Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ เมษายน 30, 2013, 10:47:11
-
ล่าสุด โฆษณาตัวใหม่ของ Captiva ที่บอกว่า เหนือกว่าจนใครๆก็อยากตาม แล้วในโฆษณาก็ให้รถคันอื่นที่เป็นคู่แข่ง เช่น CRV ขับตาม
Captiva ขับไปไหน รถคันอื่นก็ขับตามไปด้วย
จบ...
คือดูเสร็จแล้ว เอิ่มม...
ถ้าคิดโฆษณามาได้แค่นี้ มันถึงกับต้องเสียเงินเป็นแสนเป็นล้านจ้างเอเจนซี่คิดกันเลยเรอะ
ดูแล้วแบบเหมือนโฆษณาเมื่อ50ปีก่อน อยากขายความเป็นผู้นำ ความเหนือกว่า ก็ให้รถคันอื่นมาขับตาม แค่นี้
รู้สึกเสียดายค่าจ้างแทนบริษัทเชฟโรเล็ตจริงๆ
-
ผมคิดว่าเป็นแค่โฆษณาบางชิ้นนะครับ ชิ้นที่ดีๆก็มีเยอะ คุณอย่าเหมารวมดีกว่า
-
ไม่ใช่แค่โฆษณารถเท่านั้น ผมมองว่าวงการโฆษณาไทยตกต่ำลงมากๆ โฆษณาหลายตัวทำออกมาไม่สมเหตุสมผลและไร้สาระมากๆ อย่างโออิชิชาผลไม้ตอนทึ่ออกอากาศใหม่ๆก็เน้นจุดเด่นงี่เง่าจริงๆ แทนที่จะเน้นเรื่องชาผลไม้ตัวเองดันเน้นทึ่ว่าเอาณเดชตอนยังดังใหม่ๆมาทำงานให้ได้ แล้วก็มีอีกาพูดว่าณเดชโฆษณาฟรุตโตะๆ ตกลงคุณจะขายชาหรือพรีเซ็นเตอร์ :-X
-
ผมดูแล้ว เขาคงอยากสื่อให้รู้ว่า มันได้เหนือกว่าคู่แข่งระดับนี้แล้วนะ ไม่คิดอะไรเฉยๆครับ
แต่แทนที่ผมดูรถคันแรก ผมดันสนใจรถที่วิ่งตามเป็นรุ่นอะไรชะงั้น
-
โฆษณาบางชิ้นก็ทำให้สินค้าดูแย่ลงจริงๆครับ อาการหนักสุดก็โฆษณาของ CP นี่แหละครับ แต่ โฆษณาบางอันก็ดี อย่างเช่น โฆษณาพัดลม และ โฆษณาของสสส.
แต่ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมโฆษณาซูบารุXVอันใหม่จะต้องทำให้มันดูมืดๆทึมๆแบบนั้นด้วย
-
ผมว่ามันสไตล์ยุโรปอะ เรียบๆหรู
ดีกว่า ตุกกี้คู่โรนัลโด้อะ คนยังซื้อเลย
คิดได้ไง :'(
-
ตอนนี้ผมเห็นโฆษณาตัวไหนๆก็จะพากันแห่ไปจ้างผู้กำกับที่ช่ือว่าต่อที่บอกไว้ว่าเป็นคนที่เก่งมาก แต่ที่ผมเห็นที่เด่นๆก็แค่ประโยคจนเครียดกินเหล้าเท่านั้นเอง หลังจากนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยออกจะไร้สาระใช้การบรรยายไม่เข้ากับเนื้อหาสินค้าเสียมากทั้งโฆษณาฮาตาริโฆษณาฮอลโฆษณาดีน่ากาบ้า มันดูแล้วไม่ขำอย่างเจตนาเพราะเค้าพยายามใส่ความเป็นติสแตกมากเกินไป มันเหมือนกับว่างานโฆษณาที่มีการจ้างมาเป็นช่องทางขายตัวเองเสียมากกว่า การที่เค้าเอาเสียงตัวเองพากในโฆษณาทุกชิ้นนั้นไม่เข้ากับงานเสมอไป เนื่องด้วยว่าเสียงเค้าไม่เข้ากับงานหลายๆชิ้น แนวทางการพูดด้วยเสียงบี้ๆแบนๆไร้อารมณ์นั้นมันได้กับกับเนื้อหาแบบจิกกัดประชดประชัน แต่ในการนำเสนอสินค้าคุณจะนำเสนอเนื้อหาแบบแนวของเค้ามันก็สื่อถึงสินค้าได้ไม่หมดอย่างที่ควรจะเป็น ตัวไหนๆก็ทำเหมือนกันหมด แล้วใครๆก็แห่ไปจ้างเค้า ไม่มีการแข่งขันมันก็ย่ำอยู่กับที่ โฆษณากี่ตัวๆก็น่าเบื่อแบบเดิมๆ อันที่ผมขัดใจมากที่สุดคือตัวน้ำยาล้างห้องน้ำที่เอาตัวเชื้อโรคมาทำท่าคลอดลูกให้ดูนี่แหละ ผมว่ามันไม่ตลกและออกจะไม่น่าดูด้วยซ้ำที่เอาอะไรสักอย่างมาทำท่าอ้าขาเบ่งลูกทำเสียงอื้อๆๆๆ มันชวนอุดจาดตาจริงๆ >:( ผมขึ้นรถไฟฟ้าแทบทุกวันแล้วส่วนใหญ่จะเปิดเสียงดังๆอัดหูผู้โดยสารด้วย ขนาดใส่หูฟังยังสู้เสียงโฆษณาไม่ได้ ยิ่งมาเจอโฆษณาที่ไร้ซึ่งความละเอียดอ่อนในการนำเสนอยัดเยียดเข้ามาทั้งเช้าทั้งเย็นนี่มันโคตรจะอึดอัดจริงๆ!!! นึกถึงสมัยก่อนที่โฆษณามีการสร้างกราฟฟิกหิมะตกในเมืองไทยแล้วมันคนละระดับจริงๆ เงินค่าตัวที่ไปจ้างคนดังทั้งหลายที่ค่าตัวสูงๆนั้นเอามารังสรรค์อะไรที่ส่งผลดีต่อสินค้าตัวเองได้อีกเยอะ
-
