Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: O_o" ที่ มิถุนายน 17, 2015, 12:05:59
-
Mazda พัฒนาระบบวิศวกรรมสกายแอคทีฟ (SkyActiv) อย่างต่อเนื่อง โดยเจนเนอเรชั่นที่สองจะเปิดตัวในรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป
หัวหน้าทีมวิศวกรที่รับผิดชอบโครงการพัฒนาระบบสกายแอคทีฟเผยว่า
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟรุ่นที่สองจะมีความประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นแรกถึง 30%
นั่นหมายถึงจะมีความประหยัดเทียบเท่ากับเทคโนโลยีไฮบริดเลยทีเดียว
(http://mazdago.com/wp-content/uploads/2013/02/2013-Mazda-Skyactiv-Pic.jpg)
มาสด้ามุ่งพัฒนาคือการใช้ระบบจุดระเบิดกำลังอัดแบบใหม่ที่เรียกว่า HCCI
ซึ่งเป็นกระบวนการบีบอัดส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงด้วยแรงดันสูงโดยไม่ต้องใช้หัวเทียน
แต่กระบวนการนี้จะทำให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้นและไม่สามารถสร้างพลังงานได้ในทุกรอบความเร็ว
ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ทีมวิศวกรของมาสด้ากำลังแก้ไขอยู่ในเวลานี้
HCCI จะมีอัตราส่วนเชื้อเพลิงที่น้อยกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป และมีกระบวนการเผาไหม้สะอาดกว่าด้วย
ทำให้มีปริมาณไอเสียลดลงเพื่อรองรับมาตรฐานไอเสียของยุโรปในปี 2020
(http://202.142.223.165/~mautofilm/img_cms/image/skyactiv-technology.jpg)
ขณะเดียวกัน แผนการพัฒนาเครื่องยนต์สกายแอคทีฟยังถูกกำหนดให้สอดคล้องกับระบบไฮบริดของโตโยต้า
ซึ่งทั้งมาสด้าและโตโยต้าเพิ่งลงนามความร่วมมือพัฒนารถใหม่ร่วมกัน
ทำให้ทั้งสองฝ่ายจะมีเทคโนโลยีที่ได้เปรียบคู่แข่งอย่างแน่นอนภายในอีก 4 5 ปีข้างหน้านี้
http://www.autospinn.com/
-
มาสด้ากลายเป็นเสือตัวใหม่แล้วสินะ
-
น่าติดตามผลงานเป็นอย่างยิ่งครับ
-
ผมจะรอซื้อครับ
-
กลัวว่าจะแพงกว่า hybrid
-
ไปหาข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับ HCCI แล้วพบว่าเป็นงานที่ยากโคตรๆ เลยครับ พอๆ กับจะเอา Aluminium Ion มาทำเป็นแบ็ตมือถือได้ยังไง
แต่เชื่อว่าวิศวกรที่เก่งๆ คงหาทางแก้ได้ครับ
-
ตัวเร่งให้โครงการดีๆ ของMazda สำเร็จ ก็คือรถตัวปัจจุบันต้องขายดี
ตัวเร่งให้รถMazda ขายดีก็คือช่วยไปเร่ง ศูนย์ฯ และบริการหลังการขาย ให้ดีน่าเชื่อถือโดยไว
ตัวรถของท่าน ผมมองว่าหน้าตามันน่าใช้อยู่แล้ว
ทั้งMazda2,Mazda3,CX5 เว้นแค่ BT-50 ที่ใครๆก็ไม่รัก
-
ประหยัดขึ้น 30%!!! จะรอซื้อครับ 3 ปีแปปเดียว
-
ถ้าเครื่องตัวนี้แจ้งเกิดแล้วประหยัดได้ขนาดนั้นจริง
คนใช้รถไฮบริดมีหนาวครับ ราคาร่วงแบบดิ่งนรกแน่ๆ
ตลาดไฮบริดตอนนี้ก็ไม่ดีอยู่แล้ว(ราคามือสอง) ถ้าเจอเครื่อง
ที่แรงและประหยัดใกล้เคียงกันโดยไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า
