Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Skyforce ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 17:17:31

หัวข้อ: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Skyforce ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 17:17:31
พอดีอ่านเจอมา น่าสนใจดีครับ ธุรกิจใหม่ที่start up ได้เงินลวุนระดับ series A เหมือนให้เราเช่ารถใช้ในชีวิตประจำวัน คล้ายๆรถ fleet ขององค์กร

แต่ผมดูราคาแอบแพงนะ จ่ายสามพันใช้ได้ห้าวัน จะจ่ายเหมาก็หมื่นกว่า ไปซื้อรถยังผ่อนถูกกว่า แต่ไม่รู้กลุ่มลูกค้าเค้าแบบไหน

https://marketeeronline.co/archives/106504
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: DriveOnly ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 18:23:47
40,000 ต่อเดือน ไปผ่อน bm x1, series 3 แบบ ballon ขับเล่นดีกว่า ไม่ต้องดูแลรักษาเหมือนกัน จ่ายแค่ค่าประกันเพิ่ม 4 ปี รวม 160,000 กับค่ายาวอีก 1 ชุด ราคา 25,000
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 18:29:04
ผมเคยใช้เช่า Porsche กับแอพ Drivemate ครับ จองเรียบร้อย ทำการนัดเรียบร้อย ปรากฏว่าโดนยกเลิกครับ ยกเลิกโดยบอกก่อนแค่วันเดียว
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 18:36:33
โลกใบใหม่มันกำลังมาแล้วครับ MaaS Mobility as a Service

เชื่อว่า 5G ที่กำลังจะมาถึง มันจะทำให้เราเห็น Start up พวกนี้มากขึ้น
แข่งขันกันสูงขึ้น และราคาจะถูกลง

พี่ลองคิดสิครับว่า ถ้าพี่ไม่ซื้อรถ ไม่ผ่อนรถ แต่พี่ซื้อแพ็คเกจรายเดือน 30 วัน
โดนเลือก C-Cross over ใช้ แต่พอวันหยุดจะรับพ่อแม่ไปวัด ก็สั่ง app เปลี่ยน
เอา MPV มาขับ หรือสัปดาห์หน้าจะออกทริปลุยน้ำตก ก็เปลี่ยนเป็นรถ SUV
หรือช่วงหน้าหนาว ชวนแฟนออกทริป ขึ้นเขาทางภาคเหนือ ก็ขอเปลี่ยนเอา
รถสปอร์ตเปิดประทุนมาขับชิลล์  แพ็คเกจพวกนี้กำลังจะมาในอนาคตนะครับ

ต่อไปเราคงไม่มีกระทู้หนุ่มออฟฟิศทำงานในเมือง แต่เลือกซื้อกระบะ 4 ประตู
ไว้เพื่อกลับบ้านต่างจังหวัดปีละ 2 ครั้งอ่ะครับ

Life style ของคนกำลังจะเปลี่ยนตามเทคโนโลยีที่เข้ามาครับ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 22:31:49
ลบชื่อบริษัทออกก็ดีนะครับ  อาจคิดว่าเป็นโฆษณาแอบแฝง
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 00:33:28
ผมซื้อสวิฟต์มาผ่อนเดือนละ 13500 เท่ากับค่าเช่าพอดีเลย ผ่อน 3 ปีเอาไปขายทิ้งก็น่าจะได้ราวๆ 250000 นะครับ แต่ถ้าใช้บริการเจ้านี้ จ่าย 3 ปีก็เหมือนทิ้งเงินไปเลย

สรุปซื้อรถยังคุ้มกว่าเยอะเลย ยกเว้นเป็นคนเครดิตแย่มากๆ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Skyforce ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 06:29:12
โลกใบใหม่มันกำลังมาแล้วครับ MaaS Mobility as a Service

เชื่อว่า 5G ที่กำลังจะมาถึง มันจะทำให้เราเห็น Start up พวกนี้มากขึ้น
แข่งขันกันสูงขึ้น และราคาจะถูกลง

พี่ลองคิดสิครับว่า ถ้าพี่ไม่ซื้อรถ ไม่ผ่อนรถ แต่พี่ซื้อแพ็คเกจรายเดือน 30 วัน
โดนเลือก C-Cross over ใช้ แต่พอวันหยุดจะรับพ่อแม่ไปวัด ก็สั่ง app เปลี่ยน
เอา MPV มาขับ หรือสัปดาห์หน้าจะออกทริปลุยน้ำตก ก็เปลี่ยนเป็นรถ SUV
หรือช่วงหน้าหนาว ชวนแฟนออกทริป ขึ้นเขาทางภาคเหนือ ก็ขอเปลี่ยนเอา
รถสปอร์ตเปิดประทุนมาขับชิลล์  แพ็คเกจพวกนี้กำลังจะมาในอนาคตนะครับ