ผมกลับรู้สึกสงสัยว่า เขาตกลงปลงใจทำโฆษณาออกมาแบบนี้ได้ยังไง ทำไมไม่มีใครค้านบ้าง หรือว่าคิดกันเองไม่ได้จ้างใคร :-\
การที่เอารุ่นอื่นมาอยู่ในโฆษณาตัวเอง มันเหมือนแขวะ แล้วก็ช่วยเขาโฆษณาซะอีก (ผมเล็งคันอื่นมากกว่า แคปฯ ซะอีก)
คอนเซ็ปต์อีกอย่าง ความเหนือกว่าที่ใครก็อยากตาม -_-
คหสต. นะครับ ;)
-
แต่คนที่ approve ให้โฆษณาผ่านก่อนออกอากาศคือลูกค้า (บริษัทรถ) นะครับ..ไม่ใช่เอเจนซี่
-
ผวว่าไอโฆษณา ที่แบบ ทาครีม ที่หน้าแล้ว แม่รง ขาวทั้งตัว นี้ น่าเกลียดกว่า อีกอัน มีผมใคร สระผมและสะท้อนแทนกระจกได้บ้าง สคป ทำไรอยู่
-
โฆษณาอีซูซุมันก็(เกือบ)เกินจริงนะ ไอที่บอกว่าช่วงล่างกริปเนี่ย เห็นเอาไปฟาดเสาไฟมาเยอะพอควร พอๆกับ ช่วงล่าง หนึบหนับ ของโตฯเนี่ย! อะไรก็ไม่รู้เอาเข้าจริง รถหมุนเป็นว่าเล่น :(
-
หลายๆโฆษณาจะต้องทำตัวหนังสือตัวเล็กมากๆ เขียนว่า **เป็นเพียงภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
แต่ใครจะไปอ่่านทัน ตัวก้เล็กมากๆ
-
ผวว่าไอโฆษณา ที่แบบ ทาครีม ที่หน้าแล้ว แม่รง ขาวทั้งตัว นี้ น่าเกลียดกว่า อีกอัน มีผมใคร สระผมและสะท้อนแทนกระจกได้บ้าง สคป ทำไรอยู่
แชมพูที่สระแล้วเงาเหมือนกระจกนั่นตอนแรกมีตัวหนังสือข้างใต้ แล้วก็ถูกถอดออกไปอย่างว่อง
แต่โฆษณาหลายอันก็ชวนให้รำคาญจริงๆครับ
-
ผมดูแล้ว เขาคงอยากสื่อให้รู้ว่า มันได้เหนือกว่าคู่แข่งระดับนี้แล้วนะ ไม่คิดอะไรเฉยๆครับ
แต่แทนที่ผมดูรถคันแรก ผมดันสนใจรถที่วิ่งตามเป็นรุ่นอะไรชะงั้น
+1 คิดเหมือนผมเลย ตอนโ๊ฆษณา พยายามมองดูพร้อมคับครุ่นคิด "รุ่นอะไรน๊า"
โฆษณาที่ชอบที่สุดที่คิดได้ตอนนี้ มีแค่ "โฆษณาลดพุง ของ สสส. และ ไทยประกันชีวิต (ดูเสร็จแล้วมันเหมือนกับว่า เขาดูแลเราจริง ๆ)
-
อคติไปรึเปล่า แคปฯ มันเป็นรถค่อนข้างมีราคาหน่อย ใครจะซื้อขับเค้าก็ต้องหวังว่า
มันต้องดูดี สะท้อนรสนิยมอะไรอย่างนั้น โฆษณาก็สะท้อนสิ่งนั้น ไม่ได้อยู่ดีๆ เดินมาพูดว่า
แคปฯ ดีกว่าเจ้าอื่นซื้อสิ!! อย่างนั้นคงไม่ต้องพึ่งใคร มันแย่กว่าโฆษณาที่เอาดาราดังมาขับ
แล้วบอกว่ารถดีจังเลยตรงไหนรึ ทำไมโฆษณาพวกนี้ถึงไม่ไปสะกิดใจคุณมั่งล่ะ :-\
-
ก็ดีกว่าโฆษณานี้อ่ะนะ
หลอนท่อน Autotune เหลือเกิน
แพนเค้ก พอร์ช ติดนวดทั่วทั้งประเทศ (http://www.youtube.com/watch?v=6SCWpV5V_iA#)
-
ส่วนตัวมองแบบนี้ครับว่า
ข้อจำกัดของเอเจนซี่ที่รับงานมา ยุคนี้ งบโฆษณานั้นมีเหลือเฟือ แต่....................การที่จะได้รับงานมาทำนี่แหละคือตัวปัญหา ไม่ต่างจากประมูลงานเลยครับ ค่าใช้จ่ายมันสูงมาก
และที่ได้รับทราบมา บางอันที่เราเห็นนั้นมาจากบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ............จึงได้รับงานมา บางที่ส่งต่อให้เจ้าอื่นมารับ แต่ตัวเองกินส่วนต่างกำไรที่เป็นเนื้อไป เหลือกระดูกติดเนื้อ + หนัง โยนมาให้
งานมันทำออกมาตามที่เงินมาแหละครับ จะเอาครีเอทีฟเก่งๆที่ไหนมา บริษัทรับงานกำไรน้อยมันก็เป็นอย่างที่เห็นๆกัน
เป็นการถ่ายกำไรเข้าบริษัทเครือข่ายซะมากกว่า
บริษัทอสังหาฯ เดี๋ยวนี้งบโฆษณานี่มาชุดนึง 40-50 ล้านนะครับ มันละลายไปตามทางซะเยอะ
ใครทำบริษัทพวกนี้อยู่คงพอทราบดี
-
โฆษณารถเดี๋ยวนี้ชอบใช้พรีเซ็นเตอร์มาเรียกลูกค้า ผมเฉยๆครับ ของเชฟที่ว่าๆกันนี่ผมก็เข้าใจที่เค้าจะสื่อ แต่ไม่เข้าใจตรงรถที่เอามาเปรียบเทียบมันคนละรุ่นกันหรือเปล่า
หรือว่าโดนเปลี่ยนคอนเซปวันถ่ายทำแล้วหารถได้แค่นั้น
-
สมัยนี้จะดูอะไรต้องใช้วิจารณญาณซะเยอะ
-
แชร์จากที่พบอยู่ทุกวันนี้แล้วกัน เจอในรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นส่วนใหญ่ครับ คือ
"พร้อมพลังอัจฉริยะจากเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร" .... แม่งอัจฉริยะยังไง? ตลาดโลกเข้าใช้ 1.6T แล้ว
-
ก็ดีกว่าโฆษณานี้อ่ะนะ
หลอนท่อน Autotune เหลือเกิน
แพนเค้ก พอร์ช ติดนวดทั่วทั้งประเทศ (http://www.youtube.com/watch?v=6SCWpV5V_iA#)
นางเอกมาทำตลกแบบงงๆ ฮาดีครับ
-
โฆษณาแต่ละตัว Target group ต่างกัน จะบอกว่าโฆษณาแบบไหนดีหรือไม่ดีก็คงไม่ได้ครับ
-
ผมคิดว่าส่วนใหญ่โฆษณาเกินจริงซะส่วนมาก
-
ส่วนตัวผมไม่ชอบโฆษณารถในลักษณะที่มีการขับในแนวซิ่งนะ
มันสร้างค่านิยมที่ไม่ดีเอาเลย
-
โฆษณารถเดี๋ยวนี้ชอบใช้พรีเซ็นเตอร์มาเรียกลูกค้า ผมเฉยๆครับ ของเชฟที่ว่าๆกันนี่ผมก็เข้าใจที่เค้าจะสื่อ แต่ไม่เข้าใจตรงรถที่เอามาเปรียบเทียบมันคนละรุ่นกันหรือเปล่า
หรือว่าโดนเปลี่ยนคอนเซปวันถ่ายทำแล้วหารถได้แค่นั้น
นั่นสิครับผมดูแล้วยังคิดเลย almera swift เอามาทำไม ทำไมไม่เอาพวก fortuner pajero sport มา หรือว่าเดี๋ยวมันจะไปชนกับ Trailblazer
-
.
.
.
แหมม ใส่กันเพลินเลย ถามจริงๆว่าเคยรู้ขั้นตอนการทำโฆษณากันบ้างไหมครับด่ากันแบบนี้
ก่อนอื่นถ้าเห็นโฆษณาดีๆ ผมแนะนำให้ชมเจ้าของสินค้าครับ ไม่ต้องชมครีเอทีฟหรือเอเจนซี่ก็ได้
แต่ในขณะเดียวกันถ้าเห็นงานแย่ๆก็แนะนำให้ด่าเจ้าของสินค้าก่อนเป็นอันดับแรก
แล้วค่อยด่าครีเอทีฟหรือเอเจนซี่ครับ
ถ้าคนที่ติดตามวงการโฆษณาบ้านเราจะรู้ว่า วงการโฆษณานั้นสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
มากกว่าหลายๆวงการที่พวกคุณทำงานกันอยู่ด้วยซ้ำ (ติด Top5 ของโลก)
ผู้กำกับคนที่คุณด่า (คุณต่อ) เค้าคือผู้กำกับหนังโฆษณาอันดับ 1 ของโลก
(อยากถามว่าในประเทศเรามีอะไรที่เป็น อันดับหนึ่งของโลกมั่ง ถ้าไม่นับโอ่งยักษ์ ตู้ไปรษณีย์ยักษ์)
ช่างภาพโฆษณาอันดับหนึ่งของโลกก็อยู่ที่ประเทศเรา ครีเอทีฟไทยหลายๆคนก็ติดอันดับ
top ของเอเชีย งานไทยในเวที cannes ก็ได้รางวัลทุกปี
แต่สิ่งที่พวกคุณเห็นในทีวี มันเป็นสิ่งที่มาร์เก็ตติ้งหรือเจ้าของสินค้าอยากได้ครับ
ไม่มีครีเอทีฟคนไหนอยากทำอะไรแบบนั้นหรอก ไม่ว่าจะครีมหน้าขาว ตัวขาวอะไร
มันก็มาจากรีเสิร์ทที่ผู้บริโภคเป็นคนบอกเองว่าอยากได้ทั้งนั้น แล้วเจ้าของสินค้า
เค้าก็อยากขายของกับคนพวกนั้นให้ได้
เพราะฉะนั้นกรุณาชมให้ถูกคน และด่าให้ถูกคนครับ
-
เคยดูโฆษณานี้ไหมละครับคุณพี่
(http://www.youtube.com/watch?v=TWxcVK_0biM#)
-
ผมชอบชีวิตไม่ต้องพึ่งโชคแหะ ดูเข้ากั้นเข้ากันกับตัวคนนำแสดง
-
ตีมโฆษณาของเชฟมันไปทางdiscreditคู่แข่งแล้ว ตั่งแต่โซนิคเอายิปโซมาขับรถแซงคันอื่น ยิ่งตอนเทสเทลเบเซอร์ยิ่งหนัก
-
ในไทยผมชอบโฆษณา Mazda 2 Racing Series ครับ
นอกนั้นเฉยๆ
-
ผมก็นึกว่า แคปหมู วิ่งกันเป็นขบวน
กลายเป็นว่าวิ่งนำยี่ห้ออื่นซะงั้น ฮาๆ
-
ของดีดี แต่ research มาแล้วไม่รอดก็ถูกปรับไปเรื่อย แล้วมันก็ไปโดน Target ที่สรุปมาแบบดูถูกคนไทยว่า ต้องรับข้อมูลแบบนี้ชอบแบบนี้ เพราะตอน Pitch งานแต่ละเอเจนซี่ก็ใส่กันเต็มสูบ ทั้งความครีเอทีฟ ทั้งงบ แล้วก็โดนหั่นหมด เหลือมาที่ Production ตอนนี้จริงๆแล้วน้อยมากเลยครับ ยิ่งพวก Post production ยิ่งแทบเหยียบแย่งงานกัน ด้วยมาตรฐานเดียวที่ทำได้คือ ทำตามเงินที่ให้ แต่ต้องได้กำไรด้วย หนังพี่ต่อ เค้าก็ขายลูกค้าง่าย สั้นๆ กระชับ คนฟังต่างจังหวัด ได้ยินเสียงเค้าก็ นึกถึงโฆษณาดีดี หลายๆตัวที่เค้าทำ คนก็สนใจโดยที่ไม่ต้องไปเรียกให้เค้าหยุดฟังมาก โฆษณาในไทย นับว่าดีระดับโลกครับ อยู่ที่ว่าจะได้ เรื่องแบบไหนมาทำ จะรอดลูกค้ามาแค่ไหน ในความสร้างสรรค์ คอยดู AEC สิครับ 10 ประเทศรอบตัวเราจะเข้ามาทำที่ไทยเต็มไปหมด แค่ตอนนี้ก็เยอะแล้ว เพราะไทย โฆษณา ราคาถูกแต่ดีสำหรับประเทศเพื่อนบ้านครับ