ถึงกาลอวสานของไฮบริดแน่ๆเลยครับ
-
ได้แค่โม้
ผมจำได้เมื่อ5ปีมาแล้ว มาสด้าคุยว่า จะทำรถประหยัดน้ำมัน 30กม./ลิตร มาอวดชาวโลก 55
-
ได้แค่โม้
ผมจำได้เมื่อ5ปีมาแล้ว มาสด้าคุยว่า จะทำรถประหยัดน้ำมัน 30กม./ลิตร มาอวดชาวโลก 55
Mazda 2 ดีเซลถ้าขับความเร็วคงที่ 90 km/h ได้ถึงนะครับ เกินไปเยอะเลย
-
ได้แค่โม้
ผมจำได้เมื่อ5ปีมาแล้ว มาสด้าคุยว่า จะทำรถประหยัดน้ำมัน 30กม./ลิตร มาอวดชาวโลก 55
ไม่รู้ว่าคนอื่นทดสอบออกมาไง
แต่เห็นว่าที่ญี่ปุ่น มาสด้าทำได้แล้วนี่ครับที่ 30 กม./ลิตร
ที่ญี่ปุ่นทดสอบออกมาได้จริง และคงไม่ได้โม้ แต่บ้านเราทำไมทำไม่ได้ อันนี้ ผมไม่รู้ ;D
-
ถ้าไม่ดีจริงผมว่าโตต้าไม่จับมือด้วยแน่เพราะโตต้าเครื่อง dual vvti ก็ดีมากอยู่แล้ว
-
ผมว่า I eloop มันจะพัฒนาไปปั่นมอเตอร์ช่วยระบบขับเคลื่อน มันจะไปจ๊ะเอ๋กับระบบไฮบริทรึเปล่า
-
ขออย่างเดียวอย่าคิดไม่ออกแล้วจับ CVT มาใส่แทนนะ
-
MZ2 ดีเซล (อย่านับผล JC '08 เลยนะ นั่นก็ไม่สะท้อนการใช้งานจริง) ขับทางไกลเท้านิ่งๆ ก็มีเค้าลางของ 25 กม./ลิตร ไม่ยากนะครับ...
เอาง่ายๆ ดูอีโคคาร์ ขับทางไกลมีตัวไหนถึงบ้าง? มีแต่ยิ่งเร็วยิ่งเปลือง อย่างมาร์ชน้อยผม ขับ 80-100 ประหยัด เกิน 120 เปลืองพอๆ หรือเปลืองกว่าพวก 1,500 อีก
ผมว่า มาสด้า+โตโยต้า เป็นการ Marriage ที่อันตรายสำหรับรายอื่นมากครับ โดยเฉพาะการเสริมความแกร่งของแบรนด์โตโยต้า
ถ้าโตโยต้าเอาจุดแข็งตัวเองบวกเทคโนโลยีสกายแอคทีฟได้ จบ อย่าว่าแต่รายอื่นเลย มาสด้าก็หนาวเอง... ผมยังนึกไม่ออกว่าจะกั๊กเทคโนโลยีกันยังไง
-
ได้แค่โม้
ผมจำได้เมื่อ5ปีมาแล้ว มาสด้าคุยว่า จะทำรถประหยัดน้ำมัน 30กม./ลิตร มาอวดชาวโลก 55
ก็ได้นะ มาสด้า 2 โฉมบอดี้เก่าเครื่อง 1.3 skyactiv ขายและโฆษณาในญี่ปุ่นในปี 2011 เคลมไว้ 30 โลลิตรนะ
-
หากคิดว่า SkyActiv1 ที่มีอัตราส่วน 14.1:1 มันเยอะแล้ว
SkyActiv2 จะใช้ที่ 18.1:1 และให้จุดระเบิดเองแบบดีเซล
เห็นว่าจะลด CO2 เพื่อให้ผ่านมาตรฐานใหม่ของยุโรปที่ 95g/km ในปี 2020
่หากสำเร็จจะมี SkyActiv3 มาแน่ๆในปี 2025 ซึ่งจะมีมาตรฐานใหม่ของการปล่อย CO2 ที่ 65g/km
ตอนนี้ติดเรื่อง ความร้อนและแรงดันที่มีมากของระบบ HCCI
Mazda gen หน้าจะยังคงใช้เกียร์ 6 speed อยู่
ที่ไป(อ่านมา) : http://www.autonews.com/article/20140106/OEM06/301069997?template=mobile&X-IgnoreUserAgent=1
-
มันก็ไม่แน่นะครับ ถ้าดีเซลทำให้เจ๋งแบบบีเอ็ม
แต่สุดท้ายมาวิ่งในเมือง รถติดๆ ไฮบริดก็ชนะขาดอยู่ดี
-
ยุคหนึ่ง NA ต่างพากันอัพกำลังอัด จากไม่ถึง 10:1 มาเป็น 10-14:1
มายุค downsizing ที่ต่างก็ลดกำลังอัดกลับมาที่ 9ปลายๆ 10ต้นๆ เพื่อใส่ turbo
ต่อไปในยุคของ HCCI ก็จะเป็นการรวมกันของทั้งกำลังอัดสูงๆ ระดับ 18:1 และ turbo
ย้อนนึกไปถึงเมื่อประมาณ 10ปีที่แล้ว Benz น่าเป็นเจ้าแรกๆที่พูดถึงเครื่องยนต์แบบ HCCI