ต่อไปเราคงไม่มีกระทู้หนุ่มออฟฟิศทำงานในเมือง แต่เลือกซื้อกระบะ 4 ประตู
ไว้เพื่อกลับบ้านต่างจังหวัดปีละ 2 ครั้งอ่ะครับ

Life style ของคนกำลังจะเปลี่ยนตามเทคโนโลยีที่เข้ามาครับ

ใช่ครับเทรนด์อีกหน่อยคงเปบี่ยนเยอะทั้ง การซื้อรถ รถไฟฟ้า หลายอย่างเลย
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ drivemate ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Skyforce ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 06:30:55
ลบชื่อบริษัทออกก็ดีนะครับ  อาจคิดว่าเป็นโฆษณาแอบแฝง

ลบเรียบร้อย​ครับขอบคุณ​ที่แนะนำ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 06:51:43
ดูราคาค่าเช่าแล้ว ซื้อรถที่ดูแลง่ายไม่จุกจิก ผ่อนเองมาจอดไว้ที่บ้าน ยังคุ้มกว่าครับ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mrpich ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 08:35:49
ผมว่าราคาก็สมเหตุสมผลนะ
บริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เช่น ภาษี ดอกเบี้ย ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน ค่าบริหารจัดการ
ที่สำคัญก็ต้องมีกำไรด้วย ตัวเลขเลยตกมาแบบนี้ละครับ
แต่ผู้บริโภคจะเอาด้วยหรือไม่ก็อีกเรื่อง เพราะหลายคนคิดแต่ค่าผ่อน ก็อาจมองว่าไม่คุ้ม แต่ไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆกับรถไปด้วย
ซึ่งถ้าเป็นผม ผมไม่ใช้บริการนี้นะ เพราะผมเป็นคนรักรถของตัวเอง ชอบดูแล ชอบขัด ชอบเคลือบ ช่อบซ่อม555 พลิกดีมะ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 09:39:58
ส่วนตัวผมว่าจะ  scale up ลำบากครับ

บ้านเราพฤติกรรมผู้บริโภคไม่เหมือนเมืองนอกซะทีเดียว คนซื้อรถก่อนมีบ้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ซื้อมาจอดหน้าที่พัก แล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปก็ไม่น้อย ถ้า คชจ รวมแล้วไม่ถูกกว่าเยอะจริงๆ ผมว่าคนก็ยังไม่เปลี่ยนครับ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: domutsu ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 10:16:32
บ.ผมเช่ารถกะบะให้พนักงาน รอบละ5คัน3ปีต่อรอบ มานานกว่า10ปี ปัจจุบันในรุ่นรีโวตัวเตี้ยแคป HR-V และแอคคอร์ท ค่าเช่าเดือนละ25000ต่อคัน ค่าบริการเซอร์วิททุกอย่าง บ.ผู้ให้เช่าดำเนินการให้ทั้งหมด เราแค่จ่ายค่าน้ำมัน ทางด่วน ในการเดินทาง สาเหตุเพราะถ้าซื้อเอง ตัวรถจะเป็นกำไรต่อปีต้องจ่ายภาษี แต่เช่าจะเป็นต้นทุนจ่ายภาษีน้อยกว่า
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Beats ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 16:07:56
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ 5G มั้งครับ เทคโนโลยีดูไม่ได้ใหม่อะไร แต่สิ่งที่ใหม่คือ business model อะไรทำนองนั้นมากกว่า เหมือนมาอุดช่องว่าง ระหว่าง car sharing, long-term rental กับ leasing ซึ่งก็น่าสนใจเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่า car sharing จะยังไปไม่ได้สวยเท่าไหร่ในประเทศไทย ณ ขณะนี้