-
ไอโฆษณาที่เห็นๆกันอยู่อ่ะ ครีเอทีฟไม่อยากทำหรอกครับ มีแค่ไม่กี่ตัวหรอกที่มาจากครีเอทีฟคิดล้วนๆ
ไม่ต้องแค่โฆษณารถหรอกครับ ทุก Product นั่นแหละ ตอนนี้มีโฆษณาที่ฉายในไทยตัวไหนครีเอทบ้างล่ะครับ ไม่ถึง 10%
ส่วนใหญ่ที่เห็นกันก็ทำไปให้ขายลูกค้าผ่านก็พอ เพราะวันๆไม่ได้มีให้คิดงานเดียว ถึงจุดนึงมันต้องขายให้ผ่าน
เวลาเสนองานต่อลูกค้า ครีเอทีฟจะเตรียมเรื่องไว้อย่างน้อย 2 เรื่อง คือ 1. งานไอเดีย เรื่องที่ตัวเองชอบ คิดมาอย่างดี 2. งานขาย เรื่องที่รู้ว่าลูกค้าจะเอาแน่ๆ
คิดเอาเองละกันครับว่าส่วนใหญ่ลูกค้าซื้อแบบไหน บางทีเชียร์เบอร์ 1. แทบตาย ลูกค้าก็เลือกเบอร์ 2. อยู่ดี
งานไอเดียมันอยู่เมืองนอกกับงานประกวดครับ ทีวีไทยไม่ค่อยมีหรอก ถ้ามีก็เป็นโฆษณายาวๆ งบเยอะๆ ใส่ได้ไม่ยั้งหน่อย พวกนั้นเจ้าของเขาเปิดกว้างครับ แต่งานพวกนี้มันก็จะอยู่กับครีเอทีฟรุ่นตำนาน ไม่ถึงมือเด็กใหม่ๆหรอกครับ
แล้วเอเจนซี่ไม่ได้มีหน้าที่คิดงานอย่างเดียว Media, Production House, Post-Production House, ฯลฯ เอเจนซี่ดีลเป็นประจำ
ให้เจ้าของสินค้าไปดีลเองไม่รู้เรื่องหรอกครับ ไม่ใช่เรื่องด้วยเพราะมีอย่างอื่นให้ทำตั้งเยอะ (ยกเว้นบริษัทที่มี In-house)
-
ผมชอบโฆษณากระบะฟอร์ดเรนเจอร์ ลุย แบบคันทรี ชอบๆ
-
ผมเห็นว่าหลายท่าน บอกว่างานโฆษณาออกมาไร้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความผิดลูกค้าที่เขาเลือกงานแบบนั้นเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ ฝีมือของครีเอทีฟแต่ละบริษัทก็ไม่มีความหมาย จ้างครีเอทีฟจบใหม่กับจ้างครีเอทีฟมือ1ของไทย ก็มีค่าเท่ากันน่ะสิ
เพราะสุดท้าย จะดีจะแย่ คุณบอกว่าอยู่ที่ลูกค้าที่มาจ้าง
ผมว่าไม่จริงหรอกครับ ของแบบนี้มันต้องรับกันไปคนละ50-50
ลูกค้าเขาให้คอนเซปมาแบบนี้ มันอยู่ที่ครีเอทีฟแล้วล่ะครับ ว่าจะคิดงานออกมาแบบไหน
อาจจะคิดรูปแบบโฆษณามา 3-4 อันให้ลูกค้าเลือก
สุดท้ายไม่ว่าลูกค้าจะเลือกตัวไหน มันก็คือ ผลงานจากสมองของครีเอทีฟ
ถ้าคุณบอกว่าลูกค้าเลือกอันที่ห่วย คำถามคือในเมื่อมันห่วย คุณจะคิดออกมาขายลูกค้าทำไมครับ
ยกตัวอย่างโฆษณารถที่ผมเห็นว่า เยี่ยม คือ โฆษณาของมาสด้า2
อันนั้นผมชื่นชมเลยว่าทำมาได้โดนใจมากๆ
-
รู้ครับว่าเค้าพูดออกสื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แต่แล้วยังไงล่ะครับ? กี่งานๆก็เห็นเฮโลไปจ้างคนๆนี้ทำด้วยมุขเดิมซึ่งบางอันไม่น่าเอามาใช้เสียด้วยซ้ำซึ่งผมบอกไปแล้วทำไม เจ้าของผลิตภัณท์เลือกเองใช่ครับแต่จะรู้ได้ยังไงว่าเค้าเลือกจากคุณภาพของเนื้องานหรือว่าแค่เห็นโม้ว่าเป็นอันดับหนึ่งก็เลือกไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว? อย่าลืมว่าสังคมไทยมีรูปแบบที่ชอบทำอะไรตามๆกัน อะไรที่โดดเด่นเป็นกระแสก็ตามกันไปหมด อย่างที่ผมบอกณเดชกำลังดังก็เฮโลกันไปแย่ง โออิชิถึงขนาดดีใจมากจนเอามาพูดในโฆษณาตัวเอง แต่มันไม่ได้สร้างกาคส่งสารในแง่บวกอย่างที่งานโฆษณาควรจะทำเลย ถ้าอะไรๆก็ไปลงให้ผู้กำกับคนนี้หมดมันจะมีพัฒนาการเหรอครับ? บอกไว้ก่อนนะครับว่ารู้ว่านายต่อนี่ไม่ได้กำกับโออิชิแต่ยกตัวอย่างการตามกระแสเฉยๆ เห็นด้วยกับที่คนข้างบนบอกว่าไม่ว่าบรษัทจะเลือกตัวไหนแต่ช้อยทึ่สร้างมาก็มาจากครีเอทีฟทั้งนั้น