ค่าซีเทนค้นไม่พบ แต่จากบทความนี้ พอจะบอกเป็นนัยๆได้
ใครจะไปเชื่อ! ว่าน้ำมันดีเซลเกรดPremium ที่มีสัดส่วนเพียงแค่ 1%
ของตลาดน้ำมันค้าปลีกในเมืองไทยที่มีมูลค่า 18,266 ล้านลิตรต่อปี
จะปรับเปลี่ยนสถานการณ์ร้อนแรงขึ้นมาอย่างทันที จากเดิมมีเพียง Shell เพียงรายเดียว
ที่ทำตลาดนี้อย่างจริงจังมานานกว่า 10 ปี แต่เวลานี้ได้เกิด 2 ผู้ท้าชิงหน้าใหม่ระดับ Big Brandอย่าง ปตท. และ Esso เลือกที่จะมีน้ำมันดีเซลเกรดPremium ไว้ให้ผู้บริโภคเป็นตัวเลือก
ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท. ที่มีส่วนแบ่งสูงถึง 45%
ในตลาดน้ำมันค้าปลีกคิดที่จะท้าทายแบรนด์รองในตลาดอย่าง Shell
ด้วยการคิดค้นน้ำมันดีเซลสูตร Premium ที่ชื่อ PTT HyForce
มาวางขายในสถานีปั๊มน้ำมันของตัวเอง
เพราะก่อนหน้านี้ตลาดน้ำมันดีเซลเกรด Premium มีเพียง Shell เพียงเจ้าเดียวในตลาด
ที่ขายมานานกว่า 10 ปีอย่างไร้คู่แข่ง โดยมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 360 ล้านลิตร/ปี
ซึ่งหากนำมาเทียบกับมูลค่าตลาดน้ำมันทั้งหมดคือ 18,266ล้านลิตร/ปี
จะกลายเป็นสัดส่วนตลาดที่บางเฉียบเหลือเพียงแค่ 1% เท่านั้น
ปตท. ไม่ได้หวังยอดขายและกำไรมากมายกับ HyForce แต่เป้าหมายหลักคือ
ต้องการให้ผู้บริโภคคนไทยรู้ว่าแม้ ปตท. จะเป็นบริษัทของคนไทย แต่ก็สามารถพัฒนาคิดค้น
น้ำมันดีเซลPremium ได้เทียบชั้นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย
ชวลิต พันธ์ทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บอกถึงเป้าหมายหลักของน้ำมัน HyForceไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท.
ที่มีส่วนแบ่งสูงถึง 45% ในตลาดน้ำมันค้าปลีกคิดที่จะท้าทายแบรนด์รองในตลาดอย่าง Shell
ด้วยการคิดค้นน้ำมันดีเซลสูตร Premium ที่ชื่อ PTT HyForce มาวางขายในสถานีปั๊มน้ำมันของตัวเอง
โดยได้ให้บริษัทพันธมิตรอย่าง IRPC เป็นผู้รับผิดชอบกระบวนการคิดค้นและวิจัยโดย
HyForceใช้เทคโนโลยีการผลิตเดียวกันกับการผลิตน้ำมันอากาศยาน
และการได้รับมาตรฐานยูโร 5 เพียงรายเดียวในตลาด
ราคาที่แพงกว่า 1 สตางค์ไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อแน่นอน แต่ที่ ปตท. ไม่อยากขายเท่ากัน
เพราะต้องการส่งสัญญาณไปว่า HyForce แพงกว่านิดหน่อย แต่คุณภาพเหนือกว่าคู่แข่ง
อีกทั้งต้นทุนยังสูงกว่า และถ้า ปตท. จะขายเน้นกำไรจริงๆ ราคาจะแพงกว่านี้
ในเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่ Shell เข้าไปทำธุรกิจเราสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดน้ำมันดีเซลเกรด Premium ได้ในหลายๆ ประเทศ ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าเราคือ Big Brand
ที่ประสบความสำเร็จในการขายน้ำมันเกรด Premium ผ่านสถานีบริการ 43,000 แห่งทั่วโลก
แกรนท์ แมคเกรเกอร์ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เซลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เล่าถึงความยิ่งใหญ่ระดับโลกของการทำตลาดน้ำมันดีเซลเกรด Premium
มีโอกาสที่ Shellจะสูญเสียยอดขาย แต่ก็ยังมั่นใจในเทคโนโลยีของ Shell
ที่ตลาดน้ำมันอื่นๆ ก็พิสูจน์มาแล้ว
เพราะ Shell เชื่อว่าแม้การเติมน้ำมันของผู้บริโภคในยุคนี้ ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ
แต่หากไปลองมาแล้วเกิดไม่ถูกใจก็จะกลับมาหาแบรนด์เดิมที่ตัวเองรู้สึกว่า Happy อย่างทันที
หากมองถึงความได้เปรียบของ Shell ในตลาดน้ำมันดีเซลเกรด Premium
คือการเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 10 ปี
แน่นอนย่อมสามารถสร้างฐานลูกค้าจำนวนมากที่ยอมรับในคุณภาพของสินค้ามากกว่าคู่แข่งที่มาทีหลัง
http://marketeer.co.th/archives/685