เอาจริงๆ car sharing เดิมๆ จะใช้เทคโนโลยีมากกว่าแบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะ car sharing ต้อง บริหารจัดการรถแบบ dynamic ตลอดเวลา นาทีต่อนาที ในขณะที่แบบนี้ถ้าอ่านไม่ผิดคือการเช่าที่มีระยะยาวกว่านั้น คือเป็นรายวันหรือหลายๆสัปดาห์ เหมือนกับการเช่ารถปกติ ไม่ต้องทำสถานีจอดที่ต้องรองรับการสับเปลี่ยนรถตลอดเวลา 24/7 เพราะฉะนั้นการจัดการรถดูแลรถ ก็เลยไม่ต้อง dynamic หรือ automated เท่ากับ car sharing ใช้เทคโนโลยีระดับเดียวกับ short-term/long-term rental ทั่วๆไปก็พอ ถึงกระนั้น car sharing ก็แพร่หลายกันมาเกินสิบปี ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ 5G อะไร ถ้าจะยากเชิง technical จะไปยากเรื่อง logistics มากกว่า

จริงๆช่วงที่ผมกลับไทยใหม่ๆรอจังหวะซื้อรถ ก็สนใจมองหา car sharing ในกทม.อยู่เหมือนกัน พวกนี้ก็จ่ายรายเดือน รายปี ว่ากันไป อยากใช้รถเมื่อไหร่ก็มาขับเอาไป วันไหนอยากเอารุ่นไหนคันไหนก็เลือกไป ซึ่งที่ต่างประเทศค่อนข้างจะประสบความสำเร็จกันมานาน อย่างเช่น Zipcar เองนี่ก็ใช้กันมาเกินสิบปี สำหรับนักท่องเที่ยวต่างเมือง หรือ นักศึกษา คนท้องถิ่น ที่ไม่ได้ใช้รถเยอะ ของไทยที่กทม ผมเคยลองหาดู มีคนเอามาทำอยู่เจ้านึง ไม่ระบุชื่อละกัน ผมเคยดูผ่านๆน่าใช้มากเลยทีเดียว แต่พอเดือนที่แล้ว พอผมจะใช้จริง ปรากฎว่าท่าทางจะไปไม่รอดยังไงก็ไม่รู้ หน้าเวบกับแอพที่จะเสริชหารถไม่ดูค่อยทำงาน คนบ่นกันว่ามี bug เพียบ เสริชหารถไม่ค่อยเจอ รีวิวผู้ใช้แอพบางท่านก็บอกว่ารถสกปรก

ผมเดาว่าปัญหาคือคนไทยใช้กันน้อย เงินทุนขาด การมาบุกตลาดใหม่ ที่พฤติกรรมผู้บริโภคยังไม่คุ้นชินกับอะไรแบบนี้ ผมว่าต้องเงินหนา อาจจะต้องยอมขาดทุนก่อนเป็นเวลานาน และต้องโฆษณาออกสื่อให้มากกว่าที่ทำอยู่นี้มากๆ ให้กลุ่ม target เปลี่ยนทัศนคติ หันมาลองใช้กันเยอะๆจนติดตลาด mainstream ให้ได้ ผมนี่ลุ้นมากๆให้มันรอด เพราะผมชอบนะ ตอนผมอยู่เมกา นักเรียนคนไทยที่ไม่มีรถเขาก็ใช้ car sharing นี่แหละ วันธรรมดาไปมหาลัยนั่งรถเมล์ไม่ลำบากอะไรรถไม่ติด อาทิตย์นึงๆต้องไปซื้อกับข้าว ต้องแบกของเข้าบ้านทีนึงก็ใช้ Zipcar แชร์กันไปสามสี่คนคุ้มมาก จะขนของย้ายบ้าน ก็ไปขับ Zipcar คันใหญ่ที่บรรทุกของได้มา ทีนี้ จะมาบุกตลาดไทย ต้องตอบให้ได้ก่อน ว่า target คนกลุ่มพวกนี้เป็นคนกลุ่มไหนบ้าง มีอยู่กี่คน อยู่จังหวัดไหนเมืองไหนบ้าง ต้องได้ลุกค้ากี่คนภายในกี่ปีถึงจะอยู่รอดได้ ต้องลองถามคนที่ตั้งกระทู้ทำนองว่า อยากซื้อรถเอาไว้เป็นรถสำรอง เอารุ่นอะไรดี หรือ ใช้รถน้อยมาก ซื้อรถxxดีมั้ย ดูว่าเขาคิดยังไงกับบริการเหล่านี้ และทำไมเขาจึงเลือกที่จะซื้อรถมากกว่า ที่จะเช่าหรือแชร์ ทำยังไงถึงจะเปลี่ยนความคิดกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้ ไม่ง่ายครับ แต่ผมยังไม่หมดหวังนะ ต้องใช้เวลาใช้เงินทุนมาก ค่อยๆทำไป
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Depart ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 16:09:33
เดี๋ยวนี้หลายๆ องค์กร , บริษัทฯ ที่เป็นภาคเอกชน  จะไม่นิยมซื้อรถแล้วครับ  ใช้การเช่าเอามากกว่า