นานเท่าไหร่แล้วที่เค้าใช้รูปแบบเดิมๆหากิน? สามปีมานี่ผมเห็นแต่มุขเดิมๆเสียงเดิมๆไม่มีอะไรเปลี่ยน ผู้กำกับอันดับหนึ่งทำได้แค่นี้เองเหรอ? ศักศรีของคนที่เรียกตัวเองว่าคนสร้างสรรค์ผลงานคือการย่ำกับที่แบบนี้เหรอ? ถ้าเทียบกับเรื่องรถโตโยต้าทำกำไรสูงสุดของโลกแต่มันดีไปหมดทุกด้านชนิดที่จะไม่ให้ยี่ห้ออื่นทำมาขายบ้างได้เลยไหม? ผมตอบว่าไม่ วงการโฆษณาก็กำลังโดนยึดครองด้วยคนๆเดียวเช่นกัน การแข่งขันอยู่ในวงจำกัดคนอื่นไม่มีโอกานแสดงฝีมือมันก็ไม่มีอะไรใหม่ๆ ผู้กำกับในเมืองไทยผมว่ามีมากมาย ผมเชื่อว่าคนที่ทำชืีอเสียงระดับโลกก็ไม่ได้มีแค่คนนี้คนเดียว ขออภัยถ้าผมแสดงความเห็นที่รุนแรงแต่อย่างที่บอกว่าผมต้องขึ้นรถไฟฟ้าทุกวันเช้าเย็นๆโดนเปิดอัดด้วยเสียงดังๆหนีไม่ได้ ผมไม่อยากรับรู้ผลงานที่ไม่มีความตั้งใจแบบนี้ครับ
-
ผมเห็นว่าหลายท่าน บอกว่างานโฆษณาออกมาไร้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความผิดลูกค้าที่เขาเลือกงานแบบนั้นเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ ฝีมือของครีเอทีฟแต่ละบริษัทก็ไม่มีความหมาย จ้างครีเอทีฟจบใหม่กับจ้างครีเอทีฟมือ1ของไทย ก็มีค่าเท่ากันน่ะสิ
เพราะสุดท้าย จะดีจะแย่ คุณบอกว่าอยู่ที่ลูกค้าที่มาจ้าง
ผมว่าไม่จริงหรอกครับ ของแบบนี้มันต้องรับกันไปคนละ50-50
ลูกค้าเขาให้คอนเซปมาแบบนี้ มันอยู่ที่ครีเอทีฟแล้วล่ะครับ ว่าจะคิดงานออกมาแบบไหน
อาจจะคิดรูปแบบโฆษณามา 3-4 อันให้ลูกค้าเลือก
สุดท้ายไม่ว่าลูกค้าจะเลือกตัวไหน มันก็คือ ผลงานจากสมองของครีเอทีฟ
ถ้าคุณบอกว่าลูกค้าเลือกอันที่ห่วย คำถามคือในเมื่อมันห่วย คุณจะคิดออกมาขายลูกค้าทำไมครับ
ยกตัวอย่างโฆษณารถที่ผมเห็นว่า เยี่ยม คือ โฆษณาของมาสด้า2
อันนั้นผมชื่นชมเลยว่าทำมาได้โดนใจมากๆ
ไม่เคยทำงานโฆษณาใช่ไหมครับ งั้นเดี่ยวเล่าให้ฟัง
โฆษณา 1 เรื่อง เวลานำไปเสนอลูกค้า ครีเอทีฟที่ไหนก็ต้องคัดแต่สิ่งที่ดีที่สุดไปให้อยู่แล้ว
โดยอาจจะนำไปเสนอครั้งแรกซัก 4 เรื่อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
ลูกค้าไม่เอาเลยซักเรื่อง เพราะอยากได้แบบขายของชัดๆเนื้อเรื่องไม่เอา
อยากเห็นรถวิ่งเยอะๆ ถ่ายออฟชั่นมากๆ ไปคิดมาใหม่
สิ่งที่เกิดชึ้นต่อไปก็คือครีเอทีฟนำคอมเม้นท์ของลูกค้ากลับมาแก้ไขงาน
โดยยังพยายามจะนำเสนอแบบผสมผสานระหว่างความครีเอทีฟกับ
การขายของเพื่อให้ทำออกมาแล้วไม่มีคนมาด่าว่าครีเอทีฟมันทำอะไรของมันออกมา
เพื่อไปนำเสนออีก 4 เรื่อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้งก็คือ ลูกค้าด่า
หาว่าไม่เข้าใจสิ่งที่อยากได้ใช่ไหม งั้นเดี๋ยวจะแจ้งไปทางเอเจนซี่ให้เปลี่ยนครีเอทีฟกรุ๊ปใหม่มาแทน
หรือบางทีลูกค้านั่งคิดหนังให้ในห้องประชุมเลยก็มี หรือบางทีชอบเรื่อง 1 กับเรื่อง 3
เอามารวมกันได้ไหม หรือบางที ชอบเรื่อง 1 แต่เอาแค่ชอตรถวิ่งอย่างเดียวอย่างอื่นตัดออกหมด
อยากให้ลองมาทำเองดูซักครั้งครับว่ามันเป็นยังไง นั่งด่าอย่างเดียวมันง่ายครับ
เพราะไม่ได้มีผลอะไรกับตัวเองอยู่แล้ว
-
ผมว่ามันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะครับ
แต่บางทีก็มีต้นทุนด้วย มั้ง งานมันเลยออกมาไม่สวย เช่น ฮุนได โซนาต้า ดูแล้ว งง เป็นต้น
โดยรวมผมว่ามันดีมากๆ เป็นส่วนใหญ่ครับ
ผมชอบมากๆ ก็ Accord G9 กับ Tilda Latio ครับ
-
ผมเห็นว่าหลายท่าน บอกว่างานโฆษณาออกมาไร้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความผิดลูกค้าที่เขาเลือกงานแบบนั้นเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ ฝีมือของครีเอทีฟแต่ละบริษัทก็ไม่มีความหมาย จ้างครีเอทีฟจบใหม่กับจ้างครีเอทีฟมือ1ของไทย ก็มีค่าเท่ากันน่ะสิ
เพราะสุดท้าย จะดีจะแย่ คุณบอกว่าอยู่ที่ลูกค้าที่มาจ้าง
ผมว่าไม่จริงหรอกครับ ของแบบนี้มันต้องรับกันไปคนละ50-50
ลูกค้าเขาให้คอนเซปมาแบบนี้ มันอยู่ที่ครีเอทีฟแล้วล่ะครับ ว่าจะคิดงานออกมาแบบไหน
อาจจะคิดรูปแบบโฆษณามา 3-4 อันให้ลูกค้าเลือก
สุดท้ายไม่ว่าลูกค้าจะเลือกตัวไหน มันก็คือ ผลงานจากสมองของครีเอทีฟ
ถ้าคุณบอกว่าลูกค้าเลือกอันที่ห่วย คำถามคือในเมื่อมันห่วย คุณจะคิดออกมาขายลูกค้าทำไมครับ
ยกตัวอย่างโฆษณารถที่ผมเห็นว่า เยี่ยม คือ โฆษณาของมาสด้า2
อันนั้นผมชื่นชมเลยว่าทำมาได้โดนใจมากๆ
ผมจะเล่าให้ฟังนะ คิดว่าเป็นนิทานละกัน
มีแบรนด์อาหารจานด่วนรายหนึ่ง launch สินค้าใหม่ออกมาตัวหนึ่ง มาจ้างเอเจนซี่รายหนึ่งให้ทำโฆษณาให้หน่อย concept คืออยากได้แบบกินแล้วคิดถึงความทรงจำดีๆที่เคยทำมา ครีเอทีฟคิดแล้วคิดอีก วาดบอร์ดมาเป็นหลายสิบบอร์ด ตอนแรกคิดกันแค่ใน group ทำยังไงก็ไม่ผ่าน สักพักกระจานงานไปให้เด็กฝึกงานอีกสามสี่คนคิด ได้มาอีกหลายบอร์ด ก็ยังไม่ผ่าน ทำกันจนท้อ คือผ่าน CD แล้ว แต่ลูกค้าไม่เอา บอกอยากได้เหมือนอีกแบรนด์ ดูแล้วอบอุ่น เป็นครอบครัวดี ก็กลับไปคิดกัน งานนี้ใช้เวลาคิดประมาณ 2-3 เดือนมั้งถ้าจำไม่ผิด ก็ไม่ผ่านอีกตามเคย
สรุปโฆษณาออกมาเป็นภาพของของกินชินนั้นเต็มจอ มีควันโชย จบแล้วครับ
-
ผมเห็นว่าหลายท่าน บอกว่างานโฆษณาออกมาไร้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความผิดลูกค้าที่เขาเลือกงานแบบนั้นเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ ฝีมือของครีเอทีฟแต่ละบริษัทก็ไม่มีความหมาย จ้างครีเอทีฟจบใหม่กับจ้างครีเอทีฟมือ1ของไทย ก็มีค่าเท่ากันน่ะสิ
เพราะสุดท้าย จะดีจะแย่ คุณบอกว่าอยู่ที่ลูกค้าที่มาจ้าง
ผมว่าไม่จริงหรอกครับ ของแบบนี้มันต้องรับกันไปคนละ50-50
ลูกค้าเขาให้คอนเซปมาแบบนี้ มันอยู่ที่ครีเอทีฟแล้วล่ะครับ ว่าจะคิดงานออกมาแบบไหน
อาจจะคิดรูปแบบโฆษณามา 3-4 อันให้ลูกค้าเลือก
สุดท้ายไม่ว่าลูกค้าจะเลือกตัวไหน มันก็คือ ผลงานจากสมองของครีเอทีฟ
ถ้าคุณบอกว่าลูกค้าเลือกอันที่ห่วย คำถามคือในเมื่อมันห่วย คุณจะคิดออกมาขายลูกค้าทำไมครับ
ยกตัวอย่างโฆษณารถที่ผมเห็นว่า เยี่ยม คือ โฆษณาของมาสด้า2
อันนั้นผมชื่นชมเลยว่าทำมาได้โดนใจมากๆ
ผมว่า โฆษณาของมาสด้า 2 นี่มันไม่มีอะไรเลยนะครับ นอกจากขับรถหมุนไปหมุนมา ห่วยเหมือนกัน
มีแค่ Honda Accord G9 ที่ผมว่า เยี่ยม
-
โฆษณา BMW ซีรี่ย์ 3. (http://www.youtube.com/watch?v=rJ_ICo3QtZk#)
:P :P :P :P :P สุดยอดมว๊ากเลยอันนี้
-
ผมกลับคิดว่า เค้าทำโฆษณาได้ดีนะ เพราะอะไร เพราะนี่ประเทศไทยครับ ไม่ใช่อเมริกา
ผมว่าจะทำให้อลังการก็ได้ แต่จะทำทำไม ในเมื่อคนไทย ย้ำว่าคนไทย ชอบอะไรเข้าใจง่ายๆ ครับ
เค้าศึกษาตลาดมาแล้วครับ
ในมุมมองบางคนบอกว่ามันเห่ย แต่เชื่อเหอะครับ เค้าคิดมาแล้ว....ไม่ถูกใจเรา แต่ยังมีอีกหลายสิบล้านคนดูอยู่ครับ
ปล. ส่วนตัวผมก้ไม่ค่อยปลื้มครับ 555+
-
โฆษณาคูโบต้าออสเตรเลีย (http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GzIYZ819UY0#)
ดูตัวอย่างโฆษณานี้ครับ ผมชอบมากกว่าโฆษณาไทยทั้งหมดรวมกันอีก
-
https://www.youtube.com/watch?v=EwgXqEGGmyw&list=RD02bz_liMxSwcA&feature=endscreen&NR=1 (https://www.youtube.com/watch?v=EwgXqEGGmyw&list=RD02bz_liMxSwcA&feature=endscreen&NR=1)
