 525iSe มาสองคัน คันแรกปี 2004 คันที่สองปี 2006
ทั้งสองคันขายไปตอนรถอายุ 8 ปี วิ่งได้ 200,000 กิโลเมตรทั้งคู่ โดนค่าซ่อมไปคันละ 700,000 บาทครับ
ตอนหลังเปลี่ยนใจใช้เบนซ์ เพราะคิดว่ามันจะทนนี่ละครับ
คันแรกที่มีโอกาสได้ซื้อคือ C200 CGI w204 ปี 2013
ปัญหาก็มีตั้งแต่ ช่วงล่างดึงซ้ายมาก (เกิน 1,000 กิโลเมตร ศูนย์ไม่เคลมให้)
แอร์ไม่ค่อยเย็น (ศูนย์บอกปกติ ทั้งที่ปรับแอร์จน 20 องศา พัดลมแรงสุด)
หลังๆ มีบางครั้งคุณแม่ขับข้ามทางรถไฟ แล้วเร่งไม่ออก ต้องดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ถึงออกตัวได้
สุดท้ายสมองเกียร์พังกลางทาง ยังเคราะห์ดีไม่โดนรถชน หรือไม่ค้างสนิทตอนข้ามทางรถไฟ
จนตอนหลังใช้ครบ 5 ปี 90,000 กิโลเมตร ก่อนขายเครื่องก็มีเสียงดัง (อันที่จริง ดังตั้งแต่ 30,000 กิโลเมตร แต่ศูนย์บอกว่าปกติเช่นกัน)
วันที่ขายรถ ผู้ซื้อยังทักเลยว่าทำไมเครื่องมันดังแบบนี้ แสดงว่าผมและคุณแม่ไม่ได้คิดกันไปเอง
ตอนหลังมาใช้ C180 Coupe c204 ก็มีปัญหาอีกหลายประการ จอดทิ้งศูนย์ทีสองอาทิตย์ นอกจากแก้ปัญหาไม่ได้ ยังได้ปัญหาใหม่อีก จนหมดประกัน (แถม SA ไม่เข้าใจในฟังก์ชั่นของรถเลย บอกรถปกติตลอด ไฟหน้าออโต้มันติดค้าง เปิดปิดไม่ได้ ไฟสูงค้าง มันปกติตรงไหนครับ ?)
ยังไม่เข็ด ซื้อ E350e มาใช้อีก มีปัญหาตั้งแต่วันไปรับรถ กำลังจะขับรถออกมา ไฟเครื่องขึ้นเตือน
เซลล์รีบนำรถลัดคิวตรวจเช็คให้ พบว่า ท่ออากาศหลุด
หลังจากนั้นใช้มาเรื่อยๆ เจอปัญหาคือ
1 พวงมาลัยยกขึ้นเองอัตโนมัติเวลาดับเครื่อง พอมันขึ้นสุดมันค้างครับ
เวลามาขึ้นรถครั้งต่อไป ต้องใช้แขนดันแรงๆ แล้วกดปุ่มปรับลง (ศูนย์บอก ปกติเช่นกัน)
2 ขับๆ ไป ไฟเตือนรูปแบตสีแดงขึ้น พี่บางท่านบอกว่าเป็นเพราะไดชาร์จ บางท่านก็แอร์ ถามเซลล์บอกเป็นที่แบตไฮบริด (ส่วนนี้กำลังจะนำรถไปทิ้งไว้วันจันทร์ที่ 7 มกราคมนี้ครับ ไปต่างประเทศพอดี ว่าจะทิ้งให้ช่างชำแหละให้หนำใจสัก 2 อาทิตย์)
3 ม่านหลังปรับขึ้นลงได้บ้างไม่ได้บ้าง
4 ช่วงล่างถุงลมที่ไม่นิ่มเลย กระด้างมากกก ตึงตังๆ แม้จะปรับเป็นโหมด Comfort ส่วนนี้เข้าใจว่าเป็นที่ยาง rft ครับ รอบหน้าว่าจะลองยาง MC PS4 เหมือนคันอื่นดู
5 ประตู เวลาเปิดแล้วชอบหนีบกลับมาตลอด ไม่ได้จะเปิดประตูระดับ 1 2 หรือ 3
ส่วนนี้ศูนย์บอกปกติ เพราะลูกค้าเปิดไม่สุด พื้นเอียง (ขอโทษนะครับ ผมเนี้ยเปิดประตูสุด พื้นราบในห้างหลายๆ ที่ มันยังหนีบตรูดผมเลยครับเวลาขึ้นลงรถ
ถ้าถามว่าใช้เบนซ์แล้วคิดอย่างไร ผมบอกเลยว่า ไม่น่าใช้ ใจจริงอยากได้ Lexus ครับ ติดที่ Es ออกมาช้าไป (เป็นรุ่นแรกมี่คุณแม่บอกว่าสวย คือ สวยเพราะสีเมทัลลิคหน่ะครับ)
อีกประการคือ คุณแม่จ่ายเงินค่ารถให้ ก็ต้องตามใจคนจ่ายครับ ถ้าจ่ายเองไป Lexus แน่นอน
อ่านจบไม่กล้าใช้เลย นี่ใช้มาสามรุ่น เจอ defect นอนศูนย์ทุกรุ่น ยังกล้าใช้อีกรึเนี่ย สุดๆ
-
.
.
อ่านหลายๆความเห็นแล้วงงครับ
ใช้คันแรกก็เจอปัญหาเพียบแล้ว แต่ยังไปซื้อคันที่สองมาอีก
แล้วก็เจอปัญหาอีก แต่ก็ยังไปซื้อคันที่สามแล้วก็เจอปัญหาอีกด้วยนะ
มันคืออะไรครับ งงจริงๆ เป็นผมถ้าใช้แล้วมีปัญหาผมไม่ใช้แล้ว
คันเดียวพอเลย
แต่นี่ผมใช้มา 4 รุ่นต่อกัน ไม่เจอปัญหาอะไรเลย
เช็คระยะตามปกติ ศูนย์ก็ดูแลดี ผมถึงใช้ต่อ
-
.