ส่วนข้อดี  ข้อเสีย  ก็ตามตารางเปรียบเทียบแหละครับ

หลักๆ เลย  คือค่าบำรุงรักษา  และเรื่องของภาษี

ในมุมของ user ทั่วไป  มักจะมองว่าเพิ่มเงินอีกนิดเดียว  ซื้อเอาดีกว่า 
แต่ในมุมมองของบริษัทฯ  การเช่าจะคุ้มกว่าครับ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 20:50:27
ก็เป็นทางเลือกล่ะครับ ส่วนผมรอยาวๆรถไฟครบๆแบบญี่ปุ่นพอ จะได้ใช้รถยนต์น้อยลง เบื่อรถติดมาก
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 21:04:10
บ.ผมเช่ารถกะบะให้พนักงาน รอบละ5คัน3ปีต่อรอบ มานานกว่า10ปี ปัจจุบันในรุ่นรีโวตัวเตี้ยแคป HR-V และแอคคอร์ท ค่าเช่าเดือนละ25000ต่อคัน ค่าบริการเซอร์วิททุกอย่าง บ.ผู้ให้เช่าดำเนินการให้ทั้งหมด เราแค่จ่ายค่าน้ำมัน ทางด่วน ในการเดินทาง สาเหตุเพราะถ้าซื้อเอง ตัวรถจะเป็นกำไรต่อปีต้องจ่ายภาษี แต่เช่าจะเป็นต้นทุนจ่ายภาษีน้อยกว่า

น่าจะเข้าใจผิดนะครับ ในแง่ของ บช สรรมพากร

1. รถซื้อมา สามารถทำ Depreciation 5 ปี เอาเข้าเป็นค่าเสื่อม ซึ่งออกมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ครับ

2. ค่าซ่อม ค่าบำรุง ถ้าเข้าศูนย์บริการ เอาบิลมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ครับ

คือไงแง่ของบริษัท ยังไงๆซื้อป้ายแดง ก็หักค่าใช้จ่ายลดกำไร ได้เยอะกว่าเช่า เช่านี่คือเอาค่าเช้ามาหัก หักแล้วหายไปเปล่าๆเลย แต่รถหรืออุปกรณ์ หักค่าเสื่อมแล้วพอหมดเป็นสินทรัพย์ต่อได้อีกครับ

ที่ใช้คำว่าเช่า น่าจะหมายถึง Leasing มากกว่า Renting นะครับ เพราะLeasing นี่ทำกันมานานแล้วทั้งรถ ทั้งเครื่องจักร ถ้าจะธุรกิจยาวๆ ใช้งานทุกวันให้คุ้ม Leasing ก็คุ้มกว่า Renting ครับ
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Depart ที่ พฤษภาคม 18, 2019, 01:05:39
ขอตอบอีกครั้ง  การเช่าดีกว่าการซื้อยังไง

1.  ไม่ต้องเสียค่าดูแล  บำรุงรักษา  ตัดปัญหาการควบคุมต้นทุนส่วนนี้ออกไปได้
2.  เมื่อรถมีปัญหา  สามารถเปลี่ยนรถได้เลย 
3.  ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานในส่วนของการดูแลรถ  บำรุงรักษารถ
4.  ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายประกันภัยในแต่ละปี
5.  การเช่า  ถือเป็นค่าใช้จ่าย  ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในแต่ละปีได้
6.  ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจัดไฟแนนท์  ดอกเบี้ยการเช่าซื้อ  ภาษีประจำปี
7.  อื่นๆ  นึกไม่ออก  แต่ยังพอมีบ้าง

หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤษภาคม 18, 2019, 06:49:29
บ้านเราไม่ให้ leasing สำหรับบุคคล ไม่งั้นเรื่องเช่าใช้แบบนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไร
หัวข้อ: Re: start up ใหม่ ให้เช่ารถแทนซื้อ จะscale upกับเมืองไทย
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ พฤษภาคม 18, 2019, 06:55:21
ขอตอบอีกครั้ง  การเช่าดีกว่าการซื้อยังไง