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=bz_liMxSwcA (https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=bz_liMxSwcA)
ผมชอบโฆษณา 2 ตัวนี้ครับ
-
แม่ผมเห็นโฆษนาบอก "แคปติว่านี่ดูสวยดีนะ ดูหรูๆดี"
โดยที่ท่านไม่ได้สนใจรถที่ขับตามหลังมาเลย
ผมเองก็ดูไม่ค่อยออกเหมือนกันว่ารถอะไรขับตามหลัง
แต่ที่โฆษนานี้ได้ผลคือทำให้รถดูดีขึ้น ดูมีราคาขึ้น คนทั่วๆไปเค้าคิดแค่นี้
แต่พวกบ้ารถอย่างเราๆก็จะคิดกันอีกแบบ
-
โฆษณาแต่ละตัว Target group ต่างกัน จะบอกว่าโฆษณาแบบไหนดีหรือไม่ดีก็คงไม่ได้ครับ
+1 ครับ โฆษณาที่พวกบ้ารถเห็นว่าดีนักดีหนา ไม่ได้ทำให้รถขายได้ดีครับ
-
เห็นด้วยว่า พักหลัง โฆษณาไทย ที่เคยโดนๆ มันเริ่มไม่ค่อยโดน
วนเวียนกับมุขเดิมๆ
ไทย เคยได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่ ทำหนังโฆษณาเจ๋งที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก
แข่งกับฝรั่งยุโรป อเมริกา นี่ ได้รางวัลมามากต่อมาก
แต่พักหลัง....มันเปลี่ยนไป
1. เจ้าของสินค้าเองนั่นละตัวดี มีส่วนตัดสินใจเลือกงาน จนทำให้ไอเดียดีๆ มันแท้งในห้องประชุม ข้อนี้สำคัญสุด
2. ครีเอทีฟ จำนวนไม่น้อย เลือกจะทำงาน Play Safe เพราะทำงานกับเจ้าของสินค้ามานาน จนรู้ว่า เขาชอบหรือไม่ชอบอะไร
ทำงานเอาแค่ ให้เจ้าของสินค้าชอบ เป็นพอ เพราเสนออะไรเจ๋งๆออกไป โดน reject กลับ
3. แถม พอ ครีเอทีฟ เสนองานอะไร ในช่วง Pitch งาน หลายครั้ง ลกค้าบอกไม่เอา แต่แอบกลับเอาไอเดียนั้น ไปจ้างคนอื่นทำแทนตน
------------------------------
อยากให้คุณๆ ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ อ่านข้อความของคุณ raygun ไว้เยอะๆครับ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
หนังโฆษณารถ อย่างน้อย 2 ยี่ห้อ ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา นั่นก็ฝีมือเค้าละครับ...
-
โฆษณารถก็เหมือนกัน ลองดูหลายๆประเทศแล้ว
ของไทยดู Hard Sale พอๆกับของออสเตรเลียเลย
แต่งานภาพอะไรต่างๆแล้ว ของญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทยบางตัวดูดีกว่านะ
-
อ้อ จะบอกว่า โฆษณา Kubota ตัวนี้ กวนตีนมากครับ ผมฮาล้มตึงเลยทีเดียว กับสโลแกนเค้า
-
ผมว่าโฆษณารถ ก็ไม่ต่างจากโฆษณาสินค้าอื่นๆ และไม่ต่างจากละครก่อน-หลังข่าว รายการทีวี เกมโชว์ หรือรายการเล่าข่าวตอนเช้า
...ที่บอกตามตรงว่าทำมาให้สอดคล้องกับระดับความคิดและปัญญาของคนส่วนใหญ่ของประเทศ
...เพราะฉะนั้นถ้าอยากเห็นโฆษณาดีๆ ก็ให้พัฒนาระดับความคิดของคนดูก่อนครับ แล้วโฆษณาจะพัฒนาไปเองแหละ
-
CHEV มีปัญหาอะไร กับ Honda เปล่าเห็นตอน โซนิคก็ แจ๊ส พอมา แคปติว่า ก็ CRV
-
โฆษณาคูโบต้าออสเตรเลีย (http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GzIYZ819UY0#)
ดูตัวอย่างโฆษณานี้ครับ ผมชอบมากกว่าโฆษณาไทยทั้งหมดรวมกันอีก
+1อะครับๆๆ ชอบๆๆอะโฆษณานี้ ดูยิ่งใหญ่ดีภาพก็สวยครับ 55 ส่วนโฆษณาที่ผมชอบ ล่าสุดคือ ของ เซเว่นอะครับ ใครจามได้มั้ง ครูสมยศโดนยิงๆๆ ซึ้งเลยครับๆ 55
-
ตอนนี้ผมเห็นโฆษณาตัวไหนๆก็จะพากันแห่ไปจ้างผู้กำกับที่ช่ือว่าต่อที่บอกไว้ว่าเป็นคนที่เก่งมาก แต่ที่ผมเห็นที่เด่นๆก็แค่ประโยคจนเครียดกินเหล้าเท่านั้นเอง หลังจากนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยออกจะไร้สาระใช้การบรรยายไม่เข้ากับเนื้อหาสินค้าเสียมากทั้งโฆษณาฮาตาริโฆษณาฮอลโฆษณาดีน่ากาบ้า มันดูแล้วไม่ขำอย่าง...
