สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคน ผมได้อ่านเว็ปนี้มาสักระยะนึงแล้ววันนี้ไปเจอเรื่องใน FB มาเลยมาแชร์ให้เพื่อนๆทราบกันครับ
ฝากแชร์ด้วยครับ โปรดใช้วิจารณญาณครับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 15.30 น.โดยประมาณ
ผมได้เข้าไปใช้บริการเติมน้ำมันที่ปั้มเชลล์ บางนา-ตราด กม.24 ชื่อบริษัท ออยด์ นววงศ์ จำกัด ผมสั่งเด็กปั้มเติมน้ำมัน ฟิวเซฟแก๊สโซฮอลล์ 95 เต็มถัง ซึ่งราคาตอนนั้นน้ำมันราคา ลิตรละ 37.53 บาท ขณะที่รอเติมน้ำมันอยู่นั้น เด็กปั้มก็เดินหายไป ซึ่งก็เป็นปกติ เพราะโดยปกติปั้มน้ำมันมาตรฐานโดยทั่วไปก็จะมีระบบตัดน้ำมันอัตโนมัติ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น น้ำมันที่เติมอยู่ได้ล้นออกมา ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ในรถไม่ทันสังเกตเห็น มารู้อีกที่เด็กปั้มเดินกลับมาปิดวาล์วด้วยสีหน้าตกใจ
ผมก็ลงมาจากรถเห็นน้ำมันนองเต็มพื้นรถไปหมด จึงรีบขยับรถไปจอดไว้ที่หน้า Counter ชำระเงิน เพื่อให้รถพ้นจากบริเวณน้ำมันที่นองอยู่ ซึ่งขณะนั้นมิเตอร์หัวจ่ายอยู่ที่ประมาณ 73 ลิตร หลังจากนั้นก็เลยมาสำรวจรถบริเวณที่น้ำมันได้ล้นไหลผ่านตัวถังออกมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งนานพอสมควร เพราะผมกลัวว่าน้ำมันอาจทำความเสียหายให้กับสีรถ เท่าที่สังเกตเบื้องต้นขณะนั้น ยังไม่เห็นร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็สบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง จึงได้บอกเด็กปั้มให้หาน้ำมาล้างคราบน้ำมันที่ล้นให้หน่อย เพราะผมต้องวิ่งรถไปหาลูกค้า กว่าจะกลับมาก็กลัวว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับสีรถหรือเปล่า พนักงานจึงได้นำถังน้ำยาเช็ดกระจกพร้อมกับยางที่ปาดเช็ดกระจก ซึ่งเราก็จะคุ้นเคยดีเวลารอเต็มน้ำมันก็จะมีบริการเช็ดกระจกให้ฟรี ในขณะที่เด็กปั้มราดน้ำยาลงบริเวณที่น้ำมันล้นมานั้น ก็ได้ใช้ยางปาดกระจกรีดน้ำตาม
ขณะนั่นผมสังเกตเห็นสีที่บริเวณชุดแต่งไฟเบอร์บริเวณกันชนท้ายเริ่มมีลักษณะการพองตัวของสีเกิดขึ้น ประกอบกับยางที่ใช้รีดน้ำไปถูทำให้สีเกิดการลอกออกอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผมไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น จึงถามเด็กปั้มว่า "น้องเห็นอะไรไหม สีรถพี่ลอก แล้วจะทำยังไง ใครจะรับผิดชอบ" ผมจึงเดินไปที่ Counter ชำระเงินแล้วถามว่า "น้ำมันกัดสีรถผมลอกใครจะรับผิดชอบ ผมขอพบผู้จัดการ" จากนั้นพนักงานจึงได้ติดต่อไปยังผู้จัดการเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้จัดการแจ้งให้พนักงานเก็บเงินค่าน้ำมันผมก่อน ส่วนเขากำลังเข้ามา ผมได้ยินดังนั้นก็เลยถามว่าค่าน้ำมันเท่าไร พนักงานแจ้งว่า 2,7XX (73 ลิตร) บาท ผมเลยบอกว่าปกติผมเติมเต็มถังไม่ถึง 2,000 บาท ทำไมผมต้องรับผิดชอบน้ำมันที่ล้นออกมาด้วย ผมไม่จ่าย รอผู้จัดการมาคุย
จากนั้นไม่นานผู้จัดการก็มา มาถึงผมก็พูดว่า สวัสดีครับเฮีย น้ำมันกัดสีชุดแต่งรถผมทางปั้มจะรับผิดชอบยังไง เฮียก็ยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ น้ำมันจะกัดสีรถได้อย่างไร ผมจึงตอบกลับไปว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้ผมไม่รู้ แต่มันเป็นไปแล้ว สีรถผมมันลอก ผมเห็นกับตาผม ไม่เชื่อลองถามเด็กปั้มดู เด็กปั้มก็รีบปฏิเสธทันที ทั้งๆที่เป็นผู้กระทำ ว่ารถพี่ลอกอยู่แล้วหรือเปล่า ผมจึงได้ต่อว่าเด็กปั้มไปว่ามาพูดแบบนี้ได้ยังไง คุณทำกับมือ เห็นกับตา จะมาปฏิเสธได้ยังไง ผมหันกลับมาถามเฮียต่อว่าคุณจะรับผิดชอบยัง ถ้าไม่เชื่อเฮียไปเอาน้ำมันมาราดรถผมเลยนะ แล้วถ้ามันกัดสี เฮียต้องรับผิดชอบ แกก็เลยตอบตกลง จึงสั่งให้ลูกน้องไปเอาน้ำมันชนิดเดียวกับที่เติมมาราด ปรากฏว่าน้ำมันก็กัดสีบริเวณหนึ่งพองขึ้นอีก ผมก็ชี้ให้เฮียแกดู แกก็บอกว่าไม่เห็นพองเลย พร้อมกับหาแว่นเพื่อดูให้แน่ชัด