แต่ในวันนั้น Benz ใช้ชื่อเรียกว่า DiesOtto คอนเซ็ปว่าด้วยการใช้น้ำมันเบนซิน แต่จุดระเบิดโดยไม่พึ่งหัวเทียนแบบดีเซล
DiesOtto จึงเป็นชื่อลูกผสมระหว่าง diesel และ otto cycle ต้นกำเนิดของเครื่องเบนซินนั้นเอง
ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของ DiesOtto อีกเลย มาได้ข่าว HCCI จาก GM เมื่อราว5-6ปีที่แล้วก็เงียบไปอีก แล้วก็มาเป็นข่าวของ Mazda ในวันนี้ ก็หวังว่าเราจะได้ใช้เครื่องยนต์ HCCI กันต่อจากยุค downsizing เบนซินเทอร์โบในไม่ช้า
-
มันก็ไม่แน่นะครับ ถ้าดีเซลทำให้เจ๋งแบบบีเอ็ม
แต่สุดท้ายมาวิ่งในเมือง รถติดๆ ไฮบริดก็ชนะขาดอยู่ดี
เห็นด้วยครับ
ไฮบริดมันเหนือว่าตรงที่มันมีตัวช่วย มีพลังงานสำรอง ไม่ต้องใช้น้ำมัน
(แต่การได้มาของตัวช่วย ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเอาเรื่อง ;D)
คือ จะทำอัตราสิ้นเปลืองแบบไม่พึ่งเทอร์โบ ไม่พึ่งระบบไฟฟ้าเลย แทบจะเป็นไปไม่ได้
จะรอดูครับ
-
ดีครับ รักษ์โลก
-
ยุคนี้อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น หลายๆอย่างหากย้อนไปเมื่อ 10-20 ปีที่แล้วมันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ขึ้นมาหลายอย่างแล้ว
-
ยุคหนึ่ง NA ต่างพากันอัพกำลังอัด จากไม่ถึง 10:1 มาเป็น 10-14:1
มายุค downsizing ที่ต่างก็ลดกำลังอัดกลับมาที่ 9ปลายๆ 10ต้นๆ เพื่อใส่ turbo
ต่อไปในยุคของ HCCI ก็จะเป็นการรวมกันของทั้งกำลังอัดสูงๆ ระดับ 18:1 และ turbo
ย้อนนึกไปถึงเมื่อประมาณ 10ปีที่แล้ว Benz น่าเป็นเจ้าแรกๆที่พูดถึงเครื่องยนต์แบบ HCCI
แต่ในวันนั้น Benz ใช้ชื่อเรียกว่า DiesOtto คอนเซ็ปว่าด้วยการใช้น้ำมันเบนซิน แต่จุดระเบิดโดยไม่พึ่งหัวเทียนแบบดีเซล
DiesOtto จึงเป็นชื่อลูกผสมระหว่าง diesel และ otto cycle ต้นกำเนิดของเครื่องเบนซินนั้นเอง
ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของ DiesOtto อีกเลย มาได้ข่าว HCCI จาก GM เมื่อราว5-6ปีที่แล้วก็เงียบไปอีก แล้วก็มาเป็นข่าวของ Mazda ในวันนี้ ก็หวังว่าเราจะได้ใช้เครื่องยนต์ HCCI กันต่อจากยุค downsizing เบนซินเทอร์โบในไม่ช้า
อ่านแล้วน่าสนใจมากครับ ถ้า Mazda ทำได้จริง
ย้อนกลับไปอยากถามว่าตอน Mazda มาทำ Roter ตอนนั้น ทำสู้ Roter ฝรั่งได้ไหมครับ
-
รอดูผลลัพธ์ครับ เผื่อผมจะได้ปันใจกลับไปใช้รถญี่ปุ่นได้บ้าง ;D
-
คุณมาร์ค วอล์เบิร์ก
ผลทดลองล่าสุด Mazda 2 Diesel Turbo
22.42 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งที่ใช้ความเร็ว 110 นี่
และผมทดลองเองกับมือด้วย!!
ประหยัดน้ำมันที่สุด ในบรรดารถยนต์ทุกประเภทที่ผลิตในประเทศไทยตอนนี้
ทั้งญี่ปุ่นและยุโรป รวมกันทุกค่าย!
ยังถือว่า Skyactiv เป็นเรื่องโม้ อีกไหมครับ?
-
แต่ฝ่ายการตลาดเขานำหน้า ให้ใช้คำว่าประหยัดเทียบเท่าไฮบริดตั้งแต่รุ่นนี้แล้วล่ะครับ