ขับหน้า ขับหน้า แบบแรกจะมีเครื่องยนต์และเกียร์วางขวาง ขนานกับหน้าของรถยนต์ มีชุดเพลาขับเคลื่อนต่อกับชุดเกียร์ ออกสู้ล้อหน้าอย่างละข้าง แล้วแต่จะวางเครื่องหรือเกียร์ไว้ด้านไหนแต่แบบนี้จะมีจุดเสียตรงกระจายน้ำหนักได้ไม่ค่อยดี
เพราะน้ำหนักที่ตก2ล้อหน้า จะต้องมีการกระจายน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน มิฉะนั้นอาการเข้าโค้งจะแตกต่างกัน ลองสังเกตุดู
ขับหน้าแบบที่สอง จะวางเครื่องยาวตามตัวรถ และมีชุดเกียร์ที่ต่อเพลาขับออกแนวด้านข้างโดยวางตำแหน่งเครื่องให้มีน้ำหนักถ่ายลง
ด้านหน้า จะสมดุลกว่าแบบแรก จะทำให้มีการทรงตัวขณะเข้าโค้งที่ดี จะพบมากในรถยุโรปอย่าง AUDI และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์ในการออกแบบขยับมาเป็นขับเคลื่อน4ล้อ ได้ง่ายขึ้น เพราะเสริมและทำการแก้ไขชุดส่งกำลังอีก1ชุด ก็จะเป็นขับสี่ล้อได้ง่าย
ข้อดีข้องการขับหน้า 1.การถ่ายทอดกำลังของเครื่องยนต์ออกสู่เกียร์และส่งผ่านไปยังล้อหน้านั้น จะมีการสูยเสียแรงบิดน้อยกว่าขับหลัง
2.อาการตอนควบคุมรถตอนเข้าโค้ง จะง่ายกว่าเมื่อใช้ความเร็วสูง จะมีอาการท้ายปัดออกหรือลื่นเล็กน้อย
3.มีชึ้นส่วนที่น้อยกว่า คือชุดเฟืองท้ายจะอยุ่ในชุดของเกียร์ ไม่แยกออกมาเหมือนขับหลัง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวดีกว่า
4.การซ่อมบำรุงเกียร์ จะมีการถอดง่ายกว่าขับหลัง ใช้เวลาน้อยกว่า
5.น้ำหนกของรถขับหน้าจะน้อยกว่ารถขับหลัง เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า
ข้อเสียของขับหน้า 1.การกระจายน้ำหนักในล้อหน้า ไม่ค่อยสมดุล มีน้ำหนักตกลงที่ล้อไม่เท่ากัน
2.อายุการใช้งานของเพลาขับจะสั้นกว่า เนื่องจากต้องรับแรงกำลังจากเกียร์ที่ได้รับจากเครื่องยนต์มา ถ่ายถอดออกที่หัวเพลาขับและเวลาหักเลี้ยว หัวเพลาจะสึกหรอกสูง ต้องมีการซ่อมกันบ่อยๆ และมีการขาดของลูกยางกันฝุ่นมาก
3.มีการเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของเพลาขับมาก เพราะเครื่องยนต์และเกียร์มีการจัดวางด้านหน้า มีการบิดตัวสูง โดยเฉพาะขับหน้าเกียร์ออโต้ด้วย
4.มีอายุการใช้งานของแท่นเครื่อง ลูกยาง และจุดยึดแท่นเกียร์ ที่เสียหายบ่อย เนื่องมาจากการบิดตัว
5.มีจุดยึดแท่นเกียร์มาก
6.การกระจายน้ำหนักได้ด้อยกว่าขับหลัง จึงควบคุมรถขณะเบรคได้ไม่ดี
7.ยางล้อหน้าจะมีการสึกหรอเร็วกว่า เพราะต้องรับน้ำหนักตัวรถและเครื่องยนต์ และมีการตะกุยออกตัว จึงหมดเร็วกว่า