แต่ก็ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผม เริ่มรู้สึกเอือมกับพฤติกรรมแบบนี้ ไม่รู้จะทำยังไง เพราะขนาดเห็นอยู่แท้ๆ แต่ไม่ยอมรับผิดชอบ จึงบอกไปว่า ถ้าเฮียไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถผม ผมก็ไม่จ่ายค่าน้ำมัน ซึ่งขณะนั้นก็มีป้าอีกคน ซึ่งวนเวียนอยู่ในเหตุการณ์สักพักหนึ่งแล้ว ได้ยินดังนั้นจึงบอกว่า ถ้าไม่จ่ายก็เรียกตำรวจ ผมก็บอกให้เรียกมาเลย ผมรออยู่ตรงนี้แหละ สักพักตำรวจก็มาก็เข้าไปคุยกับทางปั้มก่อน ภายในสำนักงาน แล้วจึงออกมาสอบถามผม ผมก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง
ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมชำระค่าน้ำมันก่อน ส่วนเรื่องสีลอกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วค่อยไปแจ้งความ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีที่โรงพัก ผมได้ฟังดังนั้นก็เลยตัดสินใจจะชำระค่าน้ำมัน เพื่อจะได้ไปดำเนินการต่อที่โรงพัก จึงถามเฮียไปว่าสรุปผมต้องจ่ายเท่าไร เฮียกับป้าคนนั้นก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า 2,6XX (70 ลิตร) ลดลงจาก 2,7XX (73 ลิตร)โดยที่ให้เหตุผลว่า น้ำมันที่ล้นออกมาไม่น่าจะล้นออกมาถึง20ลิตร น่าจะประมาณแค่ 3ลิตร พร้อมกับชี้ให้ผมกับคุณตำรวจดูบริเวณที่น้ำมันล้นว่าน้ำมันแห้งหมดแล้ว ถ้าล้นออกมา20ลิตรป่านนี้คงยังไม่แห้ง ผมจึงบอกว่ารถผม เติมเต็มถังก็แค่ 50-55 ลิตรเท่านั้น ถ้า 70 ลิตรนั่นมันรถกระบะแล้วครับ อีกทั้งก่อนมาเติมผมก็มีน้ำมันเหลือค้างถังอยู่ ไม่ใช่หมดเกลี้ยง จึงบอกไปว่างั้นก็ดูดน้ำมันในถังรถผมที่มีอยู่ออกมาให้หมดเลย เพื่อจะดูว่ามีกี่ลิตร จะได้เห็นว่ามันจริงหรือไม่ ทางปั้มไม่ยอมจึงถามหาคู่มือรถ
ผมจึงเปิดให้ดู ในคู่มือระบุไว้ว่า เมื่อไฟเตือนน้ำมันแสดงขึ้นมาหมายความว่า มีน้ำมันเหลืออยู่ในถังโดยประมาณ 5 ลิตร พร้อมระบุขนาดถังน้ำมัน 55 ลิตร เมื่อได้เห็นดังนั้นทางปั้มจึงยอมให้ผมชำระเป็นจำนวน 50 ลิตร เป็นจำนวนเงิน 1,8XX บาท (ต่างกันเยอะนะครับ คิดจะเอาเปรียบผู้บริโภค โดยคิดจะผลักภาระความผิดพลาดของทางปั้มเป็นของลูกค้า รับไม่ได้ครับ) เมื่อชำระเสร็จ ผมไม่ได้ยินแม้แต่คำขอบคุณสำหรับการใช้บริการ หรือแม้กระทั่งคำขอโทษจากทางผู้จัดการ แม้แต่คำเดียว จากนั้นผมจึงขับรถไปยัง สน.บางเสาธง เพื่อแจ้งความสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางตำรวจบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้เป็นคดีแพ่ง ต้องฟ้องศาลแพ่ง แต่ทางตำรวจก็รับแจ้งความไว้ !!!!!!!!!!!!
จบง่ายไปไหมครับ มันไม่คุ้มเลย กับการที่ผมต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ อีกทั้งยังเสียเครดิตกับลูกค้าผมที่ได้นัดไว้ ทั้งหมดนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อ ของลูกจ้างมาตรฐานของอุปกรณ์และการให้บริการของปั้ม แน่นอนว่าเสียเวลา ผมทำสีเองก็ได้ ไม่ต้องถึงขนาดที่จะต้องไปฟ้องศาล
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบของผู้ให้บริการปั้มเชลล์หรือองค์กรนี้ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้บริโภค ปัดความรับผิดชอบ พร้อมทั้งพยายามผลักภาระความผิดพลาด ของทางปั้มไปยังผู้บริโภค รวมทั้งขาดจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพการให้บริการ เห็นลูกค้าเป็นอะไรครับ อะไรที่เอาเปรียบได้ก็ทำ สังคมทุกวันนี้อยู่ยาก ความยุติธรรมไม่มี ฝากไว้เป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง
ช่วยกันแชร์ต่อๆกันไปเยอะๆนะครับ เพื่อให้องค์กรนี้ได้สำนึกถึงสิ่งที่ได้ทำไว้กับผู้บริโภค มูลค่าความเสียหายไม่มาก แต่เสียความรู้สึก ผมคงไม่เต็มน้ำมันเชลล์อีกต่อไปแล้วครับ !?฿?!?!??*^&#@??!!!!!!
Credit :
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=4525269222123&set=a.4499204370518.1073741825.1602678699&type=1&theater