1.  ไม่ต้องเสียค่าดูแล  บำรุงรักษา  ตัดปัญหาการควบคุมต้นทุนส่วนนี้ออกไปได้
2.  เมื่อรถมีปัญหา  สามารถเปลี่ยนรถได้เลย 
3.  ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานในส่วนของการดูแลรถ  บำรุงรักษารถ
4.  ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายประกันภัยในแต่ละปี
5.  การเช่า  ถือเป็นค่าใช้จ่าย  ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในแต่ละปีได้
6.  ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจัดไฟแนนท์  ดอกเบี้ยการเช่าซื้อ  ภาษีประจำปี
7.  อื่นๆ  นึกไม่ออก  แต่ยังพอมีบ้าง

ไม่ได้อะไรนะครับ แต่อยากขยายประเด็นนี้จริงๆ ว่าอันไหนคุ้มกว่ากันแน่ เพราะผมเจ้าของธุรกิจที่มีการใช้รถระดับเซลล์จนถึงผู้บริหารรวมๆทั้งองค์กร 20 กว่าคัน อยากมองเรื่องนี้ให้ชัดๆ เพราะผมเปลี่ยนจากการซื้อรถมือสองมาใช้ป้ายแดงทั้งหมด แต่เป็นการซื้อปกติ เพราะเคยสอบถามบริษัทเช่ารถแล้วเทียบกัน ผมคิดว่าซื้อเลยคุ้มกว่าครับ อย่างล่าสุดซื้อ Fortuner ราคา 1.6 ล้าน

ถ้าซื้อเลย
ดอกเบี้ย 4%= 64,000 ต่อปี
ประกัน = 25,000 ต่อปี
ภาษี = 5,000 ต่อปี
ค่าบำรุงรักษา = 15,000 ต่อปี (เข้าศูนย์ 3 ครั้ง)
พนักงานขับรถ = 15,000 ต่อเดือน หรือ 180,000 ต่อปี (ของผมคนนึงรับผิดชอบดูแลรถป้ายแดง 4 คันได้สบาย) = 45,000 ต่อปี

รวมๆประมาณ 154,000 ต่อปี ซึ่งก็ลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่าย หักกำไรได้หมด
อีกทั้ง ตัวรถลงค่าเสื่อมได้ 5 หรือ 10 ปีอีก ซึ่งพอหมดแล้ว ขายซากได้เงินอีก ซึ่งถ้าตี 5 ปี Fortuner ก็น่าจะขายได้ราวๆ 400,000

แต่ถ้าเช่าเลยผมเคยเห็น Quotation ที่ฝ่ายการเงิน สำหรับ Camry ถ้าจำไม่ผิดเดือนล่ะ 30,000 บาท ปีนึงก็ 360,000 แต่เทียบกันค่าใช้จ่าย 1 ปี ผมก็มองไม่คุ้มแล้ว ยิ่งถ้าเทียบ 5 หรือ 10 ปี นี่ไม่ต้องคิดเลย แล้วจ่ายค่าเช่านี่คือจ่ายทิ้งเลย ไม่ได้ค่าซากอีก

ถ้าจะบอกว่าไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายตามที่บอกมา มันไม่จริงมั้งครับ เพราะเราไม่จ่าย แต่บริษัทที่ให้เช่าเค้าก็จ่าย + “กำไร” เค้าอีก แล้วเราไม่ปวดหัวเรื่องดูแลรถ ไม่ต้องจ้างพนักงาน เค้าต้องเป็นคนจ้าง บวก “กำไร” เค้าอีก ผมคิดว่าอาจจะเหมาะกับบริษัทที่กำไรเยอะๆมากๆ แล้วใช้รถแบบทุกวันต้องพร้อม ไม่มีคนเอารถไปซ่อม และรถเป็นหน้าเป็นตา เก่าแล้วเปลี่ยนเลย พวกโรงแรม หรือบริษัทที่มีการขนส่งเยอะหรือเปล่าครับ แต่กับ SME ที่เจ้าของบริหารเอง ผมมองยังไงก็ไม่คุ้ม

อันนี้ข้อมูลส่วนตัวผมนะ เทียบเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตัวเลขอาจมีผิดพลาด หรือตกหล่น ผมก็จำได้แค่คร่าวๆ ท่านใดมีตัวเลขที่เทียบกันชัดๆ รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะครับ ผมก็ไม่ได้ดูแลตรงนี้แบบลงลึก ดูแค่ บชการเงิน ผมทำมาเทียบให้ ถ้าเช่าคุ้มกว่าจริงๆผมก็อยากเช่า แต่ค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องจ่ายถ้าเช่ารถ ผมมองแล้วมันน้อยมากเลยเมื่อเทียบกับค่าเช่า