ผมแนะนำให้กลับไปหาใน google นะครับว่าคนที่ชื่อต่อ เขากำกับเรื่องอะไรมาบ้าง เอาชื่อจริงไปก็ได้ครับ " ธนญชัย ศรศรีวิชัย " ผมว่ามีผลงานดีๆ หลายชื้นเลยด้วยสำหรับ คุณต่อ ฟีโน
-
ผมเห็นว่าหลายท่าน บอกว่างานโฆษณาออกมาไร้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความผิดลูกค้าที่เขาเลือกงานแบบนั้นเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ ฝีมือของครีเอทีฟแต่ละบริษัทก็ไม่มีความหมาย จ้างครีเอทีฟจบใหม่กับจ้างครีเอทีฟมือ1ของไทย ก็มีค่าเท่ากันน่ะสิ
เพราะสุดท้าย จะดีจะแย่ คุณบอกว่าอยู่ที่ลูกค้าที่มาจ้าง
ผมว่าไม่จริงหรอกครับ ของแบบนี้มันต้องรับกันไปคนละ50-50
ลูกค้าเขาให้คอนเซปมาแบบนี้ มันอยู่ที่ครีเอทีฟแล้วล่ะครับ ว่าจะคิดงานออกมาแบบไหน
อาจจะคิดรูปแบบโฆษณามา 3-4 อันให้ลูกค้าเลือก
สุดท้ายไม่ว่าลูกค้าจะเลือกตัวไหน มันก็คือ ผลงานจากสมองของครีเอทีฟ
ถ้าคุณบอกว่าลูกค้าเลือกอันที่ห่วย คำถามคือในเมื่อมันห่วย คุณจะคิดออกมาขายลูกค้าทำไมครับ
ยกตัวอย่างโฆษณารถที่ผมเห็นว่า เยี่ยม คือ โฆษณาของมาสด้า2
อันนั้นผมชื่นชมเลยว่าทำมาได้โดนใจมากๆ
งานพวกนี้ไม่ง่ายนาครับ งานขายฝัน ต่างคนต่างฝัน สิ่งที่สวยที่สุดสำหรับเรา คนทำ คนทั่วไป อาจจะไม่สวยสำหรับลูกค้า เห็นโลโก้น้อยไป สินค้าน้อยไป อยากให้เห็นสินค้าเยอะๆ โลโก้ตัวเองต้องใหญ่กว่าคนอื่น แต่ยังไงก็รับเงินเขามาละเนอะ ไม่ทำก็ไม่ได้ ทำช้าก็โดนปรับ
สักพักก็เละ... กลายเป็นอย่างที่เห็นๆนั้นแหละ
-
ผมพอรู้ว่าใครคิด และพอรู้ว่าใครให้ผ่าน
และพอรู้ว่าไอเดีย 3-5 แบบที่คิดตอนแรกไม่ใช่แบบนั้น
สุดท้าย คุณเจ้านายของลูกค้า อยากเน้นรถ นู่นนี่นั่นฯลฯ
ขอผู้กำกับคนนั้นคนนี้
มันก็จบแบบ เซฟๆทุกครั้งไปครับ
ครีเอทีฟเหนื่อยนะครับ ทุกครั้งที่คิด
คิดกันเป็นสัปดาห์ หลายๆแบบ ยืนยันว่าไม่มั่วแน่ๆครับ
พรีเซนต์เตอร์นี่บอกตามตรง อย่างเกลียดครับ.......
แต่สุดท้ายลูกค้าที่แสนดี ทำแบบนี้ทุกครั้งไปกับ
รถยนต์รุ่นแล้วรุ่นเล่า......ครีเอทีฟบางทีก็เหนื่อยฮะ
แต่ผมไม่คิดว่าพวก CD จะไม่คิดอะไรเลยหรอกครับ
เพราะเค้า หรือผมเองก็ตาม พยายามทำงานให้ดี
ให้ได้คุณภาพระดับรางวัลเสมอ แต่ค่อยๆปรับลดดีกรีลงมาเรื่อยๆ
ในกรณีที่ลูกค้าขอแบบ hard sales
ผมว่าคุณลูกค้าเจ้านี้ ฐานะที่เคยทำงานกันมา
เค้าค่อนข้างเปิดนะครับ อย่างโคโรลาโด ไฟสองชั้นตัวเก่า
เค้าเปิดโอกาสให้ใช้ภาพกราฟฟิครถเลอะได้ขนาดนั้น
ผมว่าโอเคเหมือนกันนะครับ
หรือ TVC ออฟตร้า "เงียบ" ที่ไม่เข้าท่าตัวนั้น
ก็เป็นความกล้าของลูกค้าเหมือนกันครับ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การทำงานเอเจนซี่ที่เคยผ่านมา
ของกลุ่มผม 70 คือลูกค้า 30 คือเรา สุดท้ายคือโปรดักชั่นเฮ้าส์
บางทีลูกค้าน่ารัก เค้าจะลดสัดส่วนเหลือ 50-60 นั่นก็ถือว่า
โชคดีมากๆแล้วครับ
นี่ก็ออกจากวงการมาจะสิบปีละครับ
ผมว่างานมันก็ดรอปลงจริงๆแหละ แต่พอจะรู้เรื่อง
ความเครียดของยอดขายของลูกค้าอยู่ :)
-
มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นมั้งครับ
-
ผมดูแล้วก็เฉยๆนะ มันก็ยังเหมือนเป็นโฆษณารถยนต์
แต่โฆษณารถยนต์ล่าสุดที่ผมคิดว่ามันแปลกคือ Accord ตัวใหม่ คือมันไม่เหมือนโฆษณารถยนต์เท่าไร ดูจนจบก็รู้สึกเพลินดีนะ แต่ที่ผมจำได้มีแค่ เพชรเม็ดโครตโต ผู้หญิงในชุดราตรี กับผู้ชายหน้าเหมือน Jet Li ตอนหนุ่มๆ