ขับหลังรถยนต์ที่ขับล้อหลัง มีการวางเครื่องตามแนวยาวของตัวรถ มีจุดยึดแท่นเครื่อง2จุด ยางแท่นเกียร์1ตัว การกระจายน้ำหนักจะดีกว่ารถที่ขับหน้าอยู่บ้าง มีชุดส่งกำลังจากเกียร์ ส่งต่อไปยังเลพากลาง ไปยังเฟืองท้ายและออเพลาข้างสุ่ล้อหลัง จะเห็นได้ว่ารถขับหลังมีองค์ประกอบชึ้นส่วนจากเกียร์ถึงล้อหลังมาก จึงต้องออกแบบช่วงล่างให้รับกับความเหมาะสมรวมทั้งความแข็.แรงด้วย สำหรับการควบคุมค่อยข้างจะหนักแน่น ทรงตัวดีกว่าขับหน้า แต่ตอนเข้าโค้ง ก็อย่างที่บบอกไว้ตอนต้น
ข้อดีของขับหลัง 1.ชึ้นส่วนมีความทนทานกว่าในเรื่องชุดส่งกำลัง เพลากลาง และเพลาข้าง
2.จุดยึดแท่นเครื่องมีน้อยกว่า เสียยากเพราะการบิดตัวในตามแนวยาวรถ จึงบิดตัวน้อยกว่า ขาดยากกว่า
3.การกระจายน้ำหนักดีกว่าขับหน้า การทรงตัวจะดีกว่าในความเร็วสุง ควบคุมง่ายกว่าไม่มีอาการหน้าไว
4.การเบรคจะดีกว่า เมื่อมีการกจะจายน้ำหนักหน้าดี จึงเบรคและทรงตัวดี เพราะการกระจายน้ำหนักตัวอยู่ที่ด้านหน้าเหมือนรถขับหน้า
5.เพลาขับเสียยาก เนื่องจากกระจายแรงให้อย่างเพลากลาง ออกสู่เฟืองท้าย จีงมีแรงกระทำต่อเพลาขับน้อยกว่าขับหน้า
ข้อเสียของขับหลัง 1.การออกแบบที่มีชึ้นส่วนมากๆ นั้นก็เป็นจุดบอดแรก คือเฟืองท้ายจะมีอาหารหอนดัง ต้องซ่อมหรือเปลี่ยน ค่าใช่จ่ายจะแพงตรงนี้แต่ก็นานเสียทีไม่ใช่ว่าเสียบ่อยๆ
2.การถอดประกอบเกียร์มีความยุ่งยากกว่า เพราะมีหลายจุดมาก
3.จะมีอาการท้ายปัดง่าย เบื่อเวลาออกตัว หรือกดคันเร่งในตอนถนนลื่น
4.ยางล้อหลังหมดเร็วกว่าเพราะส่งกำลังที่ล้อหลัง
5.การที่จุดส่งกำลังหลายจุดนั้น จึงต้องมีการถ่ายน้ำมันที่ต้องทำบ่อยคือน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย แน่นอนหมายถึงค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้น
รถยุโรปอย่าง บีเอ็ม เบนซ์ ออดี้ วอลโว่
1.ทำไมเขาถึงทำขับล้อหลัง ทำไมไม่ทำขับหน้าครับมีนะครับขับหน้าหลายรุ่นเลย ลองหาดูดีๆครับ
2.สลับกัน รถญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า ฮอนด้า 9ล9 ทำไมเขาถึงทำขับล้อหน้า ไม่ทำขับล้อหลังครับมีต้นทุนเข้ามาเกี่ยวด้วยครับ รวมถึงลักษณะการใช้งาน และระดับของรถ รถบ้านๆทั้วไปก็ ขับหน้าเป็นหลัก ถ้าเป็นรถสปอร์ตที่เน้นการขับขี่ก็ขับหลังหรือขับสี่ไปเลย
3.รถยุโรปขับหลัง เข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ 140+ อย่าง BMW มันง่ายและินิ่งยิ่งกว่ารถญี่ปุ่นขับหน้าที่เข้าโค้งที่ความเร็วแค่100 เพราะอะไรครับมันมีหลายองค์ประกอบมาเกี่ยวด้วยครับ ทั้งรูปแบบช่วงล่าง ระบบตัวช่วยต่างๆ มีเยอะแค่ไหน ไหนจะยางที่ใช้อีก
4.สรุปว่าการขับขี่ไปแบบต่างจังหวัด ในย่านความเร็วสูงและการเข้าโค้ง ขับหน้าหรือขับหลังดีกว่าครับรอท่านอื่นมาตอบอีกที่ครับ ปกติผมขับรถไม่เร็วสูงมากนัก
ส่วนการทรงตัวต่างๆนั้นก็ต้องมีช่วงล่างเข้ามาเกี่ยวด้วย และยางรถยนต์ที่ใช้ ถ้าจะหาคำตอบมาตอบกันจริงๆคงยาวแน่ๆครับ มีความอดทนในการอ่านแค่ไหนละครับ
www.civicfdthailand.com