.
อ่านหลายๆความเห็นแล้วงงครับ
ใช้คันแรกก็เจอปัญหาเพียบแล้ว แต่ยังไปซื้อคันที่สองมาอีก
แล้วก็เจอปัญหาอีก แต่ก็ยังไปซื้อคันที่สามแล้วก็เจอปัญหาอีกด้วยนะ
มันคืออะไรครับ งงจริงๆ เป็นผมถ้าใช้แล้วมีปัญหาผมไม่ใช้แล้ว
คันเดียวพอเลย
แต่นี่ผมใช้มา 4 รุ่นต่อกัน ไม่เจอปัญหาอะไรเลย
เช็คระยะตามปกติ ศูนย์ก็ดูแลดี ผมถึงใช้ต่อ
เท่าที่อ่านดูก็คือคุณแม่เป็นคนออกเงิน ก็คงตามนั้นแหละครับคนแก่บางคนติดแบรนด์กับภาพลักษณ์มากๆครับ ต้องเบนซ์เท่านั้นไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ตาม
-
Benzสมัยนี้จุกจิกไหม? ในฐานะที่ใช้มาหลายสิบปีแล้วขอตอบเลยว่าจุกจิกและซ่อมแพงมากๆ แต่ต้องยอมรับว่าดีไซน์ภายนอกและภายในดูดีกว่าคู่แข่งแทบทุกรุ่นและระบบเบรคถือว่าทำได้ดีมากๆ ช่วงล่างก็นุมแน่นเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นW212ที่ทำได้ห่วยกว่ามาตรฐานBenz สิ่งที่ทำให้Benzได้เปรียบคู่แข่งก็คือสูนยในและศูนย์นอกรวมทั้งอะไหล่แท้เทียมมีมากมาย รถก็มีจำนวนมากและช่างก็เจอปัญหาประจำบ่อยจนสามารถแก้ไขได้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่บอกว่าจุกจิกเพราะเพื่อนที่่เคยทำงานทั้งในBenzและตอนนี้อยู่กับคู่แข่งค่ายใบพัดในส่วนดูแลหลังการขายได้บอกผมว่า จุกจิกพอๆกันทั้ง2ยี่ห้อ ปัญหาเยอะทั้งคู่ครับ ขอบอก
-
ญี่ปุ่นรุ่นไหนตามทันครับ
และ ตามทันในเรื่องอะไร
ถ้าคนขับหวานเย็น บอกว่าญี่ปุ่นแบบ Camry, Accord เข้าใกล้ Benz, BMW ผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ถ้าให้ขับแบบสุด limit หรือวิ่งความเร็วสูงๆ จะรู้เลยว่ายังห่างชั้นครับ
ลองกดไปในคลิบ https://www.facebook.com/headlightmag/videos/794043927597255/
ประมาณนาทีที่ 21 ครับ
พระเจ้า new camry ขับ 200 ยังชิวๆ
ส่วน g30 จิงคับ ช่วงล่างนุ่มแน่น แต่พอขับเร็ว แล้วหวิวนิดๆ
ฟังแล้วอยากไปลอง camry จิงๆว่าทำได้ยังไง
MB สำหรับผม ผมว่าเริ่มไม่น่าใช้แล้วครับ
แต่ก่อนคุณพ่อ ต้องเบนซ์เท่านั้น
ตอนนี้ ที่บ้านมีครบ ทั้ง 3 , 5 , 7 ครับ
-
ตอนนี้ผมใช้camryคันเก่ามา10ปี
เคยคิดเปลี่ยนเป็นGlA หรือ CLA เหมือนกัน
ไปmotor show ลองไปนั่งดูมันแคบกว่ารถเก่า ตัดสินใจได้ทันทีกลับไปใช้คันเก่า
ผมเป็นคนตัวใหญ่สูง 180+ ACV40ยังใช้งานได้ดีนั่งสบายไม่มีปัญหาอะไร
จะไปE classมันก็เกินงบไปมากเอาเงินเก็บไว้หรือไปทำอย่างอื่นดีกว่า
อายุมากขึ้นใช้ชีวิตกึ่งเกษียน ขับไม่เร็ว ไม่ต้องไปอวดใคร ไปต่างจังหวัดบ้าง ACV40 ใช้งานได้เหลือๆ
ปีหน้าค่อยตัดสินใจใหม่ อาจไปCRVครับ มันสูงกว่าอายุมากขึ้นจะสะดวกกว่า
-
มีคำถามง่ายๆ 1 คำถาม
ขายดีขนาดนั้น ทำไมถึงทำให้ปัญหาน้อยๆแบบ Toyota ไม่ได้ครับ
ปล.ไม่ได้ใช้ Benz ครับ มีเงินแค่ Toyota แต่อนาคตก็ไม่แน่
-
มันคงไม่แย่กว่าสมัยเดิม แต่สำหรับคนที่จะไม่ใช้ ก็อาจจะยังเลือกไม่ใช้เช่นเดิม
-
สังคมวรรณะกับบางกลุ่มคนที่เงินหาง่ายกว่าอีกหลายๆคน รถเบนซ์ก็คงยังขายได้ไปอีกนาน พอคุณภาพเป็นประเด็นหน่อยทางบริษัทแม่ก็อาจจะลงมาขันน็อตที...แต่ในสภาพที่ยังขายได้ง่ายๆแบบนี้ก็ปล่อยไปตามกลไกที่มันเป็นอยู่