สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะมาลองรีวิวรถของผมครับ
อันนี้เป็นรีวิวแรกของผม ผิดพลาดตกหล่นประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผมจะมารีวิว Ford Fusion Titanium หรือ ไอ้ดำของผมนั่นเอง
ด้านหน้าของรถก็ตาม design language ของ Ford เลยครับหน้าหมู Aston Martin
ไฟหน้าเป็นแบบ Projector พร้อมไฟตัดหมอกกับ daytime running light แบบ multi-reflector เหมือนใน CX-5
ความสว่างพอใช้ได้แต่ถ้าเป็น เวอร์ชั่นยุโรป จะได้เป็น LED
มาดูสัดส่วนของรถกันบ้างครับ
ฐานล้อยาว 112.2 นิ้วหรือประมาณ 2850 มม.
ตัวรถยาว 191.7 นิ้วหรือประมาณ 4869 มม.
ตัวรถสูง 58.2 นิ้วหรือประมาณ 1478 มม.
ตัวรถกว้าง 83.5 นิ้วหรือประมาณ 2121 มม.
ตัวรถหนัก 3427 ปอนด์หรือประมาณ 1557 กก.
ล้อ19นิ้วอันนี้เป็น option เสริมนะครับ ถ้าธรรมดาจะเป็นล้อ 18 นิ้ว
ยางเป็น continental contiprocontact allreason 245 55R19 สำหรับล้อหน้า ส่วนล้อหลังจะเป็น 235 40R19
ดูด้านท้ายกันบ้างครับ
รุ่น Titanium จะได้สปอยเลอร์หลังกับท่อคู่มาให้ ส่วนไฟท้ายจะเป็น LED ทั้งหมดครับ
เสาอากาศเป็นแบบธรรมดา ไม่มี shark fin ครับ
ตอนกลางคืนครับ
รูปนี้ยืมมาจาก
http://img.photobucket.com/albums/v612/gkinla/Ruby%20Mileage%20and%20other%20stuff/image-28.jpgมาที่ภายในกันบ้างครับ
ภายในใช้วัสดุบุนุ่มกับ วัสดุ piano black ตรงที่วางแก้วกับบางส่วนของที่วางแขนที่โดนรอยนิ้วมือง่ายมาก
กระจกมองหลังเป็นแบบตัดแสงพร้อมกับกล้องอ่านป้าย speed limit
รุ่น Titanium จะมี ambient light มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเหมือน new everest และปุ่ม push start มีเฉพาะรุ่น titanium เท่านั้นนะครับ
หลังคา Sunroof นีเป็น option เสริมนะครับ
เบาะคนขับเป็นแบบ sport ปรับได้ 10 ทิศทางถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ มี memory ให้ 3 ตำแหน่ง โอบกระชับดีแต่โฟมค่อยข้างออกไปทางแข็งหน่อยๆ
เบาะผู้โดยสารตอนหน้าน่าจะปรับได้ 10 ตำแหน่งเหมือนกันครับ
ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหลังจะเล็กกว่า Accord กับ Camry นิดหน่อยครับ ผมสูงประมาณ 172 นั่งข้างหลังตัวเองมี legroom ประมาณ 1 ฝ่ามือ
ส่วน headroom ประมาณ 1 กำปั้นครับ
console กลางจะเป็นจอ sync 2 เหมือนใน New Everest ทุกอย่างครับมีกล้องมองหลังพร้อม sensor ถอยจอด
ส่วนเครื่องเสียงจะเป็น Sony 12ลำโพงครับ อันนี้ชอบมากเพราะเป็นเครื่องเสียงที่เสียงดีและดังมาก ถ้าเปิดสุดเสียงดังสู้กระบะบ้าพลังได้แน่นอน
พวงมาลัย multi-function หุ้มหนังพร้อม paddle shift หรือปุ่ม +- ใช้ได้ในโหมด D และ S
หน้าจอคนขับบ้าง
หน้าจอนี้น่าจะเหมือนกับใน New Ranger กับ Everest เลยครับ
มีมาตรวัดความเร็วอยู่ตรงกลาง
หน้าจอด้านซ้ายจะควบคุมส่วนของ setting ด้านขวาจะคุมหน้าจอ sync 2
การขับขี่บ้าง
แรง แรง และ แรง ครับ
รุ่น titanium จะได้เครื่อง 2.0L Ti-VCT I-4 EcoBoost พ่วงกับเกียร์ auto 6 speed 240 แรงม้า* แรงบิด 366 nm
ถ้าเป็นตัวล่าง s จะได้เครื่อง 2.5 ลิตรธรรมดา ส่วนตัวกลาง se จะได้เครื่อง 1.5L Ti-VCT I-4 EcoBoost 181 แรงม้า ที่จะมาอยู่ใน Focus บ้านเรานั่นเอง
* 240 แรงม้าถ้าใช้น้ำมัน premium octane 91 ผมเติม regular octane 87 แรงม้าจะตกมาอยู่ที่ 231 แรงม้า
0-60 ไมล์เว็บบอกว่าประมาณ 6.9 วินาที ผมลองจับได้ประมาณ 7.1 วินาทีในโหมด D ครับ
พวงมาลัยไฟฟ้าน้ำหนักปานกลางค่อนไปทางเบา เวลาขับในช่วงความเร็วสูงค่อนข้างมั่นใจทีเดียว
เสียงลมเริ่มมาหลังจากเกินช่วง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือนรถรุ้นใหม่ๆหลายๆรุ่น
ช่วงล่างเซ็ตมาค่อนข้าง firm เหมือนรถยุโรปเวลาเจอรอยต่อทางด่วนรู้สึกได้
ยางเสียงค่อนข้างดังเวลาขับเร็วซึ่งน่ารำคาญบางที
ความประหยัด ในเว็บบอกว่าได้สูงสุดประมาณ 33 MPG หรือ 14 กิโลลิตร
ผมได้สูงสุดประมาณ 31 MPGตามมาตรวัตร หรือ 13 กว่าๆกิโลลิตร ขับ 110 เปิดแอร์นั่งสองคน
ความปลอดภัยบ้างดีกว่า
Ford Fusion มีแอร์แบ็คมาให้ 8 ลูก คู่หน้า ม่าน ข้าง หัวเข่า
คันนี้ได้ crash rating 5 ดาวจาก IIHS
ทุกรุ่นจะได้กระจก blind-spot อันเล็กแปะบนกระจกมองข้าง
รุ่น Titanium สามารถเลือก option adaptive cruise control, blind spot, emergency braking, และระบบจอดเองได้ ซึ่งผมไม่ได้เลือก
ข้อเสียมาไม่กี่อย่างครับ
1.เกียร์โง่ ผมเจอมา 1 ครั้งตอนออกตัวหลังไฟเขียว เกียร์เปลี่ยนช้าไป 1-2 วินาทีแบบรู้สึกได้
2.การเก็บเสียง ผมอยากให้มันเก็บเสียงดีกว่านี้หน่อย โดยเฉพาะยางที่เสียงค่อนข้างดังเวลาขับบนทางด่วน
ข้อดี
1.ขับสนุก
2.แรง
3.ช่วงล่าง firm แบบยุโรปที่ผมชอบ
4.สวยมาก แต่อย่าให้ไปจอดข้างๆ Mazda 6 ตัวใหม่เด็ดขาด อันนั้นสวยจริงอะไรจริง
สรุป
รถดีสวยขับสนุกที่ Ford คงไม่เอามาขาย ถ้า Ford เอามาขายในไทยผมขอให้ขายดีเทน้ำเทท่าเอาให้ camry ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกันเลยทีเดียว
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะครับ